วันศุกร์ ยามเริ่มจะสาย หญิงสาวหน้ามุ่ยเปิดประตูรั้วออกมาอีกครั้งหนึ่งในชุดวอร์ม ปกปิดตั้งแต่ข้อมือยันข้อเท้า ทำเอาชายหนุ่มยิ้มขำ
'วัวหายไปแล้ว จะล้อมคอกทำไม' 'วัว' ที่อวบอิ่มและชูชันนั่นยังติดตา เขาโล่งใจที่หญิงสาวไม่ได้โกรธจนไม่ยอมไปกินข้าวกับเขา
"นำสิ" หล่อนพูด ในดวงตายังมีความขัดเคือง
เขาพาหล่อนเดินเข้าในซอย เห็นผู้คนและรถแล่นสวนกันเข้าออกเป็นปกติเหมือนทุกวัน แตกต่างจากเมื่อคืนนี้โดยสิ้นเชิง หล่อนกอดอก ตั้งใจว่าจะไม่กลับบ้านดึกอีกเด็ดขาด
เขาถอยกลับมาเดินข้างหล่อนด้านติดถนน หล่อนชำเลืองมองด้วยหางตา
นี่เขาทำหน้าที่สุภาพบุรุษ หรือตั้งใจจะโชว์แก้มที่ยังเป็นผื่นแดงของเขา เพื่อคิดจะกล่าวโทษหล่อน เฮอะ
"คุณผิดเองนะ"
"หืม" หล่อนชี้ไปที่แก้มเขา
"อ่อ.. ก็ได้ครับ ผมผิดเอง"
หึ ตอบรับส่งๆแบบนี้ จะโทษหล่อนจริงๆใช่มั้ย
"ผมก็ควรจะบอกคุณแต่แรก" อืม ก็รู้นี่ "แต่ เพราะเป็นคุณ ผมถึงได้อยากจะมองภาพที่สวยงามนั้นนานๆ"
ไอ้หมอนี่ หล่อนพยายามทำตาเขียว ขณะที่แก้มเริ่มเป็นสีแดง
"ขนาดอยากจะถ่ายรูป เอาไปทำเป็นโปสเตอร์แปะด้านในห้องน้ำเลยล่ะ"
หืม คราวนี้หล่อนตาเขียวจริง หมายความว่าไงยะ
"สมควรโดนคุณตบแล้ว ที่เผลอใช้สิทธิในอนาคต"
"คืออะไร"
"ก็สิทธิที่ยังไม่มี ผมน่าจะรอให้เราเป็นแฟนกันก่อน ถึงตอนนั้นผมมองอะไร หรือยังไงคุณก็ได้ จริงมั้ย"
ไอ้หมอนี่ บทจะไม่พูดก็ยังกับเป็นใบ้ บทจะพูดก็จ้อเชียวนะ สิทธิของแฟนในอนาคตเหรอ นั่นสิ ถ้าหล่อนคบเขา เขาจะมองหล่อนในทุกสัดส่วนได้สินะ หล่อนไม่ทันคิดเรื่องนั้นเลยแฮะ แก้มชักจะร้อนอีกแล้ว
"ทางนั้นครับ" ชายหนุ่มชี้มือ เมื่อมาถึงซอยที่มีป้ายปักอยู่ข้างหน้าว่า 'หอพักรจเรข' เมื่อเดินไปก็เห็นหอพักตั้งเด่นอยู่ต้นซอย ใต้หอพักเป็นพื้นที่กว้างมีร้านอาหารและเครื่องดื่มตั้งอยู่ติดกันๆ 4-5 ร้าน วันนี้ไม่ใช่วันหยุด เวลานี้จึงมีคนไม่มากนัก
"นี่หอของคุณเหรอคะ" เดินมาแค่ร้อยกว่าเมตร ห่างจากซอยหมู่บ้านหล่อนแค่ 3 ซอย ไม่รู้เลยว่าเขาจะอยู่ใกล้หล่อนแค่นี้
"ไม่ใช่หอของผมหรอกครับ"
หญิงสาวมองค้อน รู้ย่ะ หล่อนว่าเขาก็รู้ความหมายของหล่อนนะ จะกวนกันใช่มั้ย
"ของแม่ผมน่ะ ผมแค่อยู่ที่นี่ แล้วช่วยดูแลเฉยๆ" เขาเลือกโต๊ะ เลื่อนเก้าอี้ให้หล่อน
อ้าว ลูกชายเจ้าของหอพัก
"รับอะไรดีครับ"
"คุณสั่งเถอะ"
"มีอะไรที่คุณไม่กินหรือเปล่า"
"ถ้าของฟรีก็กินได้หมดแหละ" หล่อนกอดอก
ชายหนุ่มหัวเราะ เขาตะโกนสั่งข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู แกงจืดมะระยัดไส้ กับเกาเหลาลูกชิ้น
ระหว่างรออาหาร เขาไขว้แขนวางศอกท้าวโต๊ะ ยื่นหน้ามาทางหล่อน
"ผมชื่อต่อครับ" เขากระแอมเคลียร์ลำคอ "ต่อพงศ์ เปรมพิสุทธิ์ อายุ 25 ปี ที่อยู่ xxxoo...xxxxoox โทรศัพท์ oooxxxx"
