เล่ห์ลับสลับใจ ตอนที่ 2 ครั้งแรก

ห้าเดือน ก่อนหน้านี้ ณ ร้านอาหารตามสั่งครัวคุณพวง

“พิมพ์ ช่วยเอาข้าวผัดกระเพรานี่ไปส่งให้บ้านข้างๆ เราหน่อยสิลูก วันนี้ยายไก่ลางาน
ตั้งแต่บ่ายแล้ว” มารดาที่เพิ่งวางสายจากลูกค้าที่โทรมาสั่งข้าวผัดกุนเชียงสองกล่อง
กับข้าวผัดกระเพราหมูสับอีกสองกล่องก็หันไปสั่งลูกสาวซึ่งเพิ่งจะเดินพ้นจาก
ประตูบ้านมา


“เมื่อไหร่แม่จะเลิกขายข้าวสักทีล่ะคะ พิมพ์ก็บอกแม่แล้วไงว่าต่อไปนี้พิมพ์จะเลี้ยง
แม่เอง” ลูกสาวคนเดียวซึ่งมีรูปร่างหน้าตาอันงดงามด้วยคิ้วอันคมเข้ม ริมฝีปากบาง
สีแดงอมชมพู ผิวพรรณของหล่อนนั้นก็ดูขาวละเอียดปานไข่ปอก แก้มใสทั้งสองข้าง
นั้นก็ล้วนดูเปล่งปลั่งสีแดงระเรื่อไปด้วยเลือดฝาด และเรือนผมของหล่อนนั้นก็
ตรงยาวไปถึงที่กลางหลัง มีสีดำสนิทนุ่มสลวยแลดูสุขภาพดีก็กำลังเดินออก
จากบ้านมาในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงบอลขาสั้นสีม่วงและหล่อนก็เริ่ม
ส่งสีหน้างอนๆ มาให้กับมารดา

“เงินเดือนอาจารย์แค่สามหมื่นนิดๆ จะใช้มาผ่อนซื้อบ้านแล้วก็เลี้ยงดูคนสองคนเนี่ยนะ
แกรู้ไหมว่าทุกวันนี้ข้าวของต่างๆ มันแพงขึ้นมากขนาดไหน ทำงานคนเดียวใช้กัน
สองคนน่ะไม่มีทางพอกินหรอกนะยายพิมพ์” มาลัยก็ตอกกลับลูกสาวคนสวยผู้มี
หุ่นอรชรอ้อนแอ้น

“แหม ก็ถ้าแม่ไม่เล่นหวยนะ ป่านนี้เงินที่พิมพ์ส่งมาให้นี่ก็ผ่อนบ้านไปได้จะครึ่งหลัง
แล้วนะคะ” พิมฐาเถียงกลับไปด้วยเหตุผลแบบไม่ยอมแพ้ เพราะยังนึกเคืองไม่หาย
ที่มารดาไม่ได้นำเงินเก็บที่หล่อนส่งมาให้ไปใช้ผ่อนบ้าน แต่กลับเอาไปเล่นหวยหมด
จนทำให้ทั้งตัวเธอและแม่ยังคงต้องอาศัยอยู่ในบ้านเช่าอยู่แบบนี้ต่อไป

“ที่แกโตมาเถียงฉันฉอดๆ ได้อย่างทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เพราะรายได้จากการที่ฉันขาย
ข้าวหรือยะ” หญิงสูงวัยผมหยิกดัดลอนก็หันมาส่งค้อนให้กับหญิงสาวตรงหน้า

“แม่อ่ะ พูดแบบนี้ทุกทีเลย พิมพ์ไม่ได้ว่าแม่เรื่องอาชีพค้าขายสักหน่อยนะคะ แต่
พิมพ์บ่นเรื่องที่แม่ใช้เงินไม่ถูกทางต่างหาก ไม่อยากเถียงกับแม่แล้ว บาปเปล่าๆ
งั้นพิมพ์ไปส่งข้าวให้ข้างบ้านก่อนนะคะ” พูดจบก็หันไปคว้าถุงใสที่ภายในบรรจุ
ถุงพริกน้ำปลาและข้าวกล่องที่มีกลิ่นหอมของกระเพราปลาหมึกโชยหอมขึ้นมา
แตะจมูกทันที จากนั้นหล่อนก็ก้าวฉับๆ ผ่านหน้ามารดาที่กำลังยืนทำสีหน้าไม่
พอใจไป แต่แล้วเพียงแค่ไม่กี่วินาที มารดาก็รีบเรียกลูกสาวขึ้นอีกรอบว่า

“ยายพิมพ์ ฉันหมายถึงบ้านหลังนู้น ไม่ใช่บ้านป้าเพียง” มาลัยซึ่งกำลังหั่นพริก
อยู่ก็รีบชี้มือที่ถือมีดและร้องบอกลูกสาวที่กำลังเดินไปผิดทิศผิดทางเสียงดัง

