ซึ่ง จิต ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสทำนองว่า จิตดวงหนึ่งดับไป จิตดวงหนึ่งเกิดขึ้น สืบต่อตลอดวันตลอดคืน
ดังนั้นแม้จิตดวงใหม่ก็ย่อมเกิดจากผลกรรมหรือมีวิบากจากจิตดวงเก่านั้นเอง
หมายเหตุ การกล่าวว่า จิตเป็นดวงก็เป็นเพียงบัญญัติ เพื่อให้เข้าใจได้
กายนี้ก็ไม่เที่ยง จิตนี้ก็ไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
พึงพิจจารนาเนืองๆ ว่า นั้นไม่ใช่เรา นั้นไม่ใช่ของเรา นั้นไม่ใช่ตัวตนของเรา
การยึดมั่นถือมั่นในกายหรือใจ ย่อมเป็นสักกายทิฎธิ
การถือมั่นว่าจิตเที่ยง ย่อมนำไปสู่ มิจฉาทิฎธิ
อวิชชา เป็นปัจจัย จึงมี กาย-ใจ เวียนเกิด-ตาย กายที่เกิดมาย่อมเกิดจากกรรมเก่า
ดังนั้นแม้จิตดวงใหม่ก็ย่อมเกิดจากผลกรรมหรือมีวิบากจากจิตดวงเก่านั้นเอง
หมายเหตุ การกล่าวว่า จิตเป็นดวงก็เป็นเพียงบัญญัติ เพื่อให้เข้าใจได้
กายนี้ก็ไม่เที่ยง จิตนี้ก็ไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
พึงพิจจารนาเนืองๆ ว่า นั้นไม่ใช่เรา นั้นไม่ใช่ของเรา นั้นไม่ใช่ตัวตนของเรา
การยึดมั่นถือมั่นในกายหรือใจ ย่อมเป็นสักกายทิฎธิ
การถือมั่นว่าจิตเที่ยง ย่อมนำไปสู่ มิจฉาทิฎธิ