ผู้หญิง กับ การเล่นเวท :: ท่าบริหารขาและบั้นท้าย

กระทู้สนทนา
เริ่มแรกขอนำบทความจากเพจ AKE อันเก่าโดนลบ ที่เขียนไว้เกี่ยวกับ "ผู้หญิง กับ การเล่นเวท" ลองอ่านกันดูนะคะ !!
สมัยนี้ผู้หญิง ก็หันมาเข้าฟิตเนสกันเยอะขึ้นนะครับ บางคนอยากหุ่นดีสมส่วน บางคนอยากลดความอ้วน หรือ บางคนแต่ส่วนน้อย ที่อยากมีกล้าม ยังมีผู้หญิงอีกเพียบเลยที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการเล่นเวท วันนี้ ผมจะมาอธิบายปัญหาที่เจอกันบ่อยๆ และ สิ่งที่เข้าใจกันผิดๆมาตลอดให้อ่านกัน
การเล่นเวท คือ การออกกำลังกล้ามเนื้อโดยตรง เป็นการใช้แรงยกของที่มีน้ำหนัก เป็นเซตๆ ในระยะเวลาสั้นๆ โดยใช้แรงจากกล้ามเนื้อยกจนหมดแรง จะไม่เหมือนการออกกำลังกายโดยการวิ่ง หรือการแอโรบิค นะครับ การเล่นเวทจะเน้นให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงมากขึ้น มีขนาดใหญ่ขึ้น (มากน้อยขึ้นอยู่กับส่วนประกอบอื่นอีกเช่น นน ที่ยก อาหาร ฮอร์โมน เป็นต้น) ส่วนการวิ่งหรือการออกกำลังกายแบบแอโรบิค เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายไปเรื่อยๆ ในระยะเวลานานๆ เน้นการเผาผลาญพลังงาน ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้นแต่ไม่มีทางใหญ่ขึ้น (เพราะไม่มีแรงต้านแบบการยกเวท กล้ามเนื้อจึงไม่จำเป็นที่จะขยายตัวเองเพื่อรับแรงต้านนั้น)
ผู้หญิงที่เล่นเวทเพื่ออยากลดความอ้วน แล้วคิดว่าการมายกเวทเฉพาะส่วนจะทำให้สัดส่วน ในส่วนนั้นๆ ลดลงได้นี่ เป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ อย่างที่บอกข้างต้น การยกเวท เป็นการบริหารกล้ามเนื้อโดยตรง โดยใช้แรงต้าน ผลของมันคือจะทำให้กล้ามเนื้อ แข็งแรงขึ้น แน่นขึ้น ถ้ายกหนักๆ กินดีๆ มันก็จะเพิ่มขนาดขึ้น ผู้หญิงส่วนมากจะประสบปัญหาว่ายิ่งเวทยิ่งรุ้สึกว่าส่วนนั้นหนาขึ้น แน่นขึ้น ใหญ่ขึ้น แล้วก็จะมาบ่นว่า เวทไม่ดียิ่งเล่นยิ่งกล้ามใหญ่ ไม่เห็นลดเลย มันจะไปลดได้ยังไง คุณเล่นเวทกล้ามเนื้อที่ย้วยๆ ก็แข็งแรงขึ้นแน่นขึ้น แต่ยังมีขนาดเท่าเดิม เพราะคุณไม่ได้คุมอาหาร คุณกินเหมือนเดิม ขนาดมันจะไปลดได้ยังไงครับ บางคนเวทเสร็จ ชวนกันไปหาอะไรกินต่อ เจริญพรเถอะโยม อย่าไปโทษเวทครับ โทษตัวคุณเองเถอะ
สิ่งที่ผุ้หญิงเล่นเวท ควรจะทำเพื่อหุ่นที่ดีนะครับ จะต้อง  
-เวทแบบมีโปรแกรมแน่นอน ไม่ใช่ยกมั่วซั่ว อยากเล่นอะไรก็เล่น ตั้งโปรแกรมมาครับ ว่าวันนี้จะเล่นส่วนไหนท่าอะไร การเวทจะทำให้คุณ มีกล้ามเนื้อที่กระชับ แน่น ไม่หย่อนคล้อย ดูไม่แก่ สุขภาพดี
-มีการคาร์ดิโอ สม่ำเสมอ เพื่อเป็นการลดไขมันส่วนเกินทั้งร่างกายคุณออกไป(ผมเคยบอกแล้วว่ามันลดเฉพาะส่วนไม่ได้) ถามว่าถ้าคุณไม่คาร์ดิโอ เอาแต่เวทได้มั้ย ถ้าเวทอย่างเดียว ไขมันที่มีก็ลดครับ แต่ลดช้ามากกว่า การคาร์ดิโอมาก
-มีการคุมอาหารที่เข้มงวด ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าคุณเอาแต่เวท แต่กินยัดเหมือนเดิม หุ่นคุณก็ไม่ได้ดีขึ้นหรอกครับ แค่กล้ามเนื้อกระชับขึ้น แน่นขึ้น ก็จะพาลหาว่าเวททำให้กล้ามใหญ่น่าเกลียดอีก ทั้งๆที่มันไม่ใช่เลย การคุมอาหารสำคุญต่อการลดหุ่นสุดๆ ครับ ดังนั้น จงคุมอาหารซะ !!!
เตือนสตินะครับ ผู้หญิงมีกล้ามได้ยากมากครับ เพราะกล้ามเนื้อจะเติบโตได้มากมาจากฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน(ฮอร์โมนเพศชาย) ซึ่งผุ้หญิงมีน้อยมากกกกกกกกกกกกกกก ครับ ไอ่ที่เหนเพาะกายทาผิวประกวด เค้าใช้ฮอร์โมนเพศชายเพิ่มครับ ไม่งั้นมีกล้ามแบบนั้นไม่ได้ ถึงคุณเล่นให้ตายยังไงก็ไม่มีกล้ามใหญ่แบบผู้ชายครับ อย่าวิตกจริตนักเลย เวทไปเถอะครับ เวทหนักแทบตายก็ได้แค่หุ่นนางแบบบิกินี่ ของต่างประเทศครับ อยากได้กันมั้ยหละ!!!

