ปั้นไข่มุกเองทีละลูก ชานมไข่มุกสายคราฟต์ | "สวัสดี คราฟต์" ตอน ๓ โดยนายครัว

“สวัสดี คราฟต์” ซีรี่ส์บทความประกอบวิดีโอทำอาหาร ที่ผมจะทำอาหารที่เราคุ้นเคยแต่ไม่เคยคิดจะเริ่มทำจากศูนย์ เป็นการเรียนรู้แบบที่ให้อาหารเป็นอาจารย์ ส่วนบทเรียนคือการค้นหาข้อมูลและลงมือทำด้วยตัวเอง ทุกตอนมาพร้อมสูตรอาหารที่คุณสามารถทำตามได้ที่บ้าน มาทำอาหารคราฟต์ๆ กันครับ =)    -นายครัว

อ่าน "สวัสดี คราฟต์" ตอนอื่นๆ ได้ที่:
  ตอน ๑ : เต้าหูสด >> https://ppantip.com/topic/39760446
  ตอน ๒ : กิมจิทำเอง >> https://ppantip.com/topic/39900380

ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่:
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UClN06agwU1fxVffq2dIAe_g
Facebook: https://facebook.com/CooksJournal
ขอบคุณครับ =)

สวัสดี คราฟต์
ตอนที่ ๓
ปั้นไข่มุกเองทีละลูก ชานมไข่มุกสายคราฟต์
 
ต้องสารภาพก่อนว่าผมเองก็เป็นสาวกชานมไข่มุกคนหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนชอบดื่มชานมมาแต่ไหนแต่ไร รสชาติของชานมที่หอมหวานกับไข่มุกที่เหนียวนุ่ม เป็นอะไรที่เข้ากันอย่างลงตัว ปัจจุบันชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่มีขายอยู่ทั่วไปทุกที่ และยิ่งมันหาซื้อง่าย มันก็ทำให้สาวกอย่างเรายากที่จะหักห้ามใจ วันนี้ผมอยากจะมาลองทำชานมไข่มุกเองดู อยากรู้ว่าจะทำได้อร่อยเหมือนที่ร้านมั้ย มีอะไรที่เราจะปรับปรุงให้มันดีขึ้นได้บ้าง
ชา
ไหนๆ ก็จะลองทำไข่มุกเอง ผมเลยอยากจะลองหาชาที่ปกติไม่เคยใช้ อยากได้รสชาติที่แปลกไปจากชาที่หาได้ตามซุปเปอร์ทั่วไป พอนึกถึงชาก็เลยนึกถึงร้านในเยาวราชที่ผมไปหลายครั้ง ชื่อร้าน Double Dogs ซึ่งปกติผมก็จะสั่งชาจีนร้อนที่มีให้เลือกหลายชนิด แต่วันนั้นเห็นเมนูชานมเย็นที่ชงด้วยชาพู่เอ๋อเลยลองสั่ง ปรากฏว่าชาตัวนี้ตอบโจทย์ผมมาก รสชาติกลมกล่อมเข้ากับนมได้ดี ผมเลยซื้อกลับมาเพื่อทำชานมไข่มุกของผม น้องที่ร้านบอกว่าชาตัวนี้รสชาติขมมากถ้าใช้วิธีชงร้อน จึงแนะนำให้ชงด้วยน้ำเย็น
ตอนแรกผมก็กะว่าจะใช้วิธีชงเย็นอยู่แล้ว เพราะผมส่วนตัวไม่ชอบชานมที่มีรสขม การชงเย็น (Cold Brew) สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน แค่เทน้ำเย็นกับใบชาใส่ในขวดแก้วแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย ๖ ชั่วโมง ปกติผมก็จะผสมใส่ตู้เย็นทิ้งไว้ข้ามคืนเลย พอดื่มใกล้หมดก็ใส่น้ำเพิ่มแล้วแช่ต่อ เราสามารถชงได้หลายรอบจนกว่าชาจะหมดรส การชงเย็นมีข้อดีหลายประการ เช่นปริมาณคาเฟอีนที่ออกมาจากใบชาจะน้อยมากเมื่อเทียบกับการชงร้อน นอกจากนั้นชาที่ชงเย็นยังมีรสชาติและกลิ่นที่ละมุนกว่าชาร้อน เป็นชาที่เหมาะจะดื่มได้ตลอดวัน แต่ข้อที่สำคัญที่ผมเลือกที่จะชงเย็นคือมันจะไม่ดึงความขมออกมาจากใบชา ซึ่งหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องใช่น้ำตาลหรือนมในปริมาณมากเพื่อกลบความขมนั้น ผมคิดว่ามันทำให้เราคุมรสชาติของสูตรชานมได้ง่ายขึ้น
 