"หือ" หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ
"แนะนำตัวไงครับ"
"มาเต็มยศเลยนะ"
"บอกทั้งชื่อและนามสกุล เพื่อยืนยันว่ามีตัวตนจริง บอกที่อยู่เพื่อยืนยันว่ามีภูมิลำเนาเป็นหลักแหล่ง บอกเบอร์โทรเพื่อให้คุณโทรหาเวลาคิดถึง"
หืม ดีนะ หล่อนยังไม่ได้กินข้าว
"ใครจะโทรหาเวลาคิดถึง"
"ผมไง ไม่เชื่อก็ให้เบอร์โทรผมสิ"
บทสนทนาถูกขัด เมื่ออาหารมาวาง หล่อนเลือกข้าวผัดกุ้งกับเกาเหลาลูกชิ้น กลิ่นหอมและสีของข้าวผัดตรงหน้าหล่อนดูน่ากิน
"เมื่อคืนนี้ ชั้นจำได้ว่าคุณหนีไปแล้ว" เรื่องพูดคุยถูกเปลี่ยน หล่อนถามขณะที่หล่อนกำลังตักข้าวคำแรกเข้าปาก
"ผมออกไปปากซอยว่าจะโทร 191 พอดีมีสายตรวจผ่านมา ผมเลยโบก ให้เข้าไปซิวพวกมัน"
"อ้อ" ก็นั่นสินะ เขาก็แค่คนธรรมดา ไม่ใช่อัศวินหรือเทพบุตรที่หล่อนฝันให้เขาเป็น นึกว่าเขาจะไปหยิบดาบกับโล่ ขี่ม้าขาวมาขับไล่พวกมันรึไง
"แล้วพวกมันถูกจับไปแล้วหรือ" อืมกุ้งสด ข้าวก็ผัดมาแห้งดี ใช้ได้
"ตอนนั้น พอตำรวจเปิดประตู ผมก็อุ้มคุณออกมาจะพาไปส่งบ้าน ตำรวจก็เซ้าซี้ถามอยู่นั่นแหละ ว่าผมเป็นใคร คุณเป็นใคร บ้านอยู่ไหน ไอ้2ตัวนั่น มันเลยขึ้นรถแล้วขับชิ่งหนีไปเลย ตำรวจก็ไล่ตามไป จากนั้นก็ไม่รู้แล้ว"
เรื่องจริงนั้น หล่อนไม่ต้องรู้หรอก
"ก็นะ คุณก็บังเอิญอยู่แถวนั้นพอดี"
"ไม่บังเอิญหรอก ผมดักรอคุณอยู่"
"หา ทำไมคะ"
"ผมจะดักฉุดคุณน่ะสิ แต่โดนพวกมันตัดหน้าก่อน"
หล่อนส่งลูกชิ้นเข้าปาก หรี่ตามอง ขบเคี้ยวเน้นๆ
"ง่ะ พูดเล่นครับ แต่ที่รอน่ะพูดจริง"
หล่อนเลิกคิ้ว
"แค่อยากจะคุยกับคุนน่ะ ผมยังโสด ถ้าคุนก็โสด ก็ลองคบกันมั้ย อะไรทำนองนั้น"
"จะจีบ ว่างั้นเหอะ"
"ยอมรับโดยดุษฎี"
"เหรอคะ" นายคนนี้ ชักห่างไกลอัศวินหรือเทพบุตรในจินตนาการของหล่อนไปทุกที ความประทับใจที่มีมาแต่แรกเหลือไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบ
เฮ้อ ผู้ชายเจ้าของแผ่นหลังคนนั้นหายไปไหนนะ
"หลังจากนี้ผมจะไปหาบ่อยๆ คุณอย่าได้รำคาญ ผมซื้อของไปฝากก็รับเอาไว้ ผมโทรไปก็ต้องคุยกับผม หลักๆก็มีแค่นี้ก่อน เมื่อคุณพอใจในตัวผม เมื่อไหร่ก็รับรักผม พร้อมแต่งเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน"
"คิดไปขนาดนั้นเชียว"
"ผมจริงจังนะ วางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้าไม่เสียหายนี่"
หล่อนตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก แล้วรวบช้อน เคี้ยวจนละเอียดก่อนกลืนแล้วจิบน้ำตาม
"ชั้นยังไม่รู้จักคุณดีเลย"
"อยากรู้อะไรก็ถามสิ"
"ถ้าไม่อยากรู้ล่ะ"
"เอ่อ..." ชายหนุ่มแทบกัดลิ้นตัวเอง "ไม่อยากรู้ก็จะบอก ผมมีพี่ชายคนนึงทำสวนส้มที่เชียงใหม่ กับน้องชายคนนึงตอนนี้เรียนอยู่ มช"
"อ่อ ส่วนแม่คุณมีหอพัก"