เยี่ยม เมื่ออ่านบทความนี้แล้ว มีใครกำลังเป็นแบบนี้อยู่รึเปล่าคะ ที่กำลังสับสนเกี่ยวกับการลดน้ำหนักโดยการเล่นเวทและคาร์ดิโอ ยังเล่นมั่วซั่วตารางไม่แน่นอน (แล้วแต่อารมณ์) ทานอาหารน้อยออกกำลังกายหนัก หรือ ทานอาหารหนักแต่ออกกำลังกายน้อย...

โดยวันนี้ปุ้ยจะมาพูดเกี่ยวกับ "ผู้หญิง กับ การเล่นเวท" โดยเฉพาะ ซึ่งคุณควรจะเริ่มต้นยังไง เพื่อให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลง และผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

หัวใจ ข้อแรก ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากคนอ้วนหรือคนผอม คุณควรจะเล่นควบคู่กันไปทั้งเวทและคาร์ดิโอ เพราะบางคนเข้าใจว่าต้องคาร์ดิโออย่างเดียวก่อน วันละ 1-2 ชั่วโมง และทานอาหารน้อยๆ อดมื้อเย็นบ้าง เพื่อให้น้ำหนักลดลงไวๆ แล้วค่อยหันมาเล่นเวททีหลัง ซึ่งทำแบบนี้ช่วงแรกๆน้ำหนักก็ลดลงไวสมใจแน่ๆค่ะ แต่จะพบปัญหา คือ ผิวหนังหดตัวไม่ทัน หรือผิวย้วยนั้นเอง แถมพอกลับมาทานอาหารเหมือนเดิมน้ำหนักก็เด้งกลับมาเท่าเดิม... เพราะเมื่อคุณต้องการให้เห็นผลไวๆ คุณจึงลืมคิดไปว่าก่อนที่คุณจะอ้วนได้ขนาดนี้ คุณมีความสุขกับการกิน กินอาหารเข้าไปมากมาย และใช้เวลามานานขนาดไหน แต่เมื่อคุณไม่พอใจรูปร่าง อยากลดน้ำหนัก คุณกลับกลัวการกินขึ้นมาซะดื้อๆ คิดว่ายิ่งกินก็จะยิ่งอ้วน อดอาหารไปเลย โดยลืมไปว่าร่างกายยังต้องการสารอาหารเหล่านั้นอยู่ และอย่าเหมารวมว่าอาหารทั้งหมดเป็นตัวปัญหา เป็นตัวทำให้คุณอ้วน ต้องลองสังเกตพฤติกรรมการกิน ว่าคุณชอบทานอาหารแบบไหน ??  และเมื่อเกิดปัญหาผิวย้วย ที่เกิดจากผิวหนังหดตัวไม่ทัน คนที่เจอปัญหานี้มีวิธีแก้ 2 อย่าง คือตัดส่วนนั้นทิ้ง แต่คุณจะกลับมาอ้วนหรือมีลูกไม่ได้อีก เพราะผิวหนังส่วนที่ขยายคุณตัดทิ้งออกไปแล้ว หรืออีกหนึ่งวิธี คือ กลับมากินให้อ้วนเหมือนเดิม แล้วค่อยๆ ลดด้วยวิธีที่ถูกต้อง ซึ่งปุ้ยมองว่าแต่ละวิธีมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเลย ถ้าคุณมีสติสักนิด ค่อยๆทำไป ทานอาหารมีประโยชน์ เล่นเวทและคาร์ดิโอ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ วิธีนี้อาจจะเห็นผลช้า แต่คุณจะไม่ต้องมานั่งเสียเวลาแก้ไขปัญหาทีหลัง หรือ กลับมาลดน้ำหนักแบบเดิมๆอยู่หลายๆรอบ  

