REVIEW: ชีวิตนักเรียนนอกในวัยเกษียณ เรียนจบแล้วจ้า......ป.ตรี การท่องเที่ยว (EP.6)

สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกพันทิปทุกท่าน อมยิ้ม01อมยิ้ม01

หนูถิ่นห่างหายไปนาน เพราะว่ายุ่งกับเรื่องฝึกงานก่อนจบและทำ thesis ค่ะ ความเดิมตอนที่แล้วหนูถิ่นจะขึ้นปีที่ 3 ของการเรียน ซึ่งเทอมแรกก็จะเหลือแค่อีก 3 วิชาที่ต้องเก็บให้ครบ เทอมแรกตารางเรียนของหนูถิ่นไม่หนักมาก เรียนสัปดาห์ล่ะ 3 วัน วันล่ะ 1 วิชา มีบ้างบางสัปดาห์ต้องไปเข้า workshop เตรียมตัวเกี่ยวกับการทำ thesis เทอมสุดท้าย เทอมแรกนี้ก็ต้องคิด thesis topic ก่อนว่าจะทำเรื่องอะไร

บอกตรง ๆ เลย ช่วงแรกหนูถิ่นคิดไม่ออกว่าจะทำเรื่องอะไร พอเข้า workshop อาจารย์ก็แนะนำให้ทำเรื่องใกล้ตัวที่เราสนใจ และสามารถหาแหล่งข้อมูลได้ง่าย และมีเยอะในการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต อาจารย์บอกว่าอย่าทำเรื่องที่มันไกลตัว และขอบเขตกว้างมากเกินไป ให้จำกัดขอบเขตให้หัวข้อแคบลง หรือไม่ก็ไปคุยกับ ChatGPT ว่าจะทำเรื่องอะไร

การไปคุยกับ AI ก็ดีเหมือนกันนะ ได้ไอเดียมาเลย และได้ห้วข้อเกี่ยวกับที่เราไปฝึกงานด้วย หนูถิ่นฝึกงานที่แผนก Food & Beverage, Housekeeping และ Reception ที่โรงแรม เป็นเวลา 3 เดือน ได้ไอเดียให้ทำเรื่องเกี่ยวกับ Customer Experience/Customer Satisfaction ของห้องอาหารในโรงแรมที่ไปฝึกงานค่ะ ก่อนที่จะเล่ารายละเอียดต่อไป ฝากติดตามผลงานก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ โดยเริ่มตั้งแต่หนูถิ่นมาอยู่ที่ฟินแลนด์ได้อย่างไร ไล่อ่านตั้งแต่ EP.1 ถึง EP.5 ก่อนนะคะ
https://ppantip.com/topic/41372528 (EP.1)
https://ppantip.com/topic/41446525 (EP.2)
https://ppantip.com/topic/41556664 (EP.3)
https://ppantip.com/topic/41799671 (EP.4)
https://ppantip.com/topic/42084467 (EP.5)

ช่วงเทอมแรกที่บอกว่าตารางเรียนไม่แน่นมาก หนูถิ่นก็ยังทำงานพาร์ทไทม์สัปดาห์ล่ะ 4 วันอยู่ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานกะดึกที่ร้านเบอร์เกอร์ ไฟในการเรียนเริ่มมอดตามวัยค่ะ เพราะมันเหนื่อยมากกกก เม่าเหม่อ 

3 วิชาที่เหลือที่ต้องเก็บให้ครบ ก็จะมีงานจุกจิกที่ต้องทำส่งอาจารย์ เช่นทำรีพอร์ตส่งอาจารย์ present งานหน้าห้อง ซึ่งเป็นอะไรที่หนูถิ่นไม่ถนัด และไม่ชอบเลย ยังมีงานช้างอีกอันนึงที่เป็นงานกลุ่มซึ่งเป็น project ใหญ่มากก่อนที่จะเรียนจบ

ทางมหาวิทยาลัยที่หนูถิ่นเรียนร่วมกับ City of Kajaani ให้นักเรียนจัดงานอีเว้นต์ Kajaani International Fair เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนวิชา Leadership and Management และ Human Resource Management จุดประสงค์ของงานคือให้คนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ ได้มาพบปะ สังสรรค์กัน

การจัดอีเว้นต์ก็ต้องแบ่งหน้าที่รับผิดชอบตามความสามารถที่ตัวเองถนัด หนูถิ่นอยู่ฝ่ายไปหาสปอนเซอร์ ไปขอคูปองอาหารจากร้านเบอร์เกอร์ที่ทำงาน ได้คูปองใบล่ะ 5 ยูโร 10 ใบ เอามาแจกคนที่มาร่วมงานอีเว้นต์ และเล่นเกมส์ชนะ ก็จะได้รางวัลค่ะ

