แก้ไข"น้ำตานาคราช"ตอน3/1

“อร  ครับ”  เสียงชายหนุ่มเรียกชื่อของหญิงสาว  ในขณะที่เจ้าของชื่อกำลังตรวจดูความเรียบร้อยของร้าน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานเปิดตัวร้าน World  diamond  ในวันรุ่งขึ้นหล่อนหันไปทางเสียงเรียกโดยทันที ทันที่ที่เจ้าตัวเห็นคนทัก หล่อนยิ้มกว้างเป็นการส่งการทักทายไปก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

                “สวัสดีค่ะ  คุณพงษ์  มานานแล้วเหรอค่ะ” หล่อนทักทายชายคนที่เดินเข้ามาภายในร้านอย่างเป็นกันเองพร้อมรอยยิ้มที่ระบายอยู่บนใบหน้างาม

“ครับ สักครู่แล้ว  แต่บังเอิญผมเห็น อร กำลังยุ่ง ๆอยู่นะ" ชายหนุ่มส่งสายตากรุ่มกริมให้เช่นเคยพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าเกี้ยงเกลา "เลยไม่ได้เข้ามาทักเป็นยังไงบ้างครับ  บ้านที่ผมให้เขาหาไว้ไห้” เขาเอ่ยถามหล่อนขึ้นอย่างแสดงความเป็นห่วงในตัวของหญิงสาวด้วยนั่นเองเพราะอย่างน้อยหล่อนก็ยังยอมเป็นเพื่อนที่ดีของเขาโดยไม่ตัดเยื่อใยในไมตรีที่เขาเคยมอบให้มาตลอดระยะเวลาหลายปี

“ดีค่ะ  สวยมาก แล้วก็หลังไม่ใหญ่โตนัก  "บริเวณโดยรอบก็ร่มรื่นดีค่ะ” เธอยิ้มให้แก่เขาอีกครั้งก่อนจะหันไปดูความเรียบร้อยทางอื่น ๆ แล้วหลังงานเปิดตัวร้าน World  diamond   พัฒนพงษ์ ได้ชักชวนหญิงสาวออกไปเที่ยวที่ตลาดริมโขง

“อร วันนี้คุณพาผมไปเที่ยวหน่อยได้นะครับ  ผมอยากดูบ้านเมืองเขาสักหน่อย ว่าเจริญไปถึงไหนแล้ว”

ชายหุน่มสงน้ำเสียงออดอ้อนหล่อน

"คุณพงษอย่างมองอรด้วยสายตตาแบบนี้อีก อรเคยบอกแล้วไง"

"เผื่ออร ใจอ่อนไง พงษจะมีแฟนสวยและเก่ง" พร้อมสายตาหวานเช่นเคย สายตาคู่ที่มองหล่อนด้วยความรักมาตลอดระยะเวลาหลายปี ถึงแม้นหญิงสาวจะมอบเพียงไมตรีเช่นเพื่อนคนอื่น ๆ ในคณะก็ตามที

"เพื่อนค่ะเพื่อน"  พร้อมยกนิ้วก้อยเป็นเชิงส่งความหมายให้รู้ว่าเขายินยอมเป็นเพียงเพื่อนสำหรับหล่อน



“คุณพงษ์ ให้  ปิ่นแก้วพาไปได้ไหมค่ะ เพราะ อร อยากจะดูแลเรื่องความเรียบร้อยของร้านให้แน่ใจชะก่อนนะค่ะ” หล่อนส่งยิ้มให้กับเขา

“โธ่! อร ครับ  เรื่องในร้าน นะให้ปิ่นแก้วเขาดูแลไปก็ได้ส่วนคุณพาผมไปเที่ยวหน่อยนะ” เขาส่งสายตาเป็นเชิงของร้องปนอ้อนวอนหล่อนนั้นเอง "น่า ....นะ...เพื่อนอรคนดี"

