ตอน เธอนี่มันน่า...
เมื่อเธอปาลูกบอลออกไปยังพุ่มไม้ที่อีกฝั่งของรั้วบ้าน ก็มีเสียงร้องเสียงหนึ่งดังขึ้นทันทีที่ลูกบอลลูกนั้นหายลับสายตาไปหลังพุ่มไม้
“โอ๊ย”
ส่วนเจ้าสุนัขที่วิ่งหน้าเริ่ดตามลูกบอลไปก็ถึงกับเบรคเอี๊ยดทันทีที่มันได้ยินเสียงร้องอันนั้นเช่นกัน
ขณะที่คนและหมากำลังยืนนิ่งอึ้งกันอยู่นั้น เจ้าของเสียงร้องก็ผุดลุกขึ้นมาทันที
“เฮ้ย ใครปาอะไรมาใส่หัวฉันวะ”
และทันทีที่หญิงสาวซึ่งรีบวิ่งเข้ามาจะขอโทษเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของเธอได้เห็นหน้าของชายหนุ่มซึ่งยืนกุมหัวหน้าหงิกงออยู่ชัด ๆ หล่อนก็ถึงกับชะงักไปทันที
“ไอ้พี่แม๊ค” หญิงสาวเผลอหลุดอุทานชื่อของชายหนุ่มซึ่งมีรูปร่างกำยำสูงใหญ่ตรงหน้าออกมาเบา ๆ ทันที
ชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาหล่อเหลาซึ่งยืนหน้าแดงอยู่ด้วยความโกรธก็ตวัดสายตาพิฆาตไปยังหญิงสาวที่น่าจะเป็นคนปาลูกบอลมาใส่หัวของเขา และเมื่อเขาเห็นหน้าเธอเขาก็ร้องออกมาเสียงดังทันทีว่า
“ยัย...กางเกงเล”
หลังจากคนทั้งสองอึ้งกันไปแค่ครู่เดียว ร่างสูงก็เริ่มร้องถามคนที่หยุดนิ่งอยู่ไม่ไกลทันทีว่า
“เธอปาลูกบอลมาใส่หัวฉันทำไมฮะ”
“ก็...ปามาให้ไอ้ไมโลมัน” เธอหันไปชี้นิ้วใส่เจ้าสุนัขที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ๆ ทันที แต่พอมันเห็นแบบนั้นมันก็กลับทำเสียงร้องหงิง ๆ เหมือนกับมันกำลังจะบอกว่า
‘เฮ้ย เค้าไม่เกี่ยวกับงานนี้นะ’
และเมื่อติณภพณ์หันไปส่งสายตาอำมหิตใส่ เจ้าตูบจอมขี้ขลาดก็รีบวิ่งหนีไปทันที
“นี่อย่ามาโทษหมาบ้านฉันสิ ที่มีกว้างตั้งเป็นไร่ แต่เธอกลับปามาตรงนี้ เธอบ้ารึเปล่าฮะ” ติณภพณ์ต่อว่าคนตรงหน้าอย่างตาขวาง ๆ ทันทีเพราะจนตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกทั้งเจ็บและมึนหัวอยู่เลย
“นี่แล้วใครใช้ให้นายไปนั่งอยู่หลังพุ่มไม้เล่า ที่มีเป็นไร่ ไม่รู้จักไปอยู่ตรงที่คนเค้ามองเห็นเล่า” วินชญาเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ชายหนุ่มทันที
“ฉันกำลังหมุนเปิดวาล์วน้ำเพราะจะต่อสายยางไปไว้ให้พวกซุ้มในงานเลี้ยงทางด้านนู้นเค้าไว้ใช้กัน” ร่างสูงเริ่มโมโหแบบปรี๊ดแตกแล้วเมื่อยังไม่ได้ยินคำขอโทษหลุดออกมาจากปากของคนตรงหน้าสักคำ
“อ๋อ หรอ ก็ฉันไม่รู้นี่ ใครมันจะไปมองทะลุพุ่มไม้ได้เล่า” ร่างบางยกมือขึ้นกอดอกและเริ่มลอยหน้าลอยตาพูดแบบแถ ๆ อย่างหาทางลงไม่ได้