คนไหนถนัดพูด ก็จะเป็นพิธีกรประกาศในงาน คนไหนถนัดเรื่องการออกแบบ ก็ไปทำโปสเตอร์แปะโฆษณาเชิญชวนคนมาร่วมงาน คนไหนเก่งทางด้านโซเชียลมีเดีย ก็ไปทำมาร์เก็ตติ้งโพสต์ประชาสัมพันธ์งานในอินสตาแกรม หรือในเฟซบุ๊ค

งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มีคนมาร่วมงานร้อยกว่าคน ถือว่าประสบความสำเร็จค่ะ แต่กว่าจะสำเร็จก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน ต้องประชุมการเตรียมงานกันหลายครั้ง

ทีมงานที่จัดงานอีเว้นต์ค่ะ


บรรยากาศในงานค่ะ


Hello Wall เป็นคำทักทายจากชาติต่าง ๆ ค่ะ

เทอมแรกของการเรียนปีที่ 3 ก็เสร็จสิ้น และเข้าสู่ฤดูหนาว ปิดคอร์สเรียนช่วงก่อนวันคริสมาสต์ แต่ช่วงเดือนตุลาคม หนูถิ่นมาลองคิดดูว่า ถ้าหน้าหนาวเราไปฝึกงาน และโรงแรมอยู่ห่างจากหอพัก 3 กิโล ให้เดินฝ่าหิมะไปทุกเช้าหรือปั่นจักรยานไปต้องไม่ไหวแน่ ๆ  เลยคิดว่าถอยรถมือสองไว้ใช้งานสักคันจะดีกว่า เพราะต้องไปฝึกงานแต่เช้า หนูถิ่นเลือกไปซื้อรถที่ศูนย์โตโยต้าข้างมหาวิทยาลัย เผื่อรถมีปัญหา ก็เอารถเข้าศูนย์ไปเช็คได้ง่าย ถ้าซื้อรถออนไลน์ เวลารถมีปัญหาต้องไปหาอู่ซ่อมเอง หนูถิ่นยังไม่ค่อยชำนาญเรื่องรถสักเท่าไหร่ ตัดปัญหานี้ เอาสะดวกไว้ก่อนดีกว่าค่ะ


 โชว์รูมรถโตโยต้าที่ฟินแลนด์ และรถที่หนูถิ่นเลือกค่ะ แรก ๆ เวลาขับก็จะงง ๆ เพราะมันตรงกันข้ามกับที่ไทยค่ะ

หนูถิ่นคิดไม่ผิดเลยที่ออกรถมาใช้งาน หนาวนี้หนาวมาก ๆ หนาวกว่าปีก่อนซะอีก ติดลบ 28 จะแตะลบ 30 อยู่แล้ว


ช่วงหน้าหนาวที่หนาวจัด ๆ ต้องเสียบไฟ อุ่นเครื่องยนต์รถไว้ทั้งคืนทั้งวัน มิฉะนั้นรถจะสตาร์ทไม่ติด ถ้าเครื่องยนต์เย็น เดือดร้อนแน่ ๆ เลย อมยิ้ม08

โรงแรมที่หนูถิ่นไปฝึกงาน อาหารเช้าบริการเป็นแบบบุฟเฟ่ พอเสร็จจากอาหารเช้าก็ไปทำ Housekeeping ขอบอกว่าเหนื่อยมาก เพราะต้องไปเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวมที่โรงเก็บผ้า เดินฝ่าหิมะออกมา หนาวก็หนาว

ลักษณะโรงแรมเป็นแบบอาคารเป็นหลัง ๆ อายุร้อยกว่าปี ไม่ชอบทำงานนี้มาก ๆ เลยค่ะ ยิ่งช่วงที่หิมะเริ่มละลาย พื้นลื่นมาก หนูถิ่นเลยบอกหัวหน้างานว่า ขอไม่ทำงานปูเตียง เพราะกลัวลื่นตกตอนไปหอบผ้าไปมา เลือกล้างห้องน้ำ ดูดฝุ่น ทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และเอาซองชา กาแฟ น้ำตาล และครีมเทียมมาเติมที่ห้อง

