ย้อนรอย Uni Air 873 เมื่อนักกีฬาฮีโร่ของประเทศกลายเป็นอาชญากร

การจำกัดของเหลวสำหรับการบินถือเป็นเรื่องร้ายแรง  เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งที่นำขึ้นมานั้นสามารถเปลี่ยนเป็นระเบิดได้หรือไม่ จึงต้องมีความเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง

แล้วเราจะมาดูกันว่าเมื่อความหละหลวมและความมักง่ายของบางคน มันจะกลายเป็นหายนะและทำให้คนๆ นั้นหมดอนาคตไปเลย 


วันที่ 24 สิงหาคม ปี 1999
สายการบิน Uni Air 873 เดินทางจาก ซงซาน ไปยังฮัวเหลียน ไต้หวัน


เที่ยวบินนี้ใช้เวลาเพียง 20 นาทีโดยเที่ยวบินนี้ ผู้โดยสาร 90 คนรวมลูกเรือเป็น 96 คน โดยการบินครั้งนี้นักบินผู้ช่วยยังไม่มีประสบการณ์มากนัก


ฮัวเหลียน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากสำหรับชาวไต้หวัน หน้าร้อนในเดือนสิงหาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการท่องเที่ยว 
เครื่องที่ใช้เป็นเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ท้าย MD – 90 รุ่นใหม่ของบริษัทโบอิ้ง เปิดตัวมาได้ 4 ปีแล้ว และได้รับความนิยมพอสมควร


ระหว่างทำการลงจอดนักบินที่ 1 เริ่มวิตกกับลงจอดของเขา ความเร็วที่ใช้ลงจอดของเขาสูงเกินไป 


การลงจอดครั้งนี้ของเขาค่อนข้างแรง และเริ่มคุมความเร็วไม่อยู่ กัปตันจึงตัดสินใจควบคุมแทน โดยถือเป็นประสบการณ์ของนักบินที่ 1 ที่จะเรียนรู้ในอนาคต กัปตันเปิดตัวกลับแรงดันเพื่อให้เครื่องค่อยๆ ชะลอลง การลงจอดไม่มีอะไรผิดปกติ 


จนกระทั้งในเคบิ้น เกิดเสียงระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงและเกิดไฟลุกท่วมตรงกลางลำ แบบไม่คาดคิด


ไฟเริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว  ผู้โดยสารเริ่มตื่นตระหนก เท่านั้นยังไม่พอไฟฟ้าอุปกรณ์บนเครื่องก็ดับตามไปด้วย กัปตันแจ้งสัญญาน Mayday โดยทันที


ในเคบิ้นผู้โดยสารไม่อยากรอแล้ว แล้วเริ่มหนีตาย โดยที่เครื่องยังไม่หยุดสนิท  สถานการณ์เลวร้ายเข้าไปทุกที พนักงานต้อนรับทำอะไรไม่ได้นอกจากรอคำสั่งอพยพจากนักบิน  


ในที่สุดเครื่องก็หยุดสนิท และกัปตันได้สั่งอพยพทันที พวกเขามีเวลาไม่กี่วินาทีเพื่ออพยพ ในขณะที่ทีมดับเพลิงก็ได้พยายามดับไฟที่โหมกระหน่ำไม่หยุด


กัปตันเป็นคนสุดท้ายที่อพยพออกมาจากเครื่องได้สำเร็จ หน้าที่ของเขาคือตรวจดูว่ามีผู้โดยสารหลงเหลืออยู่หรือไม่ก่อนออกจากเครื่อง


ในที่สุดหลังจากผ่านมากกว่าชั่วโมงพวกเขาก็สามารถควบคุมเพลิงได้ แต่ทีมช่วยเหลือสามารถนับจำนวนผู้โดยสารได้ 59 คนจาก 90 คนเท่านั้น พวกเขาจึงต้องตรวจซากเครื่องว่ามีใครหลงเหลืออยู่หรือไม่ โชคดีไม่พบศพของใครบนเครื่อง 


ผู้โดยสาร 28 คนถูกส่งโรงพยาบาลส่วนใหญ่สาเหตุมาจากไฟ แต่น่าเศร้าผู้โดยสาร 1 คนเสียชีวิตหลังจากมาถึงโรพยาบาลได้ 47 วัน และคนท้องแก่ 1 คนอายุ 26 ปีที่พึ่งแต่งงานต้องเสียเด็กในท้องไป 