“นี่ยัยกางเกงเล เธอหายไปซะตั้งนานสองนาน แต่พอเจอหน้าฉันปุ๊บนี่เธอก็คิดจะหาเรื่องกันเลยใช่มั้ย” ร่างสูงเดินเข้าไปยืนทำหน้าตาถทึงตรงหน้าของหญิงสาว
วินชญาจิกตาใส่ติณภพณ์ก่อนจะตวัดเสียงตอบไปว่า “ฉันไม่ได้ชื่อกางเกงเล บอกมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่เข้าใจหรือไงฮะ”
ชายหนุ่มรู้สึกหมั่นไส้คนอวดดีตรงหน้าเหลือคณา เขาจึงค่อย ๆ ย่างเท้าปรี่เข้าไปหาร่างบางอย่างน่ากลัว จนหญิงสาวถึงกับต้องรีบถอยกรูดหนีร่างสูงไปทางด้านหลัง จนหล่อนถอยไปเหยียบเข้ากับแถวกระถางต้นไม้ที่ตั้งเรียงกันเป็นแนวอยู่บริเวณแถวนั้นเข้า เจ้าหล่อนถึงกับร้องเสียงหลงออกมาว่า
“เฮ้ย” ในตอนที่หล่อนเกือบจะหงายหลังล้มลงไปใส่กระถางต้นไม้ทางด้านหลัง
แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น ร่างสูงก็รีบคว้าตัวของร่างบางเข้ามากอดแนบอกเอาไว้ได้ทันเสียก่อนที่หล่อนจะล้มลง ก็เลยกลายเป็นว่าคนทั้งคู่ไปอยู่ในท่ากอดกันเสียอย่างนั้น
เมื่อร่างบางหายตกใจและได้สติ หล่อนก็เริ่มดิ้นขลุกขลักและร้องโวยวายเสียงดังในอ้อมกอดที่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของร่างหนา แต่หลังจากนั้นเขาก็กำลังเริ่มจงใจที่จะล็อคตัวของหญิงสาวเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง
“ไอ้พี่แม๊ค ปล่อยนะเว่ย”
“ขอโทษฉัน เรื่องเมื่อกี้ก่อนสิ แล้วจะปล่อย”
แต่แล้วจู่ ๆ เจ้าสุนัขก็รีบวิ่งมาเห่าเสียงดังโฮ่ง ๆ เหมือนเพื่อจะพยายามบอกให้เขาปล่อยหญิงสาวไปซะ
“ไมโล ช่วยแม่ด้วย กัดมันเลยลูก” หญิงสาวรีบหันไปร้องบอกเจ้าสุนัขอย่างพยายามขอความช่วยเหลือ
“บราวนี่ ถอยไป” ติณภพณ์หันไปตวัดสายตาและทำเสียงดุ ๆ ใส่เจ้าตูบไปอีกรอบ มันจึงได้แต่ร้องครางหงิง ๆ แล้วก็ค่อย ๆ นั่งลงแต่ก็ยังไม่วายจะพยายามส่งสายตาบางอย่างให้กับคนทั้งคู่เหมือนเพื่อจะเป็นการบอกติณภพณ์ว่า
‘นายครับ ปล่อยเธอไปเถอะนะครับ นาย’
และมันก็มองหน้าวินชญาด้วยแววตาประมาณเหมือนเพื่อจะบอกเธอว่า
‘นายหญิง ผมขอโทษนะครับ แต่ผมคงช่วยเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ ไม่งั้นผมคงโดนเฉดหัวออกจากบ้านหลังนี้แหง ๆ’
แต่เจ้านายหนุ่มของมันก็หาสนใจแววตาขอร้องของเจ้าหมาน้อยไม่ เขาหันกลับมามองหน้าคนตรงหน้าด้วยสายตาเยาะเย้ยก่อนจะถามขึ้นว่า
“ไงล่ะ หมามันยังไม่ช่วยเธอเลย ทีนี้ก็ขอโทษฉันมาได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะแปลเจตนานะว่าเธออยากจะให้ฉันกอดเธอไว้นาน ๆ” ร่างสูงพูดด้วยสายตาที่แลดูเต็มไปด้วยความสะใจปนสมใจเสียเต็มประดา
