สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกพันทิปทุกท่าน
EP.8 นี้ หนูถิ่นจะมาเล่าเรื่องราวหลังจากเรียนจบ ชีวิตต่อจากนี้ก็ทำงานเก็บเงิน และไปเที่ยวเมื่อมีเวลาว่างค่ะ ประเดิมทริปแรก ให้รางวัลตัวเองหลังเรียนจบ โดยจัดทริปไปเที่ยวประเทศโปแลนด์ค่ะ พอดีมีเวลาว่างสองอาทิตย์ไม่ต้องทำงานช่วงคริสต์มาสและเข้าสู่ปีใหม่ 2025 ขอเท้าความตอนก่อนหน้านี้นะคะ เผื่อท่านใดเพิ่งจะเข้ามาอ่านกระทู้ของหนูถิ่น ไล่อ่านเรียงลำดับดังนี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/41372528 (EP.1)
https://ppantip.com/topic/41446525 (EP.2)
https://ppantip.com/topic/41556664 (EP.3)
https://ppantip.com/topic/41799671 (EP.4)
https://ppantip.com/topic/42084467 (EP.5)
https://ppantip.com/topic/42779140 (EP.6)
https://ppantip.com/topic/42973755 (EP.7)
เนื่องจากหนูถิ่นอาศัยอยู่ที่เมือง Kajaani ไม่มีไฟลท์บินตรงไปโปแลนด์ ต้องไปขึ้นเครื่องที่เฮลซิงกิ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายหนูถิ่นเลือกวิธีนั่งรถไฟไปเฮลซิงกิแทนขึ้นเครื่อง การนั่งรถไฟใช้เวลาประมาณหกชั่วโมงค่ะ ในเมื่อต้องแวะที่เฮลซิงกิ เลยขอแวะเที่ยวที่เฮลซิงกิก่อนไปโปแลนด์สักสามคืนค่ะ ซึ่งตรงกับช่วงคริสมาสต์พอดี เลยได้ไปเที่ยว Christmas Market การเที่ยวครั้งนี้เน้นเดินเล่น หาของอร่อย ๆ ทาน และถ่ายรูปค่ะ หนูถิ่นจองที่พักกับ Airbnb เลือกที่พักใกล้สนามบิน เพราะวันที่จะไปขึ้นเครื่องไปโปแลนด์จะได้สะดวกหน่อย
ห้องพักที่หนูถิ่นจองแต่ล่ะที่ เน้นที่ต้องมีเครื่องซักผ้า เพราะไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนเยอะ ใช้วิธีซัก ฤดูหนาว อากาศแห้ง ๆ เสื้อผ้าที่ใช้เครื่องซัก ตากไว้คืนเดียวก็แห้งแล้วค่ะ
แวะไปที่ Market Hall ไปทานซุปแซลม่อน แซนด์วิชสไตล์สแกนดิเนเวีย ก็จะมีกุ้งเยอะ ๆ แซลม่อนโรล และแวะจิบสมูทตี้ระหว่างทาง
Helsinki Main station
Helsinki City Center
Christmas Market at Senate Square
ร้านขาย Salmon Roll
Sandwich สไตล์สแกนดิเนเวีย
Salmon soup
จิบสมูทตี้ พร้อมชมบรรยากาศด้านนอก เห็นผู้คนเดินไปมา
หนูถิ่นเลือกเที่ยวแบบชิว ๆ เลยไปแค่โปแลนด์ประเทศเดียว ทีแรกตอนแพลนทริปว่าจะไปออสเตรีย กับสาธารณรัฐเชคด้วย แต่ไม่อยากใช้เวลาหมดไปกับการนั่งรถไฟข้ามประเทศ เลยไปประเทศเดียว แต่ไปสองเมือง คือ Krakow และ Warsaw เมืองหลวงเก่าและเมืองหลวงใหม่ของโปแลนด์ค่ะ ทริปของหนูถิ่นไปเรื่อย ๆ ตามกำลังขาที่จะเดินไหว