โรงแรมที่ไปฝึกงานค่ะ

เนื่องจากฝึกงานที่ประเทศฟินแลนด์ ไม่ได้ค่าจ้าง ฝึกฟรี หัวหน้างานที่ฝึกเรา เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่อายุรุ่นลูกหนูถิ่นเลย บอกว่าถ้าเหนื่อยก็พัก เพราะไม่ได้เป็นพนักงานที่ได้เงิน เป็นแค่เด็กฝึกงาน อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็นั่งพัก ในความเป็นจริง มันทำไม่ได้หรอก เดี๋ยวตอนประเมินฝึกงาน เขาเขียนความประพฤติเราไม่ดี จะไม่ผ่านการฝึกงาน เสียเวลาไปเปล่า ๆ แต่รุ่นพี่คนนี้ยังเรียนไม่จบนะ ติดแค่ทำ Thesis กับฝีกงานช่วงหลัง พอดีเขามาฝึกงานที่โรงแรมนี้ตอนฝึกงานช่วงแรก (การฝึกงานจะแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกสองเดือน ช่วงหลังสามเดือน)  แล้วพอดีโรงแรมขาดคน เขาก็เลยได้บรรจุเป็นพนักงานประจำเลย เขาเลยไม่เรียนค่ะ เป็นคนฟินน์ เขาได้ภาษาอยู่แล้ว ก็สามารถทำงานได้เลย

จัดบุฟเฟ่อาหารเช้าแบบง่าย ๆ ที่แปลกและไม่เคยเจอคือไข่ดาวฟรีซ เพี้ยนขำหนักมาก
แต่ที่ชอบคือที่เก็บมีดที่ใช้ในครัว ใช้แม่เหล็กติดกับฝาผนัง อันนี้ดี ชอบ ๆ ค่ะ

เป็นพนักงานที่โรงแรม ทำงานครบวงจรมาก ช่วงเช้าทำอาหารเช้า ช่วงสายทำความสะอาดห้องพัก หลังจากนั้นก็มาทำงานรีเซฟชั่น ก็คือให้เตรียมคีย์การ์ดใส่ซองจดหมาย แล้วเอาไปใส่ในกล่อง ส่งข้อความให้ลูกค้าบอกรหัสเปิดกล่อง เพื่อเอาคีย์การ์ดเอง เป็นการเช็คอินด้วยตัวเอง ตอนดึกจะไม่มีพนักงานอยู่ที่โรงแรมเลย เขาจะเลิกงานบ่ายสามโมงกันค่ะ

ที่ประเทศนี้ เขาใช้คนแบบประหยัดมาก ในหนึ่งคนต้องทำได้ทุกอย่าง บอกตรง ๆ ใครจะไปทำไหว เขาได้หนูถิ่นมาฝึกงาน ทำฟรี เขาประหยัดเงินจ้างคนไปตั้งเยอะ บางวันทำความสะอาดห้องพัก 8-9 ห้อง แค่เดินไปกลับหอบผ้าที่สกปรกไปเก็บที่โรงเก็บผ้า แล้วหอบเอาผ้าสะอาดมาที่ห้องพัก บางทีเดินขึ้นบันไดอีก เข่าแทบทรุด  ช่วงฝึกงานหนูถิ่นเหนื่อยมาก บางวันช่วงเช้าฝึกงานถึงบ่ายสาม พอสี่โมงเย็นต้องไปทำงานที่ร้านเบอร์เกอร์ถึงห้าทุ่มเที่ยงคืน พร้อมกับต้องทำวิทยานิพนธ์อีก มันเหนื่อยมากและเครียด หงุดหงิดง่าย ไปทำงานก็ไม่สนุก ทั้ง ๆ ที่เริ่มแรกงานที่ร้านเบอร์เกอร์มันสนุกมาก ๆ ค่ะ

สุดท้ายหนูถิ่นตัดสินใจลาออกจากงานร้านเจ้มาลุยวิทยานิพนธ์อย่างเดียว เพราะฝึกงานก็จบไปแล้ว คิดไม่ผิดที่ลาออกมาลุยวิทยานิพนธ์ มันไม่ง่ายเลย ขั้นตอนเยอะ ยังดีที่หนูถิ่นได้ supervisor ดี และยังมีอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ดูแลวิทยานิพนธ์ของเราเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล เป็นอาจารย์สถิติ ได้อาจารย์ดีทั้งคู่เลย พอเราส่งงานไป ก็จะมี  Feedback ให้แก้ไขงาน ก็ทำตามที่อาจารย์ชี้แนะมา

การทำวิทยานิพนธ์ เริ่มตั้งแต่ คิดหัวข้อที่จะทำ พออาจารย์เห็นด้วยกับหัวข้อของเรา ก็เริ่มทำ subject analysis แล้วก็ทำ Thesis plan พอตรงนี้ผ่านก็จะต้อง present แผนวิทยานิพนธ์ของเรา พอผ่านตรงนี้ก็ไปเริ่มกระจายแบบสำรวจ และเขียน Final thesis วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการส่งแบบสอบถามออกไป ตรงนี้ใช้เวลาเป็นเดือนเลยค่ะ พอเสร็จตรงนี้ ก็ส่ง Final thesis (first version) ให้อาจารย์ทั้งสองท่าน ของหนูถิ่นก็มีแก้ไขกลับมาเยอะเหมือนกัน แต่ยังพอแก้ไขได้