“ฮะ แม่หมายถึงวังหลังนั้นเหรอคะ” พิมฐาหันหน้าขวับกลับมาถามมารดา
ของหล่อนตาโตทันที

หญิงสาวมักจะชอบเรียกบ้านหลังใหญ่สุดประจำหมู่บ้านที่หล่อนได้ข่าว
จากมารดาว่าปัจจุบันนี้มีเจ้าของใหม่มาซื้อไปแล้ว หลังจากที่คุณป้าน้ำมนต์
เสียไปตั้งแต่เธอไปเรียนที่ต่างประเทศได้เพียงแค่สามปี เพราะหลานชาย
คนเดียวของเจ้าของบ้านที่เป็นดาราหนุ่มนั้นเอาเงินไปซื้อคอนโดแพงๆ
เพื่ออยู่อาศัยที่กรุงเทพฯ แทน

“ใช่ แม่หมายถึงบ้านอาจารย์ดารา เราไปก็ดีแล้ว เพราะอาจารย์แกก็
ทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับพิมพ์ด้วยนะ”

ความจริงแล้วมารดาของพิมฐาก็พูดสั้นๆ รวบคำว่าอาจารย์กับดารานักแสดง
เข้าด้วยกัน และกำลังจะอธิบายต่อว่าเจ้าของบ้านสีขาวหลังใหญ่บนพื้นที่
เกือบหนึ่งไร่หลังนั้นเคยเป็นดาราหนุ่มชื่อดังมาก่อน แต่เมื่อได้ยินแบบนั้น
พิมฐาก็เข้าใจไปว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นอาจารย์ผู้หญิงที่มีชื่อว่าดารา

ขณะที่หญิงสูงวัยทำท่าจะพูดอธิบายรายละเอียดและกล่าวเตือนอะไรอีก
ยืดยาว ลูกสาวกลับเบรกขึ้นว่า

“เดี๋ยวหนูกลับมาคุยด้วยต่อนะคะแม่ รีบไปส่งก่อน เดี๋ยวข้าวจะเย็นหมด”
พูดจบก็จ้ำอ้าวหายไปทันทีจนคนเป็นแม่ก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างนึกระอา
กับการแต่งกายของลูกสาวที่ดูจะไม่ค่อยสนใจโลก

ฉันว่าจะบอกให้ไปเปลี่ยนกางเกงให้เรียบร้อยเสียก่อน แต่ก็นะ จะทำ
อะไรก็ทำเถอะแม่คุณ เอาที่สบายใจเลยละกัน



หลังจากยืนกดกริ่งจนขาแข็งแถมยุงก็เริ่มรุมกัดหล่อน แต่ก็กลับไม่มี
ใครสักคนเดินออกมารับของ และเมื่อเห็นว่าตัวล็อกบนประตูเล็กๆ
นั้นไม่ได้ปิดล็อกอยู่ แถมเมื่อลองผลักเบาๆ ประตูบานนั้นเบาๆ
มันก็เปิดอ้าออกทันที พิมฐาที่เห็นว่าประตูไม่ได้ล็อกจึงถือวิสาสะ
ผลักประตูรั้วสแตนเลสสีเงินบานเล็กๆ นั้นให้เปิดกว้างขึ้นและก้าว
เท้าเข้าไปในเขตรั้วของบ้านหลังใหญ่นั้นทันที



ขณะเดียวกัน ภูมิพัฒน์ที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จก็หมุนก็อกสีเงินเพื่อปิดน้ำ
ก่อนที่เขาจะหันไปหยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวมาพันคาดรอบเอวของตนและ
ก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา แต่แล้วจู่ๆ ขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ ชายหนุ่ม
ก็กลับได้ยินเสียงเหมือนกับว่ามีใครสักคนกำลังเดินไปมาอยู่ที่ชั้นล่าง
ของตัวบ้าน ชายหนุ่มซึ่งเพิ่งจะใส่เพียงแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเสร็จจึง
รีบเดินให้เบาเสียงและค่อยๆ ก้าวย่องลงบันไดลงไปยังชั้นล่างด้วย
ความระมัดระวัง

เมื่อเขาก้าวลงมาถึงที่ชั้นล่าง ชายหนุ่มก็กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของ
ใครสักคน ภูมิพัฒน์หันมองไปยังถุงไม้กอล์ฟที่วางอยู่ตรงมุมใน
ห้องนั่งเล่นและก็ก้าวรี่ตรงไปหามันเพื่อหวังจะหยิบมาไว้ใช้เป็น
อาวุธป้องกันตัว แต่แล้วจู่ๆ ขณะที่ชายหนุ่มก้าวไปข้างหน้าก็
กลับมีท่อนแขนลึกลับของใครคนหนึ่งยื่นมาคล้องที่รอบคอ
ของเขาจากทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่