หลังจากลงเครื่องที่วอร์ซอว์ ก็ต่อรถไฟไปคราคูฟ 3 ชั่วโมง เพราะผิดแผนไปหน่อย ช่วงคริสต์มาสที่วอร์ซอว์จะเงียบ เจ้าของบ้านที่หนูถิ่นจองบ้านกับเขาบอกมา เลยเปลี่ยนแผนไปเที่ยวคราคูฟก่อนแล้วค่อยกลับมาเที่ยววอร์ซอว์
ที่เมืองคราคูฟ จะมีงานช่วงคริสต์มาสทุกปี เป็น Christmas Market ที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะมาก มีอาหารขายเยอะมาก Polish Traditional Food หนูถิ่นได้ชิมหลายอย่างมาก เช่น Pierogi (Polish dumplings) ไส้ต่าง ๆ มีทั้งแบบนึ่งและแบบทอด ก็อร่อยดีค่ะ อาหารชนิดนี้ก็เหมือนกับเกี๊ยวของจีนเลยค่ะ อาหารคนล่ะชาติ แต่หน้าตาเหมือนกัน Roasted Cheese เป็นชีสของโปแลนด์ เอามาย่างและราดด้วยแครนเบอร์รี่ซอส บางทีก็เอามาพันด้วยเบค่อน แล้วเอาไปย่าง อันนี้หนูถิ่นชอบมาก รสชาติดี ชีสจะออกเค็มหน่อย ๆ พอราดด้วยซอสแครนเบอร์รี่ เข้ากันมาก ๆ
ร้านขาย Polish Cheese@Krakow Christmas Market
Polish Cheese
Roasted cheese
Roasted cheese with cranberry jam
อันนี้ก็อร่อยค่ะ ข้างในเป็นไส้เห็ดกับชีส
Polish dumplings
ขาหมูทานกับกระหล่ำปลีดอง
หนูถิ่นซื้อชีสกลับมาที่ฟินแลนด์ด้วย เอามาใส่ในเตาอบ พอดีช่วงซัมเมอร์ หนูถิ่นไปเก็บ Lingonberry มาเยอะมาก เอามาฟรีซไว้ ก็เลยเอามาทำลิงก้อนเบอร์รี่ซอสราดที่ชีสที่อบจากเตา อร่อยเว่อร์มากกกก ชอบเมนูนี้ค่ะ
และยังได้ลองชิมพิซซ่าโปแลนด์ เขาจะเรียกว่า Zapiekanki ชิ้นใหญ่และกรอบมาก อยากชิมทุกอย่างเลยค่ะ โดนัทของที่นี่ก็อร่อย จะมีไส้อยู่ตรงรอบวงโดนัท อร่อยจนลืมถ่ายรูป ที่หนูถิ่นสั่งเป็นไส้เบอร์รี่และช็อคโกแลต
มีเมนูเพิ่มเติมที่อยากจะนำเสนอค่ะ ซุปบีทรูทใส่เกี๊ยวเห็ด อันนี้ก็อร่อยเช่นกันค่ะ
เครื่องดื่มสมุนไพรอุ่น ๆ ใส่ขิง อันนี้ก็ดีมากค่ะ
เมนูนี้ข้างในเป็นไส้หมู อร่อยค่ะ
เมนูนี้หน้าตาเหมือนปอเปี๊ยะบ้านเรา เป็นไส้หมู
หนูถิ่นนำเสนอแต่เรื่องอาหาร ลืมนำเสนอภาพวิวให้ชมเลย รูปข้างล่างนี้เป็นรูปในเมืองคราคูฟค่ะ
เมืองคราคูฟ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่คนมากันเยอะ ก็คือ Wieliczka Salt Mine