หัวใจ ข้อสอง จัดตารางการเล่นเวทและคาร์ดิโอให้แน่นอน ว่าในแต่ละวันจะเล่นส่วนไหน และพักวันไหน ทำตามตารางที่จัดไว้สัก 1-2 เดือน เมื่อคบกำหนดลองสังเกตตัวเองว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน และปรับเปลี่ยนตารางใหม่อีกครั้ง จัดท่าเพิ่ม เพิ่มเซ็ต หรือ เพิ่มน้ำหนัก อย่าลืมวันสัดส่วนและถ่ายรูปไว้ในวันแรกนะคะ และอย่าชั่งน้ำหนักทุกวัน!! สักเดือนละครั้งหรือสองครั้งพอค่ะ เพราะตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงอาจจะทำให้เรากังวลและท้อได้ เพราะในช่วงแรกที่เราปรับเรื่องการทานอาหาร ร่างกายปรับตัว น้ำหนักอาจจะขึ้นหรือลง ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นตัววัดเลย เพราะหากเราเล่นเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ น้ำหนักกล้ามเนื้อหนักกว่าน้ำหนักไขมันมาก ลองดูจากสัดส่วนที่วัดไว้และเปรียบเทียบกันจะชัดเจนกว่าค่ะ

ความแตกต่างระหว่างน้ำหนักของกล้ามเนื้อและน้ำหนักไขมัน 5 lbs.  


ลองดูตัวอย่างของผู้หญิงคนนี้นะคะ ออกกำลังกายเพียง 1 เดือน  
สัดส่วนวันแรกที่วัดไว้ 37 - 34.5 - 39.5 น้ำหนัก 64.5 กก.  
ออกกำลังกายและทานอาหารคลีนผ่านไป 1 เดือน 36 - 32 - 38 น้ำหนัก 62.5 กก. โดยเล่นเวท 5 วัน (เล่นเวททุกส่วน แต่เน้นขา แขน และหน้าท้อง) คาร์ดิโอ 4 วัน ใช้เดินบนลู่วิ่ง ความชัน 16 ความเร็ว 6.0 ทั้งหมด 40 นาที พัก 2 วัน ส่วนอาหารทานคลีนทุกมื้อไม่มีชีทเดย์ ทาน 3 มื้อหลัก 2 มื้อย่อย (โดยคนนี้ปุ้ยเป็นคนถ่ายรูป วัดสัดส่วน และสอนเอง ปุ้ยจะควบคุมน้ำหนักของเค้าไม่ให้ลดเร็วเกินประมาณ 2 โล/เดือน เพราะหากน้ำหนักลดลงเร็วมันก็จะเหมือนข้อแรก ไม่กล้ามเนื้อก็ไขมันที่ลด ซึ่งเป้าหมายปุ้ยคือให้เค้ามีรูปร่างที่กระชับและรูปร่างดีขึ้น อ๊ะๆ อย่าพึ่งคิดว่าปุ้ยเป็นพีทีนะคะ เค้าเคยเล่นฟิตเนสเดียวกับปุ้ย เลยสอนเท่านั้นค่ะ)  


