[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34061981
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34074142
บทที 3 http://ppantip.com/topic/34086850
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/34099828
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/34115552
บทที่ 6 http://ppantip.com/topic/34132021
บทที่ 7 http://ppantip.com/topic/34144326
บทที่ 8 http://ppantip.com/topic/34157623
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เส้นทางสายรักของปาริชาติจะปูด้วยกลีบดอกรักไหม คุ้มกับการตัดสินใจหรือไม่ หล่อนได้หรือเสียในการตัดสินใจครั้งนี้
จดหมายหลังสุดก่อนจะเดินทางมาถึงอนาวิลวันพฤหัส ปาริชาติจะออกเดินทางเที่ยงคืนวันศุกร์ และถึงเช้าเป็นเวลาหกโมงเช้า กว่าจะได้ผ่าน
การตรวจตราก็คงราวเจ็ดโมงเช้า ด้วยหักลบเวลาที่ต่างกัน หกชั่วโมงและ บิน สิบสองชั่วโมง อนาวิลจึงต้องโทรศัพท์ถึงหล่อนอีกหนเพื่อนัดแนะ
“ ผมฮะ” เขาบอกเมื่อปาริชาติรับสาย หล่อนยิ้มอย่างยินดี
“ อ้าว รับจดหมายหรือยังคะ”
“ รับแล้วฮะ ถึงได้ดีใจโทรมานี่ไงฮะ”
“ ไม่ต้องรีบนะคะ เผื่อเครื่อง ดีเลย์ เกดจะรอที่จุดนัดพบนะคะ”
“ ฮะ เมื่อมาถึงแล้วก็เย็นใจแล้ว รอที่เขาเขียน Treffenpunkt นะฮะ”
“ ค่ะ เกดจะบินเที่ยงคืนวันศุกร์นะคะ วิลนับชั่วโมงต่างกันให้ดีๆนะคะ”
“ ไม่ผิดหรอกฮะ เวลาจะเปลี่ยนหลังหน้าร้อนอีกที เกดพร้อมแล้วใช่ไหมฮะ”
“ ค่ะ โยนของใส่กระเป๋าทุกครั้งที่นึกได้ แล้วค่อยจัดตอนครบ นี่ก็ลองๆชั่งน้ำหนักดูแล้วค่ะ ขาไปคงไม่มาก ขากลับก็มีแฮนด์แบ็คที่ขยายใหญ่ได้ด้วยค่ะ”
“ อ้อ เกดเช็คอินเลือกที่นั่งในเน็ตล่วงหน้าก็ได้ แล้วพริ้นต์ไปให้เขาก็ได้นะฮะ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ เกดอยากอยู่บรรยากาศเช็คอิน ตื่นเต้นดีค่ะ”
“ แล้วเจอกันนะฮะ ผมก็ตื่นเต้น”
“ ค่ะแล้วเจอกันค่ะ” เขาวางโทรศัพท์ไปแล้ว เขาทำความมั่นใจให้หล่อนมากทีเดียว
อนาวิลเตรียมรถให้เรียบร้อยสำหรับเช้ารุ่งขึ้นต้องขับไปแฟรงก์เฟิร์ต ห้องหับก็จัดเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้บอกหล่อนว่าให้หล่อนนอนห้องเขาๆไปนอนห้องเพื่อนที่ถัดไปสามห้อง เพื่อนกลับไปบ้านตอนหน้าร้อนนี้ซึ่งโรงงานจะปิดหยุดทำงานเป็นส่วนมากราวสามสัปดาห์ เขาก็เพิ่งรู้ว่าได้โอกาสนี้เพราะเจอเพื่อนตอนทำครัว เพื่อนขอให้เขาจ่ายค่าห้องตามวันที่พัก ก็ยุติธรรมดีตามธรรมเนียมฝรั่ง แต่อย่างไรก็ดีเขาก็จะพาหล่อนไปบ้านพี่วีณาซึ่งอยู่เมืองไม่ไกลจากที่นี่นัก เขาก็นึกว่ามีที่ไปเป็นความลงตัวอย่างมากๆ
