ยุ่งแล้ว! กมธ.จัดทำและติดตามงบ เตรียมเรียก สวทช. สอบ ไขน็อต จีที 200 เครื่องละหมื่น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7094552
ยุ่งแล้ว! กมธ.จัดทำและติดตามงบ เตรียมเรียก สวทช. สอบ ไขน็อต จีที 200 เครื่องละหมื่น เหมาะสมหรือไม่ ทั้งที่มีอาจารย์ม.เกษตรฯ ยินดีแกะให้ฟรี
วันที่ 5 มิ.ย.65 นาย
ไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) จัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ กล่าวถึงกรณีกระทรวงกลาโหม ว่าจ้างสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) ไปตรวจสอบเครื่องจีที 200 จำนวน 757 เครื่อง วงเงิน 7.57ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นหลักฐานประกอบการเรียกค่าเสียหายแก่บริษัทผู้ผลิต ซึ่งถูกวิจารณ์เป็นการว่าจ้างแพงเกินไปในราคาเคริ่องละ 10,000 บาท ว่า
กมธ.กำลังรวบรวมข้อมูลเรื่องดังกล่าวอยู่ ดูแล้วมีประเด็นน่าสงสัย เพราะหน้าที่หลักสวทช.ควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยมากกว่าการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องมือ เรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจ และความเชี่ยวชาญโดยตรงมากกว่านี้หรือไม่
โดยเฉพาะราคาตรวจสอบเครื่องละ 10,000บาท จะมีความเหมาะสมหรือไม่ ถ้าเทียบกับการให้หน่วยงานอื่นในประเทศไทย เช่น มหาวิทยาลัยต่างๆมาตรวจสอบแทน อย่าง นายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ก็พร้อมแกะมาตรวจสอบให้ฟรีๆ เพราะเป็นแค่การไขน็อตธรรมดา ไม่ยุ่งยาก ควรเทียบราคาของหน่วยงานอื่นกับสวทช.ก่อน
“ขณะนี้กมธ.ฯรวบรวมข้อมูลอยู่ คาดว่าอีก2 สัปดาห์ กมธ.ฯจะเรียกสวทช.มาให้ข้อมูลถึงการมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ ความเชี่ยวชาญ และข้อสงสัยเรื่องราคาตรวจสอบเครื่องละ 10,000บาท ตลอดจนเรียกตัวแทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มาให้ข้อมูลผลการตรวจสอบบัญชีของแต่ละหน่วยงานเกี่ยวกับเรื่องจีที 200 ถ้ามีประเด็นสงสัยเพิ่มเติม จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป” นาย
ไชยา กล่าว
‘สุทิน’ ไม่กังวลเสียงโหวตงบฝ่ายค้านแตก ชี้ ศึกซักฟอกไม่มีข้ออ้างในการยกมือ เหตุ ไม่มีผลประโยชน์ปชช.เกี่ยว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3383966
‘สุทิน’ ไม่กังวลเสียงโหวตงบฝ่ายค้านแตก ชี้ ศึกซักฟอกไม่มีข้ออ้างในการยกมือ เหตุ ไม่มีผลประโยชน์ปชช.เกี่ยว แง้ม ชื่อ “สันติ” เข้าข่ายรายชื่อซักฟอก
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กังวลเสียงฝ่ายค้านในการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือไม่ เนื่องจากการอภิปรายโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา เสียงฝ่ายค้านที่ไม่เป็นเอกภาพ ว่า ไม่กังวล ก็อย่างที่รู้คนที่เขาจะไปจะย้าย เขามีเป้าหมายของเขา ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต่างกับพ.ร.บ.งบฯ เพราะการโหวตงบฯ มีข้ออ้างได้ว่างบในพื้นที่จัดไปแล้วชาวบ้านรู้แล้วว่าจะได้งบอย่างไร ถ้าผู้แทนของชาวบ้านยกมือโหวตคว่ำ ตัวของผู้แทนเองก็อาจจะเสียหาย แต่ในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องกล่าวหารัฐบาลอย่างเดียว ไม่มีข้ออ้างที่จะไปแก้ตัวกับชาวบ้าน แต่เรื่องมือที่ยกนั้น ก็ธรรมดาช่วงใกล้สมัยเลือกตั้งก็จะมีทางขาไปขามา คือคนฝ่ายค้านอาจจะไปยกให้รัฐบาล รัฐบาลก็อาจจะมายกให้ฝ่ายค้าน ในส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเราก็ยังจะคงเดินหน้าเต็มที่ ใครจะไปจะมาหรือจะมายกมือกับเรา เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคาดหวังเขา
