อุ่นรักในกองบิน ตอนกางเกงในลาย...

แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น


             “พี่แม็คคะ” ติณภพณ์ก็เลยต้องยอมปล่อยข้อมือของวินชญาและหันกลับไปมองทางต้นเสียง
ส่วนวินชญาเมื่อได้โอกาสเธอก็เลยรีบเดินหนีไปขึ้นรถและรีบขับหนีกลับบ้านไปเลย

             “พี่แม็คคะ มีอะไรกันรึเปล่าคะ เมื่อกี้ศิเห็นเหมือน...” วัศศิกานต์ที่เห็นชายหนุ่มซึ่ง
มารดาของเธอและมารดาของเขาวาดหวังร่วมกันเอาไว้ว่าอยากจะให้ทั้งคู่ดองกันในเร็ววันก็
อดตั้งคำถามขึ้นมาไม่ได้ เพราะเมื่อสักครู่นี้เธอเห็นว่าชายหนุ่มกำลังยื้อยุดฉุดข้อมือของผู้หญิง
คนหนึ่งอยู่ เธอก็เลยรีบเดินตามมาถามอย่างเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่มิด

           
             ติณภพณ์จึงรีบพูดแทรกตัดบทขึ้นว่า

            “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกครับ เมื่อกี้เพื่อนพี่น่ะ แล้วเรามีอะไรรึเปล่าครับ ถึงได้ตามพี่ออกมาที่
นอกงานแบบนี้”

             “คุณป้าท่านให้ศิช่วยมาตามหาพี่แม็คค่ะ คือ ท่านอยากจะให้พี่ไปสวัสดี
ท่านนายพลประพทธ์ที่ตรงโต๊ะด้านหน้าเวที แล้วศิเห็นพี่เดินออกมาทางนี้พอดี ศิก็เลย
รีบตามมาเรียกค่ะ” หญิงสาวรีบบอกไปตามที่คุณหญิงป้าสั่งมา

              “โอเคครับ งั้นเราก็กลับเข้าไปในงานกันเถอะนะครับ น้องศิ” ชายหนุ่มพูดจบ
วัศศิกานต์ก็เดินมาคล้องแขนเขาหมับทันทีเพราะเธอก็อยากจะประกาศตัวให้ทุกคนในงาน
ได้เห็นว่าเธอกับชายหนุ่มนั้นเป็นคนพิเศษของกันและกันตามที่มารดาของทั้งสองฝ่าย
ต้องการอยากจะให้เป็น แต่แล้วติณภพณ์ก็กลับค่อย ๆ จับมือของหญิงสาว และเขาก็
ค่อย ๆ ยกมันออก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันฟังดูสุภาพว่า

             “พี่ว่ามันจะดูไม่ดีกับเรานะครับ ถ้าใครได้มาเห็นเราสองคนจับมือถือแขนกัน
โดยที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันแบบนี้ ยังไงพี่ขอเชิญน้องศิก่อนเลยดีกว่านะครับ” พูดจบเขา
ก็ผายมือให้วัศศิกานต์เดินนำเขาเข้างานไปก่อน ส่วนหญิงสาวก็ได้แต่แอบเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟัน
อยู่ในใจ


              เชอะ แหมทีกับศิมาทำเป็นหวงเนื้อหวงตัว ทีกับแม่ผู้หญิงคนเมื่อตะกี้ละก็นะ
ตัวเองยังไปจับมือถือแขนเขาอยู่เลย สองมาตรฐานชัด ๆ  แต่เอาวะ อย่างน้อยก็รู้แล้วว่า
ตานี่แค่เป็นสุภาพบุรุษแต่ไม่ได้เป็นเกย์ ตอนแรกก็แอบใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่เหมือนกันนะเนี่ย
คนอะไรก็ไม่รู้ให้ท่าไปตั้งเยอะตั้งแยะแล้วแต่ดันไม่ทำอะไรสักอย่าง แต่ก็ดี ยิ่งยากแบบนี้ศิก็ยิ่งชอบ




              วัศศิกานต์คิดอยากจะเอาชนะชายหนุ่มรูปหล่อผู้มีคุณสมบัติอันเพียบพร้อมที่
กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของหล่อนในเวลานี้ให้จงได้ เธอจึงปิดบังความไม่พอใจเอาไว้ข้างใน
ด้วยใบหน้าอันฉาบด้วยรอยยิ้มอันดูหวานหยดที่เป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งแสดงออกมา
ภายนอกเท่านั้น และเธอก็พูดตอบชายหนุ่มไปแบบสวย ๆ ว่า


                “ค่ะ งั้นเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะนะคะ พี่แม็ค” พูดจบวัศศิกานต์ก็เดินเคียงข้าง
กับชายหนุ่มเข้าไปในงาน และเธอก็ยังพยายามชวนเขาพูคุยนั่นนี่ไปด้วยตลอดทางจนเกือบ
จะถึงยังโต๊ะซึ่งเหล่านายทหารชั้นผู้ใหญ่นั่งกันอยู่ หญิงสาวจึงยอมแยกจากเขาไปนั่งกับ
มารดาของเธอที่อีกโต๊ะข้าง ๆ