เป็นเหมืองเกลือที่ทำกันมาประมาณเจ็ดร้อยปี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เพิ่งจะเลิกทำเหมืองเมื่อปี 1996 เนื่องจากราคาเกลือตกต่ำและน้ำท่วมเหมือง ในส่วนที่ให้นักท่องเที่ยวลงไปได้จะลึก 135 เมตร เดินลงบันไดประมาณ 800 กว่าขั้น ดีว่าตอนขึ้นมา เขามีลิฟท์บริการ โดยการลงไปจะต้องมีไกด์พาลงไป เราสามารถจองตั๋วออนไลน์และเลือกรอบที่มีไกด์พูดภาษาอังกฤษค่ะ ไกด์ก็จะพาเราเข้าไปและบรรยายให้ฟัง ก็จะมีมุขตลก ๆ ดี ฟังเพลินเลยค่ะ มีที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่มีชื่อเสียง เป็นค่ายกักกันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 Auschwitz-Birkenau แต่อันนี้หนูถิ่นไม่ได้ไปค่ะ
รูปข้างล่างนี้ที่เหมืองเกลือค่ะ
อาคารนี้สร้างครอบเหมืองเกลือ เราจะลงไปที่เหมืองในอาคารนี้ค่ะ
ด้านในเหมืองเกลือค่ะ
ด้านในเหมืองเกลือ
เกลือดอกกระหล่ำ
ในเหมืองเกลือมีม้าไว้ใช้งาน
บริเวณห้องโถง
แชนเดอร์เลียทำจากหินเกลือ
ทะเลสาบน้ำเค็มในเหมืองเกลือ
อาคารนี้เป็นอาคารทางขึ้นมาข้างบนโดยลิฟท์ค่ะ
หลังจากเที่ยวที่คราคูฟ พักสามคืน ก็นั่งรถไฟกลับมาเที่ยวที่วอร์ซอว์ต่อค่ะ ได้ไปเดินที่ย่าน Old Town และ Royal Route ช่วงกลางคืนเปิดไฟสวยงามมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงคริสต์มาสหรือไม่ มีร้านรวง ขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว มีร้านอาหารมากมาย ที่นี่จะมีร้านกาแฟเยอะมาก หนูถิ่นก็เดินเล่นเพลิน ๆ ไปค่ะ เจอคนท้องถิ่นอาสาเป็นไกด์พาเดิน เล่าประวัติศาสตร์ให้ฟัง และถ่ายรูปให้ด้วย ก็ดีเหมือนกันหาคนคุย เขาคิดค่าบริการสองชั่วโมง 750 บาท ก็โอเคนะ หนูถิ่นไม่ได้หาข้อมูลก่อนมาสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ได้เป็นสายประวัติศาสตร์สักเท่าไหร่ เอาแบบฟังเพลิน ๆ ก็พอค่ะ พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ เยอะมาก แต่ไม่ได้เข้าทุกที่ค่ะ ช่วงที่ไปวอร์ซอว์ อากาศก็เย็น ๆ นะ แต่หิมะไม่ตก หนูถิ่นอยู่ที่ฟินแลนด์มาสามปี ก็พอจะชินกับอากาศหนาว ๆ คนโปแลนด์บอกว่าโดยปกติช่วงนี้ที่โปแลนด์ หิมะต้องตก แต่ไม่ตก เป็นเพราะอุณหภูมิของโลกแปรปรวน ปีนี้ที่ฟินแลนด์ก็ไม่หนาวมาก จำได้ว่าปีที่แล้วช่วงปีใหม่อุณหภูมิติดลบ 30 ปีใหม่ปีนี้ที่ฟินแลนด์เมืองที่หนูถิ่นอยู่ติดลบแค่ 10 กว่า ๆ เองค่ะ
ย่าน Old Town ก็จะมีกำแพงเมืองทำจากอิฐแดง
รูปปั้นทหารเด็กที่ต่อสู้กับนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2
เดินต่อจาก Old Town ก็จะเป็นถนนที่นักท่องเที่ยวต้องมาเดิน เรียกว่า Royal Route จะมีร้านอาหาร และวิวสวย ๆ ให้ถ่ายรูปค่ะ