“อรเองก็พึ่งมาถึงนะคะ  ถนนหนทางอะไร อรเองก็ยังไม่รู้เลย  แล้วอรจะพาคุณเที่ยวได้อย่างไงค่ะ”ว่าแล้วหญิงสาวก็หันหนากลับมามองชายหนุ่ม ที่เฝ้าตามจีบเธอมาหลายปีดีดัก  และที่เธอได้ทำงานที่นี่ก็เพราะมารดาของ พัฒน์พงษ์เป็นคนขอร้องให้หล่อนช่วยมาดูแลร้านนี้ให้แกเขา

“เอ๊ะ! อร นั่นคุณใส่ สร้อยอะไรนะ” เขาถามหล่อนทันทีเมื่อสังเกตว่าเขาเองไม่เคยเห็นสร้อยคอเส้นนี้มาก่อนเลย

“อ้อเมื่อวานก่อนนะค่ะ อรไปตลาดริมโขง เห็นว่าน่ารักดี  ก็เลยซื้อมาใส่เล่นนะค่ะ” หล่อนจำต้องโกหกเขาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกชักถามอะไรมากมายอีก

“ถ้าคุณอยากใส่  เดี๋ยวผมเลือกเอาในร้านให้คุณสักเส้นก็ได้นะครับ  มันคงดีกว่าไอ้ สร้อย กิ๊กก๊อก นี่ออก”ชายหนุ่มเอ่ย ก่อนสังเกตุอีกที "ดู ๆไปมันก็เก๋ดีนะ  ดูงานเหมือนทางของโบราณ"

“ไม่เป็นไรค่ะพงษ์  อรชอบสร้อยเส้นนี้ค่ะ” พร้อมส่งรอยยิ้มเก๋ให้กับเขาอีกครั้ง



     พัฒนพงษ์  บุตรชายคนเดียวของเจ้าของกิจการ World  diamond  เป็นชายหนุ่มเจ้าสำอางและติดที่ใช้เงินฟุ่มเฟือย หล่อนจำได้ว่ารู้จักชายหนุ่มผู้นี้ ตั้งแต่เรียน ปี 1 อยู่  และเขาเองไม่พยามที่จะเป็นเพื่อนหล่อน พอๆกับการขยันมาขายขนมจีบให้แก่หล่อนเสมอมา และหล่อนเองก็ได้แต่อ่อนใจ  ที่เขา ตื้อเหลือเกิน  ทั้งที่หล่อนปฏิเสธไมตรีเขาหลายครั้งหลายคราจนเมื่อหล่อนเรียนจบ  เขาจึงเสนอให้หล่อนมาทำงานเป็นผู้จัดการร้าน World  diamond  ให้แก่เขา  โดยหล่อนเองก็หวังว่าเมื่อหล่อนมาอยู่ไกลถึงหนองคายแล้วชายหนุ่มคงจะเลิกตามตื้อหล่อนชะที

“คุณพงษ์  ค่ะ  อรมาทำงานนะค่ะ” หล่อนเน้นย้ำเขาอีกครั้งหนึ่ง

“ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ครับ  ที่ร้านเอง  ก็มีปิ่นแก้ว  คอยดูแลอยู่แล้ว  แล้วอีกอย่างผมเองก็คงจะอยู่ที่นี่แค่ไม่กี่วันเอง  อรจะใจร้ายไม่ดูแลเพื่อนคนนี้เลยเหรอ  อร” ท้ายประโยค เขาเว้าวอนหล่อนอีกเช่นเคย

“เห็นผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งก็ได้  นะ  นะครับ”

“ก็ได้ค่ะ   แต่ของให้ อร เข้าไปสั่งงานกับปิ่นแก้วไว้ก่อนนะค่ะ”หล่อนจึงเดินเข้าไปภายในร้านแล้วได้สั่งพนักงานให้ช่วยดูแลเรียงการจัดเก็บข้าวของ  ก่อนที่หล่อนจะออกมาพบกับ พัฒนพงษ์อีกครั้งที่บริเวณหน้าร้าน