คณะกรรมการสืบสวนอุบัติเหตุการบินของไต้หวันหรือ ASC  เริ่มการสืบสวน พวกเขาพึ่งเริ่มตั้งทีมมาได้ปีกว่า ถือว่าเป็นงานใหญ่งานแรกของเขา ดร. Kay yong จะเป็นผู้กำกับการสืบสวน โดยทีม ASC ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อปรับปรุงมาตรฐานการบินของไต้หวันที่ซึ่งมีสถิติที่แย่มานาน ให้มาดีขึ้น


จาการสืบสวนซากเครื่องได้ระเบิดจากภายในและกระจายออกมาข้านนอก โดยไม่มีหลักฐานการชนใดๆ เลย


MD90 ในช่วงนั้นมีมากกว่า 100 ลำ นิยมใช้ในเส้นทางระยะสั้น โดยเฉพาะเช่น Delta Airline ใช้รุ่นนี้เป็นหลักพวกเขาต้องการคำตอบโดยเร็ว 
จากการสอบปากคำพนักงานตอนรับ เธอบอกว่าได้ยินเสียงระเบิดออกมาในตัวเครื่อง ไม่ใช้แค่เฉพาะไฟ ขณะกำลังจะแจ้งผู้โดยสารเรื่องการลงจอดพอดี


ทีมสืบสวนรู้อีกว่าการระเบิดเกิดขึ้นเหนือหัวทางซ้ายด้านหน้าของเคบิ้น โดยไม่มีสิ่งผิดปกติ และพนักงานทุกคนก็รายงานมาในแบบเดียวกัน 
ทีมสืบสวนหวั่นใจว่าอาจจะเป็นระเบิด


ตำรวจตั้งทีมสืบสวนอาชญากรรมแยกมาขึ้นมาจากของดอกเตอร์ Yong เพื่อสืบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้อง  นอกจากนี้ 4 วันหลังเกิดเหตุ คณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมของสหรัฐหรือ NTSB และสำนักงานบริหารบินของสหรัฐหรือ FAA ก็ได้ส่งทีมสืบสวนมาเพราะเครื่องผลิตในสหรัฐ


เครื่องไม่มีความเสียหายตรงส่วนอื่น แต่ตรงส่วนเพดานลำตัวเสียหายจากไฟอย่างรุนแรง Ed Kittel เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของ FAA และเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมสืบสวน เขาตรวจซากเครื่องเพื่อหาร่องรอยการระเบิด ด้วยความชำนาญของเขา เขาเห็นทันทีเลยว่าการระเบิดเกิดที่แถวที่ 8 เหนือช่องเก็บของ 


ระเบิดแรงสูงเมื่อทำงานจะส่งแก๊สความร้อนสูงออกมา และเผาทะลุโลหะ และจะเกิดเป็นรูเล็ก เหมือนผิวดวงจันทร์


แต่สิ่งที่เขาพบ สภาพที่เห็นคือสภาพหมุดที่หลุดออกไประหว่างแผ่นโลหะลำตัว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เกิดระเบิดแรงดันสูงขนาดดันหมุดหลุดออกไปได้ 


ข้อมูลจาก CVR ทุกอย่างปกติจนพวกเขาได้ยินเสียงระเบิด ซึ่งออกมาทื่อและความถี่คงที่ 


เสียงไม่เหมือนกับระเบิด ที่จะดังขึ้นมาสูงและความถี่ลดต่ำลงทันที


พวกเขานำเสียงไปเทียบกับเสียงระเบิดของหน่วยงาน NTSB และพวกเขาก็ได้ผลการเปรียบเทียบที่ตรงกัน มันเป็นเสียงระเบิดของ 
น้ำมันเชื่อเพลิง


การระเบิดของเชื้อเพลิงบนเครื่องพบไม่บ่อยแต่มันอันตราย เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดเกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 1996 สายการบิน TWA800 ระเบิดกลางอากาศจากสายไฟลัดวงจร ไปยังเครื่องมาตรวัดปริมาณน้ำมันในถังที่มีน้ำมันระเหยเป็นไอและระเบิดกลางอากาศ


แต่จาก FDR พวกเขาไม่พบรายละเอียดอะไรเกี่ยวปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่อง Uni Air 873 เลย พวกเขาจึงหันไปสนใจที่แถวที่นั่ง 8B ที่เกิดระเบิดขึ้น  พวกสงสัยว่าอาจมีใครเอาระเบิดขึ้นเครื่อง

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่