เมื่อได้ชาที่ชงไว้เรียบร้อย ผมก็ผสมน้ำผึ้งแทนน้ำเชื่อมเพื่อเพิ่มความหวาน เราไม่ต้องการชาที่หวานเกินไปเพราะว่าในไข่มุกจะมีความหวานจากการต้มน้ำเชื่อมอยู่แล้ว ส่วนนมก็ใช้นมสดไขมันปกติ ถ้าใครชอบรสมันก็อาจจะผสมครีม นมคาเนชั่น หรือ นมข้นก็ได้ ผมอยากดื่มชาที่ไม่หนักท้องเกินไป เลยเลือกใช้แค่นมสดธรรมดา
ไข่มุก
จากที่หาข้อมูลมา รู้สึกว่าไข่มุกเป็นอะไรที่ไม่ได้ซับซ้อนเลย วัตถุดิบมีแค่ ๓ อย่าง คือ แป้งมันสำปะหลัง น้ำตาลทรายแดง และน้ำ ขั้นตอนการทำก็อาจจะใช้เวลานิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป ใช้อุปกรณ์ไม่มาก สามารถลงมือทำในครัวทั่วไปได้ ตอนที่หาสูตร ผมพบว่าแต่ละสูตรมีความแตกต่างของสีไข่มุก ซึ่งมันขึ้นอยู่กับความเข้มของน้ำตาลที่เราเลือกใช้ ถ้าอยากได้สีดำแบบตามร้านก็ต้องหาน้ำตาลทรายแดงที่สีเข้มหน่อย
หลังจากที่ลองทำครั้งแรก ผลที่ออกมาก็ถือว่าใช้ได้ จริงๆ ไข่มุกมันก็ไม่ได้มีรสชาติอะไรนอกจากความหวานเล็กน้อยจากน้ำตาล เราจึงจะเน้นที่ความนุ่มของเนื้อไข่มุกมากกว่า ซึ่งผมว่าสูตรที่หามาก็ถือว่าเนื้อสัมผัสของไข่มุกดีไม่แพ้กับที่ซื้อทาน อีกสิ่งที่ต้องคำนึงตอนทำคือขนาดของไข่มุก เราต้องกะเผื่อว่ามันจะขยายขึ้นเล็กน้อยตอนที่สุกแล้ว และขนาดก็มีผลกับเวลาของการต้มเช่นกัน ถ้าขนาดเล็กไปก็อาจจะทำให้สุกเกิน เนื้อจะนิ่มไป เคี้ยวแล้วไม่หนึบ ไม่หนำใจวัยรุ่น
อีกสิ่งที่เจอคือตอนผสมกับชารอบแรก เราใส่ไข่มุก ตามด้วยน้ำแข็ง แล้วก็เติมชากับนม ปรากฏว่าไข่มุกแข็งตัวเร็วมาก คิดว่าเป็นเพราะน้ำแข็งทำให้แป้งแข็งตัว เลยเปลี่ยนเป็นไม่ใส่น้ำแข็ง แล้วแช่ชาให้เย็นแต่ก็ไม่เย็นจัดจนเกินไป แล้วเสิร์ฟไข่มุกตอนที่อยู่ในอุณหภูมิห้อง เมื่อผสมกับชาจะได้ความหนึบกำลังดี
เนื่องจากไข่มุกที่สุกไม่เหมาะกับการโดนความเย็น มันเลยทำให้เราไม่ควรต้มสุกในปริมาณมากถ้าคิดว่าจะทานไม่หมด เพราะการเก็บไว้ในตู้เย็นก็จะทำให้ความนุ่มเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ถ้าจะทำเก็บไว้ทานต้องแช่ช่องแข็งหลังจากที่ปั้นเสร็จตอนที่ยังดิบอยู่ คลุกแป้งให้ทั่วจะได้ไม่ติดกันเป็นก้อน พอต้องการจะทานก็เอาออกมาต้ม
ความรู้
แล้วเราจะมานั่งเสียเวลาทำไข่มุกเองทำไม? ในเมื่อชาไข่มุกสมัยนี้หาได้ทุกที่ ราคาก็ไม่ได้แพงมาก รสชาติก็หลากหลาย เท่าที่หาข้อมูลมา ข้อเสียของไข่มุกที่เราทานจากร้านคือเรื่องของสารเคมี เช่นสารกันบูด ที่ใส่เพื่อให้ไข่มุกสามารถเก็บได้นานขึ้น หรือสารอื่นๆ ที่ผู้ผลิตใส่ในไข่มุกเพื่ออำนวยการผลิตในปริมาณสูง  บอกตรงๆ ว่าผมเองก็ไม่เคยคำนึงถึงจุดนี้มาก่อน มันคงเป็นเพราะสมัยนี้เราชินกับอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิต (Processed Food) แต่การใช้สารเคมีก็เป็นดาบสองคม เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นการถนอมอาหาร แต่การทานอาหารที่มีสารเหล่านั้นเป็นประจำก็อาจจะทำให้มันสะสมในร่างกายของเรา ซึ่งจะส่งผลเสียกับสุขภาพของเรา