"2 หลัง อีกหลังอยู่ที่บางเขน"
"แล้วพ่อคุณล่ะ"
"เสียแล้ว"
"อะ เหรอคะ เหมือนชั้นเลย"
"ครับ หืม แล้วผู้ชายที่ผมเห็นวันนั้นล่ะ"
"นั่นพ่อเลี้ยงค่ะ แม่ชั้นแต่งงานใหม่ อืมม แล้วคุณล่ะ"
"ผม ผมก็อยู่นี่ไง"
"ไม่ใช่ คุณทำงานอะไร"
"รับจ้างครับ"
หืม ตอบอย่างมั่นใจเลยเหรอ
"รับจ้างทำอะไรคะ"
"ก็แล้วแต่ว่าใครจะจ้างทำอะไร ส่วนใหญ่ก็รับจ้างทวงหนี้ครับ"
"หา" นักเลงทวงหนี้
"ทวงไม่ได้ก็ยึดบ้าน ยึดทรัพย์ ทำนองนั้น"
"หา" แล้วทำไมนายไม่มีรอยสัก เดี๋ยวนี้เค้าทวงหนี้กันแบบสุภาพชนแล้วหรอ
"แล้วก็มีส่งคนเข้าคุก หรือช่วยคนออกจากคุกเป็นบางครั้ง รับแก้ปัญหาแบบทั่วไปน่ะ"
"..........ไม่ผิดกฎหมายเหรอคะ"
"งานสุจริตครับ มีกฎหมายรองรับนะ"
เหมือนหล่อนเคยได้ยินว่า มีบริษัทรับติดตามหนี้สินอะไรนี่แหละสินะ เรียกว่าพนักงานทวงหนี้ใช่มั้ย
"เอาเถอะค่ะ แล้วแต่ละกัน" หล่อนยังสงสัย แล้วส่งคนเข้าคุกมันคืออะไร วิธีทวงหนี้แบบใหม่งั้นเหรอ
"ขอบคุณที่เลี้ยง ชั้นกลับละ"
"ครับ ผมไปส่งนะ" เขาตะโกนบอก "คิดตัง"
หญิงสาวลุกออกไป
"รอแป๊บครับ คิดตังก่อน"
หล่อนคงรอหรอก บ้านอยู่แค่นี้เอง หล่อนโตแล้ว กลับเองได้น่ะ
"ผมบอกว่าผมจะไปส่งไง" เขารีบตามมา หันหน้ากลับไปพูด "เดี๋ยวกลับมาค่อยเคลียร์กัน ขอไปหาสะใภ้ให้แม่ก่อน"
เหอะ ไอ้หมอนี่
เขายังคงเดินบังถนนให้ หล่อนแกล้งเดินตรงริมถนน เขาก็ยังเดินบนถนนเพื่อบังรถให้ เสียงแตรรถ 2-3 คันดัง จนหล่อนต้องยอมเดินริมทางอย่างธรรมดา เขายิ้มกว้าง เอาไหล่สะกิดหล่อน
"จะว่าไป" เขาพูดขึ้น "ผมยังจับก้นคุณได้ครั้งนึงใช่มั้ย"
"หา"
เขาหันแก้มซ้ายมาทางหล่อน เอานิ้วจิ้ม
"ผมยังมีบัตรจับก้นอยู่นี่"
เฮอะ ไอ้หมอนี่ หาที่ตายใช่ไหม หล่อนเอียงตัว ออกแรงใช้ไหล่ชนใส่เขา กะจะให้กระเด็นไปกลางถนน แต่หล่อนคงลืมไปว่า เขาไม่ได้ปวกเปียก และริมทางที่หล่อนเดินอยู่มันลาดลง ถัดจากตัวหล่อนไปก็เป็นคูน้ำ
หล่อนชน แต่เขาไม่กระเด็น เป็นตัวหล่อนเองที่กระดอนเสียหลัก เซหมุนหันหน้าไปทางคูข้างถนน สองเท้ายืนอย่างไม่สมดุลบนพื้นที่ไม่เสมอ ตัวงอ 90 องศา ทำท่าว่ายผีเสื้อกลางอากาศ หล่อนร้องเสียงหลง กำลังจะหน้าทิ่มลงไปในคู
"หว๋..หวา หวา อ๋า อ๊า"
ชายหนุ่มตาเหลือกรีบคว้าชายเสื้อหญิงสาวได้ที่ปลายผ้า ออกแรงดึงได้หน่อยก็หลุดมือ แต่อีกมือเขาคว้าโดนขอบกางเกง จึงดึงกลับเข้ามาได้ทัน
ตัวชายหนุ่มก็เสียหลักจนล้มนั่งลง แต่หญิงสาวเมื่อถูกดึงเข้ามาได้ ก็รีบพลิกตัวหันเข้าหาฝั่ง คลานสี่ขาตะกายกลับขึ้นข้างบนอย่างตกใจ
โดยไม่รู้ตัวว่ามือของชายหนุ่มยังเกี่ยวอยู่กับขอบกางเกงหล่อน
ความรู้สึกเย็นวาบทำให้หล่อนกลับมีสติจำได้ว่า เขาช่วยเหนี่ยวกางเกงดึงหล่อนเข้ามา แต่สัมผัสที่รั้งตรงหน้าขาแบบนี้ แปลว่า ...