อนาวิลหลับๆตื่นๆจนถึงเวลาต้องเดินทาง เขาต้องขับรถราวสองชั่วโมงด้วยระยะทางเกือบสองร้อยกิโลเมตร เผื่อรถติดหมายถึงรถมากใน Autobahn (ทางด่วน) เมื่อถึงเขต Flughafen (สนามบิน) เขาก็หาที่จอดรถ และเดินไปยังส่วนผู้โดยสารขาออก สักครู่ใหญ่ ผู้โดยสารสายที่ระบุตามแผงโชว์เที่ยวบินก็ปรากฏกายเป็นทิวแถวออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่า หล่อนเดินมาโน่นแล้วจริงๆ ในเวลาเดียวกันเขาก็นึกชมน้ำใจกล้าหาญของหล่อนที่ทำให้ฝันของเขาเป็นจริง เป็นฝันแรกที่เขาจะจำได้อย่างไม่มีวันลืมเลือนเลย
ปาริชาติส่งยิ้มให้อนาวิลเมื่อเห็นเขายืนรออยู่ เขาเดินเข้ามาหารับเอากระเป๋าล้อลากของหล่อนไปถือไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็โอบบ่าหล่อน มองหน้าหล่อนอย่างดีใจสูงสุดจนหล่อนรู้สึกได้ในอาการ เขาไม่พูดอะไรมันเหมือนแน่นอยู่ในอก หล่อนก็มัวตื่นเต้นจนลืมทักลืมพูด
เดินพ้นระยะผู้คนมาสักหน่อย เขาหยุดจ้องหน้าหล่อน ส่ายหน้าช้าๆเหมือนจะบอกว่า ไม่น่าเชื่อเลย หล่อนเลยพูดว่า
“ Guten Morgen”
“ เกดผมดีใจมากเลยฮะ” เขายิ้มดวงตาเป็นประกาย
“ เกดก็ดีใจนะคะ ที่ได้มาที่นี่” หล่อนเอามือจับแขนเขาๆจึงพามานั่งที่เก้าอี้ ถามว่า
“ ของครบแล้วใช่ไหม?”
“ แค่นี้แหละค่ะ วิลมารอนานไหมคะ”
“ ไม่หรอก พอดีๆ เกดล่ะนั่งสบายไหม?”
“ เกดว่านั่งน้อยกว่านั่งรถไปปักษ์ใต้เสียอีกค่ะ” เขาฟังแล้วยิ้ม
“ งั้นไว้นั่งมาอีกนะ”
“ ให้เกดนั่งคนเดียวเหรอ”
“ ที่นี่ที่เที่ยวแยะ ไปนะ เดินไกลหน่อย ไหวไหมฮะ?”
เขาเอาแฮนด์แบ็คของหล่นมาสะพายบ่า มือขวาลากกระเป๋า มือซ้ายจับมือหล่อนกระชับพร้อมก้าวเดินนำทางไประยะทางไกลจนถึงรถ เอาของใส่ท้าย แล้วเปิดประตูทางขวาให้หล่อนขึ้นนั่ง ทำเอาหล่อนสับสน เขายิ้มเอามือโอบรอบตัวหล่อนพร้อมพูดว่า
“ ยังไม่หายคิดถึงเลยฮะ”
ปาริชาติยืนตัวแข็ง ไม่นึกว่าเขาจะโอบกอดเอาดื้อๆและ หล่อนก็ยังตื่นเต้นในความแปลกที่แปลกถิ่น เหมือนบรรยากาศเปลี่ยนความดันและอากาศตรงนี้ก็ไม่โล่งโปร่ง มันทึบหนักชอบกล
เมื่อเข้าไปนั่งในรถค่อนข้างใหม่ของเขาแล้วรัดเข็มขัดเสร็จก็ถามเขาว่า
“ ต้องขับอีกนานไหมคะ?”
“ นานเท่าไรก็ไม่ว่าแล้วฮะ มันคงเหมือนลอยๆไปมากกว่า” เขายิ้มแย้มเต็มสีหน้า
“ เกดเห็นวิลดีใจก็รู้ว่าที่ทำมาไม่เสียเปล่านะคะ”
“ ไม่มีอะไรเสียเปล่าหรอกฮะ ถ้าเราทำด้วยความตั้งใจให้กันนะฮะ”เขาขับเคลื่อนรถออกไป
“ เกดเอนเบาะพักก็ได้นะฮะ” เขาเอามือมาจับมือหล่อนบีบเบาๆ ก่อนจะเลี้ยวรถตามทางโค้งถนน
ปาริชาติมองดูสองข้างทาง เป็นระเบียบดีจัง หล่อนนึกในใจ เงยหน้ามองความสูงต่ำของตึกอาคารแปลกตา
หล่อนรู้สึกสงบ เหมือนหลังจากทำงานเสร็จไปสักพักแล้ว ไม่มีความวิตกกังวลสิ่งใดอีก มีแต่ความตื่นเต้นที่จะผจญกับสิ่งแปลกใหม่และเริ่มมีความสุขว่าทำมาสำเร็จจนถึงจุดนี้แล้ว
