วิญญาณพยาบาท

กระทู้สนทนา
บทที่ 1…สิ้นสุดการรอคอย จุดเริ่มต้นการแก้แค้น

ยามในวิกาลเช่นนี้ถนนเล็กๆ ที่มุ่งหน้าไปบ้านของเจตน์เงียบสงัด นานๆ ครั้งจะมีรถแล่นสวนมาสักคัน แสงไฟนีออนจากเสาไฟกิ่งติดๆ ดับๆ เป็นช่วง ทำให้ถนนดูเปลี่ยววังเวงมากขึ้น ค่ำคืนที่มืดสลัวทำให้เจตน์มองเห็นไอหมอกบางๆ ที่ลอยอ้อยอิ่งขึ้นจากพื้นผิวดินและซีเมนต์ราวกับผ้าม่านบางๆ

ไม่บ่อยครั้งนักที่เจตน์จะได้กลับบ้านเร็ว  หากแต่วันนี้เขารับผู้โดยสารได้เพียงไม่กี่คน ตั้งแต่ออกจากบ้านบ่ายสี่โมงจนเวลาล่วงเวลาจะสี่ทุ่มแล้ว เขาสู้อุตส่าห์อดทนรอมาหลายชั่วโมงจนหมดสิ้นความหวังที่จะได้ผู้โดยสารมากกว่านี้ จึงตัดสินใจกลับบ้านไปนอนพักเอาแรงดีกว่า
  
ขณะกำลังคิดอะไรโน่นนี่นั่น ฝ่าเท้าต้องแตะเบรครถชะลออย่างไว เมื่อสายตาแลเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินอยู่ข้างทางในซอยเปลี่ยว เขาค่อยๆ เคลื่อนรถชะลอผ่านหญิงสาวทันมองเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้...  เขารีบตัดสินใจทันทีด้วยความห่วงใยต่อหญิงสาวแปลกหน้าก่อนแตะเบรคหยุดรถ หากปล่อยให้หญิงสาวเดินคนเดียวในสภาพเช่นนี้ในซอยเปลี่ยว มีหวังไม่รอดโดนพวกบ้าหื่นกามลากไปข่มขื่นแน่

"มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ" เจตน์รีบถามทันทีที่ก้าวลงจากรถ ด้วยความไม่ทันตั้งตัวทำให้หญิงสาวถอยหลังด้วยความหวาดระแวงเล็กน้อยเมื่อเห็นชายแปลกหน้าตรงหน้า
"ขอโทษครับที่ทำให้คุณตกใจ" เจตน์รีบบอกเมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาว "ผมเห็นคุณเดินร้องไห้อยู่คนเดียว" เงียบไม่มีเสียงตอบจากหญิงสาวนอกจากเสียงสะอื้นไห้
"บ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง เดินคนเดียว ซอยก็เปลี่ยวมันอันตรายครับ" เจตน์ไม่รีรอฟังคำตอบ รีบกุลีกุจอเปิดประตูด้านหลังอย่างไว "เชิญครับ"

หญิงสาวทำท่าอิดออดเล็กน้อยด้วยความหวาดระแวงไม่ไว้ใจ แต่เมื่อเห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของคนขับรถแท็กซี่จึงยอมให้เขาไปส่งที่บ้านแต่โดยดี

ตลอดเวลาที่อยู่ในรถ หญิงสาวยังคงร้องสะอึกสะอื้น คนขับรถแท็กซี่ลอบมองผ่านกระจกหลังเป็นระยะ
  
"น้องไม่กลัวใครฉุดเหรอครับมาเดินค่ำๆ มืดๆ คนเดียว" หญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะหลังส่ายหัวปฏิเสธ "ถ้าบ้านผมไม่ผ่านมาทางนี้ ผมไม่มาหรอก ผมกลัว"
  
"กลัวผี" เสียงสั่นเครือประโยคแรกหลุดออกจากปากของหญิงสาว
  
"ผีเผ่อ ไม่กลัวหรอก กลัวคนมากกว่า" ถ้าเขาหูไม่ฝาด เขาว่าเขาได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของหญิงสาวที่ฟังดูน่าสยดสยอง เมื่อลอบมองผ่านกระจกหลังก็ยังเห็นธอร้องไห้เหมือนเดิมจึงคิดว่าตัวเองหูฝาดไปเอง
  
เมื่อยังเห็นหญิงสาวไม่มีท่าจะหยุดร้องไห้ เขานึกขึ้นได้ว่ามีผ้าเช็ดหน้าอยู่ผืนหนึ่งยังไม่ได้ใช้อยู่ในช่องเก็บของหน้ารถ จึงเอื้อมมือหยิบ
"เช็ดน้ำตาเถอะครับ" เขาบอกขณะส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอ "ผืนใหม่ยังไม่ได้ใช้"
  
หญิงสาวเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดหน้าจากคนขับแท็กซี่ใจดี แต่เขากลับสะดุ้งเล็กน้อยทันทีเมื่อมือเขาสัมผัสโดนมือเธอ ...คนอะไรตัวเย็นอย่างกะแช่แข็ง...
  
หญิงสาวเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มอย่างเบามือ
‘เช็ดคราบน้ำตาแล้วสวยขึ้นตั้งเยอะ’ เจตน์คิดในใจ เขาเพิ่งเห็นดวงหน้าของหญิงสาวชัดๆ หลังจากแอบลอบมองทรวดทรงของเธอที่อรชร จนทำให้เขาต้องหยุดรถรับเธอ ตลอดระยะทางถึงแม้ว่าเธอจะก้มหน้าก้มตาก็ตาม แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าเธอสวยมาก ด้วยหน้าตาที่สะสวยบวกกับเนินอกที่อวบอิ่มทำให้จิตใจของชายหนุ่มเริ่มฟุ้งซ่านควบคุมอารมณ์กลัดมันไว้ไม่อยู่แล้ว
  
หญิงสาวที่เคยนั่งสะอื้นไห้อยู่ดีๆ ตอนนี้ค่อยๆ ผล็อยหลับแน่นิ่งไปแล้ว
"คุณครับคุณ" เจตน์ตะโกนเรียกผู้โดยสารสาวอยู่หลายครั้งจนแน่ใจว่าหญิงสาวหลับสนิท จึงหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าไปในซอยเล็กๆ ทันทีก่อนจะหยุดรถ
"คุณครับคุณ" เพื่อให้แน่ใจว่าหญิงสาวหลับสนิทจริงเขาจึงทดลองเรียกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ไหวติง เขาจึงก้าวลงจากรถมาเปิดประตูด้านหลัง

สายตาของคนขับรถแท็กซี่ที่ดูอ่อนโยนเมื่อครู่หายไป แววตาเปี่ยมด้วยความหื่นกระหาย จับจ้องไปยังร่างของผู้โดยสารสาว ด้วยหน้าตาที่สะสวยบวกกับเนินอกที่อวบอิ่มและต้นขาขาวๆ ยิ่งทำให้จิตใจของชายหนุ่มยามนี้กระจัดกระเจิงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาใช้มือหยาบกร้านค่อยๆ ลูบไล้เรือนร่างของหญิงสาวก่อนบรรเลงแกะกระดุมเสื้อของเขาและเธอออกจนหมด เขาไม่รอช้ารีบโผเข้าหอมแก้มนวลนุ่มของหญิงสาวอย่างหื่นกระหาย โดยไม่ทันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวจากที่เคยงดงามนวลละออกลับเขียวคล้ำซ้ำเลือดช้ำหนอง มีหนอนไซออกจากเบ้าตาและริมฝีปากที่น่าเปื่อยเห็นฟันซี่ดำที่มีเลือดไหลซึม

ทันทีที่คนขับแท็กซี่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหญิงสาว เขาสะดุ้งถอยผงะด้วยความกลัวสุดขีด
  
"ผะ....ผี"

เจตน์ส่งเสียงร้องอย่างคนเสียขวัญ แต่ช้าไปแล้ว เขาถูกผีสาวตนนั้นพันธการด้วยอำนาจลึกลับ ทำให้ไม่สามารถขยับร่างกายได้ ยังคงอยู่ในท่าคร่อมผีสาว และผีสาวค่อยๆใช้ลิ้นยาวๆ ตวัดไปมาบนใบหน้าของเขาอย่างสะอิดสะเอียน เขาอยากจะเบนหน้าหนีแต่ก็ทำไม่ได้ตั้งใจคิด จึงได้แต่หลับตาปี๋ไม่มองใบหน้าที่น่าสยดสยองตรงหน้า
  
"ปล่อยฉันเถอะนะ ฉันกลัวแล้ว" เจตน์อ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว
  
"กลัวหรือ?" ผีสาวย้อนถามก่อนหัวเราะดังลั่นปวดโสตประสาท "ทีวันนั้นพวงไม่เห็นกลัว กูก็ร้องขออย่างนี้ จำได้ไหม?"
  
เจตน์ตะลึงงงกับคำบอกของผีสาว วันนั้น...วันไหน เขาไปทำอะไรผีสาว เขานึกไม่ออก...
  
