[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34061981
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34074142
บทที 3 http://ppantip.com/topic/34086850
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/34099828
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/34115552
บทที่ 6 http://ppantip.com/topic/34132021
บทที่ 7 http://ppantip.com/topic/34144326
บทที่ 8 http://ppantip.com/topic/34157623
บทที่ 9 http://ppantip.com/topic/34172897
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วงที่ได้อยู่กับคนรักที่เยอรมัน ปาริชาติเชื่อว่าเสน่ห์ของผู้หญิงไทยไม่น่าจะอยู่ที่ปลายจวักแห่งเดียว...
ตื่นเช้ามาวันนี้อนาวิลพบว่าอากาศมืดครึ้มกว่าทุกวัน มีหมอกจางๆอยู่ทั่วไปในบรรยากาศ ความเย็นเพิ่มมากกว่าเมื่อวาน ทำท่าเหมือนฝนจะตกอีกในไม่นาน เขายืนมองอยู่ที่ระเบียง เขาไม่ชอบอากาศนิ่งๆแบบนี้เลย มันทำให้จิตใจห่อเหี่ยว เหงาและเซื่องซึม เมื่อวานอากาศก็ยังโปร่งปกติดีอยู่ เขาพาปาริชาติขับรถเลาะไปตามริมไรน์ วนใต้สะพานข้ามแม่น้ำขึ้นสะพานข้ามฟากไปอีกฝั่งของแม่น้ำ ไปที่สวนสาธารณะของเมือง ดูทิวลิปชูช่อโดดเด่นด้วยสีต่างๆ ผู้คนยืนห้อมล้อมดูและถ่ายรูปกันใหญ่ ปาริชาติก็ถ่ายรูปด้วยเพราะแปลงดอกไม้นี้สวยเด่นที่สุดในสวน ตอนกลางวันอนาวิลพาหล่อนไปทานอาหารที่ร้าน Wiener Wald ที่มีไก่ย่างมีชื่อ อร่อยมาก แต่ที่เป็นจุดสนใจของหล่อนคือ พนักงานหญิงใส่ชุดฟอร์มเสื้อขาวกระโปรงดำ หากแต่ผูกผ้ากันเปื้อนแบบโค้งมนริมชายติดลูกไม้ทั้งผืนเป็นสีขาว ลงแป้งแข็ง และมีกระเป๋าตรงกลางเพื่อล้วงรับจ่ายทอนเงินด้วย ผ้ากันเปื้อนดูสะอาดตามากๆ ทำให้รู้สึกว่าอาหารสะอาดและมีอนามัยดี ทานเสร็จจึงไปแวะซื้อกับข้าวมาตุนไว้ ถึงห้องก็ใกล้เย็นแล้ว จึงได้แต่พักผ่อนอยู่ในห้องของตนเองจนกว่าจะได้ทำอาหารค่ำทานและคุยกันจนกว่าหล่อนจะนอน เขาถึงได้กลับมาห้องตนเอง
สำหรับเช้าวันนี้เขาตั้งใจจะพาหล่อนไปบ้านคุณทิวา หากแต่ด้วยอากาศแบบนี้คงจะไม่โทรไปนัดจะดีกว่ารอปรึกษาหล่อนอีกที ป่านนี้อาจจะตื่นชงกาแฟทานแล้วก็ได้ เขาหันมามองสมุดบันทึกแล้วก็เอามาเขียนเรื่องราวอากาศวันนี้ลงไป สักครู่จึงไปปิดประตูที่ระเบียงและออกจากห้องล็อกประตูเดินไปหาหล่อน เขาเคาะประตูสองที หล่อนก็มาเปิด
“ นอนสบายไหมฮะ อากาศอย่างนี้”
“ นอนสบายดี วันนี้อากาศแปลกนะคะ มัวซัวซึมเซาจัง”
“ ฮะ ซึมเซาเหมือนคนเลย ทานกาแฟหรือยังฮะ”
“ ทานแล้วค่ะ เดี๋ยวเกดชงให้” หล่อนชงกาแฟให้เขาแล้วนึกไปถึงบอสที่เมืองไทยขึ้นมา
“อยากไปไหนฮะวันนี้ “ เขาเอาขนมปังใส่ที่ปิ้งเมื่อถามหล่อน