อนาวิลจับมือหล่อนเป็นพักๆด้วยต้องขับรถเร็วบนออโตบาห์นแต่ก็อยู่เลนในสุด หล่อนดูทิวทัศน์ต่างกับเมืองไทยโดยสิ้นเชิง หล่อนชอบวิวด้านซ้ายที่มีแม่น้ำไหลผ่านและทิวแถวของไร่องุ่น รถไฟวิ่งขนานไปกับรถยนต์ดูสะอาดไม่ขมุกขมอมแบบเมืองไทย หล่อนมองเหม่อไปสักพักก็หลับตาลง หยุดคิดว่าตนเองอยู่ที่นี่แล้วนะ เอื้อมมือไปลูบแขนอนาวิลแล้วก็เอียงหน้าหลับตาไป
“ เกด หิวไหมฮะ เดี๋ยวเราจะแวะทานกลางวันนิดหนึ่ง ข้างหน้านี่นะ” เขาเอื้อมมือสัมผัสแขนเบาๆ
“ ไม่ค่อยหิว ทานออมเล็ตบนเครื่องมาอร่อยอิ่มค่ะ” หล่อนตอบเบาๆ แต่ก็นึกได้ว่าเขาอาจจะหิวอาหารเช้าก็ได้ จึงบอกว่า
“ เดี๋ยวเกดเข้าห้องน้ำด้วย แวะเถิดค่ะ”
เขาเหลียวมองทางขวามือหาร้านที่จะจอดรถเมื่อเลี้ยวรถเข้าไปยังร้านแฮมเบอเกอร์ ดื่มกาแฟ และเข้าห้องน้ำกันแล้ว ก็เดินทางต่อไปอีก
ไม่นานก็มาถึงที่พักของเขา
อนาวิลหันมามองหล่อนอย่างตื่นเต้นยินดีที่การรอคอยได้สิ้นสุดลง เขาจอดรถที่จอดประจำแล้วพาหล่อนเดินเข้าไปในตัวอาคาร ปาริชาติมองรอบๆอย่างสำรวจ เมื่อขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นสี่ เขาก็ลากกระเป๋าเดินนำมาหน้าห้องไขกุญแจเปิดประตูกว้าง ผายมือให้หล่อนเข้าไปในห้องที่เก็บกวาดเรียบโล่ง หล่อนคิดว่าน่าอยู่ แต่ก็อดถามไม่ได้ว่า
“ ห้องวิลเหรอคะ”
“ ฮะ ผมให้เกดอยู่ที่นี่ ผมมีห้องของเพื่อนถัดไป เกดว่าสะดวกไหมฮะ”
“ ห้องน่าอยู่ดีค่ะ” หล่อนนึกเสียว่านอนโรงแรมคนละห้อง ไม่ผิดนัก พลางเดินเลยไปที่ประตูสู่ระเบียงที่มีผ้าม่านสีน้ำตาลอ่อนกั้นบังตาอยู่
อนาวิลเดินมารูดผ้าม่านและแง้มประตูนิดหน่อยให้อากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อออกมาที่ระเบียงด้วยกัน หล่อนก็เห็นทิวทัศน์โดยรอบ ตึกถัดไปไม่ไกลนักสร้างเยื้องกัน ทาสีน้ำตาลแดง ระหว่างตึกมีต้นไม้เป็นแถวรวมทั้งด้านข้างตึกด้วย อากาศเย็นอย่างสดชื่น แม้จะเป็นหน้าร้อนแล้วก็ตาม ไม่เห็นดวงอาทิตย์และไม่มีแสงแดด แต่ความสว่างก็มีไปทั่ว หล่อนขยับกายเดินเข้าห้อง อนาวิลไปล้างมือและเรียกหล่อน
“ ล้างมือไหม จะล้างหน้าไหมฮะ”
“ ให้เกดพักเดี๋ยวนะคะ” หล่อนนั่งบนโซฟาชิดผนังห้องใกล้ส่วนที่สองของห้อง หลับตาลง
“ เดี๋ยวผมมา” เขาออกไปนำแก้วใส่น้ำแอปเปิ้ลสองแก้วมาวางไว้ให้หล่อนด้วย เขาดื่มและมองหล่อนที่หลับตาอยู่ หล่อนมึนงงกับอากาศหนักๆที่นี่และอยากจะนอนพัก เมื่อเหลือบตาดูนาฬิกาข้อมือก็บอกเวลาไทยคือเกือบสี่โมงเย็นแล้ว หล่อนเอนกายพิงพนักโซฟาที่เอนไปหน่อยหนึ่ง ยืดขาเต็มที่ อนาวิลมองกางเกงยีนส์ลูกฟูกขายาวสีน้ำตาลอ่อนเนื้อนิ่มและเสื้อยืดหลวมสีเหลืองลูกไก่ที่หล่อนสวมอยู่แล้วคิดว่าหล่อนน่ารัก นี่เขายังไม่ได้กอดหล่อนเลยนะ เขานั่งลงข้างๆนึกว่าหล่อนมาเขาก็ดีใจมากแล้ว แต่การห่างกันเกือบครึ่งปี ทำให้เขารู้สึกเกรงใจหล่อนเมื่อจะถูกเนื้อต้องตัว มันไม่รู้สึกสนิทสนมดังเก่าเลย มีแต่คำพูดเท่านั้น