หน้าของหล่อนร้อนและเย็นสลับกัน ...ขอให้เขาเห็นกางเกงในสีชมพูตัวเก่งของหล่อนด้วยเถอะ
หล่อนเหลียวไปมอง น้ำตาคลอเบ้าเมื่อคำภาวนาไม่เป็นผล กางเกงในของหล่อนก็ถูกเกี่ยวลงไปพร้อมกัน แล้วไอ้บ้านั่น มันยังมอง ตาไม่กระพริบ
@๕%M*~&Z฿#$ดดดดดดดด!!!
หล่อนคว้าขอบกางเกงรีบดึงขึ้น กระเสือดกระสนคลานหนี พร้อมพยายามลุกยืน บนพื้นที่ลาดเอียง ผลคือ หล่อนเสียหลักล้มลงไปมือยันพื้น ในท่าคลานสี่ขาอีกครั้ง โดยที่กางเกงยังดีงขึ้นมาไม่สุด เพียงค้างอยู่ที่ต้นขา
ชายหนุ่มรีบมาช่วยดึงกางเกงสวมให้ ก่อนที่จะมีใครเห็น !!?!!!
หญิงสาวที่ยังอยู่ในท่าคลานสี่ขาเหลียวหลังกลับมองเขาเขม็งด้วยดวงตาแดงก่ำฉ่ำน้ำหลังกรอบแว่น หล่อนลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า ปัดมือกับขากางเกง ยังมีความรู้สึกไม่สบายตัว เพราะแม้กางเกงจะสวมแล้ว แต่กางเกงในของหล่อนยังไม่เข้าที่ หล่อนจะไม่ขยับมันต่อหน้าเขาตรงนี้ให้อายเพิ่มกว่านี้หรอก ซึ่งนั่นมันไม่สำคัญ
ออร่าจิตสังหารพุ่งถึงขีดสุด เงายมทูตถือเคียวปรากฏขึ้นด้านหลัง
ชายหนุ่มชิงจังหวะลงมือก่อน พุ่งเข้าสวมกอดอย่างรวดเร็ว หล่อนดิ้นเต็มแรงแต่ไม่พ้นอ้อมกอดของเขาไปได้
ถ้าไม่ทำอย่างนี้ เขาคงโดนตบไปแล้ว
"ปล่อยชั้นนะะะะะะ.." เสียงกัดฟันบาดลึก
ไอ้บ้านี่ ทำอะไรลงไปรู้มั้ย ดึงกางเกงหล่อนก็พอแล้ว ยังกล้ามาใส่กางเกงให้อีกงั้นเหรอ ความอัปยศครั้งนี้ มีแต่ต้องใช้เลือดล้างอายเท่านั้น!
ขณะนั้นมีคนเดินผ่านมา เห็นหนุ่มสาวยืนกอดกัน หล่อนจึงต้องก้มซ่อนหน้าในอกเขา
"เกด เกดครับ ไม่เป็นไรนะ" เขาเปลี่ยนมาเรียกชื่อหล่อนแทนคำสรรพนาม
"สิ่งที่ผมทำไปแล้ว ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ต่อให้ถึงขั้นต้องแต่งงานก็ตาม เกดไม่ได้ทำเรื่องเสื่อมเสียอะไรเลยนี่ ถ้าแค่คนที่เห็นของเกด เป็นคนที่เกดแต่งงานด้วย จริงมั้ย"
แขนหล่อนถูกโอบกอด ถึงจะตบไม่ได้ แต่ยังข่วน ยังหยิกได้นะ โชคดีที่เขาใส่กางเกงขายาวมา
"ผมเห็นแล้วจะเป็นอะไรที่ไหน ที่ผมมองก็เพราะว่ารัก ไม่เห็นต้องโกรธ ร่างกายของเกด ไม่เห็นมีอะไรต้องอาย โดยเฉพาะบั้นท้าย ผมรับรองได้ว่าชั้นหนึ่งเลย จนผมอดมองไม่ได้จริงๆ"
ใครอนุญาตให้มารับรองยะ
"เพราะงั้น ไม่เป็นไรนะ นิ่งซะนะ" เขาโอบรัดหล่อน มือลูบหลัง
"ใจเย็นๆนะคนสวยของผม ใจดีๆนะคนรักของผม นะ เกดคนสวย นะ เกดคนดี ผมบอกแล้วใช่มั้ย ว่าผมจริงจังกับเกดนะ"
"ปล่อยได้แล้ว" เสียงที่ขึ้นจมูกของหล่อน ดังมาจากอกเขา
ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวสงบลงแล้วจึงคลายวงแขนออก
...
ใครบอก ว่าผู้หญิงใส่แว่นแล้วต้องขี้อาย หล่อนไม่ได้ขี้อายนะ
แต่ตอนนี้
หล่อนโคตรของโคตรอายเลยเว้ย!
หน้าหล่อนแดงเถือกตั้งแต่คอยันใบหู ร้อนฉ่าจนแทบไหม้
หล่อนพอใจในคำพูดของเขานะ พอใจมากด้วย แต่ว่า...
เมื่อเป็นอิสระจากอ้อมอกของชายหนุ่ม หญิงสาวผลักเขาออกจนได้ระยะ
เพียะ!!!! ไอ้โรคจิตหน้าหันไปตามแรงตบ
~ เขาควรจะเคยชินกับมันสินะ..
