สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คาร์ดิโอ จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อรีดไขมัน แต่เป็นการพัฒนาหัวใจและปอดครับ .........
มีคนเอาคาร์ดิโอมาใช้บอกต่อแบบผิดจุดประสงค์มาก .....จนทำให้คนเล่นสับสนและเล่นจนผิดวิธี ......
ทั้งๆที่งานวิจัยก็ให้ผลออกมาว่า คาร์ดิโอ แค่สัปดาห์ละ 1 ชม ก็ทำให้หัวใจและปอดพัฒนาได้ .......
เหมือนการเล่นเวท ที่ทำไม การเล่นเพื่อขยายขนาดกล้ามเนื้อควรจะทำในช่วง 80% RM นั่นแหระ.......
หลายคนบ้าพลัง ทำคาร์ดิโอไปวันละ 1 ชม ทำมันทุกวันก็มี ....... แล้วบอกว่าน้ำหนักลง ..............
การทำคาร์ดิโอ พลังงานที่ถูกนำมาใช้ มาจากทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ..... หากในร่างกายเรามีระดับไกลโคเจนไม่มากพอ มันจะดึงทั้งโปรตีนและไขมันมาใช้เป็นพลังงาน .......นักเพาะกายจะไม่เล่นเท่าไหร่นัก แต่เขาเล่นเพื่อให้หัวใจเขาพัฒนาให้แข็งแรงพอที่จะทำให้เขาเพิ่มกำลังในการเล่นพวกท่า compound ได้ ........
การรีดไขมันของนักเพาะกาย ทำอยู่ในระดับ 70%HR กันเป็นส่วนใหญ่ (คาร์ดิโอควรอยู่ประมาณ 80%HR)......ระดับเท่านี้ ด้วยรูปร่างของคนที่ตัวใหญ่ หรืออ้วน (มีน้ำหนักเยอะ) แค่การวิ่งเหยาะๆ หัวใจก็ทำงานได้ถึงระดับนี้แล้ว ......... ซึ่ง ในระดับนี้ การนำพลังงานมาใช้ จะมาจากคาร์โบไฮเดรต และไขมัน ...... (มีการสูญเสียโปรตีนจากการนำโปรตีนมาเป็นพลังงานน้อยกว่าการทำคาร์ดิโอ) แต่ การออกกำลังกายในระดับนี้ ต้องต่อเนื่อง ให้มากพอที่ร่างกายจะดึงเอาไขมันออกมาใช้ .......
การเล่นเวท ......... ไม่จำเป็นต้องไปรีดไขมันก่อน ........
มันอยู่ที่ความคิดเราล้วนๆ .........
ส่วนใหญ่พอได้ยกเวทแล้วคิดว่า กล้ามต้องขึ้นมาให้เห็นซิ แต่ทำไมเรายังบวมอยู่เลย
จนเกิดความท้อแท้
คนอ้วนมาเล่นเวท เกิดความท้อแท้ง่ายกว่าคนผอม เพราะกังวลว่าต้องลดไขมัน ต้องเล่นกล้าม จะได้หุ่นที่สวยงาม
หากคิดแบบนั้นก็มีแต่ทำให้เราท้อแท้ อยากหาวิธีที่เร็วๆ อยากให้หุ่นดีเร็วๆ ........
ในการเพาะกาย ไม่มีอะไรที่เรียกว่าเร็วครับ ... แม้จังหวะการยก ยังไม่มีคำว่าเร็วเลย ทำไปอย่างช้าๆ มันต้องใช้เวลา และความสม่ำเสมอ
หากอยากกล้ามใหญ่และดูชัด มันมี แต่โหด ....... หลายคนทนไม่ไหวจนต้องเลิกไป
ทำไมถึงโหด เพราะเราไม่ได้เป็นนายแบบหรือนักแสดง ที่ทำการเทรน ภายใน 8 เดือน เพื่อถ่ายหนังครับ พวกนั้นมีเทรนเนอร์มาประกบทั้งในยิมและอาหารที่กินเลย ......... อีกทั้งพวกนี้จะจะตารางการทำงานใหม่หมด ส่วนใหญ่จะยกเลิกงานทั้งหมดในช่วงเตรียมตัวระยะนี้ .......
หากเราไม่ต้องทำงาน ..... ฝึกแบบ 2 คาบฝึก ควบคุมอาหารอย่างเข้มสุดๆ 8 เดือนคุณก็ทำได้ ......
แต่เพราะกิจวัตรของเรามันคือคือคนทั่วๆไป ต้องทำงาน เพราะงั้น จะให้ทำโหดๆ ออกกำลังกายอย่างหนัก แล้วไปทำงาน จะน่ากลัวว่าตอนทำงานไม่มีแรงมากพอมากกว่า ...........