อุ่นรักในกองบิน ตอนที่ 2 มาแล้วจ้า ;)
เมื่อเธอปาลูกบอลออกไปยังพุ่มไม้ที่อีกฝั่งของรั้วบ้าน ก็มีเสียงร้องเสียงหนึ่งดังขึ้นทันทีที่ลูกบอลลูกนั้นหายลับสายตาไปหลังพุ่มไม้
“โอ๊ย”
ส่วนเจ้าสุนัขที่วิ่งหน้าเริ่ดตามลูกบอลไปก็ถึงกับเบรคเอี๊ยดทันทีที่มันได้ยินเสียงร้องอันนั้นเช่นกัน
ขณะที่คนและหมากำลังยืนนิ่งอึ้งกันอยู่นั้น เจ้าของเสียงร้องก็ผุดลุกขึ้นมาทันที
“เฮ้ย ใครปาอะไรมาใส่หัวฉันวะ”
และทันทีที่หญิงสาวซึ่งรีบวิ่งเข้ามาจะขอโทษเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของเธอได้เห็นหน้าของชายหนุ่มซึ่งยืนกุมหัวหน้าหงิกงออยู่ชัด ๆ หล่อนก็ถึงกับชะงักไปทันที
“ไอ้พี่แม๊ค” หญิงสาวเผลอหลุดอุทานชื่อของชายหนุ่มซึ่งมีรูปร่างกำยำสูงใหญ่ตรงหน้าออกมาเบา ๆ ทันที
ชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาหล่อเหลาซึ่งยืนหน้าแดงอยู่ด้วยความโกรธก็ตวัดสายตาพิฆาตไปยังหญิงสาวที่น่าจะเป็นคนปาลูกบอลมาใส่หัวของเขา และเมื่อเขาเห็นหน้าเธอเขาก็ร้องออกมาเสียงดังทันทีว่า
“ยัย...กางเกงเล”
หลังจากคนทั้งสองอึ้งกันไปแค่ครู่เดียว ร่างสูงก็เริ่มร้องถามคนที่หยุดนิ่งอยู่ไม่ไกลทันทีว่า
“เธอปาลูกบอลมาใส่หัวฉันทำไมฮะ”
“ก็...ปามาให้ไอ้ไมโลมัน” เธอหันไปชี้นิ้วใส่เจ้าสุนัขที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ๆ ทันที แต่พอมันเห็นแบบนั้นมันก็กลับทำเสียงร้องหงิง ๆ เหมือนกับมันกำลังจะบอกว่า
‘เฮ้ย เค้าไม่เกี่ยวกับงานนี้นะ’
และเมื่อติณภพณ์หันไปส่งสายตาอำมหิตใส่ เจ้าตูบจอมขี้ขลาดก็รีบวิ่งหนีไปทันที
“นี่อย่ามาโทษหมาบ้านฉันสิ ที่มีกว้างตั้งเป็นไร่ แต่เธอกลับปามาตรงนี้ เธอบ้ารึเปล่าฮะ” ติณภพณ์ต่อว่าคนตรงหน้าอย่างตาขวาง ๆ ทันทีเพราะจนตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกทั้งเจ็บและมึนหัวอยู่เลย
“นี่แล้วใครใช้ให้นายไปนั่งอยู่หลังพุ่มไม้เล่า ที่มีเป็นไร่ ไม่รู้จักไปอยู่ตรงที่คนเค้ามองเห็นเล่า” วินชญาเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ชายหนุ่มทันที
“ฉันกำลังหมุนเปิดวาล์วน้ำเพราะจะต่อสายยางไปไว้ให้พวกซุ้มในงานเลี้ยงทางด้านนู้นเค้าไว้ใช้กัน” ร่างสูงเริ่มโมโหแบบปรี๊ดแตกแล้วเมื่อยังไม่ได้ยินคำขอโทษหลุดออกมาจากปากของคนตรงหน้าสักคำ
“อ๋อ หรอ ก็ฉันไม่รู้นี่ ใครมันจะไปมองทะลุพุ่มไม้ได้เล่า” ร่างบางยกมือขึ้นกอดอกและเริ่มลอยหน้าลอยตาพูดแบบแถ ๆ อย่างหาทางลงไม่ได้