“ อากาศแบบนี้ยังไม่น่าไปไหนเลยละค่ะ ฝนทำท่าจะตก เกดว่าจะซักผ้าก็จะถามวิลอยู่ค่ะ”
“ ซักก็ได้ อบแห้งเสร็จ เดี๋ยวลงไปกันฮะ”
หล่อนลุกหยิบเสื้อผ้าใส่แล้วในถุงมาเตรียม พลางถามว่า
“ ของวิลมีไหมคะ จะซักด้วยไหมคะ”
“ มีฮะ เดี๋ยวไปเอา “ เมื่อทานขนมปังกับกาแฟแล้วเขาออกไปเอาผ้ามา และ เปิดตู้หยิบผงซักฟอก กับเหรียญสำหรับหยอดเครื่อง
หล่อนมองผ้าของเขาที่ใส่ถุงแล้วนึกว่าซักคนละเครื่องก็น้อยไปหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไร เขานำลงไปห้องใต้ดิน (Keller) ที่นั่นมีเครื่องซักผ้าห้าเครื่องหลายขนาดและที่นั่งรอซัก ไม่มีใครอยู่ แต่เครื่องก็ยังทำงาน คงจะกะเวลาเสร็จมาเอา อนาวิลเอาถุงผ้าจากหล่อนเทใส่เครื่องลงไป แล้วเอาถุงผ้าของเขาเทตามลงไป ทำเอาหล่อนงง และคิดว่าสีไม่ตก ไม่แยกหรือ เมื่อถามเขาบอกว่า
“ ผ้าที่นี่สีไม่ตกฮะ ของเกดมีสีตกเหรอ “
“ ไม่มีหรอกค่ะ แต่เห็นวิลใส่รวมกันไปหมด”
“ เสื้อผ้าที่นี่ไม่สกปรก ซักแต่กลิ่นออกเท่านั้น ใช้น้ำอุ่น แทบจะแกว่งๆในน้ำ ไม่มีผลกับผ้าหรอกฮะ” เขาตั้งเวลาและกดปุ่มเวลาก็ขึ้นมาหนึ่งชั่วโมง เขาพาหล่อนกลับ หล่อนถามว่า
“ น้ำยาล้างจานที่วันก่อนเห็นวิลล้างใช่แบบที่ไม่ต้องล้างหมดก็ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
“ ใช่ฮะ แต่ผมก็ล้างออกแยะ เพราะคิดว่าเป็นสารเคมี แต่ฝรั่งไม่ล้างหมด ยิ่งพวกในเครื่องล้างจาน เขาว่าถนอมผิวไชน่านั่นด้วยฮะ”
หล่อนรับทราบและเดินตามเขากลับมาที่ห้อง
หลังจากอนาวิลไปเอาผ้าเข้าอบและรออยู่จนเสร็จ เอากลับขึ้นมาเพื่อแยกและพับ ถึงตอนนี้หล่อนรู้สึกแปลกอย่างมากๆกับพฤติกรรมที่ต้องทำ คือหล่อนควรจะพับกางเกงในของเขาไหม ชุดชั้นในของหล่อน เขาก็หอบจากเครื่องมาให้แล้ว หล่อนทำไม่ถูก ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร
เสื้อเป็นพูลโลเว่อร์ก็พับๆไป
อนาวิลสังเกตเห็นก็ขำหล่อน คนไทยคิดมากเรื่องชุดชั้นในนี่ ถือว่าเป็นของประเภทต้องห้าม ทั้งๆที่มันก็ซักแล้วสะอาด เขาก้มลงหยิบกางเกงในสีขาวของหล่อนมาพับเป็นตัวอย่างแล้วยืนขึ้นหัวเราะใส่หล่อนๆเลยหน้าแดงที่เขารู้ทัน
“ เกดเป็นอะไรไปฮะ” เขาส่งคำถาม อยากแกล้งหล่อน
“ วิลไม่ต้องถามได้มั้ย” หล่อนวางหน้าไม่ถูก
“ เกดฮะ เรารู้จักในกางเกงกันแล้ว กางเกงในก็ไม่กระไรแล้วไม่ใช่เหรอ”
“วิลอย่าพูด “ หล่อนลุกขึ้นมาพร้อมกับที่เขาก็เอาอกมาให้หล่อนซุกด้วยความเขินอายอย่างยิ่ง อนาวิลหัวเราะดังลั่นที่สุดในรอบปีเลย
“ แกล้งเขาได้ ไว้จะเอาคืนมั่ง เกดไม่ยอมแพ้หรอก” หล่อนพูดอยู่กับอกเขา
“ ผมชักสนุกแล้วซี่ รีบๆเอาคืนนะ” เขาพูดไปหัวเราะไป หล่อนนึกว่า เออนะ เขาก็มีอารมณ์ขันแยะนะ