...............................................................................................................................................................................................................
หรือจะเป็นบุพเพ 5 last part : ผมชื่อต่อ
'วัวหายไปแล้ว จะล้อมคอกทำไม' 'วัว' ที่อวบอิ่มและชูชันนั่นยังติดตา เขาโล่งใจที่หญิงสาวไม่ได้โกรธจนไม่ยอมไปกินข้าวกับเขา
"นำสิ" หล่อนพูด ในดวงตายังมีความขัดเคือง
เขาพาหล่อนเดินเข้าในซอย เห็นผู้คนและรถแล่นสวนกันเข้าออกเป็นปกติเหมือนทุกวัน แตกต่างจากเมื่อคืนนี้โดยสิ้นเชิง หล่อนกอดอก ตั้งใจว่าจะไม่กลับบ้านดึกอีกเด็ดขาด
เขาถอยกลับมาเดินข้างหล่อนด้านติดถนน หล่อนชำเลืองมองด้วยหางตา
นี่เขาทำหน้าที่สุภาพบุรุษ หรือตั้งใจจะโชว์แก้มที่ยังเป็นผื่นแดงของเขา เพื่อคิดจะกล่าวโทษหล่อน เฮอะ
"คุณผิดเองนะ"
"หืม" หล่อนชี้ไปที่แก้มเขา
"อ่อ.. ก็ได้ครับ ผมผิดเอง"
หึ ตอบรับส่งๆแบบนี้ จะโทษหล่อนจริงๆใช่มั้ย
"ผมก็ควรจะบอกคุณแต่แรก" อืม ก็รู้นี่ "แต่ เพราะเป็นคุณ ผมถึงได้อยากจะมองภาพที่สวยงามนั้นนานๆ"
ไอ้หมอนี่ หล่อนพยายามทำตาเขียว ขณะที่แก้มเริ่มเป็นสีแดง
"ขนาดอยากจะถ่ายรูป เอาไปทำเป็นโปสเตอร์แปะด้านในห้องน้ำเลยล่ะ"
หืม คราวนี้หล่อนตาเขียวจริง หมายความว่าไงยะ
"สมควรโดนคุณตบแล้ว ที่เผลอใช้สิทธิในอนาคต"
"คืออะไร"
"ก็สิทธิที่ยังไม่มี ผมน่าจะรอให้เราเป็นแฟนกันก่อน ถึงตอนนั้นผมมองอะไร หรือยังไงคุณก็ได้ จริงมั้ย"
ไอ้หมอนี่ บทจะไม่พูดก็ยังกับเป็นใบ้ บทจะพูดก็จ้อเชียวนะ สิทธิของแฟนในอนาคตเหรอ นั่นสิ ถ้าหล่อนคบเขา เขาจะมองหล่อนในทุกสัดส่วนได้สินะ หล่อนไม่ทันคิดเรื่องนั้นเลยแฮะ แก้มชักจะร้อนอีกแล้ว
"ทางนั้นครับ" ชายหนุ่มชี้มือ เมื่อมาถึงซอยที่มีป้ายปักอยู่ข้างหน้าว่า 'หอพักรจเรข' เมื่อเดินไปก็เห็นหอพักตั้งเด่นอยู่ต้นซอย ใต้หอพักเป็นพื้นที่กว้างมีร้านอาหารและเครื่องดื่มตั้งอยู่ติดกันๆ 4-5 ร้าน วันนี้ไม่ใช่วันหยุด เวลานี้จึงมีคนไม่มากนัก
"นี่หอของคุณเหรอคะ" เดินมาแค่ร้อยกว่าเมตร ห่างจากซอยหมู่บ้านหล่อนแค่ 3 ซอย ไม่รู้เลยว่าเขาจะอยู่ใกล้หล่อนแค่นี้
"ไม่ใช่หอของผมหรอกครับ"
หญิงสาวมองค้อน รู้ย่ะ หล่อนว่าเขาก็รู้ความหมายของหล่อนนะ จะกวนกันใช่มั้ย
"ของแม่ผมน่ะ ผมแค่อยู่ที่นี่ แล้วช่วยดูแลเฉยๆ" เขาเลือกโต๊ะ เลื่อนเก้าอี้ให้หล่อน
อ้าว ลูกชายเจ้าของหอพัก
"รับอะไรดีครับ"
"คุณสั่งเถอะ"
"มีอะไรที่คุณไม่กินหรือเปล่า"
"ถ้าของฟรีก็กินได้หมดแหละ" หล่อนกอดอก
ชายหนุ่มหัวเราะ เขาตะโกนสั่งข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู แกงจืดมะระยัดไส้ กับเกาเหลาลูกชิ้น
ระหว่างรออาหาร เขาไขว้แขนวางศอกท้าวโต๊ะ ยื่นหน้ามาทางหล่อน