การออกกำลังกายแบบนี้เราควรแยกการทำคาร์ดิโอ ออกจากการลดชั้นไขมันครับ
ก่อนอื่น เข้าใจ 3 รูปแบบของการออกกำลังกายก่อน
1 การเพาะกาย (เล่นแผ่นน้ำหนักและบอดี้เวท) จะส่งผลให้กล้ามเนื้อโครงสร้างเราพัฒนา ... ซึ่งมันคือเตาเผาพลังงานที่สำคัญเป็นอันดับที่2 ของร่างกาย (รองจากสมอง- ความสำคัญไม่ได้เรียงลำดับตามการใช้พลังงาน แต่ร่างกายจะจัดลำดับความสำคัญเอาไว้ โดยให้สมองถือเป็นอวัยวะVIP ที่ต้องได้รับพลังงานอย่างเพียงพอก่อนเป็นอันดับแรก)
2 การคาร์ดิโอ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจและปอดของเราพัฒนา มันทำหน้าที่ในการลำเลียงสารอาหารและออกซิเจน เข้าสู่เซลล์ทั่วร่างกาย
3 การลดไขมัน คือรูปแบบการออกกำลังกายที่ร่างกายจะนำไขมันใต้ชั้นผิวหนังมาสลายเพื่อเป็นพลังงาน ......... แต่ ร่างกายก็ยังจัดความสำคัญของการมีไขมันใต้ชั้นผิวหนังเอาไว้ เพราะงั้น มันไม่มีทางสลายจนเหลือแค่ 1% ไปได้ ......... เพราะชั้นไขมันใต้ผิวหนังเรา เป็นเสมือนบัฟเฟอร์ของร่างกาย ทำหน้าที่ป้องกันหลายอย่าง แต่หลักๆคือบัฟเฟอร์ และรักษาอุณหภูมิในร่างกาย
มีคนเอาคาร์ดิโอมาใช้บอกต่อแบบผิดจุดประสงค์มาก .....จนทำให้คนเล่นสับสนและเล่นจนผิดวิธี ......
ทั้งๆที่งานวิจัยก็ให้ผลออกมาว่า คาร์ดิโอ แค่สัปดาห์ละ 1 ชม ก็ทำให้หัวใจและปอดพัฒนาได้ .......
เหมือนการเล่นเวท ที่ทำไม การเล่นเพื่อขยายขนาดกล้ามเนื้อควรจะทำในช่วง 80% RM นั่นแหระ.......
หลายคนบ้าพลัง ทำคาร์ดิโอไปวันละ 1 ชม ทำมันทุกวันก็มี ....... แล้วบอกว่าน้ำหนักลง ..............
การทำคาร์ดิโอ พลังงานที่ถูกนำมาใช้ มาจากทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ..... หากในร่างกายเรามีระดับไกลโคเจนไม่มากพอ มันจะดึงทั้งโปรตีนและไขมันมาใช้เป็นพลังงาน .......นักเพาะกายจะไม่เล่นเท่าไหร่นัก แต่เขาเล่นเพื่อให้หัวใจเขาพัฒนาให้แข็งแรงพอที่จะทำให้เขาเพิ่มกำลังในการเล่นพวกท่า compound ได้ ........
การรีดไขมันของนักเพาะกาย ทำอยู่ในระดับ 70%HR กันเป็นส่วนใหญ่ (คาร์ดิโอควรอยู่ประมาณ 80%HR)......ระดับเท่านี้ ด้วยรูปร่างของคนที่ตัวใหญ่ หรืออ้วน (มีน้ำหนักเยอะ) แค่การวิ่งเหยาะๆ หัวใจก็ทำงานได้ถึงระดับนี้แล้ว ......... ซึ่ง ในระดับนี้ การนำพลังงานมาใช้ จะมาจากคาร์โบไฮเดรต และไขมัน ...... (มีการสูญเสียโปรตีนจากการนำโปรตีนมาเป็นพลังงานน้อยกว่าการทำคาร์ดิโอ) แต่ การออกกำลังกายในระดับนี้ ต้องต่อเนื่อง ให้มากพอที่ร่างกายจะดึงเอาไขมันออกมาใช้ .......
การเล่นเวท ......... ไม่จำเป็นต้องไปรีดไขมันก่อน ........
มันอยู่ที่ความคิดเราล้วนๆ .........
ส่วนใหญ่พอได้ยกเวทแล้วคิดว่า กล้ามต้องขึ้นมาให้เห็นซิ แต่ทำไมเรายังบวมอยู่เลย
จนเกิดความท้อแท้
คนอ้วนมาเล่นเวท เกิดความท้อแท้ง่ายกว่าคนผอม เพราะกังวลว่าต้องลดไขมัน ต้องเล่นกล้าม จะได้หุ่นที่สวยงาม
หากคิดแบบนั้นก็มีแต่ทำให้เราท้อแท้ อยากหาวิธีที่เร็วๆ อยากให้หุ่นดีเร็วๆ ........
