วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ให้เข้ามารีวิวห้องอาหาร Amaya Food Gallery เทศกาล Italian Night บุฟเฟ่ต์จัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีเวลา 18.00 - 22.30 ราคาคนละ 650++ (ไม่รวมเครื่องดื่มทุกชนิด) เด็กทีอายุต่ำกว่า 12 ปีจ่ายแค่ครึ่งราคา รับส่วนลดทันที 20% เพียงจองผ่านลิงค์นี้ก่อนเข้าใช้บริการ http://bit.ly/2YniDAT โดยเราสามารถสั่งอาหารจานหลักได้ 1 จาน แล้วสามารถไปลุยกับชีส/สลัด/โคล์ดคัทสไตล์อิตาเลียนได้แบบเต็มที่ เมนูจานหลักเลือกได้ทั้งพาสต้า 6 ชนิดคือ1.Fettuccini Carbonara 2. Tagliatelle Alla braccio di ferroท 3. Panne arrabiata 4. Linguini Mare e Monti 5. Risotto rice fiorella และ 6. Spaghetti Al ragu และพิซซ่าอีก 6 เมนูได้แก่ 1. Margherita 2. Quattro Formaggi 3. Mare e Monti 4.Tonno 5. Polloและ
6.Calzone ส่วนไลน์อาหารที่ตักทานได้ไม่อั้นนั้นมีอะไรให้เราทานบ้าง ? เดี๋ยวเราเข้าไปในห้องอาหารกันเลยครับผม

บรรยากาศภายในห้องอาหารก็เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่วันนี้เปิดแค่โซนเดียวคือบริเวณหน้าเตาอบพิซซ่าอิตาเลียน ไฟภายในห้องอาหารค่อนข้างมืดสลัวแต่มีการจุดเทียนสร้างบรรยากาศให้รู้สึกโรแมนติก เหมาะแก่การพาคู่รักมานั่งทานอาหารอิตาเลียนด้วยกันภายใต้แสงเทียน ใครกำลังหาที่เดทกันอยู่ล่ะก็ ที่นี่ถือว่าบรรยากาศดีมากครับ

เข้ามาโซนแรกจะพบกับไวน์หลากหลายประเภททั้งขาวและแดง มีทั้งแบบวางแช่เย็นบนน้ำแข็งและอุณหภูมิห้องปกติ ซึ่งที่เห็นทั้งหมดนี้ไม่รวมในรายการบุฟเฟ่ต์นะครับ ถ้าอยากดื่มก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นราคา A la Carte เองนะ

เริ่มสำรวจไลน์อาหารที่เราสามารถตักทานได้ไม่อั้นกันดีกว่าครับ โซนแรกเป็น Cold Cut และสลัดพร้อมทาน เมนูแรกเริ่มด้วย 1. Caprese สลัดมะเขือเทศสดพร้อมมอสซาเรลล่าชีสสดราดด้วยน้ำมันมะกอก Extra Vergin 2. Frutti Di Mare สลัดซีฟู้ดต้มสุกเต็มไปด้วยกุ้ง/หมึก/หินคลุกกับมะเขือเทศและพริกหยวกสามสี 3. Beef Carpaccio เนื้อดิบหั่นบางปรุงรสด้วยสมุนไพรทานกับพาเมซานชีสสไลด์บาง 4. Involtini Di Zucchine E Salmone Affumicato ปลาแซลมอนรมควันห่อด้วยเฟตูชินี ตรงกลางเป็นชีสรสนุ่มนวล 5. Procoiutto Con Melone พาม่าแฮมเค็มหอมพันเมลอนรสหวานเข้ากันเป็นอย่างดี 6. Verdura D’Estate Grilliata ผักรวมย่างหลากหลายประเภททั้งแครอท/เฟตตูชินี่/มะเขือเทศ/มะเขือม่วง/พริกหยวก และของทอดอย่าง Calamari หรือปลาหมึกวงชุบแป้งทอดสไตล์อิตาเลียน ทานกับ Pomodoro หรือซอสมะเขือเทศสด วางใต้ไฟสีส้มร้อนๆพร้อมทาน