“พงษ์อยากไปเที่ยวไหนเหรอค่ะ” หญิงสาวร่างระหงเอ่ยถามก่อนหันไปดูพนักงานในร้านอีกรอบเพื่อเป็นการตรวจตาอีกครั้ง ปากก็คุยกับชายหนุ่มแต่ขาหล่อนยาวก้าว เดินดูไปรอบ ๆ ร้านอย่างใส่ใจ โดยมีชายหนุ่มเดินตามไปคุยเสียทุกที

“ไปไหนก็ได้ฮะที่มีคุณ  ผมไปได้ทุกที่อยู่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอร พาคุณไปทำบุญที่วัด เอาไหม?  ที่นี่วัดเยอะนะ  แล้วส่วนมากก็เป็นวัดเก่าด้วย” หญิงสาวเสนอขึ้นทันทีเพราะปกติแล้วตอนอยู่กรุงเทพเองวันว่างมารดาและบิดาของหล่อนก็ชอบชวนหญิงสาวเข้าวัดทำบุญเสมอ ท่านมักบอกหล่อนว่า เงินทองนั้นหาไปใช้ไปได้ แต่บุญเราเองต้องหมั่นสะสมด้วยเช่นเดียวกับทรัพย์

“ครับ ได้ครับ ถ้าอย่างนั้น เชิญไกด์ของผมขึ้นรถเถอะครับ”



     ในขณะที่เขากำลังขับรถอยู่ เอมอรก็ได้เล่าเรื่องของจังหวัดหนองคายให้เขาฟังว่า  

"จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งค่ะ  เพราะเป็นประตูไปสู่เมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  และเป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งแรกด้วยนะค่ะ”

     หญิงสาวเริ่มเล่าเรื่องราวที่เธอพอได้รู้ก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพเพื่อมาทำงานที่นี่ “มีความหลากหลายไปด้วยอาหารการกินและสินค้านานาชนิด  และวัดที่ อรจะพาคุณไปเที่ยวในวันนี้คือ วัดโพธิ์ชัย วัดนี้เดิมชื่อวัดผีผิว ปัจจุบันเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส หรือหลวงพ่อเกวียนหัก พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน ชั้นหลังหล่อด้วยทองสุก มีพระพุทธลักษณะงดงามมากค่ะ”หล่อนกล่าวช้า ๆ

“แล้ว อรเคยไปมาแล้วเหรอครับ” เขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อฟังหล่อนเล่าเรื่องราวเสียมากมายราวกับหล่อนเคยอยู่ที่นี่มาก่อนนั่นเอง

“อรก็ยังไม่เคยไปเหรอค่ะ  แต่อรได้หาข้อมูลมาจากคู่มือของการท่องเที่ยวนะค่ะ  เห็นแต่คนที่นี่เขานับถือหลวงพ่อพระใสกันมากนะค่ะ  ” หล่อนยิ้มให้แก่เขาก่อนที่จะบอกทางแก่เขาต่อนั้นเอง “นี่ก็พึงจะมีโอกาสได้ไปสักการะพร้อมคุณนี่ล่ะค่ะ”

“ดี  ครับเราจะได้ทำบุญร่วมกัน”  เขาหยอกล้อหล่อนพร้อมด้วยรอยยิ้ม

“แล้วนี่คุณพงษ์  จะอยู่ที่หนองคายนี่กี่วันค่ะนี่”

“เดี๋ยวอีก วันสองวัน ผมเองก็ต้องกลับล่ะครับ  เพราะคุณพ่อคุณแม่ท่านอยากให้ผมเข้าไปดูแลงานที่ร้านบ้างนะครับ”  เขามองหน้าหล่อนอีกครั้งล

“ท่านคงเห็นว่าผมเรียนจบมาทางด้านออกแบบ  ก็เลยอยากให้ใช้ความรู้ที่เรียนมา”

“ค่ะ  ดีค่ะ  ไม่เหมือนอร  เรียน  อักษรศาสตร์  แต่มาทำงานเป็นผู้จัดการร้านเพชร  ไม่ได้เป็นครูสมดังที่ตั้งใจไว้เลยนะสค่ะ”