"ผมชื่อต่อครับ" เขากระแอมเคลียร์ลำคอ "ต่อพงศ์ เปรมพิสุทธิ์ อายุ 25 ปี ที่อยู่ xxxoo...xxxxoox โทรศัพท์ oooxxxx"
"หือ" หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ
"แนะนำตัวไงครับ"
"มาเต็มยศเลยนะ"
"บอกทั้งชื่อและนามสกุล เพื่อยืนยันว่ามีตัวตนจริง บอกที่อยู่เพื่อยืนยันว่ามีภูมิลำเนาเป็นหลักแหล่ง บอกเบอร์โทรเพื่อให้คุณโทรหาเวลาคิดถึง"
หืม ดีนะ หล่อนยังไม่ได้กินข้าว
"ใครจะโทรหาเวลาคิดถึง"
"ผมไง ไม่เชื่อก็ให้เบอร์โทรผมสิ"
บทสนทนาถูกขัด เมื่ออาหารมาวาง หล่อนเลือกข้าวผัดกุ้งกับเกาเหลาลูกชิ้น กลิ่นหอมและสีของข้าวผัดตรงหน้าหล่อนดูน่ากิน
"เมื่อคืนนี้ ชั้นจำได้ว่าคุณหนีไปแล้ว" เรื่องพูดคุยถูกเปลี่ยน หล่อนถามขณะที่หล่อนกำลังตักข้าวคำแรกเข้าปาก
"ผมออกไปปากซอยว่าจะโทร 191 พอดีมีสายตรวจผ่านมา ผมเลยโบก ให้เข้าไปซิวพวกมัน"
"อ้อ" ก็นั่นสินะ เขาก็แค่คนธรรมดา ไม่ใช่อัศวินหรือเทพบุตรที่หล่อนฝันให้เขาเป็น นึกว่าเขาจะไปหยิบดาบกับโล่ ขี่ม้าขาวมาขับไล่พวกมันรึไง
"แล้วพวกมันถูกจับไปแล้วหรือ" อืมกุ้งสด ข้าวก็ผัดมาแห้งดี ใช้ได้
"ตอนนั้น พอตำรวจเปิดประตู ผมก็อุ้มคุณออกมาจะพาไปส่งบ้าน ตำรวจก็เซ้าซี้ถามอยู่นั่นแหละ ว่าผมเป็นใคร คุณเป็นใคร บ้านอยู่ไหน ไอ้2ตัวนั่น มันเลยขึ้นรถแล้วขับชิ่งหนีไปเลย ตำรวจก็ไล่ตามไป จากนั้นก็ไม่รู้แล้ว"
เรื่องจริงนั้น หล่อนไม่ต้องรู้หรอก
"ก็นะ คุณก็บังเอิญอยู่แถวนั้นพอดี"
"ไม่บังเอิญหรอก ผมดักรอคุณอยู่"
"หา ทำไมคะ"
"ผมจะดักฉุดคุณน่ะสิ แต่โดนพวกมันตัดหน้าก่อน"
หล่อนส่งลูกชิ้นเข้าปาก หรี่ตามอง ขบเคี้ยวเน้นๆ
"ง่ะ พูดเล่นครับ แต่ที่รอน่ะพูดจริง"
หล่อนเลิกคิ้ว
"แค่อยากจะคุยกับคุนน่ะ ผมยังโสด ถ้าคุนก็โสด ก็ลองคบกันมั้ย อะไรทำนองนั้น"
"จะจีบ ว่างั้นเหอะ"
"ยอมรับโดยดุษฎี"
"เหรอคะ" นายคนนี้ ชักห่างไกลอัศวินหรือเทพบุตรในจินตนาการของหล่อนไปทุกที ความประทับใจที่มีมาแต่แรกเหลือไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบ
เฮ้อ ผู้ชายเจ้าของแผ่นหลังคนนั้นหายไปไหนนะ
"หลังจากนี้ผมจะไปหาบ่อยๆ คุณอย่าได้รำคาญ ผมซื้อของไปฝากก็รับเอาไว้ ผมโทรไปก็ต้องคุยกับผม หลักๆก็มีแค่นี้ก่อน เมื่อคุณพอใจในตัวผม เมื่อไหร่ก็รับรักผม พร้อมแต่งเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน"
"คิดไปขนาดนั้นเชียว"
"ผมจริงจังนะ วางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้าไม่เสียหายนี่"
หล่อนตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก แล้วรวบช้อน เคี้ยวจนละเอียดก่อนกลืนแล้วจิบน้ำตาม
"ชั้นยังไม่รู้จักคุณดีเลย"
"อยากรู้อะไรก็ถามสิ"
"ถ้าไม่อยากรู้ล่ะ"
"เอ่อ..." ชายหนุ่มแทบกัดลิ้นตัวเอง "ไม่อยากรู้ก็จะบอก ผมมีพี่ชายคนนึงทำสวนส้มที่เชียงใหม่ กับน้องชายคนนึงตอนนี้เรียนอยู่ มช"