ต่อกันด้วยเมนูแฮมและซาลามี่ต่างๆที่มีวางไว้ให้ทานแบบจัดเต็มสุดๆทั้ง 1. Salami Milano ซาลามี่หมูแบบไขมันน้อยรสเปรี้ยวอ่อนๆคล้ายแหนม แต่มีกลิ่นเครื่องสมุนไพรแบบฝรั่ง 2. Salami Napoli ซาลามี่หมูแบบไขมันเยอะกว่า ทำให้มีสัมผัสนุ่มมากกว่าแบบแรก มีกลิ่นพริกไทยรสเผ็ดเล็กน้อย 3. Beef Pastrami เนื้อวัวส่วนไขมันน้อยรสเค็ม หอมกลิ่นเครื่องเทศและกลิ่นรมควัน 4. Black Forest Ham เป็นแฮมสดหมูแบบรมควัน ไขมันแห้งเคี้ยวอร่อย สุดท้าย 5. Parma Ham แฮมหมูสดรสเค็มรสชาติที่เราคุ้นเคย จะทานเปล่าๆหริอทานคู่กับแตงกวาดอง/มะกอกเขียวดอง/ต้นหอมดองมาวางไว้ให้ทานเป็นกระปุกขนาดใหญ่โต ใครที่เป็นสายแฮมได้ทานจุใจแน่ๆครับ

ถัดมาเป็นขบวนเหล่าชีสที่เรียงรายมาให้ได้ชิมหลากหลายชนิด ทั้ง 1. Blue Cheese 2. Pramesan Cheese 3. Gorgonzola Cheese 4. Brie Cheese 5. Fontina Cheese ทานคู่กับผลไม้แห้ง/ถั่วหลากหลายชนิด/แยมผลไม้ต่างๆและขนมปังแครกเกอร์กรอบ หรือจะทานคู่กับขนมปังหลากหลายชนิดที่วางอยู่ข้างกันด้วยก็อร่อยดีครับ

ส่วนขนมหวานก็มีให้ทานทั้งหมด 3 ชนิดได้แก่ 1. Millefoglie Alle Fragole เป็นพายมิลเฟยแป้งบางกรอบหอมกลิ่นเนย สอดไส้ตรงกลางด้วยไส้ครีมวนิลาและสตรอเบอรี่สด 2. Dark Chocolate Mousse มูสดาร์คช๊อกโกแลตรสเข้มข้น หวานเล็กน้อยเพิ่มความหอมสดชื่นด้วยส้มสด สุดท้ายคือ 3. Tiramisu ขนมเลดี้ฟิงเกอร์แช่เหล้าผสมกาแฟอยู่ระหว่างครีมรสวนิลา ท๊อปปิ้งด้านบนสุดด้วยผงกาแฟและซอสช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้นหวานกำลังดีขนมถึงแม้จะมีในไลน์อาหารให้เลือกเพียง 3 อย่าง แต่คุณภาพดี รสชาติเข้มข้น ไม่หวานเกินไปทั้ง 3 อย่างเลยครับ

พิซซ่าที่นี่เป็นแป้งแบบบางกรอบ โดยใช้แป้งสดทำใหม่ตีเป็นแผ่นใหญ่ถาดต่อถาด อบในเตาถ่านสไตล์อิตาเลียน มีทั้งแบบพิซซ่าแบบปกติและแบบพัฟพิซซ่าเมื่อเรา Oder จากโต๊ะแล้วเชฟจะทำให้เราสดใหม่ทันที ได้ทานร้อนๆครับ

เมนูพาสต้าก็เช่นเดียวกัน ที่เชฟจะผัดให้เราใหม่กระทะต่อกระทะ แต่ก็ไม่ถึงกับว่าใช้เส้นสดในการทำพาสต้าทุกเมนู แต่ลวกเส้นมากำลังดี มาการเล่นกับไฟในการผัดพาสต้าเมนูต่างๆมีกลิ่นหอมและเหมือนเป็นการดูโชว์ไปในตัว