“แล้ว อรมาทำงานไกลๆ อย่างนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ห่วงแย่เหรอ” เพราะเขาเองจำได้เมื่อครั้งสมัยเรียนบิดาและมารดาของหล่อนนั้นห่วงหล่อนมากยิ่งถ้าวันไหนกลับบ้านค่ำ ๆ ด้วยแล้วท่านแทบออกมารับด้วยตนเอง  

“ไม่เหรอค่ะ  ท่านบอกว่า อรโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว” หล่อนยิ้มขึ้นเมื่อคิดถึงบุพการีของหล่อนและนึกของคุณท่านทั้งสองที่เลี้ยงดูหล่อนอย่างดีแต่ไม่โอ้จนเป็นลูกที่ดีแต่เชื่อฟังพ่อแม่เกินไปนัก ท่านมักให้หล่อนได้มีส่วนร่วมในการคิดและตัดสินใจในอะไรหลาย ๆ อย่างเอง รวมถึงการเดินทางมาทำงานในที่ไกล ๆ ท่านอย่างนี้ด้วย

“อร ครับ  ...”

“คุณพงษ์ค่ะ  เลี้ยวซ้ายด้านหน้านี่ก็ถึงแล้วค่ะ” เสียงหญิงสาวดังขัดจังหวะก่อนที่เขาจะได้เอ่ย บางอย่างออกมาและชายหนุ่มก็ได้จอดรถไว้ใต้ต้นไม่ใหญ่ไม่ไกลจากอุโบสถมากนัก เขารีบวิ่งอ้อมรถเพื่อมาเปิดประตูให้เอมอรอย่างเขาใจหล่อนนั่นเอง

                “เชิญครับอร....”เขาพูดพร้อมเปิดประตูรถให้กับหล่อน หลังจากทำบุญแล้ว หญิงสาวได้หยิบเซียมซีขึ้นมาเสี่ยงทายดูหล่อนขย่าอยู่พักหนึ่ง  ติ้วก็หล่อนลงมาหล่อนหยิบขึ้นมาดูหมายเลย  และเดินไปที่ตู้เซียมซีที่หยิบหมายเลยที่หล่อนต้องการออกมาอ่าน ในทันที...

“นี่คุณอรเสี่ยงได้ใบไหนครับ   ขอผมอ่านหน่อยได้ไหมครับ” ชายหนุ่มมองใบเชียมซีที่หล่อนถืออยู่เหมือนเขาอยากจะอ่านของหล่อนด้วยเช่นกัน

“แล้วของคุณพงษ์ล่ะค่ะไม่อ่านของตัวเองล่ะ”

“ใบของผม ไม่ค่อยดีนะครับ” ชายหนุ่มบอกหล่อนด้วยแววตาที่เศร้าทันทีที่อ่านใบเซียมซีของตนเองจบ  

“เขาเขียนว่าอย่าไรเหรอค่ะ”หญิงสาวร้องถามพร้อมกับหยิบใบเซียมซีของเขาขึ้นมาอ่าน

“เขาบอกว่าสิ่งที่หมาย อาจไม่สมอารมณ์ปอง เพราะทั้งสอง ไม่ใช่คู่ จะสู่สม  ขอให้หัก ตัดใจ ในอารมณ์    ขอจบคำทำนายเท่านี้เอ๋ย  ผมอ่านแค่นี้แล้วเลยไม่อยากอ่านต่อนะครับ แล้วของอรล่ะไหนผมดูหน่อยซิ ผมขออ่านของอรได้ไหมครับ”

“อุ้ย!! ไม่ได้เหรอค่ะ  อรจะเอาไว้อ่านคนเดียว” หล่อนรีบพับใบเซียมซีนั้นใส่กระเป๋าถือของหล่อนทันทีด้วยเกรงว่าชายหนุ่มจะดึงเอาไปอ่านนั่นเอง พร้อมกับเฉไฉไปทางอื่น

“นี่ก็จะเที่ยงแล้ว  อรหิวข้าวรึยังครับ  เราไปหาร้านอาหารที่บริเวณริมแม่น้ำโขงทานกันนะครับ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่