“ รับรองจะเอาให้หัวเราะไม่ออกทีเดียว ให้เกดได้หัวเราะฝ่ายเดียว ทำใจให้ได้ก็แล้วกัน”หล่อนนึกหมายมั่นจริงๆ
“จะรอนะฮะ เกดของผม” เขากอดหล่อนแน่นแกว่งหล่อนในวงแขนไปมาอย่างมีความสุข
“ เลิกซุกหน้าได้แล้ว” เขาหยุดแล้วเอามือเชยคางหล่อนขึ้นมา ยิ้มคนละอย่างเมื่อเห็นหน้ากัน
ปาริชาติสงบแล้วจึงจำต้องพับกางเกงในของเขา ดีนะว่า กางเกงในผู้ชายมักจะเป็นสีขาว ดูแล้วอนามัยดี นี่เป็นสิ่งเดียวที่หล่อนแยกไม่ถูกว่า ควรหรือไม่ควรทำ ทั้งๆที่..เอ้อ..จริงแล้วเราไปกันไกลกว่านี้แล้วนะวิล
ทั้งสองมาที่ครัวตอนใกล้เที่ยง ปาริชาติลวกหมี่ซั่วที่นำมา แล้วเอาน้ำเย็นราด น้ำจากก็อกที่นี่หมุนซ้ายขวาได้ร้อน เย็นจากสองด้าน จึงเอาน้ำร้อนมาต้มแป็บเดียวก็ลวกได้แล้ว
“วิลช่วยติดเตาให้เกดทีค่ะ”
หล่อนหั่นกระหล่ำปลีและหมูเตรียมรอผัด เมื่อตั้งกระทะเอาน้ำมันโอลิฟใส่ผัดหมูเอากระหล่ำปลีและหมี่ซั่วลงผัด ใส่ไข่ ใส่น้ำตาลหน่อยก็เป็นอันเสร็จ ตักขึ้น
“ เกดลืมใส่ซ๊อสหรือเปล่าฮะ”
“ ไม่หรอกค่ะ หมี่ซั่วมันเค็มอยู่แล้ว ผัดแค่นี้ก็อร่อย เกดว่าง่ายจึงเอามา วิลจำได้นะคะ ว่าทำยังไง”
“ ฮะ ไม่ยาก เดี่ยวลองทานดูว่าอร่อยแค่ไหน”
เมื่อยกกลับมาทานที่ห้องคนละจาน ส่วนที่เหลือ หล่อนเก็บไว้สำหรับเขา
“ เดี่ยววิลทานที่เหลือนั่นเป็นมื้อเย็น จะได้จำรสชาติได้นะคะ”
“ แล้วเกดจะทานอะไรล่ะฮะ”
“ เกดว่าจะทานขนมปังกับแฮมก็พอ เกดเริ่มรู้สึกอ้วนแล้ว ไม่ได้ออกกำลังกาย เหงื่อไม่เคยออกเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่”
เขานึกได้ว่าเขายังไม่เคยสำรวจตรวจตราหล่อนเลย ทำให้อยากจะรู้ขึ้นมา หมายมาดว่าคงมีโอกาสและรู้สึก ‘ดี’กับความคิดขึ้นมาทันที
“ อร่อยไหมคะ” หล่อนก็รู้สึกว่าฝีมือไม่ตก เพราะอร่อยดี
“ อร่อยมากฮะ แล้วไม่เห็นมีบะหมี่สำเร็จรูปอื่นมาด้วย”
“ เกดเป็นคนไม่กินหมี่สำเร็จรูปค่ะ ไม่ชอบกลิ่น เลยไม่ได้เอามาฝากวิล”
“ อ้าว เหรอ ที่นี่มีของญี่ปุ่น เกาหลี ของไทยก็พอมี แต่ถ้าต้องต้มก็ทานข้าวดีกว่าฮะ”
อนาวิลเอาหมี่ซั่วมาอ่านข้างถุงแล้วพูดว่า
“ ผมทำทานแล้วคงต้องคิดถึงเกดมากๆแน่ๆเลยฮะ”
“เกดก็รู้สึกว่าเวลามันใกล้เข้ามาแล้วค่ะ”
เขาเอาซองหมี่ซั่วเก็บคืนในตู้แล้วเอาจานไปล้างทันทีที่อิ่ม เมื่อกลับเข้ามาก็นั่งลงข้างหล่อนที่ดื่มน้ำอยู่
“ ผมก็กลัวจะถึงเวลาที่ต้องจากกัน จนไม่อยากนึกถึงเลยฮะ”
“ เกดไม่รู้จะทำตัวยังไงดี ทำไม่ถูกแล้วละค่ะ” หล่อนพูดมาตรงๆ
“ คิดว่าอยู่ที่นี่ได้ไหมล่ะฮะ” เขาถามจริงจัง
“ เกดไม่เคยคิดมาก่อน อยู่แบบไหนล่ะคะ”
“ อยู่แบบเห็นๆนี่แหละฮะ” เขาเอามือมาโอบบ่าหล่อนให้ชิดเข้ามา