ได้ไปเที่ยวตึกที่สตาร์ลิน รัสเซียสร้างให้โปแลนด์เป็นของขวัญ ใช้เวลาสร้าง 3 ปี รัสเซียส่งคนงานมาสร้างอาคารนี้ 3,500 คน ที่ชั้น 30 จะเป็นจุดชมวิวรอบกรุงวอร์ซอว์ หนูถิ่นอุตส่าห์ซื้อตั๋วขึ้นไปชมวิวซะหน่อย แต่หมอกลงหนักมาก ไม่เห็นอะไรเลยค่ะ ลงมาหาของทานดีกว่า สั่งพิซซ่าหน้าปลาแซลม่อน ทริปนี้ทานปลาเยอะ เกือบจะว่ายน้ำได้แล้วค่ะ
ตึกที่รัสเซียสร้างให้โปแลนด์ค่ะ
พิซซ่าหน้าปลาแซลม่อน
ขากลับมาฟินแลนด์ หนูถิ่นได้ตั๋วราคาถูก เลยจอง Warsaw - Kajaani แต่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่ Helsinki ประหยัดเงิน ประหยัดเวลาด้วย กลับมาแล้ว มีเวลาพักผ่อนอีกสี่วันก่อนกลับไปทำงานค่ะ
การได้เดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป ได้เห็นอะไรมากมาย เป็นความสุขที่หนูถิ่นชอบมาก ได้ไปชาร์ตแบตให้กับตัวเอง พร้อมกลับมาทำงานต่อ เก็บเงิน เพื่อไปเที่ยวอีกเท่าที่ยังไหวค่ะ ทริปนี้เน้นเดินเล่น ทาน และถ่ายรูป ไม่ได้ซื้อของมากมาย หนูถิ่นได้หมวก ถุงมือ ชีส ขนมนิดหน่อย และได้ความสุขสุด ๆ ติดมือกลับมาค่ะ ขอแชร์เรื่องราวของหนูถิ่นใน EP นี้เท่านี้ก่อนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ
REVIEW: ชีวิตนักเรียนนอกในวัยเกษียณ ทริปแรกหลังเรียนจบ แวะเที่ยวประเทศ โปแลนด์ (EP.8)
EP.8 นี้ หนูถิ่นจะมาเล่าเรื่องราวหลังจากเรียนจบ ชีวิตต่อจากนี้ก็ทำงานเก็บเงิน และไปเที่ยวเมื่อมีเวลาว่างค่ะ ประเดิมทริปแรก ให้รางวัลตัวเองหลังเรียนจบ โดยจัดทริปไปเที่ยวประเทศโปแลนด์ค่ะ พอดีมีเวลาว่างสองอาทิตย์ไม่ต้องทำงานช่วงคริสต์มาสและเข้าสู่ปีใหม่ 2025 ขอเท้าความตอนก่อนหน้านี้นะคะ เผื่อท่านใดเพิ่งจะเข้ามาอ่านกระทู้ของหนูถิ่น ไล่อ่านเรียงลำดับดังนี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/41372528 (EP.1)
https://ppantip.com/topic/41446525 (EP.2)
https://ppantip.com/topic/41556664 (EP.3)
https://ppantip.com/topic/41799671 (EP.4)
https://ppantip.com/topic/42084467 (EP.5)
https://ppantip.com/topic/42779140 (EP.6)
https://ppantip.com/topic/42973755 (EP.7)