ปาริชาติก็คิดว่าตัวเองเป็นโรค Jet lag จากการนั่งเครื่องบิน คือนอนไม่ถูกท่ามากกว่า หล่อนนอนไม่หลับด้วยไม่ชินกับการนั่งหลับมากกว่า นอนอีกนิดหล่อนนึกและเคลิ้มหลับไป อนาวิลไปทำอาหารเที่ยงเตรียมพร้อมไว้
ปาริชาติลืมตานึกสักพักว่านอนอยู่ที่นี่นะ เยอรมัน แล้วก็รีบจับกระเป๋ารื้อข้าวของมาวาง โดยเฉพาะอาหารแห้งของอนาวิล เอาที่รัดผมรวบสูงขึ้นไปแล้วก็รู้สึกอยากอาบน้ำ เตรียมชุดใหม่ออกมาพร้อมกระเป๋าเครื่องสำอางค์ พอดีที่อนาวิลเอาอาหารเข้ามาวางที่เคาน์เตอร์ เรียกหล่อน
“ เกดเป็นไงฮะ ดีขึ้นไหม มาทานอาหารก่อน เดี๋ยวพักยาวถึงค่ำได้เลยฮะ”
“ ดีแล้วค่ะ ทานอาหารเสร็จเกดขออาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวเราจะได้คุยกัน” อนาวิลยิ้มกับคำว่าคุยกัน ของหล่อน หล่อนมานั่งที่เก้าอี้ และอีกตัวหนึ่งอนาวิลยก มาจากห้องครัว เมื่อนั่งทานมันบดกับเนื้อหมูชุบแป้งทอดที่
อนาวิลแค่นำมาอุ่น แต่หล่อนก็ทานได้ไม่มากนัก ตัดส่วนที่ว่ามากไปให้เขา อิ่มแล้วก็รีบไปอาบน้ำโดยอนาวิลพาไปชี้บอกการเปิดปิดน้ำอุ่นฝักบัว ในห้องน้ำที่อยู่ต่อถัดครัวไป
เมื่อหล่อนกลับเข้าห้องโดยมองเลขหน้าห้องให้แน่ใจอีกที เปิดมาก็ไม่มีเขาอยู่ในห้อง อาหารแห้งที่วางไว้ก็คงถูกเก็บเข้าที่ไปแล้ว
หล่อนจึงแต่งกายในซอกหลืบที่อยู่ตรงข้ามอ่างล้าง หน้าส่วนหน้าห้องจนเสร็จ ออกมานั่งที่โซฟานึกว่าจะทำอะไรต่อไป นอกจากคุยกัน
คงเป็นวันพรุ่งนี้ที่จะพากันออกไปข้างนอก หล่อนเดินสำรวจห้องมีชั้นวางของเหนือตู้ที่สูงระดับเดียวเป็นแผ่นเดียวกับเคาน์เตอร์ ตู้มีสามลิ้นชักใส่ของต่างๆจนเต็ม ชั้นเหนือเคาน์เตอร์ชนผนังห้องมีหนังสือวางรวมกับของกระจุกกระจิกอีกเล็กน้อย เขาคงเก็บก่อนหล่อนมา เมื่อออกไปโผล่ที่ระเบียงดูว่าน่ายืนมากที่สุดยามโพล้เพล้ ลมพัดนิดหน่อย ถ้าเป็นเมืองไทยคงลมอู้เลย เป็นห้องที่น่าอยู่มาก หล่อนรู้สึกพอใจในสิ่งที่ได้รับอยู่
เสียงเคาะห้องหนึ่งทีแล้วเปิดออก
“ สบายขึ้นไหมฮะ” เขาเดินมาถามใกล้ๆหล่อน
”ดีค่ะ โอ๊ะ... นั่นแกะใช่ไหมคะ” หล่อนชี้ไปที่ถนนสายเล็กๆขวามือมีฝูงแกะเดินอยู่ข้างหอพัก
“ใช่ฮะ เขาต้อนฝูงแกะกลับบ้านฮะ บางวันก็มีไก่ฟ้าหลงมาเดินเล่นบนถนน ใกล้ชิดธรรมชาติดีฮะ”
หล่อนนึกแปลกใจที่ประเทศเจริญกลับใกล้ชิดธรรมชาติ กฏหมายที่นี่คงจะเข้มงวดสัตว์ป่าจึงยังอยู่ได้ บนท้องฟ้ามีนกบินผ่านไปมาดูสักพักก็พากันเข้ามาในห้อง
“ พรุ่งนี้อยากไปไหนใกล้หรือไกลก่อนฮะ”
( มีต่อค่ะ)
๐๐๐--- ทำงานกับฝรั่ง 9 ---๐๐๐
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จดหมายหลังสุดก่อนจะเดินทางมาถึงอนาวิลวันพฤหัส ปาริชาติจะออกเดินทางเที่ยงคืนวันศุกร์ และถึงเช้าเป็นเวลาหกโมงเช้า กว่าจะได้ผ่าน
การตรวจตราก็คงราวเจ็ดโมงเช้า ด้วยหักลบเวลาที่ต่างกัน หกชั่วโมงและ บิน สิบสองชั่วโมง อนาวิลจึงต้องโทรศัพท์ถึงหล่อนอีกหนเพื่อนัดแนะ
“ ผมฮะ” เขาบอกเมื่อปาริชาติรับสาย หล่อนยิ้มอย่างยินดี