“ แล้วเกดต้องทำอะไรคะ ต้องทำงานไหม” หล่อนมองหน้าเขาที่ดูเคร่งขรึม
“ คงจะต้องทำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร คงต้องหาให้เหมาะฮะ”
“ แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรคะตอนนี้”
“ เกดคงต้องกลับเมืองไทยไปก่อน ไปทำงานที่นั่นต่อ ส่วนเรื่องทางนี้ผมจะลองหาทางดู แต่เกดต้องได้ภาษาเยอรมันนะฮะ ถ้าต้องทำงานภาษานี่สำคัญ เกดก็เตรียมตัวแล้วผมจะบอกไปคงไม่เร็วนัก”
“ นานสักเท่าใดคะ”
“ ผมก็ยังไม่ทราบ เราเพิ่งพูดกันเดี๋ยวนี้ ที่สำคัญคือ แน่ใจตัวเองไหมตอนนี้น่ะฮะ”
แน่ใจตัวเองไหม ช่างเป็นคำถามที่ตรงจุดเสียจริงๆ อะไรๆก็เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่มีรากฐานอะไรรองรับให้มั่นใจเลย หล่อนนึกอยู่ในใจ
“ วิล ล่ะคะ”
“ แน่ใจฮะ” เขานึกในใจว่าดีกว่ามีแฟนฝรั่ง อย่างไรหล่อนก็ดีกว่าอยู่แล้ว
“ ยากตรงจะอยู่ได้อย่างไรและเร็วที่สุด เกดทำใจให้สบายนะฮะ ไม่ยากเกินความสามารถของเราหรอก คนเราต้องมีความหวังฮะ”
เมื่อพูดถึงความหวัง หล่อนก็เอาหน้ามาซบกับบ่าเขา ความรู้สึกมันบอกว่าเริ่มต้นก็มีอุปสรรคเสียแล้ว ทำไมหนอโชคชะตาถึงได้เป็นแบบนี้
อนาวิลเอามือมารวบผมยาวของหล่อนให้ไปอีกทางหนึ่ง เอาหน้าของเขามาชนหน้าผากของหล่อน ทำให้หล่อนคิดไปว่า มันยากจนต้องเอาหัวชนกันคิดเชียวหรือนี่
“ นะ เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ เกดว่าไหม” เขาหาเสียงสนับสนุน
“ ทางนี้เกดไม่รู้คิดหรอกค่ะ เกดคงต้องรอตามที่วิลบอกอย่างเดียว”
“ ฮะ คงเหลือแค่เราเท่านั้น เพราะคุณแม่ก็เห็นเกดแล้ว ผมเล่าไปแล้วนะ คุณแม่แย้งว่าเร็วไปไหม ผมตอบไปว่า ก็หาทางทำความรู้จักกันอยู่ ดีกว่าผมมีแฟนฝรั่ง ใช่ไหม ผมจึงอยากพบเกดให้มากที่สุดก่อนกลับมาที่นี่ไงฮะ”
“ มิน่า วิลรุกจัง” หล่อนขำเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนนั้น แต่สะดุดตรงคำ แฟนฝรั่งของเขาขึ้นมาทันที
“ ทางบ้านเกดไม่มีใครทราบหรอกค่ะ ปกติเกดก็คิดทำอะไรคนเดียวมาตลอดค่ะ”
“ แล้วถ้าทราบล่ะ ช้าไปไหม”
“ เกดว่าไม่มีปัญหา เพราะเกดทำประวัติไว้ดีค่ะ”
“ โชคคงเข้าข้างเรามั่งหรอกนะ เร็วๆนี้ก็คงจะรู้” เขาบอกพร้อมทั้งโอบแขนแรงๆ
ปาริชาตินึกสงสารตัวเอง นึกถึงอีกสองวันก็ต้องกลับไปแล้วก็ใจหายขึ้นมา นึกถึงโชคที่เขาพูดถึงก็ใจเสีย หล่อนฝืนกดความตื้นตีบที่มันล้นออกมาให้กลับคืนไปในทรวงอก หล่อนจะทำขี้แยให้เขาเห็นไม่ได้ ต้องเข้มแข็ง และเชื่อมั่นในตนเองเช่นเคย โอ... ยากนะ หนนี้มันไม่ง่ายเลยทีเดียว เดิมพันความรักทั้งหมดที่มีเชียวนะ ต้นรักเพิ่งหัดปลูก มิควรรดด้วยน้ำตา หล่อนกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำที่จะล้นออกมา
