ห้องรับแขก – อาคารสำนักงานเอกภพ
โซฟากลางห้องเต็มไปด้วยเอกสารเก่า กล่องแฟ้มผุ ๆ และถ้วยกาแฟที่เย็นจนจับตัวเป็นวงบนกระดาษ
เอกภพนั่งพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าเคร่งเครียด
เยาวภานั่งฝั่งตรงข้าม ไฟล์เสียงจากเครื่องบันทึกถูกเล่นคลอเบา ๆ
เสียงในเครื่องบันทึก:
“เขา…ฆ่าพ่อฉัน…”
บรรจงยืนพิงหน้าต่าง สูบบุหรี่เงียบ ๆ สายตามองออกไปนอกกระจก
ก่อนหันกลับมาเอ่ยช้า ๆ
บรรจง
“คำพูดแค่นี้ไม่ใช่หลักฐาน แต่ก็เพียงพอจะทำให้ใครบางคนกลัว”
เยาวภา
“กลัวว่าอะไรจะถูกขุดขึ้นมาอีก… หรือกลัวว่าเธอคนนี้—” (เธอชี้ภาพอรสา)
“—จะจำเรื่องทั้งหมดได้?”
เอกภพลูบขมับ รู้สึกถึงความคืบหน้าที่ปะปนกับอันตราย
เอกภพ
“คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ธรรมดา เรากำลังเดินอยู่ในบ้านที่มีกับดักซ่อนอยู่ทุกมุม”
บรรจงเดินกลับมานั่ง เขาเปิดแฟ้มอีกเล่ม แล้วดันเอกสารหนึ่งไปทางเอกภพ
บรรจง
“นี่คือการเคลื่อนไหวล่าสุดของ ‘ประทีป’…ที่น่าสนใจคือ เขาเริ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับแผนกทรัพย์สินของห้าง ทั้งที่หน้าที่เขาไม่มีสิทธิ์”
บรรจง
“เขาถูกหลอก…และไม่รู้ตัวเลยว่าโดนใช้เป็นเครื่องมือเข้าถึงเอกสารที่พวกเราเองยังเข้ายาก”
เยาวภา
“แล้วคนที่อยู่เบื้องหลัง…คือใครกันแน่?”
ทุกอย่างเงียบไปชั่วขณะ
เอกภพวางปากกาลง แล้วหยิบภาพถ่ายเก่าออกมาหนึ่งใบ
ใบหน้าของชายคนหนึ่งในภาพ — แต่งกายเรียบ มีท่าทีสุขุม นัยน์ตาคมลึก
เอกภพ (เสียงต่ำ)
“พิเชษฐ์…เขาไม่ใช่แค่นักธุรกิจธรรมดา“
เยาวภาเงยหน้าขึ้นทันที
เยาวภา
“หมายความว่า…เขารู้เรื่องทั้งหมด?”
เอกภพ
“และบางที…เขาอาจเป็นคนเดียวที่รู้ว่า ‘วิภา’ ยังไม่ตาย”
กล้องค้างที่ภาพใบหน้าของพิเชษฐ์
รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้านั้น ดูเผิน ๆ ก็เหมือนคนธรรมดา
แต่เมื่อมองนานเข้า…มันคือรอยยิ้มของคนที่ไม่มีวันลืมอดีต
แม้อดีตจะเต็มไปด้วยเลือดก็ตาม
ตัดสลับ – ห้างวรภักดิ์พานิชย์, แผนกเก็บเอกสาร
ประทีปถือแฟ้มในมือ หน้ายิ้มระรื่น เขาเดินเคียงข้างกับหญิงสาวคนหนึ่ง
หญิงสาวคนนั้นแต่งตัวสุภาพ พูดจาอ่อนโยน แต่แววตาเยียบเย็นราวกับมีดที่ยังไม่ถูกชัก
หญิงสาว
“คุณประทีปคะ…เรื่องเอกสารนี้สำคัญมาก ถ้าเรามีข้อมูลเรื่องกรรมสิทธิ์เดิมก่อนห้างจะสร้างเสร็จ…เราจะได้ต่อยอดโปรเจกต์ใหม่ได้เลย”
ประทีป (หัวเราะนิด ๆ)
“ได้เลยครับคุณอรสา ผมเต็มใจช่วยเต็มที่อยู่แล้ว…”
พิษสวาท อำพราง บทที่ 39: ความจริงไม่เคยอยู่ในบทสนทนา
โซฟากลางห้องเต็มไปด้วยเอกสารเก่า กล่องแฟ้มผุ ๆ และถ้วยกาแฟที่เย็นจนจับตัวเป็นวงบนกระดาษ
เอกภพนั่งพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าเคร่งเครียด
เยาวภานั่งฝั่งตรงข้าม ไฟล์เสียงจากเครื่องบันทึกถูกเล่นคลอเบา ๆ
เสียงในเครื่องบันทึก:
“เขา…ฆ่าพ่อฉัน…”
บรรจงยืนพิงหน้าต่าง สูบบุหรี่เงียบ ๆ สายตามองออกไปนอกกระจก
ก่อนหันกลับมาเอ่ยช้า ๆ
บรรจง
“คำพูดแค่นี้ไม่ใช่หลักฐาน แต่ก็เพียงพอจะทำให้ใครบางคนกลัว”
เยาวภา
“กลัวว่าอะไรจะถูกขุดขึ้นมาอีก… หรือกลัวว่าเธอคนนี้—” (เธอชี้ภาพอรสา)
“—จะจำเรื่องทั้งหมดได้?”