หัวใจ ข้อสาม ปรับเรื่องการทานอาหาร เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก บางคนออกกำลังกายหนัก คิดว่าผลลัพธ์มันต้องออกมาดี แต่ดันเปลี่ยนแปลงไม่มาก ก็ยิ่งออกหนักกว่าเดิม เพราะคิดว่าออกไม่หนักพอ ซึ่งมองข้ามสิ่งสำคัญ คือ อาหาร ทานไม่พอ มันก็ไม่เห็นผลนะคะ เพราะจะให้ร่างกายเอาสารอาหารที่ไหนไปซ่อมแซมหากออกกำลังกายหนักๆมาแล้วดื่มนมแค่แก้วเดียวแล้วนอน... ลองหันมาทำความเข้าใจกันจริงจังเถอะค่ะ ว่าอาหารไม่ได้ทำให้คุณอ้วน!! หากคุณเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีนที่มีไขมันต่ำ คาร์บที่ไม่ขัดสี ไขมันดี และผักผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย หากเลือกทานแบบนี้และทานในปริมาณที่เหมาะสม ยังไงก็ไม่อ้วน (รายละเอียดเกี่ยวกับอาหารลองดูในกระทู้เก่าๆของปุ้ยนะคะ)

หัวใจ ข้อสุดท้าย อยากได้ผลลัพธ์ใหม่ๆ ก็ต้องลองทำสิ่งใหม่ๆ …. มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิมๆ เช่น การกิน การออกกำลังกาย คุณอยากใช้สูตรเดิมๆที่เคยทำมา และไม่เคยสำเร็จ แต่ก็ยังวนกลับไปทำสิ่งเดิมๆ เพราะสิ่งเหล่านั้นคือความเคยชิน เมื่อคุณนึกถึงวิธีลดความอ้วน ก็จะรู้ว่าต้องอดอาหาร ทานน้อย งดคาร์บ ทานแค่สลัด ส้มตำ ยำ และเกาเหลา เพราะมันเป็นสิงที่คุณทำมาอย่างนั้นตลอดชีวิต คุณจึงคิดว่ามันง่ายกว่าวิธีอื่นๆ ทั้งที่การอดอาหาร การทานน้อย ผลลัพธ์ที่ได้มันแค่ระยะสั้นๆ ซึ่งคุณจะได้ยินคนอื่นพูดเสมอว่า "ผอมแค่ช่วงอด พอกลับมากินก็อ้วนเหมือนเดิม" … คุณรู้ แต่ก็ทำ เพราะมันง่าย  