อนาวิลเห็นหล่อนเงียบไป เขาก็นั่งคำนึงอยู่เช่นกัน เขาขยับแขนให้หล่อนพิงข้างอกเขา เหมือนคนตกทุกข์ได้ยากอยู่ด้วยกัน ลองปล่อยให้มันเป็นอย่างที่ควรจะเป็น อากาศรึก็ช่างเป็นใจ มัวซัวมืดซึมไปทั่วเหมือนใจของเขาในเวลานี้เสียจริงๆ
( มีต่อค่ะ)
๐๐๐--- ทำงานกับฝรั่ง 10 ---๐๐๐
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตื่นเช้ามาวันนี้อนาวิลพบว่าอากาศมืดครึ้มกว่าทุกวัน มีหมอกจางๆอยู่ทั่วไปในบรรยากาศ ความเย็นเพิ่มมากกว่าเมื่อวาน ทำท่าเหมือนฝนจะตกอีกในไม่นาน เขายืนมองอยู่ที่ระเบียง เขาไม่ชอบอากาศนิ่งๆแบบนี้เลย มันทำให้จิตใจห่อเหี่ยว เหงาและเซื่องซึม เมื่อวานอากาศก็ยังโปร่งปกติดีอยู่ เขาพาปาริชาติขับรถเลาะไปตามริมไรน์ วนใต้สะพานข้ามแม่น้ำขึ้นสะพานข้ามฟากไปอีกฝั่งของแม่น้ำ ไปที่สวนสาธารณะของเมือง ดูทิวลิปชูช่อโดดเด่นด้วยสีต่างๆ ผู้คนยืนห้อมล้อมดูและถ่ายรูปกันใหญ่ ปาริชาติก็ถ่ายรูปด้วยเพราะแปลงดอกไม้นี้สวยเด่นที่สุดในสวน ตอนกลางวันอนาวิลพาหล่อนไปทานอาหารที่ร้าน Wiener Wald ที่มีไก่ย่างมีชื่อ อร่อยมาก แต่ที่เป็นจุดสนใจของหล่อนคือ พนักงานหญิงใส่ชุดฟอร์มเสื้อขาวกระโปรงดำ หากแต่ผูกผ้ากันเปื้อนแบบโค้งมนริมชายติดลูกไม้ทั้งผืนเป็นสีขาว ลงแป้งแข็ง และมีกระเป๋าตรงกลางเพื่อล้วงรับจ่ายทอนเงินด้วย ผ้ากันเปื้อนดูสะอาดตามากๆ ทำให้รู้สึกว่าอาหารสะอาดและมีอนามัยดี ทานเสร็จจึงไปแวะซื้อกับข้าวมาตุนไว้ ถึงห้องก็ใกล้เย็นแล้ว จึงได้แต่พักผ่อนอยู่ในห้องของตนเองจนกว่าจะได้ทำอาหารค่ำทานและคุยกันจนกว่าหล่อนจะนอน เขาถึงได้กลับมาห้องตนเอง
สำหรับเช้าวันนี้เขาตั้งใจจะพาหล่อนไปบ้านคุณทิวา หากแต่ด้วยอากาศแบบนี้คงจะไม่โทรไปนัดจะดีกว่ารอปรึกษาหล่อนอีกที ป่านนี้อาจจะตื่นชงกาแฟทานแล้วก็ได้ เขาหันมามองสมุดบันทึกแล้วก็เอามาเขียนเรื่องราวอากาศวันนี้ลงไป สักครู่จึงไปปิดประตูที่ระเบียงและออกจากห้องล็อกประตูเดินไปหาหล่อน เขาเคาะประตูสองที หล่อนก็มาเปิด
“ นอนสบายไหมฮะ อากาศอย่างนี้”
“ นอนสบายดี วันนี้อากาศแปลกนะคะ มัวซัวซึมเซาจัง”
“ ฮะ ซึมเซาเหมือนคนเลย ทานกาแฟหรือยังฮะ”
“ ทานแล้วค่ะ เดี๋ยวเกดชงให้” หล่อนชงกาแฟให้เขาแล้วนึกไปถึงบอสที่เมืองไทยขึ้นมา
“อยากไปไหนฮะวันนี้ “ เขาเอาขนมปังใส่ที่ปิ้งเมื่อถามหล่อน
“ อากาศแบบนี้ยังไม่น่าไปไหนเลยละค่ะ ฝนทำท่าจะตก เกดว่าจะซักผ้าก็จะถามวิลอยู่ค่ะ”
“ ซักก็ได้ อบแห้งเสร็จ เดี๋ยวลงไปกันฮะ”
หล่อนลุกหยิบเสื้อผ้าใส่แล้วในถุงมาเตรียม พลางถามว่า
“ ของวิลมีไหมคะ จะซักด้วยไหมคะ”
