ส่งออกข้าวปี’63 ทำได้ดีสุดแค่ 5.8 ล้านตัน หลังฝ่ามรสุมบาทโป๊ก-ขาดแคลนตู้สินค้า-ค่าระวางพุ่ง
https://www.khaosod.co.th/economics/news_5638212
คาดส่งออกข้าวไทยปี’63 ทำได้ดีสุดแค่ 5.8 ล้านตัน หลังฝ่ามรสุมบาทแข็งโป๊ก ราคาข้าวสูงกว่าคู่แข่ง ขาดแคลนตู้สินค้า ค่าระวางพุ่ง
ส่งออกข้าวปี’63วูบ - นาย
เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวในเดือนพ.ย. 2563 มีปริมาณ 721,779 ตัน มูลค่า 13,072 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 62% และ 53% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค. 2563 ที่ส่งออกปริมาณ 445,144 ตัน มูลค่า 8,561 ล้านบาท เนื่องจากประเทศผู้นำเข้า ได้นำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมไว้สำหรับเทศกาลปลายปีนี้และต้นปีหน้า ส่งผลให้การส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 255,779 ตัน เพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น บราซิล เบนิน จีน โมซัมบิก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แองโกลา เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวนึ่งปริมาณ 249,425 ตัน เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ส่งไปตลาดประจำ ในแถบแอฟริกา เช่น เบนิน แอฟริกาใต้ เยเมน แคเมอรูน เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 124,245 ตัน เพิ่มขึ้น 74% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนซึ่งส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังตลาดประจำ เช่น สหรัฐ จีน ฮ่องกง แคนาดา เป็นต้น
สมาคมฯ คาดว่าในเดือนธ.ค. 2563 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ประมาณ 600,000 ตัน ซึ่งจะทำให้ในปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้ประมาณ 5.7-5.8 ล้านตัน จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะส่งออกได้ถึง 7.5 ล้านตันตอนต้นปี และปรับลดลงมาเหลือ 6 ล้านตันเมื่อกลางปี เนื่องจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ใช้บรรจุสินค้า ประกอบกับค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้การส่งมอบสินค้าต้องล่าช้ากว่ากำหนดและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้าชะลอตัว
“
ภาวะราคาข้าวของไทยในช่วงนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทั้งข้าวขาวและข้าวนึ่ง ขณะที่ข้าวหอมมะลิค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางภาวะเงินบาทที่ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวไทยห่างจากอินเดียประมาณ 150 เหรียญสหรัฐต่อตัน” นาย
เจริญ กล่าว
โดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 สมาคมฯ ประกาศราคาข้าวขาว 5% ที่ 529 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่เว็บไซต์ Oryza.com รายงานราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 498-502, 368-372 และ 410-414 เหรียญสหรัฐต่อตัน
เพื่อไทย เผย ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกรบ. เน้น ‘บิ๊กตู่’ เป็นหลัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2506923
เพื่อไทย เผย ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกรบ. เน้น ‘บิ๊กตู่’ เป็นหลัก
วันที่ 30 ธันวาคม นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ตอนนี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านทุกพรรคต่างเดินหน้าหาข้อมูลเท่าที่ทราบแต่ละพรรคต่างมีข้อมูลเพียงพอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ โดยหลังจากเปิดทำการวันที่ 4 มกราคม 2564 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมร่วมกันเพื่อสรุปข้อมูลที่แต่ละพรรคมีในมือว่าพรรคใด ส.ส.คนไหน จะอภิปรายเรื่องใด เพื่อให้เนื้อหาแหลมคมที่สุด โดยเบื้องต้นเราจะพุ่งเป้าการอภิปรายไปที่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องรับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมด
รวมถึง ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ส่อแววไม่ชอบมาพากลในการบริหาร โดยการอภิปรายครั้งนี้เราจะเน้นที่เนื้อหาการอภิปรายไม่เน้นจำนวนผู้อภิปราย เราจะให้ผู้อภิปรายครั้งนี้ได้เวลาในการอภิปรายอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เนื้อหาสาระมากที่สุด และเชื่อว่าจะสามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้ เพราะแต่ละเรื่องที่จะมีการอภิปรายต่างเป็นโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่ส่อไปในทางทุจริต เช่น การต่อสัญญารถไฟฟ้าสายมีเขียว รวมถึงการออกนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อนายทุน อาทิ เรื่อง สปก.ที่ให้นายทุนเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งที่ที่ดินดังกล่าวต้องให้กับเกษตรกรเป็นผู้ใช้ประโยชน์ รวมถึงการบริหารงานที่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโควิด ที่ปล่อยให้มีบ่อนการพนันในหลายพื้นที่จนเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อ เราจะนำเรื่องเหล่านี้มาตีแผ่ให้ประชาชนรับทราบในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