"อ่อ ส่วนแม่คุณมีหอพัก"
"2 หลัง อีกหลังอยู่ที่บางเขน"
"แล้วพ่อคุณล่ะ"
"เสียแล้ว"
"อะ เหรอคะ เหมือนชั้นเลย"
"ครับ หืม แล้วผู้ชายที่ผมเห็นวันนั้นล่ะ"
"นั่นพ่อเลี้ยงค่ะ แม่ชั้นแต่งงานใหม่ อืมม แล้วคุณล่ะ"
"ผม ผมก็อยู่นี่ไง"
"ไม่ใช่ คุณทำงานอะไร"
"รับจ้างครับ"
หืม ตอบอย่างมั่นใจเลยเหรอ
"รับจ้างทำอะไรคะ"
"ก็แล้วแต่ว่าใครจะจ้างทำอะไร ส่วนใหญ่ก็รับจ้างทวงหนี้ครับ"
"หา" นักเลงทวงหนี้
"ทวงไม่ได้ก็ยึดบ้าน ยึดทรัพย์ ทำนองนั้น"
"หา" แล้วทำไมนายไม่มีรอยสัก เดี๋ยวนี้เค้าทวงหนี้กันแบบสุภาพชนแล้วหรอ
"แล้วก็มีส่งคนเข้าคุก หรือช่วยคนออกจากคุกเป็นบางครั้ง รับแก้ปัญหาแบบทั่วไปน่ะ"
"..........ไม่ผิดกฎหมายเหรอคะ"
"งานสุจริตครับ มีกฎหมายรองรับนะ"
เหมือนหล่อนเคยได้ยินว่า มีบริษัทรับติดตามหนี้สินอะไรนี่แหละสินะ เรียกว่าพนักงานทวงหนี้ใช่มั้ย
"เอาเถอะค่ะ แล้วแต่ละกัน" หล่อนยังสงสัย แล้วส่งคนเข้าคุกมันคืออะไร วิธีทวงหนี้แบบใหม่งั้นเหรอ
"ขอบคุณที่เลี้ยง ชั้นกลับละ"
"ครับ ผมไปส่งนะ" เขาตะโกนบอก "คิดตัง"
หญิงสาวลุกออกไป
"รอแป๊บครับ คิดตังก่อน"
หล่อนคงรอหรอก บ้านอยู่แค่นี้เอง หล่อนโตแล้ว กลับเองได้น่ะ
"ผมบอกว่าผมจะไปส่งไง" เขารีบตามมา หันหน้ากลับไปพูด "เดี๋ยวกลับมาค่อยเคลียร์กัน ขอไปหาสะใภ้ให้แม่ก่อน"
เหอะ ไอ้หมอนี่
เขายังคงเดินบังถนนให้ หล่อนแกล้งเดินตรงริมถนน เขาก็ยังเดินบนถนนเพื่อบังรถให้ เสียงแตรรถ 2-3 คันดัง จนหล่อนต้องยอมเดินริมทางอย่างธรรมดา เขายิ้มกว้าง เอาไหล่สะกิดหล่อน
"จะว่าไป" เขาพูดขึ้น "ผมยังจับก้นคุณได้ครั้งนึงใช่มั้ย"
"หา"
เขาหันแก้มซ้ายมาทางหล่อน เอานิ้วจิ้ม
"ผมยังมีบัตรจับก้นอยู่นี่"
เฮอะ ไอ้หมอนี่ หาที่ตายใช่ไหม หล่อนเอียงตัว ออกแรงใช้ไหล่ชนใส่เขา กะจะให้กระเด็นไปกลางถนน แต่หล่อนคงลืมไปว่า เขาไม่ได้ปวกเปียก และริมทางที่หล่อนเดินอยู่มันลาดลง ถัดจากตัวหล่อนไปก็เป็นคูน้ำ
หล่อนชน แต่เขาไม่กระเด็น เป็นตัวหล่อนเองที่กระดอนเสียหลัก เซหมุนหันหน้าไปทางคูข้างถนน สองเท้ายืนอย่างไม่สมดุลบนพื้นที่ไม่เสมอ ตัวงอ 90 องศา ทำท่าว่ายผีเสื้อกลางอากาศ หล่อนร้องเสียงหลง กำลังจะหน้าทิ่มลงไปในคู
"หว๋..หวา หวา อ๋า อ๊า"
ชายหนุ่มตาเหลือกรีบคว้าชายเสื้อหญิงสาวได้ที่ปลายผ้า ออกแรงดึงได้หน่อยก็หลุดมือ แต่อีกมือเขาคว้าโดนขอบกางเกง จึงดึงกลับเข้ามาได้ทัน
ตัวชายหนุ่มก็เสียหลักจนล้มนั่งลง แต่หญิงสาวเมื่อถูกดึงเข้ามาได้ ก็รีบพลิกตัวหันเข้าหาฝั่ง คลานสี่ขาตะกายกลับขึ้นข้างบนอย่างตกใจ
โดยไม่รู้ตัวว่ามือของชายหนุ่มยังเกี่ยวอยู่กับขอบกางเกงหล่อน
ความรู้สึกเย็นวาบทำให้หล่อนกลับมีสติจำได้ว่า เขาช่วยเหนี่ยวกางเกงดึงหล่อนเข้ามา แต่สัมผัสที่รั้งตรงหน้าขาแบบนี้ แปลว่า ...
