JJNY : 4in1 ปิยบุตรดักคอรบ.กินรวบส.ส.ร./วิโรจน์เผยก้าวไกลรวมเสียงได้เกิน100/60ส.ว.ตั้งกลุ่ม/เตือนรับมือศก.หากระบาดระลอก2

'ปิยบุตร'ดักคอรัฐบาลเปิดโมเดลกินรวบส.ส.ร.
https://www.dailynews.co.th/politics/793847
 
“ปิยบุตร”ซัดโมเดลกินรวบ ส.ส.ร. ของรัฐบาลได้นักยกร่างฯเจ้าเดิม “ผลัดกันเขียน เวียนกันอ่าน วานกันชม สุขสมกันเอง” แนบเนียนขึ้นกว่าตอนทำ รธน. 2560 


 
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่ง ใจความระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 23 และ 24 ก.ย.นี้ ได้กำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบไปด้วยสมาชิก 200 คน มีที่มาดังนี้ 150 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน 20 คน มาจากการเลือกโดยรัฐสภา 20 คน มาจากการเลือกโดยที่ประชุมอธิการบดี โดยแบ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชนหรือรัฐศาสตร์ 10 คน และผู้มีประสบการณ์การเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน หรือการร่างรัฐธรรมนูญ 10 คน และอีก10 คน มาจากนักเรียน นิสิต นักศึกษา
 
นายปิยบุตร ระบุต่อว่า ดูผิวเผิน ก็เหมือนจะดี ครอบคลุมทุกฝ่าย มี ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงมากกว่าถึง 3/4 ในส่วนอีก 50 คนที่มาจากการคัดสรร ก็มีทั้งเลือกโดยอ้อมผ่านรัฐสภา มีทั้งผู้เชี่ยวชาญ และมีทั้งนักเรียน นิสิต นักศึกษา เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียดถึงวิธีการเลือกตั้งและวิธีการคัดสรรแล้ว พบว่า มีโอกาสสูงมากที่พรรคร่วมรัฐบาลจะยึดกุมกระบวนการได้มา ซึ่งสภาร่างรัฐธรรมนูญ
 
นายปิยบุตร ระบุต่ออีกว่า ด้วยระบบเช่นนี้ หากพรรครัฐบาลวางแผนแบ่งสรรพื้นที่กันอย่างเป็นระบบ ก็เป็นไปได้ว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ร. ที่พรรครัฐบาลเอาใจช่วยจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาเกือบ 100 คน ในส่วนของ ส.ส.ร. 20 คน ที่มาจากการเลือกโดยรัฐสภานั้น มาตรา 256/7 กำหนดให้ รัฐสภาดำเนินการคัดเลือกโดยให้มีจำนวนตามหรือใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจำนวนส.ส.และส.ว.เมื่อคำนวณตามสัดส่วนแล้ว ส.ส.ร. 20 คน จะมาจากการคัดเลือกโดยส.ส. เลือก ส.ส.ร.13 คน ส.ว. เลือก ส.ส.ร. 7 คน
 
นายปิยบุตร ระบุต่อว่า ในส่วนที่ ส.ส. คัดเลือก เมื่อแบ่งตามสัดส่วนที่นั่ง ส.ส. ที่แต่ละพรรคการเมืองมีอยู่ ก็จะได้ดังนี้ พรรคร่วมรัฐบาลเลือก ส.ส.ร. 7 คน ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ 3 พรรคภูมิใจไทย 2 พรรคประชาธิปัตย์ 1 พรรคอื่นๆ 1 พรรคร่วมฝ่ายค้านเลือก ส.ส.ร. 6 คน ได้แก่ พรรคเพื่อไทย 4 พรรคก้าวไกล 1 พรรคอื่นๆ 1 เท่ากับว่า พรรคร่วมรัฐบาล + (พรรค) วุฒิสภา จะได้เลือก ส.ส.ร. 14 คน
 
นายปิยบุตร ระบุต่ออีกว่า ในส่วนของ ส.ส.ร. 20 คน ที่ที่ประชุมอธิการบดีเลือกมานั้น ดังที่ทราบกันดีว่า โครงสร้างของผู้บริหารมหาวิทยาลัยของประเทศไทยเป็นเช่นไร โอกาสที่นักวิชาการกฎหมายมหาชน รัฐศาสตร์ของฝ่ายประชาธิปไตย ที่ต่อต้านระบอบ คสช. มาโดยตลอด จะได้รับการคัดเลือกให้เป็น ส.ส.ร. คงมีน้อยเต็มที หรือ ถ้าหลุดรอดเข้าไปได้ ก็คงมีจำนวนน้อยนิดกลายเป็นเครื่องประดับให้พวกเขาเอาไปอ้างเอาความชอบธรรม ตรงกันข้าม ส.ส.ร. 20 คนในส่วนนี้ เราจะได้นักยกร่างรัฐธรรมนูญของปี 2550 และ 2560 และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมการปฏิรูปเข้ามาร่างรัฐธรรมนูญใหม่อีกรอบหนึ่ง
 
นายปิยบุตร ระบุต่ออีกว่า ในส่วน ส.ส.ร. 10 คน ที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ปรากฏว่า ในมาตรา 256/8 วรรคสอง กำหนดให้ กกต.คัดเลือกนักเรียน นิสิต นักศึกษานั่นหมายความว่า ต่อให้มีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่เข้าร่วมการชุมนุมในเวลานี้ สนใจสมัครเป็น ส.ส.ร. มากเท่าไรก็ตาม ในท้ายที่สุด กกต. จะเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในการออกใบอนุญาตให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา คนใดได้เป็น ส.ส.ร.
 