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมเพื่อลงโทษงูเห่าในพรรคอย่างไร นาย
สุทิน กล่าวว่า จะมีมาตรการตามข้อบังคับพรรค ตอนนี้กำลังทำอยู่ ใช้ระยะเวลาไม่นานโดยปกติก็จะประมาณ 1 เดือน และเป็นข้อหาอย่างไรก็ต้องว่าไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกพรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจมีชื่อรัฐมนตรีคนใดบ้าง ทางพรรคก้าวไกลก็ได้เปิดชื่อว่ารายชื่อของ 3 ป. นาย
สุทิน กล่าวว่า ไม่ต่างกัน นอกจาก 3 ป. พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็จะมีกระทรวงที่จะเกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนมากๆ
เมื่อถามว่าชื่อของนาย
สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีอยู่ในรายชื่อที่ถูกซักฟอกของทางพรรคเพื่อไทย ด้วยหรือไม่ นาย
สุทิน กล่าวว่า เราจะตรวจสอบข้อมูลกันครั้งสุดท้ายในวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งนาย
สันติ ก็อยู่ในข่าย ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) แต่ละพรรคจะยื่นญัตติส่วนตัว มาเขียนญัตติรวม และพร้อมยื่นในวันที่ 15 มิถุนายน
ผู้สื่อข่าวว่าทางพรรคเพื่อไทยได้ชวนกลุ่มร.อ.
ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา รักษาการเลขาธิการทางเศรษฐกิจไทย ร่วมญัตติอภิปรายไม่วางใจด้วยหรือไม่ นาย
สุทิน กล่าวว่า เคยคุยกันตั้งแต่คราวนู้นและยังไม่ได้คุยกันอีก แต่ก็คงไม่ต้องคุยกันบ่อย เพราะใครจะทำอะไรทุกคนก็รู้ว่าประชาชนดูอยู่ เราทำดีที่สุดทำอภิปรายดีข้อมูลดี ก็คิดว่าเขาก็น่าจะหันมายกมือสนับสนุน
‘ศิริกัญญา’ อุบชื่อ รมต.ถูกชำแหละ ศึกซักฟอก พุ่งเป้าคอร์รัปชั่น บริหารประเทศล้มเหลว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3384139
‘ศิริกัญญา’ เผยศึกซักฟอก ซัดเรื่องการคอร์รัปชั่น-บริหารประเทศล้มเหลว อุบตอบรายนาม รมต.ถูกชำแหละ
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นาย
ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ระบุรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป้าหมายหลักเป็นรัฐมนตรีกลุ่ม 3 ป.คือ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอนนี้พรรคก้าวไกลมีรายชื่อนอกเหนือจากนี้หรือไม่ว่า ไม่เปิดเผยจนกว่าจะพูดคุยกับวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งจะมีการคุยกันในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ โดยเน้นอภิปรายเรื่องคอร์รัปชั่นและการบริหารจัดการที่ผิดพลาด
น.ส.
ศิริกัญญากล่าวว่า ต้องขอย้ำว่าการคอร์รัปชั่น การกินหัวคิว ทำให้ประเทศเสียหายราว 20-30 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเวลาที่รัฐบาลตัดสินใจอะไรผิดพลาด เกิดการใช้งบประมาณไม่เหมาะสม ซึ่งการบริหารผิดพลาดดังกล่าวสร้างความเสียหายมากกว่าการคอร์รัปชั่นเสียอีก
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นส่วนผสมระหว่างเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น กับการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาลกับงบประมาณแผ่นดิน” น.ส.