หน้าของหล่อนร้อนและเย็นสลับกัน ...ขอให้เขาเห็นกางเกงในสีชมพูตัวเก่งของหล่อนด้วยเถอะ
หล่อนเหลียวไปมอง น้ำตาคลอเบ้าเมื่อคำภาวนาไม่เป็นผล กางเกงในของหล่อนก็ถูกเกี่ยวลงไปพร้อมกัน แล้วไอ้บ้านั่น มันยังมอง ตาไม่กระพริบ
@๕%M*~&Z฿#$ดดดดดดดด!!!
หล่อนคว้าขอบกางเกงรีบดึงขึ้น กระเสือดกระสนคลานหนี พร้อมพยายามลุกยืน บนพื้นที่ลาดเอียง ผลคือ หล่อนเสียหลักล้มลงไปมือยันพื้น ในท่าคลานสี่ขาอีกครั้ง โดยที่กางเกงยังดีงขึ้นมาไม่สุด เพียงค้างอยู่ที่ต้นขา
ชายหนุ่มรีบมาช่วยดึงกางเกงสวมให้ ก่อนที่จะมีใครเห็น !!?!!!
หญิงสาวที่ยังอยู่ในท่าคลานสี่ขาเหลียวหลังกลับมองเขาเขม็งด้วยดวงตาแดงก่ำฉ่ำน้ำหลังกรอบแว่น หล่อนลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า ปัดมือกับขากางเกง ยังมีความรู้สึกไม่สบายตัว เพราะแม้กางเกงจะสวมแล้ว แต่กางเกงในของหล่อนยังไม่เข้าที่ หล่อนจะไม่ขยับมันต่อหน้าเขาตรงนี้ให้อายเพิ่มกว่านี้หรอก ซึ่งนั่นมันไม่สำคัญ
ออร่าจิตสังหารพุ่งถึงขีดสุด เงายมทูตถือเคียวปรากฏขึ้นด้านหลัง
ชายหนุ่มชิงจังหวะลงมือก่อน พุ่งเข้าสวมกอดอย่างรวดเร็ว หล่อนดิ้นเต็มแรงแต่ไม่พ้นอ้อมกอดของเขาไปได้
ถ้าไม่ทำอย่างนี้ เขาคงโดนตบไปแล้ว
"ปล่อยชั้นนะะะะะะ.." เสียงกัดฟันบาดลึก
ไอ้บ้านี่ ทำอะไรลงไปรู้มั้ย ดึงกางเกงหล่อนก็พอแล้ว ยังกล้ามาใส่กางเกงให้อีกงั้นเหรอ ความอัปยศครั้งนี้ มีแต่ต้องใช้เลือดล้างอายเท่านั้น!
ขณะนั้นมีคนเดินผ่านมา เห็นหนุ่มสาวยืนกอดกัน หล่อนจึงต้องก้มซ่อนหน้าในอกเขา
"เกด เกดครับ ไม่เป็นไรนะ" เขาเปลี่ยนมาเรียกชื่อหล่อนแทนคำสรรพนาม
"สิ่งที่ผมทำไปแล้ว ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ต่อให้ถึงขั้นต้องแต่งงานก็ตาม เกดไม่ได้ทำเรื่องเสื่อมเสียอะไรเลยนี่ ถ้าแค่คนที่เห็นของเกด เป็นคนที่เกดแต่งงานด้วย จริงมั้ย"
แขนหล่อนถูกโอบกอด ถึงจะตบไม่ได้ แต่ยังข่วน ยังหยิกได้นะ โชคดีที่เขาใส่กางเกงขายาวมา
"ผมเห็นแล้วจะเป็นอะไรที่ไหน ที่ผมมองก็เพราะว่ารัก ไม่เห็นต้องโกรธ ร่างกายของเกด ไม่เห็นมีอะไรต้องอาย โดยเฉพาะบั้นท้าย ผมรับรองได้ว่าชั้นหนึ่งเลย จนผมอดมองไม่ได้จริงๆ"
ใครอนุญาตให้มารับรองยะ
"เพราะงั้น ไม่เป็นไรนะ นิ่งซะนะ" เขาโอบรัดหล่อน มือลูบหลัง
"ใจเย็นๆนะคนสวยของผม ใจดีๆนะคนรักของผม นะ เกดคนสวย นะ เกดคนดี ผมบอกแล้วใช่มั้ย ว่าผมจริงจังกับเกดนะ"
"ปล่อยได้แล้ว" เสียงที่ขึ้นจมูกของหล่อน ดังมาจากอกเขา
ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวสงบลงแล้วจึงคลายวงแขนออก
...
ใครบอก ว่าผู้หญิงใส่แว่นแล้วต้องขี้อาย หล่อนไม่ได้ขี้อายนะ
แต่ตอนนี้
หล่อนโคตรของโคตรอายเลยเว้ย!
หน้าหล่อนแดงเถือกตั้งแต่คอยันใบหู ร้อนฉ่าจนแทบไหม้
หล่อนพอใจในคำพูดของเขานะ พอใจมากด้วย แต่ว่า...
เมื่อเป็นอิสระจากอ้อมอกของชายหนุ่ม หญิงสาวผลักเขาออกจนได้ระยะ
เพียะ!!!! ไอ้โรคจิตหน้าหันไปตามแรงตบ
~ เขาควรจะเคยชินกับมันสินะ..
...............................................................................................................................................................................................................