ในการเพาะกาย ไม่มีอะไรที่เรียกว่าเร็วครับ ... แม้จังหวะการยก ยังไม่มีคำว่าเร็วเลย ทำไปอย่างช้าๆ มันต้องใช้เวลา และความสม่ำเสมอ
หากอยากกล้ามใหญ่และดูชัด มันมี แต่โหด ....... หลายคนทนไม่ไหวจนต้องเลิกไป
ทำไมถึงโหด เพราะเราไม่ได้เป็นนายแบบหรือนักแสดง ที่ทำการเทรน ภายใน 8 เดือน เพื่อถ่ายหนังครับ พวกนั้นมีเทรนเนอร์มาประกบทั้งในยิมและอาหารที่กินเลย ......... อีกทั้งพวกนี้จะจะตารางการทำงานใหม่หมด ส่วนใหญ่จะยกเลิกงานทั้งหมดในช่วงเตรียมตัวระยะนี้ .......
หากเราไม่ต้องทำงาน ..... ฝึกแบบ 2 คาบฝึก ควบคุมอาหารอย่างเข้มสุดๆ 8 เดือนคุณก็ทำได้ ......
แต่เพราะกิจวัตรของเรามันคือคือคนทั่วๆไป ต้องทำงาน เพราะงั้น จะให้ทำโหดๆ ออกกำลังกายอย่างหนัก แล้วไปทำงาน จะน่ากลัวว่าตอนทำงานไม่มีแรงมากพอมากกว่า ...........
การออกกำลังกายแบบนี้เราควรแยกการทำคาร์ดิโอ ออกจากการลดชั้นไขมันครับ
ก่อนอื่น เข้าใจ 3 รูปแบบของการออกกำลังกายก่อน
1 การเพาะกาย (เล่นแผ่นน้ำหนักและบอดี้เวท) จะส่งผลให้กล้ามเนื้อโครงสร้างเราพัฒนา ... ซึ่งมันคือเตาเผาพลังงานที่สำคัญเป็นอันดับที่2 ของร่างกาย (รองจากสมอง- ความสำคัญไม่ได้เรียงลำดับตามการใช้พลังงาน แต่ร่างกายจะจัดลำดับความสำคัญเอาไว้ โดยให้สมองถือเป็นอวัยวะVIP ที่ต้องได้รับพลังงานอย่างเพียงพอก่อนเป็นอันดับแรก)
2 การคาร์ดิโอ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจและปอดของเราพัฒนา มันทำหน้าที่ในการลำเลียงสารอาหารและออกซิเจน เข้าสู่เซลล์ทั่วร่างกาย
3 การลดไขมัน คือรูปแบบการออกกำลังกายที่ร่างกายจะนำไขมันใต้ชั้นผิวหนังมาสลายเพื่อเป็นพลังงาน ......... แต่ ร่างกายก็ยังจัดความสำคัญของการมีไขมันใต้ชั้นผิวหนังเอาไว้ เพราะงั้น มันไม่มีทางสลายจนเหลือแค่ 1% ไปได้ ......... เพราะชั้นไขมันใต้ผิวหนังเรา เป็นเสมือนบัฟเฟอร์ของร่างกาย ทำหน้าที่ป้องกันหลายอย่าง แต่หลักๆคือบัฟเฟอร์ และรักษาอุณหภูมิในร่างกาย
แสดงความคิดเห็น
อ้วน เล่นกล้าม ผมควรเวทอย่างเดียวหรือเวทพร้อมกับคาร์ดิโอ ดีครับ
เพราะอ่านเจอตรงนี้ครับ ก็เลยสับสน
วิธีการมีอยู่สองแบบคือ
1. เล่นกล้ามให้ใหญ่ก่อน แล้วค่อยรีดไขมัน ข้อเสียคือ คุณต้องทนอ้วนไปก่อน อาจจะอ้วนมากขึ้นกว่านี้ด้วยซ้ำ อาจจะ 10-20 กก. แต่พอเล่นครบ 4-6 เดือนตามโปรแกรม ก็ค่อยตั้งหน้าตั้งตารีดไขมัน แต่การรีดไขมันนี้ก็หนักเอาการ เพราะคุณอ้วนมาก แต่รับรองว่าเมื่อคุณมีกล้ามเนื้อมากขึ้นแล้ว จะรีดไขมันได้ง่ายขึ้น แน่นอน ต้องจำไว้ว่าช่วงที่เพิ่มกล้ามนี้ให้เล่นเวทอย่างเดียว ห้ามวิ่ง ห้ามปั่นจักรยานหรือเล่นกีฬาอย่างอื่น เด็ดขาด
2. รีดไขมันก่อน ให้ระดับไขมันส่วนเกินอยู่ในระดับไม่เกิน 15% แล้วค่อยเริ่มเล่นกล้าม แต่ข้อเสียคือการรีดไขมันโดยที่ยังไม่เคยเล่นเพราะกายมาก่อนเลย ย่อมมีมวลกล้ามเนื้อน้อย ทำให้ลดไขมันได้ยากมากกว่า
ขอคำตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