ศิริกัญญากล่าว
ครึ่งปี 65 ส่งออกข้าวไทย โคม่า “อินเดีย-เวียดนาม” แย่งตลาด
https://www.thansettakij.com/economy/527652
อัพเดท ส่งออกข้าวครึ่งปี 2565 โคม่า ไทยโดนแย่งตลาด "อินเดีย" ข้าวขาว ชนิด 5% & "ข้าวนึ่ง" ขายถูกกว่าไทย ต่างกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ อาจจะมาจากต้นทุนการผลิตแตกต่างกัน 2 ปี ผลผลิตอินเดียดีมาก ส่วนข้าวหอมมะลิไทย ราคาแตะ 1,000 ดอลาร์สหรัฐ ขณะที่ข้าวหอมเวียดนามขาย 530 ดอลลาร์สหรัฐ
นาย
เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่าการส่งออกข้าวก็ยังไปได้เรื่อยๆ ที่ผ่านมาเฉลี่ยส่งออกประมาณเดือนละ 6 แสนตัน แต่ว่าในตอนนี้เริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เพราะว่าประเทศอินเดีย ข้าวขาว ข้าวชนิด 5% และข้าวนึ่ง ขายถูกมากต่างกับข้าวไทยกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ อาจจะมาจากต้นทุนการผลิตแตกต่างกัน 2 ปี ผลผลิตอินเดียดีมาก
ส่วนข้าวหอมมะลิ ราคาในประเทศเริ่มราคาสูงมาก ตอนนี้คาดว่าจะขายข้าว ประมาณ 1,000 ดอลาร์สหรัฐแล้ว แต่ข้าวหอมเวียดนามขายอยู่ประมาณ 530 ดอลลาร์สหรัฐ หากประเทศไทยมีการเปิดประเทศแล้วสถานการณ์ราคาข้าวอาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้มากนัก
สมาคมฯขอเรียนเชิญนักวิจัย/ปรับปรุงพันธุ์ข้าว ส่งข้าวพันธุ์ใหม่เข้าประกวด โดยส่งตัวอย่างข้าวในรูปข้าวเปลือกบรรจุถุงอย่างเรียบร้อย จำนวน 5 กิโลกรัมต่อหนึ่งสายพันธุ์/พันธุ์ พร้อมระบุประเภท และชนิดข้าวที่ส่งเข้าประกวด และกรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์มใบสมัคร มายังสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565
สำหรับในการประกวดครั้งนี้ จะมีข้าว 3 ประเภท คือ
1. ข้าวหอมไทย
2. ข้าวพื้นนุ่ม
3. ข้าวพื้นแข็ง
ทั้งนี้ข้าวพันธุ์ใหม่ที่ชนะการประกวดในแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัลประเภทละ 5 แสนบาท พร้อมโล่รางวัลจาก นาย
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งหมด 3 รางวัล
ด้านสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ราย สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญรายสัปดาห์ 23-29 พฤษภาคม 2565
ฟิลิปปินส์
สำนักอุตสาหกรรมพืช (Bureau of Plant Industry; BPI) กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ รายงานว่า ในเดือนเมษายน 2565 ฟิลิปปินส์นําเข้าข้าวจำนวน 384,594.907 ตัน ลดลงประมาณร้อยละ 7.16 เมื่อเทียบกับจำนวน 414,243.005 ตัน ในเดือนมีนาคม 2565 และลดลงประมาณร้อยละ 52.22 เมื่อเทียบกับจำนวน 804,996.53 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2565) ฟิลิปปินส์นําเข้าข้าว ประมาณ 1.189 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 47.77 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำนักอุตสาหกรรมพืช (BPI) รายงานข้อมูลการนําเข้าข้าวล่าสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 12 พฤษภาคม 2565 มีจำนวนประมาณ 1.289 ล้านตัน โดยมีผู้ยื่นขออนุญาตนําเข้าข้าวทั้งที่เป็นผู้ค้าข้าว และบริษัทต่างๆ รวม 113 ราย โดยใช้ใบรับรองสุขอนามัยพืช (sanitary and phytosanitary import clearances: SPICS) จำนวน 1,590 ใบ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 12 พฤษภาคม 2565 แหล่งนําเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา จีน อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เมียนมาร์ ปากีสถาน สิงคโปร์ สเปน ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยฟิลิปปินส์นําเข้าจากเวียดนามมากที่สุด จำนวน 1.008 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 84.8 ของการนําเข้าข้าวทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ เมียนมาร์ จำนวน 120,859.28 ตัน ปากีสถาน จำนวน 75,930.675 ตัน และไทย จำนวน 74,593.125 ตัน
สำหรับเอกชนผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท Bestow Industries Inc. มีปริมาณนําเข้า 80,115 ตัน รองลงมา คือ บริษัท Macman Rice and Corn Trading มีปริมาณนําเข้า 63,200 ตัน ที่ผ่านมา Business Mirror รายงานว่า การนําเข้าข้าวที่เพิ่มขึ้นในปีนี้เกิดจากการที่ผู้นําเข้าข้าวได้เร่งนําเข้าข้าวเพื่อสํารองไว้ท่ามกลางความคาดหวังว่าอุปทานข้าวจะตึงตัวและผลผลิตในประเทศที่ลดลง เนื่องจากราคาปัจจัยการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าว ระบุว่า ฤดูกาลเลือกตั้งทั่วประเทศมีส่วนทำให้ความต้องการนําเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการบริโภคข้าวราคาต่ำเพิ่มขึ้น (low-cost rice) เนื่องจากการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งทำให้เกิดความต้องการข้าวราคาต่ำโดยเฉพาะจากเมียนมาร์Manila Bulletin รายงานว่า ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 รัฐบาลฟิลิปปินส์สามารถจัดเก็บภาษีนําเข้าข้าวจำนวน 46 พันล้านเปโซ (ประมาณ 878.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งรัฐบาลได้เก็บภาษีนําเข้าข้าวเพื่อนํางบประมาณไปสนับสนุนภาคการผลิตข้าวของประเทศ
ผ่านกองทุนส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของข้าว (the Rice Competitiveness Enhancement Fund; RCEF) ตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยอัตราภาษีข้าว (the Rice Tariffication Law; RTL) ซึ่งตามกฎหมาย รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 10 พันล้านเปโซต่อปี (ประมาณ 196ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนทางการเงินในโครงการสนับสนุนชาวนา เช่น การช่วยเหลือทางการเงินแก่ชาวนา การไถพรวนพื้นที่เกษตร การขยายความคุ
JJNY : 5in1 กมธ.เตรียมเรียกสวทช.สอบ│สุทินไม่กังวลเสียงโหวต│ศิริกัญญาอุบชื่อรมต.│ครึ่งปี ส่งออกข้าวโคม่า│รัสเซียถล่มเคียฟ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7094552
ยุ่งแล้ว! กมธ.จัดทำและติดตามงบ เตรียมเรียก สวทช. สอบ ไขน็อต จีที 200 เครื่องละหมื่น เหมาะสมหรือไม่ ทั้งที่มีอาจารย์ม.เกษตรฯ ยินดีแกะให้ฟรี
วันที่ 5 มิ.ย.65 นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) จัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ กล่าวถึงกรณีกระทรวงกลาโหม ว่าจ้างสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) ไปตรวจสอบเครื่องจีที 200 จำนวน 757 เครื่อง วงเงิน 7.57ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นหลักฐานประกอบการเรียกค่าเสียหายแก่บริษัทผู้ผลิต ซึ่งถูกวิจารณ์เป็นการว่าจ้างแพงเกินไปในราคาเคริ่องละ 10,000 บาท ว่า
กมธ.กำลังรวบรวมข้อมูลเรื่องดังกล่าวอยู่ ดูแล้วมีประเด็นน่าสงสัย เพราะหน้าที่หลักสวทช.ควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยมากกว่าการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องมือ เรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจ และความเชี่ยวชาญโดยตรงมากกว่านี้หรือไม่
โดยเฉพาะราคาตรวจสอบเครื่องละ 10,000บาท จะมีความเหมาะสมหรือไม่ ถ้าเทียบกับการให้หน่วยงานอื่นในประเทศไทย เช่น มหาวิทยาลัยต่างๆมาตรวจสอบแทน อย่าง นายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ก็พร้อมแกะมาตรวจสอบให้ฟรีๆ เพราะเป็นแค่การไขน็อตธรรมดา ไม่ยุ่งยาก ควรเทียบราคาของหน่วยงานอื่นกับสวทช.ก่อน