เนื่องจากหนูถิ่นอาศัยอยู่ที่เมือง Kajaani ไม่มีไฟลท์บินตรงไปโปแลนด์ ต้องไปขึ้นเครื่องที่เฮลซิงกิ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายหนูถิ่นเลือกวิธีนั่งรถไฟไปเฮลซิงกิแทนขึ้นเครื่อง การนั่งรถไฟใช้เวลาประมาณหกชั่วโมงค่ะ ในเมื่อต้องแวะที่เฮลซิงกิ เลยขอแวะเที่ยวที่เฮลซิงกิก่อนไปโปแลนด์สักสามคืนค่ะ ซึ่งตรงกับช่วงคริสมาสต์พอดี เลยได้ไปเที่ยว Christmas Market การเที่ยวครั้งนี้เน้นเดินเล่น หาของอร่อย ๆ ทาน และถ่ายรูปค่ะ หนูถิ่นจองที่พักกับ Airbnb เลือกที่พักใกล้สนามบิน เพราะวันที่จะไปขึ้นเครื่องไปโปแลนด์จะได้สะดวกหน่อย
ห้องพักที่หนูถิ่นจองแต่ล่ะที่ เน้นที่ต้องมีเครื่องซักผ้า เพราะไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนเยอะ ใช้วิธีซัก ฤดูหนาว อากาศแห้ง ๆ เสื้อผ้าที่ใช้เครื่องซัก ตากไว้คืนเดียวก็แห้งแล้วค่ะ
แวะไปที่ Market Hall ไปทานซุปแซลม่อน แซนด์วิชสไตล์สแกนดิเนเวีย ก็จะมีกุ้งเยอะ ๆ แซลม่อนโรล และแวะจิบสมูทตี้ระหว่างทาง
Helsinki Main station
Helsinki City Center
Christmas Market at Senate Square
ร้านขาย Salmon Roll
Sandwich สไตล์สแกนดิเนเวีย
Salmon soup
จิบสมูทตี้ พร้อมชมบรรยากาศด้านนอก เห็นผู้คนเดินไปมา
หนูถิ่นเลือกเที่ยวแบบชิว ๆ เลยไปแค่โปแลนด์ประเทศเดียว ทีแรกตอนแพลนทริปว่าจะไปออสเตรีย กับสาธารณรัฐเชคด้วย แต่ไม่อยากใช้เวลาหมดไปกับการนั่งรถไฟข้ามประเทศ เลยไปประเทศเดียว แต่ไปสองเมือง คือ Krakow และ Warsaw เมืองหลวงเก่าและเมืองหลวงใหม่ของโปแลนด์ค่ะ ทริปของหนูถิ่นไปเรื่อย ๆ ตามกำลังขาที่จะเดินไหว
หลังจากลงเครื่องที่วอร์ซอว์ ก็ต่อรถไฟไปคราคูฟ 3 ชั่วโมง เพราะผิดแผนไปหน่อย ช่วงคริสต์มาสที่วอร์ซอว์จะเงียบ เจ้าของบ้านที่หนูถิ่นจองบ้านกับเขาบอกมา เลยเปลี่ยนแผนไปเที่ยวคราคูฟก่อนแล้วค่อยกลับมาเที่ยววอร์ซอว์
ที่เมืองคราคูฟ จะมีงานช่วงคริสต์มาสทุกปี เป็น Christmas Market ที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะมาก มีอาหารขายเยอะมาก Polish Traditional Food หนูถิ่นได้ชิมหลายอย่างมาก เช่น Pierogi (Polish dumplings) ไส้ต่าง ๆ มีทั้งแบบนึ่งและแบบทอด ก็อร่อยดีค่ะ อาหารชนิดนี้ก็เหมือนกับเกี๊ยวของจีนเลยค่ะ อาหารคนล่ะชาติ แต่หน้าตาเหมือนกัน Roasted Cheese เป็นชีสของโปแลนด์ เอามาย่างและราดด้วยแครนเบอร์รี่ซอส บางทีก็เอามาพันด้วยเบค่อน แล้วเอาไปย่าง อันนี้หนูถิ่นชอบมาก รสชาติดี ชีสจะออกเค็มหน่อย ๆ พอราดด้วยซอสแครนเบอร์รี่ เข้ากันมาก ๆ
ร้านขาย Polish Cheese@Krakow Christmas Market
Polish Cheese
Roasted cheese
Roasted cheese with cranberry jam
อันนี้ก็อร่อยค่ะ ข้างในเป็นไส้เห็ดกับชีส
Polish dumplings