เอกภพลูบขมับ รู้สึกถึงความคืบหน้าที่ปะปนกับอันตราย
เอกภพ
“คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ธรรมดา เรากำลังเดินอยู่ในบ้านที่มีกับดักซ่อนอยู่ทุกมุม”
บรรจงเดินกลับมานั่ง เขาเปิดแฟ้มอีกเล่ม แล้วดันเอกสารหนึ่งไปทางเอกภพ
บรรจง
“นี่คือการเคลื่อนไหวล่าสุดของ ‘ประทีป’…ที่น่าสนใจคือ เขาเริ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับแผนกทรัพย์สินของห้าง ทั้งที่หน้าที่เขาไม่มีสิทธิ์”
บรรจง
“เขาถูกหลอก…และไม่รู้ตัวเลยว่าโดนใช้เป็นเครื่องมือเข้าถึงเอกสารที่พวกเราเองยังเข้ายาก”
เยาวภา
“แล้วคนที่อยู่เบื้องหลัง…คือใครกันแน่?”
ทุกอย่างเงียบไปชั่วขณะ
เอกภพวางปากกาลง แล้วหยิบภาพถ่ายเก่าออกมาหนึ่งใบ
ใบหน้าของชายคนหนึ่งในภาพ — แต่งกายเรียบ มีท่าทีสุขุม นัยน์ตาคมลึก
เอกภพ (เสียงต่ำ)
“พิเชษฐ์…เขาไม่ใช่แค่นักธุรกิจธรรมดา“
เยาวภาเงยหน้าขึ้นทันที
เยาวภา
“หมายความว่า…เขารู้เรื่องทั้งหมด?”
เอกภพ
“และบางที…เขาอาจเป็นคนเดียวที่รู้ว่า ‘วิภา’ ยังไม่ตาย”
กล้องค้างที่ภาพใบหน้าของพิเชษฐ์
รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้านั้น ดูเผิน ๆ ก็เหมือนคนธรรมดา
แต่เมื่อมองนานเข้า…มันคือรอยยิ้มของคนที่ไม่มีวันลืมอดีต
แม้อดีตจะเต็มไปด้วยเลือดก็ตาม
ตัดสลับ – ห้างวรภักดิ์พานิชย์, แผนกเก็บเอกสาร
ประทีปถือแฟ้มในมือ หน้ายิ้มระรื่น เขาเดินเคียงข้างกับหญิงสาวคนหนึ่ง
หญิงสาวคนนั้นแต่งตัวสุภาพ พูดจาอ่อนโยน แต่แววตาเยียบเย็นราวกับมีดที่ยังไม่ถูกชัก
หญิงสาว
“คุณประทีปคะ…เรื่องเอกสารนี้สำคัญมาก ถ้าเรามีข้อมูลเรื่องกรรมสิทธิ์เดิมก่อนห้างจะสร้างเสร็จ…เราจะได้ต่อยอดโปรเจกต์ใหม่ได้เลย”
ประทีป (หัวเราะนิด ๆ)
“ได้เลยครับคุณอรสา ผมเต็มใจช่วยเต็มที่อยู่แล้ว…”