สูตรเค้กชิฟฟ่อน
ส่วนที่1 แป้งเค้ก 35 กรัม
น้ำตาลทราย 10 กรัม
น้ำใบเตย 15 กรัม
กลิ่นวนิลา 1/4 ชช
ผงฟู 1/2 ชช
เกลือ 1/8 ชช
น้ำมันพืช 35 กรัม
ไข่แดง 2 ฟอง
ส่วนที่2
ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 30 กรัม
ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ชช (หรือน้ำมะนาว 1 ซีก)
วิธีทำ
1. นำของแห้ง น้ำตาลทรายและเกลือ ใส่ลงอ่างผสม โดยร่อนแป้งกับผงฟูก่อน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันทำเป็นหลุมตรงกลางไว้
2. นำของเหลว น้ำมัน, น้ำใบเตย, ไข่แดงและกลิ่นวนิลา เทลงในชามผสมของแห้งคนให้เข้ากันดี พักไว้รอผสมกับไข่ขาวที่ตีตั้งยอดอ่อน
3. นำไข่ขาวมาตีกับน้ำตาลทรายให้ขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน แล้วนำไปผสมกับส่วนที่เราพักไว้ในอ่างผสม ผสมให้เข้ากันดีโดยใช้ตะกร้อมือตะล่อมไข่ขาวให้เข้ากันกับเนื้อแบตเตอร์ให้พอไข่ขาวไม่เป็นก้อน แล้วเปลี่ยนมาใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน(ใช้ไม้พายเพื่อป้องกันการเกิดฟองอากาศ)
Note
แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนในการตีไข่ขาว บางสูตรจะตีไข่ขาวให้ขึ้นนิดนึงก่อนค่อยใส่น้ำตาลทราย การใส่น้ำตาลทรายอาจจะแบ่งใส่เป็นสองส่วน ทยอยใส่ทีละส่วน หรือ ใส่ทีเดียวหมด เค้กจะนุ่มละเอียดหรือหยาบก็ตอนตีไข่ขาวกับตอนตะล่อมส่วนผสมแบตเตอร์ก่อนนำไปอบนะครับ ถ้าตีไข่ขาวตั้งยอดแข็งเกินไป ตัวแบตเตอร์ก็จะไม่เนียน เพราะไข่ขาวจะแตกเม็ดเล็กๆ
4. เทใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษ อบไฟบนล่าง 180 องศา นานประมาณ 20-25 นาที อย่าลืมเคาะพิมพ์ไล่ฟองอากาศออกก่อนอบด้วยนะครับ
Note
วิธีเช็คว่าเค้กสุกได้ที่หรือยัง สำหรับมือใหม่ให้ใช้ไม้จิ้มลูกชิ้นเล็กๆเสียบเข้าไปดู ถ้ามีเศษเนื้อเค้กติดมากลักษณะคล้ายๆดินเหนียวแสดงว่ายังไม่สุก หรือถ้าไม่มีเศษอะไรติดมาเลยแสดงว่าสุกแล้ว(ระวังสุกมากเกินไปเนื้อเค้กจะแห้ง) สำหรับผู้ที่ฝึกฝนจนชำนาญแล้วให้ใช้นิ้วมือกดลงไปที่เค้ก ถ้าเนื้อเค้กกดแล้วไม่เป็นรอยเด้งสู้มือแสดงว่าสุกแล้ว ถ้าลองสังเกตเวลาตอนกดจะมีเสียงคล้ายๆฟองน้ำ แสดงว่าสุกกำลังดีเค้กจะหอม นุ่ม ฉ่ำมากๆ
Note
เวลาที่ใช้ในการอบของแต่ละบ้านและแต่ละเตาจะไม่เท่ากัน การปรับอุณหภูมิให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิจากในเตาจะแน่นอนที่สุด หมั่นฝึกฝน ให้เรารู้ใจกับเตาอบและชนิดของขนมที่เราต้องการ อย่าไปยึดติดกับสูตรที่ได้มา เพราะถ้าเราเข้าใจในหลักการแล้วเราก็จะสามารถพัฒนาทำขนมต่อยอดไปได้อีก สามารถปรับลด เพิ่มเติม ให้เข้ากับสิ่งที่ตัวเองชอบ สูตรนี้เป็นสูตรพื้นฐานสามารถนำไปปรับใช้กับเค้กชิฟฟ่อนอื่นๆได้อีกหลายชนิด เช่น ชิฟฟ่อนใบเตย ชิฟฟ่อนวนิลา ชิฟฟ่อนอัญชัน ชิฟฟ่อนกาแฟ (ถ้าทำอย่างอื่นเช่น กาแฟ, วนิลา, ส้ม ก็เปลี่ยนสูตรจากน้ำใบเตยเป็นอย่างอื่น เช่น ทำชิฟฟ่อนกาแฟ ก็นำกาแฟผงมาละลายกับน้ำอุ่นแทนน้ำใบเตย เป็นต้น)
❤️ ทำขนมด้วยความสุข ความรู้มาจากการศึกษา ความสำเร็จเกิดจากการลงมือทำ คนที่ไม่เคยล้มเหลวคือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย ❤️
❤️ ลองทำดูกันนะครับ ได้ผลยังไง เอามาให้ดูกันได้นะครับ
❤️ขอบคุณที่ติดตามรับชม
👉 ฝากติดตามทางช่องทางอื่นๆได้ที่
Website :
https://webakelovecooking.com/
Facebook : webakelovecookingschool
Instagram : webakelove_cooking_school
#webakelove