แต่เมื่อคุณมองดูคนที่ออกกำลังกาย และทานอาหารคลีน ... บางกลุ่มก็คิดว่าทำไม่ได้หรอก มันยากมาก ไม่มีเวลา ซึ่งคนกลุ่มนี้จะทำไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะแนะนำไปมากขนาดไหน เพราะมักจะมีข้ออ้างเสมอ บางกลุ่มก็คิดว่าฉันทำได้ แต่หักโหมออกกำลังกายทุกวัน โดยไม่คิดถึงสภาพร่างกาย ทานน้อย แต่ใช้งานหนัก เพื่อให้เห็นผลไวๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะทำแค่ช่วงแรกๆ และเมื่อผลลัพธ์ออกมาพอใจ ก็เลิกทำ และกลุ่มสุดท้าย คือ คนที่ไม่มีทางเลือกมาก อกหัก โดนเพื่อนล้อเลียน เจ็บป่วย อยากมีสุขภาพดีๆ อยากอยู่กับครอบครัวนานๆ คนกลุ่มนี้จะอายุเริ่มเยอะ เริ่มเป็นผู้ใหญ่ เริ่มมองเหตุและผลมากขึ้น ... ก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน หันมาออกกำลังกาย ซึ่งวิธีการเหล่านี้ช่วงแรกบางคนจะท้อ เพราะมันไม่ใช่ความเคยชิน มันคือสิ่งใหม่ๆที่พึ่งจะเริ่มทำ ทั้งรสชาติอาหาร ทั้งการเหน็ดเหนื่อยกับการออกกำลังกาย ทั้งการหักห้ามใจกับสิ่งยั่วยุ แต่พอทำไปสักพักมันจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ... เช่น จะเริ่มไม่อยากทานข้าวนอกบ้าน เพราะอาหารข้างนอกรสจัดและมีแต่อาหารอ้วนๆ บางคนก็เครียดที่ไม่ได้ออกกำลังกาย .... การออกกำลังกายและการทานคลีน มันอาจจะดูเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อคุณทำไปสักพักแล้วเห็นผลลัพธ์ที่ดี คุณจะสนุกกับมัน ยิ่งมีกำลังใจดีๆจากคนรอบข้าง และมีคนที่สามารถพูดคุยเรื่องเดียวกันได้ คุณก็จะยิ่งทำมันได้ดีและทำได้ตลอดไปค่ะ


หลายคนอาจจะคิดว่าปุ้ยไม่ใช่คนอ้วน ปุ้ยไม่เข้าใจหรอก ... แต่ปุ้ยอยากบอกว่าไม่ว่าคุณจะผอมหรือคุณจะอ้วน ขอให้คุณเคารพตัวเอง และรักตัวเองในสิ่งที่คุณเป็น แต่ลงมือทำในสิ่งที่คุณอยากเป็น ... ไม่ว่าจะผอมจะอ้วนหลักการเหมือนกัน ขอเพียงคุณเปิดใจลองทำ อาจจะต่างกันแค่ระยะเวลา หากคุณเริ่มต้นก่อนคุณก็เห็นผลก่อนคนที่ยังไม่กล้าเริ่มต้นค่ะ

การเริ่มต้นของปุ้ยดูเหมือนจะง่ายกว่าคนอื่น เพราะเป็นคนผอม ที่เกิดจากการอดอาหารมาเป็นระยะเวลานานๆ

เมื่อเริ่มออกกำลังกายไปสักระยะ หันมาศึกษาเรื่องการเล่นเวท การทานอาหารอย่างจริงจัง ตามฟิตเนสโมเดลต่างชาติเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หุ่นในฝันที่อยากได้....

ความจริง ผลที่ได้คือ .....

ตอนนั้นคนเริ่มทักว่าอ้วน น้ำหนักเด้งมา 9 โล จากการปรับการทานอาหาร ปรับการเผาผลาญ เริ่มเครียดและท้อ ไม่อยากทำต่อ แต่คิดว่าไหนๆก็ลองมาสักตั้งแล้ว ลองดูผลลัพธ์ปลายทาง คนอื่นทำได้เราทำไมจะทำไม่ได้ หาข้อมูลใหม่ ลองสูตรต่างๆ จนสุดท้ายก็มาพบว่าสูตรที่เค้าว่าดีๆนั้น มันเหมาะกับตัวเค้า เค้าทำแล้วเห็นผล มันไม่ได้เหมาะกับเราทั้งหมด สิ่งที่เหมาะกับเราที่สุด คือ หาตัวเองให้เจอ จากที่ลองนั้นลองนี้มา ลองเอามาวิเคราะห์ดูอันไหนใช่อันไหนไม่ใช่ สุดท้ายก็เจอทางที่เหมาะสมกับตัวเอง ... ทำไปเรื่อยๆ ชีทบ้าง คลีนบ้าง ออกบ้าง มีความสุขกับสิ่งที่ทำ แล้วผลลัพธ์มันจะออกมาให้เห็นเองค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่