“ อ้าว รับจดหมายหรือยังคะ”
“ รับแล้วฮะ ถึงได้ดีใจโทรมานี่ไงฮะ”
“ ไม่ต้องรีบนะคะ เผื่อเครื่อง ดีเลย์ เกดจะรอที่จุดนัดพบนะคะ”
“ ฮะ เมื่อมาถึงแล้วก็เย็นใจแล้ว รอที่เขาเขียน Treffenpunkt นะฮะ”
“ ค่ะ เกดจะบินเที่ยงคืนวันศุกร์นะคะ วิลนับชั่วโมงต่างกันให้ดีๆนะคะ”
“ ไม่ผิดหรอกฮะ เวลาจะเปลี่ยนหลังหน้าร้อนอีกที เกดพร้อมแล้วใช่ไหมฮะ”
“ ค่ะ โยนของใส่กระเป๋าทุกครั้งที่นึกได้ แล้วค่อยจัดตอนครบ นี่ก็ลองๆชั่งน้ำหนักดูแล้วค่ะ ขาไปคงไม่มาก ขากลับก็มีแฮนด์แบ็คที่ขยายใหญ่ได้ด้วยค่ะ”
“ อ้อ เกดเช็คอินเลือกที่นั่งในเน็ตล่วงหน้าก็ได้ แล้วพริ้นต์ไปให้เขาก็ได้นะฮะ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ เกดอยากอยู่บรรยากาศเช็คอิน ตื่นเต้นดีค่ะ”
“ แล้วเจอกันนะฮะ ผมก็ตื่นเต้น”
“ ค่ะแล้วเจอกันค่ะ” เขาวางโทรศัพท์ไปแล้ว เขาทำความมั่นใจให้หล่อนมากทีเดียว
อนาวิลเตรียมรถให้เรียบร้อยสำหรับเช้ารุ่งขึ้นต้องขับไปแฟรงก์เฟิร์ต ห้องหับก็จัดเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้บอกหล่อนว่าให้หล่อนนอนห้องเขาๆไปนอนห้องเพื่อนที่ถัดไปสามห้อง เพื่อนกลับไปบ้านตอนหน้าร้อนนี้ซึ่งโรงงานจะปิดหยุดทำงานเป็นส่วนมากราวสามสัปดาห์ เขาก็เพิ่งรู้ว่าได้โอกาสนี้เพราะเจอเพื่อนตอนทำครัว เพื่อนขอให้เขาจ่ายค่าห้องตามวันที่พัก ก็ยุติธรรมดีตามธรรมเนียมฝรั่ง แต่อย่างไรก็ดีเขาก็จะพาหล่อนไปบ้านพี่วีณาซึ่งอยู่เมืองไม่ไกลจากที่นี่นัก เขาก็นึกว่ามีที่ไปเป็นความลงตัวอย่างมากๆ
อนาวิลหลับๆตื่นๆจนถึงเวลาต้องเดินทาง เขาต้องขับรถราวสองชั่วโมงด้วยระยะทางเกือบสองร้อยกิโลเมตร เผื่อรถติดหมายถึงรถมากใน Autobahn (ทางด่วน) เมื่อถึงเขต Flughafen (สนามบิน) เขาก็หาที่จอดรถ และเดินไปยังส่วนผู้โดยสารขาออก สักครู่ใหญ่ ผู้โดยสารสายที่ระบุตามแผงโชว์เที่ยวบินก็ปรากฏกายเป็นทิวแถวออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่า หล่อนเดินมาโน่นแล้วจริงๆ ในเวลาเดียวกันเขาก็นึกชมน้ำใจกล้าหาญของหล่อนที่ทำให้ฝันของเขาเป็นจริง เป็นฝันแรกที่เขาจะจำได้อย่างไม่มีวันลืมเลือนเลย
ปาริชาติส่งยิ้มให้อนาวิลเมื่อเห็นเขายืนรออยู่ เขาเดินเข้ามาหารับเอากระเป๋าล้อลากของหล่อนไปถือไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็โอบบ่าหล่อน มองหน้าหล่อนอย่างดีใจสูงสุดจนหล่อนรู้สึกได้ในอาการ เขาไม่พูดอะไรมันเหมือนแน่นอยู่ในอก หล่อนก็มัวตื่นเต้นจนลืมทักลืมพูด
เดินพ้นระยะผู้คนมาสักหน่อย เขาหยุดจ้องหน้าหล่อน ส่ายหน้าช้าๆเหมือนจะบอกว่า ไม่น่าเชื่อเลย หล่อนเลยพูดว่า
“ Guten Morgen”
“ เกดผมดีใจมากเลยฮะ” เขายิ้มดวงตาเป็นประกาย
“ เกดก็ดีใจนะคะ ที่ได้มาที่นี่” หล่อนเอามือจับแขนเขาๆจึงพามานั่งที่เก้าอี้ ถามว่า
“ ของครบแล้วใช่ไหม?”