เมนูที่สั่งไปมาเสิร์ฟแล้วเต็มโต๊ะเลย และ เนื่องจาก PR เชิญให้เราเข้ามารีวิวเลยได้สิทธิ์พิเศษในการสั่งอาหารจานหลักได้ไม่อั้น เมนูแรกเป็นพิซซ่า Mare e Monti เป็นพิซซ่าหน้ากุ้ง/หมึก/หอย ราดด้วยซอสมะเขือเทศสด โรยหน้าด้วยซอสมอสซาเรลล่าชีส แป้งบางกรอบ หอมกลิ่นอบถ่าน ความเปรี้ยวของซอสมะเขือเทศเข้ากันได้ดีกับชีสหอมๆและซีฟู๊ดต้มเนื้อเด้งๆ ลงตัวดีครับ ต่อมาคือ Calzone หรือพิซซ่าพัฟไส้ไก่ผสมเห็ด/ซอสมะเขือเทศสดและชีส มอสซาเรลล่า แป้งด้านนอกกรอบ เนื้อในชุ่มฉ่ำอร่อยดีครับ อีกถาดเป็น Quattro Formaggi พิซซ่าที่ฐานด้านล่างเป็นซอสมะเขือเทศสด โรยหน้าด้วยชีส 4 ชนิดได้แก่ Mozzarella/Gorgonzola/Fontina/Parmesan ได้ทั้งรสเค็ม/หอมกลิ่นนมและมันชีส ตัดความเลี่ยนด้วยความเปรี้ยวจากซอสมะเขือเทศเข้มข้น เข้ากันได้เป็นอย่างดีเลยครับ

มาชิมเมนูพาสต้ากันบ้างจานแรกคือ Linguini Mare e Monti เส้นสปาเก็ตตี้ผัดซอสมะเขือเทศสดเข้มข้นผัดเก็บใบโหระพาสะระแหน่ ใส่เนื้อกุ้ง/ปลาหมึก/หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เพิ่มความหอมด้วยไวน์ขาวและพาเมซานชีส ได้รสทั้งความเปรี้ยว/เค็ม/มัน หอมกลิ่นใบโหระพาสดชื่น จานต่อมาคือ Fettuccini Carbonara เป็นพาสต้าเส้นแบนผัดกับซอสคาโบนาร่าเข้มข้นตามสูตรมาตรฐาน รสชาติเค็มมัน หอมกลิ่นเบคอนและพาเมซานชีสถึงเครื่องดีครับ ต่อมาคือเมนู Panne arrabiata เส้นแพนเน่ที่ลวกมาสุกกำลังดี (มีความกรุบนิดๆ) ผัดซอสมะเขือเทศผสมพริกหยวกแดงและพาเมซานชีส หวานพริกหยวกสีแดง เปรี้ยวมะเขือเทศ เค็มรสชีสหอมกลมกล่อม ทานง่ายดีครับ

พาสต้าจานสุดท้ายคือ Risotto rice fiorella ข้าวสายพันธุ์ Arborio ผัดกับชีส Gorgonzola เนื้อไก่สับมะเขือเทศอบแห้ง ผักโขมและพาเมซาชีส ได้ทั้งความเหนียวหนึบของข้าวและเนื้อไก่ หอมชีส/ผักโขมตัดรสเปรี้ยวด้วยมะเขือเทศอบแห้ง ได้หลายสัมผัสในจานเดียวดีครับ ทุกชุดเสิร์ฟพร้อมขนมปังฟอคคาเซีย ที่มีความเค็มนวลและหอมเนยชุ่มฉ่ำ มาพร้อมน้ำมันมะกอกและบัลซามิกหอมเปรี้ยว ปิดท้ายด้วยไอศกรีมที่สั่งทานได้เรื่อยๆอีก 2 รสชาติ คือรสวนิลาและช๊อกโกแลตแบบเจลาโต้เข้มข้น เนื้อไอศกรีมไม่ค่อยเนียนละเอียดแต่ก็ไม่เหมือนใครดีครับ