JJNY : 4in1 ส่งออกข้าวปี63ได้แค่5.8ล.ตัน/พท.เผยซักฟอกเน้นตู่/ส.ส.เจี๊ยบแฉยับบ่อนพนัน ถาม รู้ยัง?/จเรสอบแล้ว โกดังคือบ่อน
https://www.khaosod.co.th/economics/news_5638212
ส่งออกข้าวปี’63วูบ - นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวในเดือนพ.ย. 2563 มีปริมาณ 721,779 ตัน มูลค่า 13,072 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 62% และ 53% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค. 2563 ที่ส่งออกปริมาณ 445,144 ตัน มูลค่า 8,561 ล้านบาท เนื่องจากประเทศผู้นำเข้า ได้นำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมไว้สำหรับเทศกาลปลายปีนี้และต้นปีหน้า ส่งผลให้การส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 255,779 ตัน เพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น บราซิล เบนิน จีน โมซัมบิก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แองโกลา เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวนึ่งปริมาณ 249,425 ตัน เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ส่งไปตลาดประจำ ในแถบแอฟริกา เช่น เบนิน แอฟริกาใต้ เยเมน แคเมอรูน เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 124,245 ตัน เพิ่มขึ้น 74% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนซึ่งส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังตลาดประจำ เช่น สหรัฐ จีน ฮ่องกง แคนาดา เป็นต้น
สมาคมฯ คาดว่าในเดือนธ.ค. 2563 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ประมาณ 600,000 ตัน ซึ่งจะทำให้ในปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้ประมาณ 5.7-5.8 ล้านตัน จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะส่งออกได้ถึง 7.5 ล้านตันตอนต้นปี และปรับลดลงมาเหลือ 6 ล้านตันเมื่อกลางปี เนื่องจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ใช้บรรจุสินค้า ประกอบกับค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้การส่งมอบสินค้าต้องล่าช้ากว่ากำหนดและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้าชะลอตัว
“ภาวะราคาข้าวของไทยในช่วงนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทั้งข้าวขาวและข้าวนึ่ง ขณะที่ข้าวหอมมะลิค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางภาวะเงินบาทที่ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวไทยห่างจากอินเดียประมาณ 150 เหรียญสหรัฐต่อตัน” นายเจริญ กล่าว
โดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 สมาคมฯ ประกาศราคาข้าวขาว 5% ที่ 529 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่เว็บไซต์ Oryza.com รายงานราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 498-502, 368-372 และ 410-414 เหรียญสหรัฐต่อตัน
เพื่อไทย เผย ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกรบ. เน้น ‘บิ๊กตู่’ เป็นหลัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2506923
เพื่อไทย เผย ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกรบ. เน้น ‘บิ๊กตู่’ เป็นหลัก
วันที่ 30 ธันวาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ตอนนี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านทุกพรรคต่างเดินหน้าหาข้อมูลเท่าที่ทราบแต่ละพรรคต่างมีข้อมูลเพียงพอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ โดยหลังจากเปิดทำการวันที่ 4 มกราคม 2564 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมร่วมกันเพื่อสรุปข้อมูลที่แต่ละพรรคมีในมือว่าพรรคใด ส.ส.คนไหน จะอภิปรายเรื่องใด เพื่อให้เนื้อหาแหลมคมที่สุด โดยเบื้องต้นเราจะพุ่งเป้าการอภิปรายไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องรับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมด
รวมถึง ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ส่อแววไม่ชอบมาพากลในการบริหาร โดยการอภิปรายครั้งนี้เราจะเน้นที่เนื้อหาการอภิปรายไม่เน้นจำนวนผู้อภิปราย เราจะให้ผู้อภิปรายครั้งนี้ได้เวลาในการอภิปรายอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เนื้อหาสาระมากที่สุด และเชื่อว่าจะสามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้ เพราะแต่ละเรื่องที่จะมีการอภิปรายต่างเป็นโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่ส่อไปในทางทุจริต เช่น การต่อสัญญารถไฟฟ้าสายมีเขียว รวมถึงการออกนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อนายทุน อาทิ เรื่อง สปก.ที่ให้นายทุนเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งที่ที่ดินดังกล่าวต้องให้กับเกษตรกรเป็นผู้ใช้ประโยชน์ รวมถึงการบริหารงานที่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโควิด ที่ปล่อยให้มีบ่อนการพนันในหลายพื้นที่จนเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อ เราจะนำเรื่องเหล่านี้มาตีแผ่ให้ประชาชนรับทราบในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