“ด้วยโครงสร้างและที่มาของ ส.ส.ร. แบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่รัฐบาลจะยึดกุมชี้นำ ส.ส.ร. ได้เกินครึ่ง หรืออาจถึง 120-130 คน ส.ส.ร. เหล่านี้ก็จะไปเลือกคนมาเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อคณะกรรมาธิการยกร่างเสร็จ ก็เอากลับมาให้ ส.ส.ร. ให้ความเห็นชอบ เมื่อผ่าน ส.ส.ร. ก็เอามาให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบรัฐสภาที่มี พรรครัฐบาล 277 + (พรรค) วุฒิสภา 250 = 527 ให้ผ่าน รัฐธรรมนูญนี้ก็ประกาศใช้ โดยไม่มีการลงประชามติ นี่คือกระบวนการ ผลัดกันเขียน เวียนกันอ่าน วานกันชม สุขสมกันเอง ที่แนบเนียนขึ้นกว่าตอนทำรัฐธรรมนูญ 2560” นายปิยบุตร ระบุ.
 

 
'วิโรจน์' เผย 'ก้าวไกล' รวมเสียง ส.ส.ได้เกิน 100 ดันร่างแก้ 272 นับหนึ่งปิดสวิตช์ ส.ว.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2337423
 
‘วิโรจน์’ เผย ‘ก้าวไกล’ รวมเสียง ส.ส.ได้เกิน 100 ดันร่างแก้ 272 นับหนึ่งปิดสวิตช์ ส.ว.
 
เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์การยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกลว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคที่จะยื่นมี 4 ร่าง คือ ฉบับที่ 1 แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกบทบัญญัติในมาตรา 269 ฉบับที่ 2 แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกบทบัญญัติในมาตรา 270 และมาตรา 271 ฉบับที่ 3 แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกบทบัญญัติในมาตรา 272 และฉบับที่ 4 แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกบทบัญญัติในมาตรา 279
 
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า วิธีการของพรรคก้าวไกล คือการทยอยยื่นทีละร่าง เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการถกเถียง และแก้ไขเพื่อให้ได้จุดร่วม เพราะหากเสนอไปรวมกันทั้ง 4 ฉบับ เมื่อถูกตีตก ก็จะหายไปทั้ง 4 ฉบับ โดยร่างแรกที่เราจะยื่นคือ ร่างแก้ไขมาตรา 272 เพราะเป็นฉบับที่มีความเห็นตรงกันว่าควรยกเลิก ทาง ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เสนอว่าจะมาช่วยลงเสียงด้วยนั้น มีความเห็นว่า ส.ว.ไม่ได้มาจากประชาชน ดังนั้น ส.ว.จึงไม่ควรมีอำนาจเข้ามาแทรกแซงและเปลี่ยนเจตจำนงของประชาชน ขณะนี้เราสามารถรวมเสียง ส.ส.ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 272 นี้ ได้เกิน 100 เสียงแล้ว มาจากพรรคฝ่ายค้าน (ไม่รวมพรรคเพื่อไทย) พรรครัฐบาลบางพรรค เช่น พรรค ปชป. และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประมาณ 2 เสียง รวมไปถึงพรรคเล็กบางพรรคด้วย เป็นการรวมเสียงกันด้วยเอกสิทธิ์ของการเป็น ส.ส. คาดว่าจะยื่นร่างแก้ไขมาตรา 272 ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
 
เมื่อถามว่า ล่าสุดพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็จะยื่นร่างแก้ไขมาตรา 272 ด้วย นายวิโรจน์กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย เรายืนยันจุดเดิมว่า กลไกของ ส.ว. ตามมาตรา 272 ไม่เป็นประชาธิปไตย และหากมีอุบัติเหตุหรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จะไม่สามารถเปลี่ยนไปตามเจตจำนงของประชาชนได้ คือ ต่อให้มีการเลือกตั้งอีก ก็อาจจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรืออาจจะได้นอมินีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งจะมีแต่ความรุนแรง ความผิดหวัง และความเศร้าซึมของประชาชน และก็คิดว่าประชาชนคงไม่ยอมจำนนให้ประเทศนี้ถูกยึดโดยกลุ่มของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร ไปเรื่อยๆ เราจึงต้องแก้ไข
 
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้เข้ามาพูดคุยกับทางพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า “ไม่ครับ และนี่ก็เป็นหลักฐานยืนยันว่า เพื่อไทยกับก้าวไกลก็มีอุดมคติบางอย่างที่อาจจะแตกต่างกัน เราไม่ต้องเห็นตรงกันในทุกครั้ง หรือการตัดสินใจที่ต้องตอบสนองต่อท่าทีของประชาชน ก็มีความไวและความเด็ดเดี่ยวที่แตกต่างกัน หรือมองสถานการณ์ที่แตกต่างกัน มีสไตล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งประโยชน์ก็เกิดขึ้นกับประชาชนในการตัดสินใจเลือก ในฐานะพรรคก้าวไกลก็เคารพการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย สุดท้ายทางเลือกไหนจะเป็นทางที่ดีที่สุด ก็ต้องให้ประชาชนเป็นคนตอบ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่