ขาหมูทานกับกระหล่ำปลีดอง
หนูถิ่นซื้อชีสกลับมาที่ฟินแลนด์ด้วย เอามาใส่ในเตาอบ พอดีช่วงซัมเมอร์ หนูถิ่นไปเก็บ Lingonberry มาเยอะมาก เอามาฟรีซไว้ ก็เลยเอามาทำลิงก้อนเบอร์รี่ซอสราดที่ชีสที่อบจากเตา อร่อยเว่อร์มากกกก ชอบเมนูนี้ค่ะ
และยังได้ลองชิมพิซซ่าโปแลนด์ เขาจะเรียกว่า Zapiekanki ชิ้นใหญ่และกรอบมาก อยากชิมทุกอย่างเลยค่ะ โดนัทของที่นี่ก็อร่อย จะมีไส้อยู่ตรงรอบวงโดนัท อร่อยจนลืมถ่ายรูป ที่หนูถิ่นสั่งเป็นไส้เบอร์รี่และช็อคโกแลต
มีเมนูเพิ่มเติมที่อยากจะนำเสนอค่ะ ซุปบีทรูทใส่เกี๊ยวเห็ด อันนี้ก็อร่อยเช่นกันค่ะ
เครื่องดื่มสมุนไพรอุ่น ๆ ใส่ขิง อันนี้ก็ดีมากค่ะ
เมนูนี้ข้างในเป็นไส้หมู อร่อยค่ะ
เมนูนี้หน้าตาเหมือนปอเปี๊ยะบ้านเรา เป็นไส้หมู
หนูถิ่นนำเสนอแต่เรื่องอาหาร ลืมนำเสนอภาพวิวให้ชมเลย รูปข้างล่างนี้เป็นรูปในเมืองคราคูฟค่ะ
เมืองคราคูฟ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่คนมากันเยอะ ก็คือ Wieliczka Salt Mine
เป็นเหมืองเกลือที่ทำกันมาประมาณเจ็ดร้อยปี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เพิ่งจะเลิกทำเหมืองเมื่อปี 1996 เนื่องจากราคาเกลือตกต่ำและน้ำท่วมเหมือง ในส่วนที่ให้นักท่องเที่ยวลงไปได้จะลึก 135 เมตร เดินลงบันไดประมาณ 800 กว่าขั้น ดีว่าตอนขึ้นมา เขามีลิฟท์บริการ โดยการลงไปจะต้องมีไกด์พาลงไป เราสามารถจองตั๋วออนไลน์และเลือกรอบที่มีไกด์พูดภาษาอังกฤษค่ะ ไกด์ก็จะพาเราเข้าไปและบรรยายให้ฟัง ก็จะมีมุขตลก ๆ ดี ฟังเพลินเลยค่ะ มีที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่มีชื่อเสียง เป็นค่ายกักกันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 Auschwitz-Birkenau แต่อันนี้หนูถิ่นไม่ได้ไปค่ะ
รูปข้างล่างนี้ที่เหมืองเกลือค่ะ
อาคารนี้สร้างครอบเหมืองเกลือ เราจะลงไปที่เหมืองในอาคารนี้ค่ะ
ด้านในเหมืองเกลือค่ะ
ด้านในเหมืองเกลือ
เกลือดอกกระหล่ำ
ในเหมืองเกลือมีม้าไว้ใช้งาน
บริเวณห้องโถง
แชนเดอร์เลียทำจากหินเกลือ
ทะเลสาบน้ำเค็มในเหมืองเกลือ
อาคารนี้เป็นอาคารทางขึ้นมาข้างบนโดยลิฟท์ค่ะ