“ แค่นี้แหละค่ะ วิลมารอนานไหมคะ”
“ ไม่หรอก พอดีๆ เกดล่ะนั่งสบายไหม?”
“ เกดว่านั่งน้อยกว่านั่งรถไปปักษ์ใต้เสียอีกค่ะ” เขาฟังแล้วยิ้ม
“ งั้นไว้นั่งมาอีกนะ”
“ ให้เกดนั่งคนเดียวเหรอ”
“ ที่นี่ที่เที่ยวแยะ ไปนะ เดินไกลหน่อย ไหวไหมฮะ?”
เขาเอาแฮนด์แบ็คของหล่นมาสะพายบ่า มือขวาลากกระเป๋า มือซ้ายจับมือหล่อนกระชับพร้อมก้าวเดินนำทางไประยะทางไกลจนถึงรถ เอาของใส่ท้าย แล้วเปิดประตูทางขวาให้หล่อนขึ้นนั่ง ทำเอาหล่อนสับสน เขายิ้มเอามือโอบรอบตัวหล่อนพร้อมพูดว่า
“ ยังไม่หายคิดถึงเลยฮะ”
ปาริชาติยืนตัวแข็ง ไม่นึกว่าเขาจะโอบกอดเอาดื้อๆและ หล่อนก็ยังตื่นเต้นในความแปลกที่แปลกถิ่น เหมือนบรรยากาศเปลี่ยนความดันและอากาศตรงนี้ก็ไม่โล่งโปร่ง มันทึบหนักชอบกล
เมื่อเข้าไปนั่งในรถค่อนข้างใหม่ของเขาแล้วรัดเข็มขัดเสร็จก็ถามเขาว่า
“ ต้องขับอีกนานไหมคะ?”
“ นานเท่าไรก็ไม่ว่าแล้วฮะ มันคงเหมือนลอยๆไปมากกว่า” เขายิ้มแย้มเต็มสีหน้า
“ เกดเห็นวิลดีใจก็รู้ว่าที่ทำมาไม่เสียเปล่านะคะ”
“ ไม่มีอะไรเสียเปล่าหรอกฮะ ถ้าเราทำด้วยความตั้งใจให้กันนะฮะ”เขาขับเคลื่อนรถออกไป
“ เกดเอนเบาะพักก็ได้นะฮะ” เขาเอามือมาจับมือหล่อนบีบเบาๆ ก่อนจะเลี้ยวรถตามทางโค้งถนน
ปาริชาติมองดูสองข้างทาง เป็นระเบียบดีจัง หล่อนนึกในใจ เงยหน้ามองความสูงต่ำของตึกอาคารแปลกตา
หล่อนรู้สึกสงบ เหมือนหลังจากทำงานเสร็จไปสักพักแล้ว ไม่มีความวิตกกังวลสิ่งใดอีก มีแต่ความตื่นเต้นที่จะผจญกับสิ่งแปลกใหม่และเริ่มมีความสุขว่าทำมาสำเร็จจนถึงจุดนี้แล้ว
อนาวิลจับมือหล่อนเป็นพักๆด้วยต้องขับรถเร็วบนออโตบาห์นแต่ก็อยู่เลนในสุด หล่อนดูทิวทัศน์ต่างกับเมืองไทยโดยสิ้นเชิง หล่อนชอบวิวด้านซ้ายที่มีแม่น้ำไหลผ่านและทิวแถวของไร่องุ่น รถไฟวิ่งขนานไปกับรถยนต์ดูสะอาดไม่ขมุกขมอมแบบเมืองไทย หล่อนมองเหม่อไปสักพักก็หลับตาลง หยุดคิดว่าตนเองอยู่ที่นี่แล้วนะ เอื้อมมือไปลูบแขนอนาวิลแล้วก็เอียงหน้าหลับตาไป
“ เกด หิวไหมฮะ เดี๋ยวเราจะแวะทานกลางวันนิดหนึ่ง ข้างหน้านี่นะ” เขาเอื้อมมือสัมผัสแขนเบาๆ
“ ไม่ค่อยหิว ทานออมเล็ตบนเครื่องมาอร่อยอิ่มค่ะ” หล่อนตอบเบาๆ แต่ก็นึกได้ว่าเขาอาจจะหิวอาหารเช้าก็ได้ จึงบอกว่า
“ เดี๋ยวเกดเข้าห้องน้ำด้วย แวะเถิดค่ะ”