                 แม้ว่าส่วนตัวชายหนุ่มจะรู้สึกไม่ค่อยชอบใจแม่พวกผู้หญิงที่มาคอยตามตื้อเขา
แบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ด้วยมารยาทที่ถูกฝึกฝนมา รวมถึงการต้องทำตามใจมารดาในระดับหนึ่ง
ก็ทำให้เขาต้องทำตามคำสั่งของท่าน และเขาก็ต้องคอยดูแลหญิงสาวเหล่านั้นให้ดีด้วยกิริยา
ของสุภาพบุรุษ


                  ถึงจะพยายามทำทุกอย่างด้วยสีหน้าที่ดูยินดีแต่ข้างในลึก ๆ แล้วชายหนุ่มก็
ไม่ได้พอใจที่จะคบหากับผู้หญิงที่มารดาพยายามจะหามาให้ตนนัก เขาจึงมักจะวางขอบเขต
ไม่ให้มีเรื่องในแนวชู้สาวเกิดขึ้นเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะต้องไปส่งหญิงสาวเหล่านั้นถึงยังที่พักส่วนตัว
ของพวกหล่อน ทำให้มันไม่เคยมีความสัมพันธ์อันไหนที่จะพัฒนาไปมากกว่าการเป็นแค่คนรู้จัก
เลยสักครั้ง และมารดาของเขาก็บังคับอะไรเขามากกว่านั้นก็ไม่ได้เนื่องจากชายหนุ่มก็ได้ทำ
ตามที่หล่อนสั่งแล้ว





คืนนั้น

           ต่างคนก็ต่างก็แอบนอนไม่หลับและคิดย้อนกลับไปถึงภาพเหตุการณ์ในสมัยอดีตที่ทำให้ทั้งคู่
แอบเกลียดกันจนถึงขั้นกลายเป็นศัตรูคู่แค้นขึ้นมา และจุดเริ่มต้นมันก็เป็นแค่เพราะกางเกงตัวเดียว
           

           ย้อนกลับไปในช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ตอนสมัยที่วินชญาเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ
กำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ส่วนติณภพณ์ก็ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และกำลังจะขึ้น
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งวินชญาและติณภพณ์ก็ได้เข้ารับการอบรมวิชาภาษาอังกฤษของ
กองการศึกษาของที่กองบิน



              หลังเลิกเรียนวันหนึ่งขณะที่ติณภพณ์มาเข้าใช้ห้องน้ำชาย วินชญาที่เข้าห้องน้ำหญิงเสร็จ
ก็รีบเดินออกมาเพราะเธอกลัวว่าเธอจะพลาดรถเวียนรับส่งที่จะพาเธอกลับไปยังบ้านพักเรือนแถว
ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนตัวติณภพณ์เองเขาก็กำลังรู้สึกหิวข้าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนนั้นเป็นเวลา
ใกล้เที่ยงแล้ว


               ขณะที่เด็กสาวเดินพ้นประตูกระจกซึ่งติดฟิล์มสีทึบ ๆ ที่เป็นแบบดึงให้เปิดออก เด็กหนุ่ม
ก็รีบเดินมาเพื่อจะดึงประตูเพราะเขาเองก็ต้องผ่านทางตรงนี้เพื่อจะออกไปที่หน้าตึกเช่นกัน แต่แล้ว
สายกางเกงเลด้านหลังของวินชญาก็เกิดไปเกี่ยวอยู่กับขอบประตูที่เพิ่งจะปิดงับไป ทำให้ทันทีที่
ชายหนุ่มกระชากประตูให้เปิดออก

                สายกางเกงเลสีฟ้าก็ถูกกระตุกรั้ง และกางเกงเลซึ่งร่างบางเพียงผูกมัดไว้ที่ด้านหน้า
ส่วนสายสองสายทางด้านหลังนั้นก็ได้ถูกห้อยทิ้งเอาไว้ตามแบบแฟชั่นในยุคนั้น และเพราะการผูก
แบบนี้เมื่อมีแรงกระชากจากทางด้านหลังอย่างแรง โดยที่เจ้าตัวก็กำลังรีบเร่งเดินต่อไป กางเกงเล
ตัวนั้นมันก็เลยถึงกับหลุดผัวะลงไปกองกับพื้นที่เบื้องล่างทันที



               วินชญาซึ่งรู้สึกเย็นวาบทันทีที่กางเกงผ้าตัวใหญ่หลุดผัวะออกจากตัวก็หันหลังขวับไป
มองยังตัวต้นเหตุที่ทำให้กางเกงของหล่อนหลุดแบบหัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอกทันที
ส่วนร่างสูงซึ่งเดินพ้นกรอบประตูเข้ามาแล้วก็ได้เห็นภาพของเด็กสาวซึ่งยืนตาโตด้วยความช็อค เธอ
สวมใส่อยู่แค่เสื้อยืดสีขาวช่วงบนกับกางเกงในสีขาวที่มีลายชินจังยืนยิ้มแก้มแดงปรากฏอยู่ตรงด้านหลัง




อ่านต่อแบบออนไลน์ได้ตามลิ้งค์นี้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^

http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1336538&chapter=7
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่