พนันหัวใจใต้ปีกรัก ตอนสองมาแล้วค่ะ :)

ทันทีที่ออกห่างจากห้องจัดเลี้ยงมาได้ยี่สิบกว่าก้าว เขาก็ปล่อยตัวของภีรณีลงและเริ่ม
เปลี่ยนมาฉุดดึงแขนบางของหล่อนเพื่อลากหญิงสาวออกจากโรงแรมแทน

"โอ๊ย เจ็บนะเว้ย ปล่อย" หญิงสาวร้องด่าเสียงดังแถมหน้าก็แดงมากเพราะทั้งโกรธทั้งเจ็บ

"ยาม ยามช่วยด้วยค่ะ ไอ้นี่มันทำร้ายร่ากายฉัน"

เมื่อร้องเรียกให้ยามเข้ามาช่วย ผลก็กลับผิดคาด เพราะชายหนุ่มนั้นรีบแจ้งกับยามที่กำลัง
วิทยุคุยกับเพื่อนร่วมงานเรื่องเหตุวุ่นวายในงานแต่งในห้องแกรนด์ฮอลล์อยู่พอดีว่า

"ผมไม่ได้ทำร้ายยายนี่ครับพี่ แค่ต้องลากเขามา เพราะยายนี่จะเข้าไปล่มงานแต่งเพื่อนผม
ที่ห้องจัดเลี้ยง" ชายหนุ่มยังคงไม่ยอมปล่อยมือที่เกาะกุมออกจากหญิงสาวแม้ว่าจะถูก
เธอพยายามใช้เล็บจิกข่วน เขาไม่ได้เจ็บมากเพราะเล็บเธอสั้นแถมแรงน้อยกว่าปกติ
เนื่องจากเมาพอสมควร

"ผมทราบเรื่องจากเพื่อนแล้วครับ ยังไงคงต้องเชิญคุณออกจากโรงแรมนะครับ เชิญ
เลยครับ" นอกจากไม่ช่วยภีรณีแล้ว ยามยังรีบเรียกให้เจ้าหน้าที่มารับกุญแจรถจาก
ติณณ์และให้รีบไปเอารถมาให้ที่หน้าโรงแรม


ทันทีที่เหวี่ยงคนตัวเล็กเข้ารถไปได้แล้วก็พูดขู่สำทับเสียงโหดว่า

"ถ้าเธอก้าวลงจากรถของฉันแม้แต่ก้าวเดียว รับรองฉันจะไปบอกแม่เธอเรื่องที่เธอมา
ก่อเรื่องเอาไว้ และถ้าแม่เธอหัวใจวายอีกรอบ ก็อย่ามาหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน"

เมื่อได้ยินคำขู่เรื่องมารดา ภาพของมารดาที่นอนป่วยหนักอยู่ในโรงพยาบาลเมื่อสองปี
ก่อนก็ปรากฏขึ้นมาในมโนสำนึก เพราะคราวก่อนคนที่บังเอิญไปเจอมารดาของเธอ
ในตอนที่ท่านไปจ่ายซื้อของที่ตลาดนัดและเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันจนหมดสติ
ไปนั้นก็คือติณณ์นั่นเอง

เมื่อสองปีก่อนหน้านี้ ในวันนั้น ตอนที่เผอิญเห็นหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินจ่ายตลาดอยู่
ล้มลงบนพื้นจนถุงข้าวของแตกกระจัดกระจาย ชายหนุ่มร่างใหญ่รีบปรี่เข้าไปช่วย
และเมื่อเขาพบว่าท่านเจ็บหน้าอกมาก ติณณ์ก็รีบบอกให้คนแถวนั้นมาช่วยประคอง
มารดาของภีรณีเอาไว้ ก่อนจะรีบวิ่งไปสตาร์ตรถและขับมารับวาณีไปส่งโรงพยาบาล
ทำให้มารดาของหญิงสาวรอดพ้นจากความตายมาได้

ไม่ใช่แค่ติณณ์คนเดียวที่นึกไปถึงมารดาของภีรณี แต่หญิงสาวเองก็นึกถึงเรื่องที่คุณป้า
ซึ่งรู้จักกันและเห็นเหตุการณ์ในตลาดนัดวันนั้นเล่าให้ฟังถึงการช่วยเหลือของชายหนุ่ม
ที่ตัดสินใจอย่างรวดเร็วและทำทุกอย่างฉับไวจนสามารถรั้งลมหายใจของมารดาของ
หล่อนเอาไว้ได้จนถึงทุกวันนี้ มือที่ตั้งท่าจะใช้ดันก็เลยชะงักค้างไป จนถูกเขาปิด
ประตูรถใส่หน้าโครมใหญ่

ชายหนุ่มจึงรีบก้าวฉับๆ ไปขึ้นฝั่งคนขับ แล้วรีบออกรถทันที

เมื่อขับออกมาจากหน้าโรงแรมได้นิดเดียว หญิงสาวก็โวยวายเสียงดังแบบคนเมา

"นายติณณ์ จอดรถเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะลง"

เมื่อพูดแล้วชายหนุ่มยังทำหูทวนลมและขับรถต่อไปแบบนั้น ภีรณีที่รู้สึกโกรธและ
กำลังพาลจึงยื่นมือมาจับแขนของคนขับ

ติณณ์ที่ระวังตัวและคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าภีรณีจะทำแบบนี้จึงขับรถช้ากว่าปกติ
และชิดริมซ้ายมาตลอดจึงรีบตบสัญญาณไฟและเลี้ยวจอดเข้าข้างทางอย่างรวดเร็ว

"จะทำบ้าอะไรของเธอน่ะฮะ รู้ไหมว่าทำแบบนี้มันอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นะ"

"ก็พูดดีๆ แล้วนายไม่ยอมจอดนี่"

"สติน่ะหัดมีมั่งนะ โตขนาดนี้แล้ว หัวคิดไม่มีเลยรึไง คิดจะไปพังงานแต่งแฟนเก่าแบบนี้
ไม่ห่วงอนาคตตัวเองบ้างรึไง ดีนะที่พ่อฉันหรือผู้ใหญ่เบิ้มๆ ในกองทัพมาเป็นประธาน
ไม่ได้เพราะติดงานลูกสาวท่าน ผบทอ." ติณณ์ต่อว่าหญิงสาวเสียงดังเพราะรู้สึกทน
ไม่ได้ที่เห็นเธอทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้

"นายไม่มาเป็นฉันนายจะไปเข้าใจอะไร"

เมื่อหญิงสาวกดเปิดล็อก ติณณ์ก็จับรั้งแขนของหญิงสาวเอาไว้ เพราะกลัวว่าหากปล่อย
ให้ลงรถไปทั้งๆ ที่ยังอยู่ในสภาพเมามายแบบนี้แล้ว เธอก็อาจจะไปประสบอุบัติเหตุ
หกล้มหรือถูกรถชนจนเป็นอันตรายได้

"จะบ้าอีกนานไหมฮะ ทำตัวไร้สติอยู่ได้" ติณณ์ตวาดเสียงดังใส่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่