“ มีฮะ เดี๋ยวไปเอา “ เมื่อทานขนมปังกับกาแฟแล้วเขาออกไปเอาผ้ามา และ เปิดตู้หยิบผงซักฟอก กับเหรียญสำหรับหยอดเครื่อง
หล่อนมองผ้าของเขาที่ใส่ถุงแล้วนึกว่าซักคนละเครื่องก็น้อยไปหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไร เขานำลงไปห้องใต้ดิน (Keller) ที่นั่นมีเครื่องซักผ้าห้าเครื่องหลายขนาดและที่นั่งรอซัก ไม่มีใครอยู่ แต่เครื่องก็ยังทำงาน คงจะกะเวลาเสร็จมาเอา อนาวิลเอาถุงผ้าจากหล่อนเทใส่เครื่องลงไป แล้วเอาถุงผ้าของเขาเทตามลงไป ทำเอาหล่อนงง และคิดว่าสีไม่ตก ไม่แยกหรือ เมื่อถามเขาบอกว่า
“ ผ้าที่นี่สีไม่ตกฮะ ของเกดมีสีตกเหรอ “
“ ไม่มีหรอกค่ะ แต่เห็นวิลใส่รวมกันไปหมด”
“ เสื้อผ้าที่นี่ไม่สกปรก ซักแต่กลิ่นออกเท่านั้น ใช้น้ำอุ่น แทบจะแกว่งๆในน้ำ ไม่มีผลกับผ้าหรอกฮะ” เขาตั้งเวลาและกดปุ่มเวลาก็ขึ้นมาหนึ่งชั่วโมง เขาพาหล่อนกลับ หล่อนถามว่า
“ น้ำยาล้างจานที่วันก่อนเห็นวิลล้างใช่แบบที่ไม่ต้องล้างหมดก็ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
“ ใช่ฮะ แต่ผมก็ล้างออกแยะ เพราะคิดว่าเป็นสารเคมี แต่ฝรั่งไม่ล้างหมด ยิ่งพวกในเครื่องล้างจาน เขาว่าถนอมผิวไชน่านั่นด้วยฮะ”
หล่อนรับทราบและเดินตามเขากลับมาที่ห้อง
หลังจากอนาวิลไปเอาผ้าเข้าอบและรออยู่จนเสร็จ เอากลับขึ้นมาเพื่อแยกและพับ ถึงตอนนี้หล่อนรู้สึกแปลกอย่างมากๆกับพฤติกรรมที่ต้องทำ คือหล่อนควรจะพับกางเกงในของเขาไหม ชุดชั้นในของหล่อน เขาก็หอบจากเครื่องมาให้แล้ว หล่อนทำไม่ถูก ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร
เสื้อเป็นพูลโลเว่อร์ก็พับๆไป
อนาวิลสังเกตเห็นก็ขำหล่อน คนไทยคิดมากเรื่องชุดชั้นในนี่ ถือว่าเป็นของประเภทต้องห้าม ทั้งๆที่มันก็ซักแล้วสะอาด เขาก้มลงหยิบกางเกงในสีขาวของหล่อนมาพับเป็นตัวอย่างแล้วยืนขึ้นหัวเราะใส่หล่อนๆเลยหน้าแดงที่เขารู้ทัน
“ เกดเป็นอะไรไปฮะ” เขาส่งคำถาม อยากแกล้งหล่อน
“ วิลไม่ต้องถามได้มั้ย” หล่อนวางหน้าไม่ถูก
“ เกดฮะ เรารู้จักในกางเกงกันแล้ว กางเกงในก็ไม่กระไรแล้วไม่ใช่เหรอ”
“วิลอย่าพูด “ หล่อนลุกขึ้นมาพร้อมกับที่เขาก็เอาอกมาให้หล่อนซุกด้วยความเขินอายอย่างยิ่ง อนาวิลหัวเราะดังลั่นที่สุดในรอบปีเลย
“ แกล้งเขาได้ ไว้จะเอาคืนมั่ง เกดไม่ยอมแพ้หรอก” หล่อนพูดอยู่กับอกเขา
“ ผมชักสนุกแล้วซี่ รีบๆเอาคืนนะ” เขาพูดไปหัวเราะไป หล่อนนึกว่า เออนะ เขาก็มีอารมณ์ขันแยะนะ
“ รับรองจะเอาให้หัวเราะไม่ออกทีเดียว ให้เกดได้หัวเราะฝ่ายเดียว ทำใจให้ได้ก็แล้วกัน”หล่อนนึกหมายมั่นจริงๆ
“จะรอนะฮะ เกดของผม” เขากอดหล่อนแน่นแกว่งหล่อนในวงแขนไปมาอย่างมีความสุข
“ เลิกซุกหน้าได้แล้ว” เขาหยุดแล้วเอามือเชยคางหล่อนขึ้นมา ยิ้มคนละอย่างเมื่อเห็นหน้ากัน