หลังจากเที่ยวที่คราคูฟ พักสามคืน ก็นั่งรถไฟกลับมาเที่ยวที่วอร์ซอว์ต่อค่ะ ได้ไปเดินที่ย่าน Old Town และ Royal Route ช่วงกลางคืนเปิดไฟสวยงามมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงคริสต์มาสหรือไม่ มีร้านรวง ขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว มีร้านอาหารมากมาย ที่นี่จะมีร้านกาแฟเยอะมาก หนูถิ่นก็เดินเล่นเพลิน ๆ ไปค่ะ เจอคนท้องถิ่นอาสาเป็นไกด์พาเดิน เล่าประวัติศาสตร์ให้ฟัง และถ่ายรูปให้ด้วย ก็ดีเหมือนกันหาคนคุย เขาคิดค่าบริการสองชั่วโมง 750 บาท ก็โอเคนะ หนูถิ่นไม่ได้หาข้อมูลก่อนมาสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ได้เป็นสายประวัติศาสตร์สักเท่าไหร่ เอาแบบฟังเพลิน ๆ ก็พอค่ะ พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ เยอะมาก แต่ไม่ได้เข้าทุกที่ค่ะ ช่วงที่ไปวอร์ซอว์ อากาศก็เย็น ๆ นะ แต่หิมะไม่ตก หนูถิ่นอยู่ที่ฟินแลนด์มาสามปี ก็พอจะชินกับอากาศหนาว ๆ คนโปแลนด์บอกว่าโดยปกติช่วงนี้ที่โปแลนด์ หิมะต้องตก แต่ไม่ตก เป็นเพราะอุณหภูมิของโลกแปรปรวน ปีนี้ที่ฟินแลนด์ก็ไม่หนาวมาก จำได้ว่าปีที่แล้วช่วงปีใหม่อุณหภูมิติดลบ 30 ปีใหม่ปีนี้ที่ฟินแลนด์เมืองที่หนูถิ่นอยู่ติดลบแค่ 10 กว่า ๆ เองค่ะ
ย่าน Old Town ก็จะมีกำแพงเมืองทำจากอิฐแดง
รูปปั้นทหารเด็กที่ต่อสู้กับนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2
เดินต่อจาก Old Town ก็จะเป็นถนนที่นักท่องเที่ยวต้องมาเดิน เรียกว่า Royal Route จะมีร้านอาหาร และวิวสวย ๆ ให้ถ่ายรูปค่ะ
ได้ไปเที่ยวตึกที่สตาร์ลิน รัสเซียสร้างให้โปแลนด์เป็นของขวัญ ใช้เวลาสร้าง 3 ปี รัสเซียส่งคนงานมาสร้างอาคารนี้ 3,500 คน ที่ชั้น 30 จะเป็นจุดชมวิวรอบกรุงวอร์ซอว์ หนูถิ่นอุตส่าห์ซื้อตั๋วขึ้นไปชมวิวซะหน่อย แต่หมอกลงหนักมาก ไม่เห็นอะไรเลยค่ะ ลงมาหาของทานดีกว่า สั่งพิซซ่าหน้าปลาแซลม่อน ทริปนี้ทานปลาเยอะ เกือบจะว่ายน้ำได้แล้วค่ะ
ตึกที่รัสเซียสร้างให้โปแลนด์ค่ะ
พิซซ่าหน้าปลาแซลม่อน
ขากลับมาฟินแลนด์ หนูถิ่นได้ตั๋วราคาถูก เลยจอง Warsaw - Kajaani แต่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่ Helsinki ประหยัดเงิน ประหยัดเวลาด้วย กลับมาแล้ว มีเวลาพักผ่อนอีกสี่วันก่อนกลับไปทำงานค่ะ
การได้เดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป ได้เห็นอะไรมากมาย เป็นความสุขที่หนูถิ่นชอบมาก ได้ไปชาร์ตแบตให้กับตัวเอง พร้อมกลับมาทำงานต่อ เก็บเงิน เพื่อไปเที่ยวอีกเท่าที่ยังไหวค่ะ ทริปนี้เน้นเดินเล่น ทาน และถ่ายรูป ไม่ได้ซื้อของมากมาย หนูถิ่นได้หมวก ถุงมือ ชีส ขนมนิดหน่อย และได้ความสุขสุด ๆ ติดมือกลับมาค่ะ ขอแชร์เรื่องราวของหนูถิ่นใน EP นี้เท่านี้ก่อนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