เขาเหลียวมองทางขวามือหาร้านที่จะจอดรถเมื่อเลี้ยวรถเข้าไปยังร้านแฮมเบอเกอร์ ดื่มกาแฟ และเข้าห้องน้ำกันแล้ว ก็เดินทางต่อไปอีก
ไม่นานก็มาถึงที่พักของเขา
อนาวิลหันมามองหล่อนอย่างตื่นเต้นยินดีที่การรอคอยได้สิ้นสุดลง เขาจอดรถที่จอดประจำแล้วพาหล่อนเดินเข้าไปในตัวอาคาร ปาริชาติมองรอบๆอย่างสำรวจ เมื่อขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นสี่ เขาก็ลากกระเป๋าเดินนำมาหน้าห้องไขกุญแจเปิดประตูกว้าง ผายมือให้หล่อนเข้าไปในห้องที่เก็บกวาดเรียบโล่ง หล่อนคิดว่าน่าอยู่ แต่ก็อดถามไม่ได้ว่า
“ ห้องวิลเหรอคะ”
“ ฮะ ผมให้เกดอยู่ที่นี่ ผมมีห้องของเพื่อนถัดไป เกดว่าสะดวกไหมฮะ”
“ ห้องน่าอยู่ดีค่ะ” หล่อนนึกเสียว่านอนโรงแรมคนละห้อง ไม่ผิดนัก พลางเดินเลยไปที่ประตูสู่ระเบียงที่มีผ้าม่านสีน้ำตาลอ่อนกั้นบังตาอยู่
อนาวิลเดินมารูดผ้าม่านและแง้มประตูนิดหน่อยให้อากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อออกมาที่ระเบียงด้วยกัน หล่อนก็เห็นทิวทัศน์โดยรอบ ตึกถัดไปไม่ไกลนักสร้างเยื้องกัน ทาสีน้ำตาลแดง ระหว่างตึกมีต้นไม้เป็นแถวรวมทั้งด้านข้างตึกด้วย อากาศเย็นอย่างสดชื่น แม้จะเป็นหน้าร้อนแล้วก็ตาม ไม่เห็นดวงอาทิตย์และไม่มีแสงแดด แต่ความสว่างก็มีไปทั่ว หล่อนขยับกายเดินเข้าห้อง อนาวิลไปล้างมือและเรียกหล่อน
“ ล้างมือไหม จะล้างหน้าไหมฮะ”
“ ให้เกดพักเดี๋ยวนะคะ” หล่อนนั่งบนโซฟาชิดผนังห้องใกล้ส่วนที่สองของห้อง หลับตาลง
“ เดี๋ยวผมมา” เขาออกไปนำแก้วใส่น้ำแอปเปิ้ลสองแก้วมาวางไว้ให้หล่อนด้วย เขาดื่มและมองหล่อนที่หลับตาอยู่ หล่อนมึนงงกับอากาศหนักๆที่นี่และอยากจะนอนพัก เมื่อเหลือบตาดูนาฬิกาข้อมือก็บอกเวลาไทยคือเกือบสี่โมงเย็นแล้ว หล่อนเอนกายพิงพนักโซฟาที่เอนไปหน่อยหนึ่ง ยืดขาเต็มที่ อนาวิลมองกางเกงยีนส์ลูกฟูกขายาวสีน้ำตาลอ่อนเนื้อนิ่มและเสื้อยืดหลวมสีเหลืองลูกไก่ที่หล่อนสวมอยู่แล้วคิดว่าหล่อนน่ารัก นี่เขายังไม่ได้กอดหล่อนเลยนะ เขานั่งลงข้างๆนึกว่าหล่อนมาเขาก็ดีใจมากแล้ว แต่การห่างกันเกือบครึ่งปี ทำให้เขารู้สึกเกรงใจหล่อนเมื่อจะถูกเนื้อต้องตัว มันไม่รู้สึกสนิทสนมดังเก่าเลย มีแต่คำพูดเท่านั้น
ปาริชาติก็คิดว่าตัวเองเป็นโรค Jet lag จากการนั่งเครื่องบิน คือนอนไม่ถูกท่ามากกว่า หล่อนนอนไม่หลับด้วยไม่ชินกับการนั่งหลับมากกว่า นอนอีกนิดหล่อนนึกและเคลิ้มหลับไป อนาวิลไปทำอาหารเที่ยงเตรียมพร้อมไว้