สรุปผลการลองทำชานมไข่มุกจากศูนย์ ผมรู้สึกว่ามันออกมาโอเคกว่าที่คิด วัตถุดิบก็หาได้ทั่วไป และเป็นวัตถุดิบที่ราคาถูก ถามว่ามันคุ้มมั้ยสำหรับการทำเองที่บ้าน ผมมองว่าในแง่ราคามันก็ประหยัดไปได้เยอะถ้าเทียบกับซื้อทาน ผมว่าข้อดีของการที่ทำอาหารจากศูนย์คือเราสามารถเลือกคุณภาพของวัตถุดิบ และตัดสารเคมีที่ไม่ดีออกไปจากอาหารได้ นอกจากนั้นเรายังสามารถควบคุมปริมาณคาเฟอีน และน้ำตาล เพื่อลดผลกระทบต่อร่างกายของเรา ผมว่ามันเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ต้องระวังเรื่องสุขภาพ แต่ก็ยังโหยหาความสุขของการดื่มชานมไข่มุก
 
ถ้าใครจะลองทำที่บ้านผมแนะนำให้ลองทำกับเพื่อนๆ จัดปาร์ตี้ชาไข่มุกกัน จะได้มีคนช่วยปั้นและก็ช่วยทานไข่มุกด้วย =)
 
ขอให้ทุกคนทานให้อิ่มใจ =)
-นายครัว
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


 
ชานมไข่มุก Bubble Milk Tea
 
ไข่มุก:
แป้งมันสำปะหลัง                         ๑๔๐  กรัม
น้ำตาลทรายแดง                         ๑๑๐  กรัม 
น้ำเปล่า                                     ๑๒๐  มิลลิลิตร
 
น้ำเชื่อมสำหรับต้ม:
น้ำเปล่า                                     ๔๘๐ มิลลิลิตร
น้ำตาลทรายแดง                         ๑๗๐ กรัม
____________________________________ 
 
วิธีทำชา
ใบชา น้ำเปล่า นมสด น้ำผึ้ง
-   การชงเย็นให้ใส่ใบชาประมาณ ๓๐ กรัมต่อน้ำเย็น ๑ ลิตร แช่ตู้เย็นอย่างน้อย ๖ ชั่วโมง 
 
วิธีทำไข่มุก
๑      อุ่นน้ำเปล่าในหม้อ ใส่น้ำตาลทรายแดง คนให้ละลาย แล้วพักไว้ให้เย็นตัวลง
๒      ผสมแป้งมันสำปะหลังลงไปในส่วนผสมน้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน ตั้งไฟบนเตา คนตลอดเวลาจนแป้งสุกจนเหนียวเป็นก้อน
๓      ตักแป้งออกจากหม้อลงบนพื้นโต๊ะที่โรยแป้งมันไว้ แป้งที่สุกแล้วจะได้ไม่ติดโต๊ะ
๔      นวดแป้งจนเนื้อเนียน โรยแป้งมันเพิ่ม หากส่วนผสมติดพื้นโต๊ะ
๕      ตัดแป้งเป็นชิ้นเล็กๆ คลึงแป้งให้เป็นเส้นยาว หนาไม่เกิน ๑ ซม เท่าๆ กัน วางเรียงไว้ โรยแป้งมันเพื่อไม่ให้ติดกัน
๖      ตัดแป้งเป็นชิ้นๆ สี่เหลี่ยม แล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ โรยแป้งมันเพื่อไม่ให้แป้งติดกัน
๗      ตั้งน้ำร้อนในหม้อให้เดือด ใส่ไข่มุกที่ปั้นไว้ลงไปในน้ำเดือด คนให้ไข่มุกไม่ติดกัน และไม่ให้มีไข่มุกติดที่ก้นหม้อ
๘      ต้มไข่มุกที่ไฟกลาง ประมาณ ๑๕ นาที จากนั้นจึงตักใส่ภาชนะที่ใส่น้ำและน้ำแข็ง
๙      ผสมน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายแดงเพื่อทำน้ำเชื่อม ต้มจนเดือด
๑๐  ตักไข่มุกออกจากน้ำเย็นแล้วใส่ในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือด ลดไฟลงแล้วต้มต่อประมาณ ๒๐ นาที
๑๑  ปิดไฟ แล้วตักไข่มุกใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้เย็นตัวลง
๑๒  ตักชามุกใส่แก้ว นำชาเย็นที่ชงไว้ เทผ่านที่กรองใบชาตามลงไป เติมนม และน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมตามชอบ
 
 
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ ถ้าชอบดูวีดิโอทำอาหารแบบชิวๆ ฝากกด Like และ Subscribe ที่ช่องยูทูป “Cook’s journal โดยนายครัว” ด้วยนะครับ =)
 
ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่:
#สวัสดีคราฟต์ #นายครัว #CooksJournal 
ขอบคุณครับ =)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่