“ขณะนี้กมธ.ฯรวบรวมข้อมูลอยู่ คาดว่าอีก2 สัปดาห์ กมธ.ฯจะเรียกสวทช.มาให้ข้อมูลถึงการมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ ความเชี่ยวชาญ และข้อสงสัยเรื่องราคาตรวจสอบเครื่องละ 10,000บาท ตลอดจนเรียกตัวแทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มาให้ข้อมูลผลการตรวจสอบบัญชีของแต่ละหน่วยงานเกี่ยวกับเรื่องจีที 200 ถ้ามีประเด็นสงสัยเพิ่มเติม จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายไชยา กล่าว
‘สุทิน’ ไม่กังวลเสียงโหวตงบฝ่ายค้านแตก ชี้ ศึกซักฟอกไม่มีข้ออ้างในการยกมือ เหตุ ไม่มีผลประโยชน์ปชช.เกี่ยว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3383966
‘สุทิน’ ไม่กังวลเสียงโหวตงบฝ่ายค้านแตก ชี้ ศึกซักฟอกไม่มีข้ออ้างในการยกมือ เหตุ ไม่มีผลประโยชน์ปชช.เกี่ยว แง้ม ชื่อ “สันติ” เข้าข่ายรายชื่อซักฟอก
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กังวลเสียงฝ่ายค้านในการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือไม่ เนื่องจากการอภิปรายโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา เสียงฝ่ายค้านที่ไม่เป็นเอกภาพ ว่า ไม่กังวล ก็อย่างที่รู้คนที่เขาจะไปจะย้าย เขามีเป้าหมายของเขา ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต่างกับพ.ร.บ.งบฯ เพราะการโหวตงบฯ มีข้ออ้างได้ว่างบในพื้นที่จัดไปแล้วชาวบ้านรู้แล้วว่าจะได้งบอย่างไร ถ้าผู้แทนของชาวบ้านยกมือโหวตคว่ำ ตัวของผู้แทนเองก็อาจจะเสียหาย แต่ในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องกล่าวหารัฐบาลอย่างเดียว ไม่มีข้ออ้างที่จะไปแก้ตัวกับชาวบ้าน แต่เรื่องมือที่ยกนั้น ก็ธรรมดาช่วงใกล้สมัยเลือกตั้งก็จะมีทางขาไปขามา คือคนฝ่ายค้านอาจจะไปยกให้รัฐบาล รัฐบาลก็อาจจะมายกให้ฝ่ายค้าน ในส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเราก็ยังจะคงเดินหน้าเต็มที่ ใครจะไปจะมาหรือจะมายกมือกับเรา เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคาดหวังเขา
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมเพื่อลงโทษงูเห่าในพรรคอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า จะมีมาตรการตามข้อบังคับพรรค ตอนนี้กำลังทำอยู่ ใช้ระยะเวลาไม่นานโดยปกติก็จะประมาณ 1 เดือน และเป็นข้อหาอย่างไรก็ต้องว่าไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกพรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจมีชื่อรัฐมนตรีคนใดบ้าง ทางพรรคก้าวไกลก็ได้เปิดชื่อว่ารายชื่อของ 3 ป. นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ต่างกัน นอกจาก 3 ป. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็จะมีกระทรวงที่จะเกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนมากๆ
เมื่อถามว่าชื่อของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีอยู่ในรายชื่อที่ถูกซักฟอกของทางพรรคเพื่อไทย ด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เราจะตรวจสอบข้อมูลกันครั้งสุดท้ายในวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งนายสันติ ก็อยู่ในข่าย ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) แต่ละพรรคจะยื่นญัตติส่วนตัว มาเขียนญัตติรวม และพร้อมยื่นในวันที่ 15 มิถุนายน
ผู้สื่อข่าวว่าทางพรรคเพื่อไทยได้ชวนกลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา รักษาการเลขาธิการทางเศรษฐกิจไทย ร่วมญัตติอภิปรายไม่วางใจด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เคยคุยกันตั้งแต่คราวนู้นและยังไม่ได้คุยกันอีก แต่ก็คงไม่ต้องคุยกันบ่อย เพราะใครจะทำอะไรทุกคนก็รู้ว่าประชาชนดูอยู่ เราทำดีที่สุดทำอภิปรายดีข้อมูลดี ก็คิดว่าเขาก็น่าจะหันมายกมือสนับสนุน