หลังจากที่ได้ Feedback อาจารย์กลับมาแล้ว ก็เอากลับมาแก้ไขเป็น Final version และอาจารย์ก็กำหนดวันที่จะต้อง present ครั้งสุดท้าย ซึ่งตรงนี้ ถ้าหนูถิ่นยังทำงานอยู่ มันไม่ไหวแน่ ๆ ต้องมาเตรียมสไลด์ในการพรีเซ้นต์ และซ้อมพูดด้วย เพราะพูดไม่เก่ง พอตอนเย็นของวันที่พรีเซ้นต์ ก็จะต้องเข้าห้องสอบ ให้ทำ Maturity test เป็นการเขียนเรียงความวิทยานิพนธ์ที่เราทำ แล้วแต่อาจารย์จะให้เราเขียนอะไร เขียนเป็นแนวเรียงความ 500 คำ เป็นการทดสอบว่าเราเข้าใจเรื่องที่เราทำไหม และดูการใช้ภาษาในการเขียนด้วย ตรงนี้จะมีอาจารย์ตรวจข้อสอบสองท่าน ดูเรื่องเนื้อหาและภาษา

พอสอบวิทยานิพนธ์เสร็จ เหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกไปเลย หนูถิ่นคิดว่าเราผ่านแน่นอน เพราะตอนพรีเซ้นต์เสร็จ ไม่ได้โดนคำถามไล่ต้อนเราให้จนมุม รอผลอย่างเป็นทางการว่าจบประมาณ 2 สัปดาห์ และรับ Degree certificate แล้วก็ไปฉลองใครฉลองมัน ไม่มีการรับปริญญาใส่ชุดครุยเลย เรียบง่ายดีค่ะ 

การรับ Degree certificate เขาจะส่งเป็นลิงค์ให้เราไปดาวน์โหลดเอาเอง ต้องโหลดภายในสองอาทิตย์  มิฉะนั้น จะโหลดไม่ได้ อย่างพวก Transcript of records เราก็ต้องเข้าไปในระบบตอนที่เรายังเป็นนักเรียน ต้องเซฟเก็บเอาไว้ เพราะหลังจากจบการศึกษาไปสักประมาณสองสัปดาห์ ทุกอย่างจะโดนลบออกทั้งหมด อีเมลล์ของเราที่เป็นอีเมลล์ของมหาวิทยาลัยก็โดนลบ platform ที่ใช้ในการเรียนก็โดนลบออกไปหมดค่ะ

หนูถิ่นใช้เวลาเรียนป.ตรีที่ประเทศฟินแลนด์ ถ้ารวมกับเทอมแรกที่เรียนปูพื้นที่ไทย เรียนออนไลน์ 3 เดือน กับที่มาเรียนที่ฟินแลนด์เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 จนถึงวันที่จบการศึกษา 18 มิถุนายน 2024 รวม ๆ แล้วใช้เวลาเรียน 3 ปี หลักสูตรที่นี่สามปีครึ่ง ก็ถือว่าเรียนจบก่อนกำหนดค่ะ ดีใจที่วัยอย่างหนูถิ่นยังได้มีโอกาสมาทำตามฝันในวัยเด็กที่อยากจะมาเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้จะมาช้าเลยวัยไปไกลมาก แต่ก็ยังได้ทำตามความฝันได้สำเร็จ ได้ประสบการณ์ ได้มาลองใช้ชีวิตในต่างประเทศคนเดียว ได้ทำงานพาร์ทไทม์หาเงินเรียนเอง โดยไม่ต้องพึ่งเงินเก็บสักเท่าไหร่ และที่สำคัญได้มาเที่ยวด้วย ความรู้ก็ได้ค่ะ แต่หนูถิ่นไม่ได้เน้นวิชาการมากนัก 555 เรียนผ่านทุกวิชาในครั้งเดียว ไม่เคยต้องสอบซ่อม แต่มีได้เกรดไม่ดีบ้าง หนูถิ่นขอแค่ผ่านก็พอใจแล้วค่ะ

ที่หนูถิ่นเล่ามาทั้งหมดจนถึง EP.6 นี้ เป็นการเล่าตั้งแต่เริ่มต้นมาเรียนจนเรียนจบชีวิตนักเรียนนอกในวัยเกษียณ Mission completed แล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาโดยตลอดนะคะ EP ต่อจากนี้ไปจะขอเล่าชีวิตการทำงานหลังเรียนจบ และถ้ามีเวลาว่างก็จะไปท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่ออีกนะคะ คงจะได้อยู่ที่นี่อีกยาวเลยค่ะ เพราะวีซ่าจะหมดเดือนมิถุนายน ปี 2027 นู่นเลยค่ะอมยิ้ม16
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่