ปาริชาติลืมตานึกสักพักว่านอนอยู่ที่นี่นะ เยอรมัน แล้วก็รีบจับกระเป๋ารื้อข้าวของมาวาง โดยเฉพาะอาหารแห้งของอนาวิล เอาที่รัดผมรวบสูงขึ้นไปแล้วก็รู้สึกอยากอาบน้ำ เตรียมชุดใหม่ออกมาพร้อมกระเป๋าเครื่องสำอางค์ พอดีที่อนาวิลเอาอาหารเข้ามาวางที่เคาน์เตอร์ เรียกหล่อน
“ เกดเป็นไงฮะ ดีขึ้นไหม มาทานอาหารก่อน เดี๋ยวพักยาวถึงค่ำได้เลยฮะ”
“ ดีแล้วค่ะ ทานอาหารเสร็จเกดขออาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวเราจะได้คุยกัน” อนาวิลยิ้มกับคำว่าคุยกัน ของหล่อน หล่อนมานั่งที่เก้าอี้ และอีกตัวหนึ่งอนาวิลยก มาจากห้องครัว เมื่อนั่งทานมันบดกับเนื้อหมูชุบแป้งทอดที่
อนาวิลแค่นำมาอุ่น แต่หล่อนก็ทานได้ไม่มากนัก ตัดส่วนที่ว่ามากไปให้เขา อิ่มแล้วก็รีบไปอาบน้ำโดยอนาวิลพาไปชี้บอกการเปิดปิดน้ำอุ่นฝักบัว ในห้องน้ำที่อยู่ต่อถัดครัวไป
เมื่อหล่อนกลับเข้าห้องโดยมองเลขหน้าห้องให้แน่ใจอีกที เปิดมาก็ไม่มีเขาอยู่ในห้อง อาหารแห้งที่วางไว้ก็คงถูกเก็บเข้าที่ไปแล้ว
หล่อนจึงแต่งกายในซอกหลืบที่อยู่ตรงข้ามอ่างล้าง หน้าส่วนหน้าห้องจนเสร็จ ออกมานั่งที่โซฟานึกว่าจะทำอะไรต่อไป นอกจากคุยกัน
คงเป็นวันพรุ่งนี้ที่จะพากันออกไปข้างนอก หล่อนเดินสำรวจห้องมีชั้นวางของเหนือตู้ที่สูงระดับเดียวเป็นแผ่นเดียวกับเคาน์เตอร์ ตู้มีสามลิ้นชักใส่ของต่างๆจนเต็ม ชั้นเหนือเคาน์เตอร์ชนผนังห้องมีหนังสือวางรวมกับของกระจุกกระจิกอีกเล็กน้อย เขาคงเก็บก่อนหล่อนมา เมื่อออกไปโผล่ที่ระเบียงดูว่าน่ายืนมากที่สุดยามโพล้เพล้ ลมพัดนิดหน่อย ถ้าเป็นเมืองไทยคงลมอู้เลย เป็นห้องที่น่าอยู่มาก หล่อนรู้สึกพอใจในสิ่งที่ได้รับอยู่
เสียงเคาะห้องหนึ่งทีแล้วเปิดออก
“ สบายขึ้นไหมฮะ” เขาเดินมาถามใกล้ๆหล่อน
”ดีค่ะ โอ๊ะ... นั่นแกะใช่ไหมคะ” หล่อนชี้ไปที่ถนนสายเล็กๆขวามือมีฝูงแกะเดินอยู่ข้างหอพัก
“ใช่ฮะ เขาต้อนฝูงแกะกลับบ้านฮะ บางวันก็มีไก่ฟ้าหลงมาเดินเล่นบนถนน ใกล้ชิดธรรมชาติดีฮะ”
หล่อนนึกแปลกใจที่ประเทศเจริญกลับใกล้ชิดธรรมชาติ กฏหมายที่นี่คงจะเข้มงวดสัตว์ป่าจึงยังอยู่ได้ บนท้องฟ้ามีนกบินผ่านไปมาดูสักพักก็พากันเข้ามาในห้อง
“ พรุ่งนี้อยากไปไหนใกล้หรือไกลก่อนฮะ”
( มีต่อค่ะ)