‘ศิริกัญญา’ อุบชื่อ รมต.ถูกชำแหละ ศึกซักฟอก พุ่งเป้าคอร์รัปชั่น บริหารประเทศล้มเหลว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3384139
‘ศิริกัญญา’ เผยศึกซักฟอก ซัดเรื่องการคอร์รัปชั่น-บริหารประเทศล้มเหลว อุบตอบรายนาม รมต.ถูกชำแหละ
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ระบุรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป้าหมายหลักเป็นรัฐมนตรีกลุ่ม 3 ป.คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอนนี้พรรคก้าวไกลมีรายชื่อนอกเหนือจากนี้หรือไม่ว่า ไม่เปิดเผยจนกว่าจะพูดคุยกับวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งจะมีการคุยกันในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ โดยเน้นอภิปรายเรื่องคอร์รัปชั่นและการบริหารจัดการที่ผิดพลาด
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ต้องขอย้ำว่าการคอร์รัปชั่น การกินหัวคิว ทำให้ประเทศเสียหายราว 20-30 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเวลาที่รัฐบาลตัดสินใจอะไรผิดพลาด เกิดการใช้งบประมาณไม่เหมาะสม ซึ่งการบริหารผิดพลาดดังกล่าวสร้างความเสียหายมากกว่าการคอร์รัปชั่นเสียอีก
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นส่วนผสมระหว่างเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น กับการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาลกับงบประมาณแผ่นดิน” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
ครึ่งปี 65 ส่งออกข้าวไทย โคม่า “อินเดีย-เวียดนาม” แย่งตลาด
https://www.thansettakij.com/economy/527652
อัพเดท ส่งออกข้าวครึ่งปี 2565 โคม่า ไทยโดนแย่งตลาด "อินเดีย" ข้าวขาว ชนิด 5% & "ข้าวนึ่ง" ขายถูกกว่าไทย ต่างกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ อาจจะมาจากต้นทุนการผลิตแตกต่างกัน 2 ปี ผลผลิตอินเดียดีมาก ส่วนข้าวหอมมะลิไทย ราคาแตะ 1,000 ดอลาร์สหรัฐ ขณะที่ข้าวหอมเวียดนามขาย 530 ดอลลาร์สหรัฐ
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่าการส่งออกข้าวก็ยังไปได้เรื่อยๆ ที่ผ่านมาเฉลี่ยส่งออกประมาณเดือนละ 6 แสนตัน แต่ว่าในตอนนี้เริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เพราะว่าประเทศอินเดีย ข้าวขาว ข้าวชนิด 5% และข้าวนึ่ง ขายถูกมากต่างกับข้าวไทยกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ อาจจะมาจากต้นทุนการผลิตแตกต่างกัน 2 ปี ผลผลิตอินเดียดีมาก
ส่วนข้าวหอมมะลิ ราคาในประเทศเริ่มราคาสูงมาก ตอนนี้คาดว่าจะขายข้าว ประมาณ 1,000 ดอลาร์สหรัฐแล้ว แต่ข้าวหอมเวียดนามขายอยู่ประมาณ 530 ดอลลาร์สหรัฐ หากประเทศไทยมีการเปิดประเทศแล้วสถานการณ์ราคาข้าวอาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้มากนัก
สมาคมฯขอเรียนเชิญนักวิจัย/ปรับปรุงพันธุ์ข้าว ส่งข้าวพันธุ์ใหม่เข้าประกวด โดยส่งตัวอย่างข้าวในรูปข้าวเปลือกบรรจุถุงอย่างเรียบร้อย จำนวน 5 กิโลกรัมต่อหนึ่งสายพันธุ์/พันธุ์ พร้อมระบุประเภท และชนิดข้าวที่ส่งเข้าประกวด และกรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์มใบสมัคร มายังสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565
สำหรับในการประกวดครั้งนี้ จะมีข้าว 3 ประเภท คือ
1. ข้าวหอมไทย
2. ข้าวพื้นนุ่ม
3. ข้าวพื้นแข็ง
ทั้งนี้ข้าวพันธุ์ใหม่ที่ชนะการประกวดในแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัลประเภทละ 5 แสนบาท พร้อมโล่รางวัลจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งหมด 3 รางวัล