"กูรู้อยู่แล้วว่า ไอ้พวกคนเลวมันจำเรื่องๆ ไม่ได้หรอก" เหมือนผีสาวจะรู้จึงเอ่ยบอก สิ้นเสียงภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตก็ถูกฉายย้อนกลับมาราวกับเปิดภาพยนตร์
..................................


เจตน์ในอดีตไม่ได้เป็นคนขับรถแท็กซี่แต่เป็นหนุ่มโรงงาน ทุกๆ วันศุกร์หลังจากเลิกงานแล้วเขามักจะไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ เป็นประจำกว่าจะกลับบ้านเข็มนาฬิกาก็แตะเกือบเที่ยงคืน และในวันนั้นเขายังคงดำเนินกิจวัตรเช่นทุกครั้ง ขณะที่เขากำลังขับรถมอเตอร์ไซด์กลับห้องพักด้วยความที่เมาเหล้าเล็กน้อย เขาเห็นร่างของหญิงสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินอยู่ข้างทางคนเดียว ท่าทางเหมือนวิ่งหนีอะไรสักอย่าง ด้วยทรวดทรงของหญิงสาวทำให้เขารีบเร่งความเร็วรถหยุดเลยหน้าเธอไปเล็กน้อย
  
"น้องสาวจะไหน ให้พี่ไปส่งไหม" เจตน์ถามขณะที่เดินซวนเซไปหาหญิงสาว  เธอไม่ตอบแต่กลับเดินเลี่ยงไปอีกทางแต่เขาเข้ามาขวางหน้าเสียก่อน
"เดี๋ยวพี่ไปส่ง" ไม่บอกเปล่าชายหนุ่มแปลกหน้าถือวิสาสะจับแขนหญิงสาวไว้
"ปล่อยฉัน ปล่อย..." หญิงสาวยายามสะบัดมือออกจากชายหนุ่ม แต่ก็ไม่หลุด
"โอะโอ...ร้องไห้ด้วย" น้ำเสียงยียวนของเขาพลางเอื้อมมือมาปาดคราบน้ำตาบนใบหน้า หญิงสาวรีบเบนหน้าหนีอย่างไว "ไปสนุกกับพี่ดีกว่า รับรองจะลืมเรื่องเศร้าไปเลย ฮ่า ฮ่า"
  
เจตน์หัวเราะพลางพูดพร้อมกระชากหญิงสาวให้ไปด้วยกัน แต่หญิงสาวขัดขืน เขาเห็นท่าจะไม่ได้และไม่อยากเสียเวลามากนักกับฤทธิ์เดชของหญิงสาว จึงปล่อยหมัดไปยังท้องน้อยเพื่อสกัดแรง ทันใดนั้นร่างของหญิงสาวก็ทรุดตัวลงกองกับพื้น
"โอะโอ...ได้เวลาสนุกกันแล้ว" เขาไม่รอช้ารีบอุ้มร่างเบาบางของหญิงสาวพาดบ่าหายเข้าไปในป่ารกร้างข้างทางก่อนที่จะปลดปล่อยอารมณ์อย่างหื่นกระหาย
..................................


"มันเลวไม่เคยเปลี่ยน" ผีสาวตะโกนบอกหลังหนังในอดีตจบลง
  
"ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว" เจตน์ยกมือไหว้ขอชีวิตปลกๆ
  
"คนอย่าง ไม่รู้จักสำนึกหรอก สมควรตาย ฮ่า ฮ่า"
  
เจตน์รีบผละออกมาจากรถวิ่งหนีเตลิดไปในป่ารกชันข้างทางอย่างไม่คิดชีวิต
  
"สมควรตาย" เสียงของผีสาวตะโกนดังกึกก้อง ก่อนจะหายตัวไปมาไล่หลังเขาตามมาติดๆ

แล้วเจตน์ก็วิ่งพลาดไปสะดุดกับก้อนหิน ก่อนร่างของเขาจะเซล้มลงบนท่อนไม้ปลายแหลมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นใช้นั่งร้านของพวกก่อสร้างแถวนั้นทิ้งไว้ เสียบคาอกเสียงดังซวบ... เลือดสีแดงข้นไหลทะลักออกมา ดวงตาของเขาเหลือกลานด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ร่างจะกระตุกอยู่สองสามทีแล้วแน่นิ่งไม่ไหวติงคาท่อนไม้นั้นอย่างสยดสยอง

"กูให้โอกาสแล้ว แต่ยังเลวซ้ำซากอีก ฮ่า ฮ่า ๆๆ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่