ปาริชาติสงบแล้วจึงจำต้องพับกางเกงในของเขา ดีนะว่า กางเกงในผู้ชายมักจะเป็นสีขาว ดูแล้วอนามัยดี นี่เป็นสิ่งเดียวที่หล่อนแยกไม่ถูกว่า ควรหรือไม่ควรทำ ทั้งๆที่..เอ้อ..จริงแล้วเราไปกันไกลกว่านี้แล้วนะวิล
ทั้งสองมาที่ครัวตอนใกล้เที่ยง ปาริชาติลวกหมี่ซั่วที่นำมา แล้วเอาน้ำเย็นราด น้ำจากก็อกที่นี่หมุนซ้ายขวาได้ร้อน เย็นจากสองด้าน จึงเอาน้ำร้อนมาต้มแป็บเดียวก็ลวกได้แล้ว
“วิลช่วยติดเตาให้เกดทีค่ะ”
หล่อนหั่นกระหล่ำปลีและหมูเตรียมรอผัด เมื่อตั้งกระทะเอาน้ำมันโอลิฟใส่ผัดหมูเอากระหล่ำปลีและหมี่ซั่วลงผัด ใส่ไข่ ใส่น้ำตาลหน่อยก็เป็นอันเสร็จ ตักขึ้น
“ เกดลืมใส่ซ๊อสหรือเปล่าฮะ”
“ ไม่หรอกค่ะ หมี่ซั่วมันเค็มอยู่แล้ว ผัดแค่นี้ก็อร่อย เกดว่าง่ายจึงเอามา วิลจำได้นะคะ ว่าทำยังไง”
“ ฮะ ไม่ยาก เดี่ยวลองทานดูว่าอร่อยแค่ไหน”
เมื่อยกกลับมาทานที่ห้องคนละจาน ส่วนที่เหลือ หล่อนเก็บไว้สำหรับเขา
“ เดี่ยววิลทานที่เหลือนั่นเป็นมื้อเย็น จะได้จำรสชาติได้นะคะ”
“ แล้วเกดจะทานอะไรล่ะฮะ”
“ เกดว่าจะทานขนมปังกับแฮมก็พอ เกดเริ่มรู้สึกอ้วนแล้ว ไม่ได้ออกกำลังกาย เหงื่อไม่เคยออกเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่”
เขานึกได้ว่าเขายังไม่เคยสำรวจตรวจตราหล่อนเลย ทำให้อยากจะรู้ขึ้นมา หมายมาดว่าคงมีโอกาสและรู้สึก ‘ดี’กับความคิดขึ้นมาทันที
“ อร่อยไหมคะ” หล่อนก็รู้สึกว่าฝีมือไม่ตก เพราะอร่อยดี
“ อร่อยมากฮะ แล้วไม่เห็นมีบะหมี่สำเร็จรูปอื่นมาด้วย”
“ เกดเป็นคนไม่กินหมี่สำเร็จรูปค่ะ ไม่ชอบกลิ่น เลยไม่ได้เอามาฝากวิล”
“ อ้าว เหรอ ที่นี่มีของญี่ปุ่น เกาหลี ของไทยก็พอมี แต่ถ้าต้องต้มก็ทานข้าวดีกว่าฮะ”
อนาวิลเอาหมี่ซั่วมาอ่านข้างถุงแล้วพูดว่า
“ ผมทำทานแล้วคงต้องคิดถึงเกดมากๆแน่ๆเลยฮะ”
“เกดก็รู้สึกว่าเวลามันใกล้เข้ามาแล้วค่ะ”
เขาเอาซองหมี่ซั่วเก็บคืนในตู้แล้วเอาจานไปล้างทันทีที่อิ่ม เมื่อกลับเข้ามาก็นั่งลงข้างหล่อนที่ดื่มน้ำอยู่
“ ผมก็กลัวจะถึงเวลาที่ต้องจากกัน จนไม่อยากนึกถึงเลยฮะ”
“ เกดไม่รู้จะทำตัวยังไงดี ทำไม่ถูกแล้วละค่ะ” หล่อนพูดมาตรงๆ
“ คิดว่าอยู่ที่นี่ได้ไหมล่ะฮะ” เขาถามจริงจัง
“ เกดไม่เคยคิดมาก่อน อยู่แบบไหนล่ะคะ”
“ อยู่แบบเห็นๆนี่แหละฮะ” เขาเอามือมาโอบบ่าหล่อนให้ชิดเข้ามา
“ แล้วเกดต้องทำอะไรคะ ต้องทำงานไหม” หล่อนมองหน้าเขาที่ดูเคร่งขรึม
“ คงจะต้องทำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร คงต้องหาให้เหมาะฮะ”
“ แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรคะตอนนี้”