ด้านสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ราย สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญรายสัปดาห์ 23-29 พฤษภาคม 2565
ฟิลิปปินส์
สำนักอุตสาหกรรมพืช (Bureau of Plant Industry; BPI) กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ รายงานว่า ในเดือนเมษายน 2565 ฟิลิปปินส์นําเข้าข้าวจำนวน 384,594.907 ตัน ลดลงประมาณร้อยละ 7.16 เมื่อเทียบกับจำนวน 414,243.005 ตัน ในเดือนมีนาคม 2565 และลดลงประมาณร้อยละ 52.22 เมื่อเทียบกับจำนวน 804,996.53 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2565) ฟิลิปปินส์นําเข้าข้าว ประมาณ 1.189 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 47.77 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำนักอุตสาหกรรมพืช (BPI) รายงานข้อมูลการนําเข้าข้าวล่าสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 12 พฤษภาคม 2565 มีจำนวนประมาณ 1.289 ล้านตัน โดยมีผู้ยื่นขออนุญาตนําเข้าข้าวทั้งที่เป็นผู้ค้าข้าว และบริษัทต่างๆ รวม 113 ราย โดยใช้ใบรับรองสุขอนามัยพืช (sanitary and phytosanitary import clearances: SPICS) จำนวน 1,590 ใบ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 12 พฤษภาคม 2565 แหล่งนําเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา จีน อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เมียนมาร์ ปากีสถาน สิงคโปร์ สเปน ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยฟิลิปปินส์นําเข้าจากเวียดนามมากที่สุด จำนวน 1.008 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 84.8 ของการนําเข้าข้าวทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ เมียนมาร์ จำนวน 120,859.28 ตัน ปากีสถาน จำนวน 75,930.675 ตัน และไทย จำนวน 74,593.125 ตัน
สำหรับเอกชนผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท Bestow Industries Inc. มีปริมาณนําเข้า 80,115 ตัน รองลงมา คือ บริษัท Macman Rice and Corn Trading มีปริมาณนําเข้า 63,200 ตัน ที่ผ่านมา Business Mirror รายงานว่า การนําเข้าข้าวที่เพิ่มขึ้นในปีนี้เกิดจากการที่ผู้นําเข้าข้าวได้เร่งนําเข้าข้าวเพื่อสํารองไว้ท่ามกลางความคาดหวังว่าอุปทานข้าวจะตึงตัวและผลผลิตในประเทศที่ลดลง เนื่องจากราคาปัจจัยการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าว ระบุว่า ฤดูกาลเลือกตั้งทั่วประเทศมีส่วนทำให้ความต้องการนําเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการบริโภคข้าวราคาต่ำเพิ่มขึ้น (low-cost rice) เนื่องจากการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งทำให้เกิดความต้องการข้าวราคาต่ำโดยเฉพาะจากเมียนมาร์Manila Bulletin รายงานว่า ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 รัฐบาลฟิลิปปินส์สามารถจัดเก็บภาษีนําเข้าข้าวจำนวน 46 พันล้านเปโซ (ประมาณ 878.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งรัฐบาลได้เก็บภาษีนําเข้าข้าวเพื่อนํางบประมาณไปสนับสนุนภาคการผลิตข้าวของประเทศ
ผ่านกองทุนส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของข้าว (the Rice Competitiveness Enhancement Fund; RCEF) ตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยอัตราภาษีข้าว (the Rice Tariffication Law; RTL) ซึ่งตามกฎหมาย รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 10 พันล้านเปโซต่อปี (ประมาณ 196ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนทางการเงินในโครงการสนับสนุนชาวนา เช่น การช่วยเหลือทางการเงินแก่ชาวนา การไถพรวนพื้นที่เกษตร การขยายความคุ