“นี่ยัยกางเกงเล เธอหายไปซะตั้งนานสองนาน แต่พอเจอหน้าฉันปุ๊บนี่เธอก็คิดจะหาเรื่องกันเลยใช่มั้ย” ร่างสูงเดินเข้าไปยืนทำหน้าตาถทึงตรงหน้าของหญิงสาว
วินชญาจิกตาใส่ติณภพณ์ก่อนจะตวัดเสียงตอบไปว่า “ฉันไม่ได้ชื่อกางเกงเล บอกมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่เข้าใจหรือไงฮะ”
ชายหนุ่มรู้สึกหมั่นไส้คนอวดดีตรงหน้าเหลือคณา เขาจึงค่อย ๆ ย่างเท้าปรี่เข้าไปหาร่างบางอย่างน่ากลัว จนหญิงสาวถึงกับต้องรีบถอยกรูดหนีร่างสูงไปทางด้านหลัง จนหล่อนถอยไปเหยียบเข้ากับแถวกระถางต้นไม้ที่ตั้งเรียงกันเป็นแนวอยู่บริเวณแถวนั้นเข้า เจ้าหล่อนถึงกับร้องเสียงหลงออกมาว่า
“เฮ้ย” ในตอนที่หล่อนเกือบจะหงายหลังล้มลงไปใส่กระถางต้นไม้ทางด้านหลัง
แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น ร่างสูงก็รีบคว้าตัวของร่างบางเข้ามากอดแนบอกเอาไว้ได้ทันเสียก่อนที่หล่อนจะล้มลง ก็เลยกลายเป็นว่าคนทั้งคู่ไปอยู่ในท่ากอดกันเสียอย่างนั้น
เมื่อร่างบางหายตกใจและได้สติ หล่อนก็เริ่มดิ้นขลุกขลักและร้องโวยวายเสียงดังในอ้อมกอดที่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของร่างหนา แต่หลังจากนั้นเขาก็กำลังเริ่มจงใจที่จะล็อคตัวของหญิงสาวเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง
“ไอ้พี่แม๊ค ปล่อยนะเว่ย”
“ขอโทษฉัน เรื่องเมื่อกี้ก่อนสิ แล้วจะปล่อย”
แต่แล้วจู่ ๆ เจ้าสุนัขก็รีบวิ่งมาเห่าเสียงดังโฮ่ง ๆ เหมือนเพื่อจะพยายามบอกให้เขาปล่อยหญิงสาวไปซะ
“ไมโล ช่วยแม่ด้วย กัดมันเลยลูก” หญิงสาวรีบหันไปร้องบอกเจ้าสุนัขอย่างพยายามขอความช่วยเหลือ
“บราวนี่ ถอยไป” ติณภพณ์หันไปตวัดสายตาและทำเสียงดุ ๆ ใส่เจ้าตูบไปอีกรอบ มันจึงได้แต่ร้องครางหงิง ๆ แล้วก็ค่อย ๆ นั่งลงแต่ก็ยังไม่วายจะพยายามส่งสายตาบางอย่างให้กับคนทั้งคู่เหมือนเพื่อจะเป็นการบอกติณภพณ์ว่า
‘นายครับ ปล่อยเธอไปเถอะนะครับ นาย’
และมันก็มองหน้าวินชญาด้วยแววตาประมาณเหมือนเพื่อจะบอกเธอว่า
‘นายหญิง ผมขอโทษนะครับ แต่ผมคงช่วยเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ ไม่งั้นผมคงโดนเฉดหัวออกจากบ้านหลังนี้แหง ๆ’
แต่เจ้านายหนุ่มของมันก็หาสนใจแววตาขอร้องของเจ้าหมาน้อยไม่ เขาหันกลับมามองหน้าคนตรงหน้าด้วยสายตาเยาะเย้ยก่อนจะถามขึ้นว่า
“ไงล่ะ หมามันยังไม่ช่วยเธอเลย ทีนี้ก็ขอโทษฉันมาได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะแปลเจตนานะว่าเธออยากจะให้ฉันกอดเธอไว้นาน ๆ” ร่างสูงพูดด้วยสายตาที่แลดูเต็มไปด้วยความสะใจปนสมใจเสียเต็มประดา