“ เกดคงต้องกลับเมืองไทยไปก่อน ไปทำงานที่นั่นต่อ ส่วนเรื่องทางนี้ผมจะลองหาทางดู แต่เกดต้องได้ภาษาเยอรมันนะฮะ ถ้าต้องทำงานภาษานี่สำคัญ เกดก็เตรียมตัวแล้วผมจะบอกไปคงไม่เร็วนัก”
“ นานสักเท่าใดคะ”
“ ผมก็ยังไม่ทราบ เราเพิ่งพูดกันเดี๋ยวนี้ ที่สำคัญคือ แน่ใจตัวเองไหมตอนนี้น่ะฮะ”
แน่ใจตัวเองไหม ช่างเป็นคำถามที่ตรงจุดเสียจริงๆ อะไรๆก็เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่มีรากฐานอะไรรองรับให้มั่นใจเลย หล่อนนึกอยู่ในใจ
“ วิล ล่ะคะ”
“ แน่ใจฮะ” เขานึกในใจว่าดีกว่ามีแฟนฝรั่ง อย่างไรหล่อนก็ดีกว่าอยู่แล้ว
“ ยากตรงจะอยู่ได้อย่างไรและเร็วที่สุด เกดทำใจให้สบายนะฮะ ไม่ยากเกินความสามารถของเราหรอก คนเราต้องมีความหวังฮะ”
เมื่อพูดถึงความหวัง หล่อนก็เอาหน้ามาซบกับบ่าเขา ความรู้สึกมันบอกว่าเริ่มต้นก็มีอุปสรรคเสียแล้ว ทำไมหนอโชคชะตาถึงได้เป็นแบบนี้
อนาวิลเอามือมารวบผมยาวของหล่อนให้ไปอีกทางหนึ่ง เอาหน้าของเขามาชนหน้าผากของหล่อน ทำให้หล่อนคิดไปว่า มันยากจนต้องเอาหัวชนกันคิดเชียวหรือนี่
“ นะ เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ เกดว่าไหม” เขาหาเสียงสนับสนุน
“ ทางนี้เกดไม่รู้คิดหรอกค่ะ เกดคงต้องรอตามที่วิลบอกอย่างเดียว”
“ ฮะ คงเหลือแค่เราเท่านั้น เพราะคุณแม่ก็เห็นเกดแล้ว ผมเล่าไปแล้วนะ คุณแม่แย้งว่าเร็วไปไหม ผมตอบไปว่า ก็หาทางทำความรู้จักกันอยู่ ดีกว่าผมมีแฟนฝรั่ง ใช่ไหม ผมจึงอยากพบเกดให้มากที่สุดก่อนกลับมาที่นี่ไงฮะ”
“ มิน่า วิลรุกจัง” หล่อนขำเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนนั้น แต่สะดุดตรงคำ แฟนฝรั่งของเขาขึ้นมาทันที
“ ทางบ้านเกดไม่มีใครทราบหรอกค่ะ ปกติเกดก็คิดทำอะไรคนเดียวมาตลอดค่ะ”
“ แล้วถ้าทราบล่ะ ช้าไปไหม”
“ เกดว่าไม่มีปัญหา เพราะเกดทำประวัติไว้ดีค่ะ”
“ โชคคงเข้าข้างเรามั่งหรอกนะ เร็วๆนี้ก็คงจะรู้” เขาบอกพร้อมทั้งโอบแขนแรงๆ
ปาริชาตินึกสงสารตัวเอง นึกถึงอีกสองวันก็ต้องกลับไปแล้วก็ใจหายขึ้นมา นึกถึงโชคที่เขาพูดถึงก็ใจเสีย หล่อนฝืนกดความตื้นตีบที่มันล้นออกมาให้กลับคืนไปในทรวงอก หล่อนจะทำขี้แยให้เขาเห็นไม่ได้ ต้องเข้มแข็ง และเชื่อมั่นในตนเองเช่นเคย โอ... ยากนะ หนนี้มันไม่ง่ายเลยทีเดียว เดิมพันความรักทั้งหมดที่มีเชียวนะ ต้นรักเพิ่งหัดปลูก มิควรรดด้วยน้ำตา หล่อนกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำที่จะล้นออกมา
อนาวิลเห็นหล่อนเงียบไป เขาก็นั่งคำนึงอยู่เช่นกัน เขาขยับแขนให้หล่อนพิงข้างอกเขา เหมือนคนตกทุกข์ได้ยากอยู่ด้วยกัน ลองปล่อยให้มันเป็นอย่างที่ควรจะเป็น อากาศรึก็ช่างเป็นใจ มัวซัวมืดซึมไปทั่วเหมือนใจของเขาในเวลานี้เสียจริงๆ
( มีต่อค่ะ)