ลุงป้าเล่าเรื่อง กินอะไรดีเมืองสุราษฎร์ (ตอนที่ 4)

ยาม อุษาฟ้ากระจ่าง
ทั่วนภางค์สว่างแล้ว
ตื่นนินทราเสียเถิด น้องแก้ว
สว่างแล้วนะ แก้ว ตา
เหมือนเสียงเพลง อุษาสวาท ดังก้องในหู เดิมผมชอบเพลงนี้อยู่แล้วยิ่งรู้สึกชอบมากขึ้นเมื่อ เพื่อนร่วมห้องเรียน ม ปลาย อภิรัฐ พุกกะเวส บอกว่า
“เพลงนี้พ่อกู แต่งให้แม่กูเอง”
ทำให้รู้สึกชอบมากขึ้น ก็พ่อเขาเป็นนักแต่งเพลง สุนทราภรณ์นี่
ผมเป็นคนตื่นเช้ามาก (04.30) เป็นแบบนี้ประจำ ช้าก็ไม่เกิน ตีห้าตื่นมาก็อาบน้ำแล้วก็ เปิดวิทยุฟังปรีชา ทรัพย์โสภา
เฮ้ยไม่ใช่ซิ ลุงปรีชาตายไปยี่สิบกว่าปีแล้ว
นั่งอ่านอะไรต่อมิอะไรในโทรศัพท์ จนหกโมงครึ่งค่อยปลุกป้าแกก็ได้
“เช้านี้จะกินอะไรดี” ป้าถาม
“อยากกินกาแฟ ที่ ขายเป็นพวงๆ มีปาท่องโก๋ นั่งสบายๆ แต่กาแฟนกเงือก รสชาติไม่ซ้ำแบบใครแล้วแต่ใจคนชง ไม่เอานะ ถ้าได้ริมน้ำยิ่งดี ใหญ่” ผมไม่รู้หรอกที่ไหน เมือง สุราษฎร์ ยิ่งมาครั้งแรก ไปไม่ถูกด้วย
ป้าขับรถ วนออกถนนเส้นหลัก เมืองสุราษฎร์ จำได้แค่ปากซอยมีห้างอะไรไม่รู้เก่าแก่ของสุราษฎร์
“ไปริมน้ำบ้านดอน ดีกว่า กินเสร็จไปเกาะลำพูกันก็ยังได้” ป้าพูด
“พี่ จอดรถเลย ตรงนี้เลย” ผม ชี้ ไปที่ร้านกาแฟ ร้านหนึ่งมันสุดยอดมาก ครบเครื่องเรื่อง ของกินดูเหมือนจะติดๆ กับบ้านพักอัยการ ริมแม่น้ำ ด้วย
ร้านนี้ชื่ออะไรยังไม่เคยจำจนวันนี้
กาแฟให้อร่อย มันต้อง กาแฟ คั่วตรงนั้น ร้อนๆ มีแก้วเล็กๆ ชงกาแฟจากถุงกาแฟ ส่าย เอ้ยใส่นม เยอะๆ
ป้าพัน นั่งปุ๊บสั่ง ตามแบบ คนเรียบร้อย
“ข้าวต้มหมูถ้วยนึงค่ะ” ป้าสั่ง
“บะกุ๊ดเต๋ !!” ผมร้องมั่ง
มาเมืองใต้ ไม่กินบะกุ๊ดเต๋ นี่ถือว่ามาไม่ถึง ผมรู้จัก บะกุดเต๋ ครั้งแรก ตอนมาประชุมที่จุลดิศหาดใหญ่(ปี 2537) แล้ว คนแถวนั้นแนะนำให้ลองกิน อืมอร่อย
บะกุดเต๋ จะว่าไปก็คือ ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน นี่แหละ มันจะมีผง ยาจีน เอาง่ายๆ เหมือนผงพะโล้ มัง ความหอมอร่อยอยู่ที่ผง มันตรงนี้แหละ นี่นึกถึง ผงบะกุดเต๋ที่พี่สาวแสนดีส่งมาให้จากหาดใหญ่ ต้องรีบต้มเร็วๆ นี้ พอดีสองสามวันนี้ เซ็งๆ งานเซ็งคนจนหมดแรง
บะกุดเต๋ ผมจะชอบ ที่ตุ๋นจนเนื้อหมูแทบร่อนจากกระดูก ใส่เห็ดหอมเยอะๆ มีเห็ดเข็มทองด้วย
สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้มันอร่อย มาก คือต้องเดือดๆ จากเตาเลย แล้วกินกับข้าวสวยนุ่มๆ ร้อนๆ นี่แหละ สุดยอด
ผมไม่สนใจ แล้วสั่งมาชามหนึ่งข้าวเปล่าถ้วยหนึ่ง
ป้าพันมองผมแบบงงๆ ผมจะดีใจอะไรกันนักหนา กับบะกุดเต๋ ถ้วยเดียว
โธ่ คนเรานะครับ ความสุขไม่จำเป็นต้องหูฉลาม เนื้อวากิว หรือ อะไรแพงๆ ถ้าได้กินอะไรที่ชอบที่พอใจ กินในบรรยากาศแบบนี้ ยามเช้ากาแฟร้อนหอมๆ คู่กับชาจีน ล้างปาก
มีปาท่องโก๋ กับนมข้นหวานถ้วยเล็กๆ ให้ป้าบ่นเล่นๆว่า
“พอได้แล้วน้ำตาลขึ้น เกิน 100 แน่พอๆ”
แล้วมีบะกุดเต๋ ร้อนๆ เจ้านี้เขาสุดยอดมาก
บะกุดเต๋ ใน ถ้วยกระเบื้องหนา เขาเผาถ้วยก่อน แล้วค่อยตักใส่ จากนั้นเอาตะขอเกี่ยวมา ตั้งที่โต๊ะเลย หกใส่ ลูกค้า มีหวังซวย
บะกุดเต๋ ร้อนๆ ไอขึ้น โรยพริกไทย หอมๆ แค่นี้มันสุดยอดแล้วครับ ไม่ต้องหากินอะไร
ป้าพัน นั่งมอง ผมกินอย่างอร่อย
“นี่แหละ ผมคนเมืองชลลูกน้ำเค็มตื่นเช้าต้องได้กิน เกาเหลา กับข้าวสวยร้อน มันถึงอร่อย คล่องคอที่นี่ได้บะกุดเต๋ มันสุดยอดจริงๆ พี่”
ป้าคงเห็นผมกินอย่างมีความสุข เลยเงียบไม่บ่น เรื่องปาท่องโก๋ จิ้มนมหรือป้าแกลืมก็ไม่รู้
ชีวิตคนเราก็แค่นี้แหละครับ สุขเป็นก็เป็นสุข ความสุข ไม่จำเป็นต้องแพง แต่ ได้อะไรที่พอควรในเวลาที่เหมาะสม กินข้าว กับคนที่รู้ใจอะไรก็ดีหมด
กินอิ่มแล้ว สมองค่อยคิดได้ว่าจะไปไหน เมืองร้อยเกาะแห่งนี้ ต้องมีอะไรดีๆ ที่ผมยังไม่รู้อีกแน่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่