สูตรชิฟฟ่อนเค้ก หอม นุ่ม ฉ่ำ
สูตรเค้กชิฟฟ่อน
ส่วนที่1 แป้งเค้ก 35 กรัม
น้ำตาลทราย 10 กรัม
น้ำใบเตย 15 กรัม
กลิ่นวนิลา 1/4 ชช
ผงฟู 1/2 ชช
เกลือ 1/8 ชช
น้ำมันพืช 35 กรัม
ไข่แดง 2 ฟอง
ส่วนที่2
ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 30 กรัม
ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ชช (หรือน้ำมะนาว 1 ซีก)
วิธีทำ
1. นำของแห้ง น้ำตาลทรายและเกลือ ใส่ลงอ่างผสม โดยร่อนแป้งกับผงฟูก่อน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันทำเป็นหลุมตรงกลางไว้
2. นำของเหลว น้ำมัน, น้ำใบเตย, ไข่แดงและกลิ่นวนิลา เทลงในชามผสมของแห้งคนให้เข้ากันดี พักไว้รอผสมกับไข่ขาวที่ตีตั้งยอดอ่อน
3. นำไข่ขาวมาตีกับน้ำตาลทรายให้ขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน แล้วนำไปผสมกับส่วนที่เราพักไว้ในอ่างผสม ผสมให้เข้ากันดีโดยใช้ตะกร้อมือตะล่อมไข่ขาวให้เข้ากันกับเนื้อแบตเตอร์ให้พอไข่ขาวไม่เป็นก้อน แล้วเปลี่ยนมาใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน(ใช้ไม้พายเพื่อป้องกันการเกิดฟองอากาศ)
Note
แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนในการตีไข่ขาว บางสูตรจะตีไข่ขาวให้ขึ้นนิดนึงก่อนค่อยใส่น้ำตาลทราย การใส่น้ำตาลทรายอาจจะแบ่งใส่เป็นสองส่วน ทยอยใส่ทีละส่วน หรือ ใส่ทีเดียวหมด เค้กจะนุ่มละเอียดหรือหยาบก็ตอนตีไข่ขาวกับตอนตะล่อมส่วนผสมแบตเตอร์ก่อนนำไปอบนะครับ ถ้าตีไข่ขาวตั้งยอดแข็งเกินไป ตัวแบตเตอร์ก็จะไม่เนียน เพราะไข่ขาวจะแตกเม็ดเล็กๆ
4. เทใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษ อบไฟบนล่าง 180 องศา นานประมาณ 20-25 นาที อย่าลืมเคาะพิมพ์ไล่ฟองอากาศออกก่อนอบด้วยนะครับ
Note
วิธีเช็คว่าเค้กสุกได้ที่หรือยัง สำหรับมือใหม่ให้ใช้ไม้จิ้มลูกชิ้นเล็กๆเสียบเข้าไปดู ถ้ามีเศษเนื้อเค้กติดมากลักษณะคล้ายๆดินเหนียวแสดงว่ายังไม่สุก หรือถ้าไม่มีเศษอะไรติดมาเลยแสดงว่าสุกแล้ว(ระวังสุกมากเกินไปเนื้อเค้กจะแห้ง) สำหรับผู้ที่ฝึกฝนจนชำนาญแล้วให้ใช้นิ้วมือกดลงไปที่เค้ก ถ้าเนื้อเค้กกดแล้วไม่เป็นรอยเด้งสู้มือแสดงว่าสุกแล้ว ถ้าลองสังเกตเวลาตอนกดจะมีเสียงคล้ายๆฟองน้ำ แสดงว่าสุกกำลังดีเค้กจะหอม นุ่ม ฉ่ำมากๆ
Note
เวลาที่ใช้ในการอบของแต่ละบ้านและแต่ละเตาจะไม่เท่ากัน การปรับอุณหภูมิให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิจากในเตาจะแน่นอนที่สุด หมั่นฝึกฝน ให้เรารู้ใจกับเตาอบและชนิดของขนมที่เราต้องการ อย่าไปยึดติดกับสูตรที่ได้มา เพราะถ้าเราเข้าใจในหลักการแล้วเราก็จะสามารถพัฒนาทำขนมต่อยอดไปได้อีก สามารถปรับลด เพิ่มเติม ให้เข้ากับสิ่งที่ตัวเองชอบ สูตรนี้เป็นสูตรพื้นฐานสามารถนำไปปรับใช้กับเค้กชิฟฟ่อนอื่นๆได้อีกหลายชนิด เช่น ชิฟฟ่อนใบเตย ชิฟฟ่อนวนิลา ชิฟฟ่อนอัญชัน ชิฟฟ่อนกาแฟ (ถ้าทำอย่างอื่นเช่น กาแฟ, วนิลา, ส้ม ก็เปลี่ยนสูตรจากน้ำใบเตยเป็นอย่างอื่น เช่น ทำชิฟฟ่อนกาแฟ ก็นำกาแฟผงมาละลายกับน้ำอุ่นแทนน้ำใบเตย เป็นต้น)
❤️ ทำขนมด้วยความสุข ความรู้มาจากการศึกษา ความสำเร็จเกิดจากการลงมือทำ คนที่ไม่เคยล้มเหลวคือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย ❤️
❤️ ลองทำดูกันนะครับ ได้ผลยังไง เอามาให้ดูกันได้นะครับ
❤️ขอบคุณที่ติดตามรับชม
👉 ฝากติดตามทางช่องทางอื่นๆได้ที่
Website : https://webakelovecooking.com/
Facebook : webakelovecookingschool
Instagram : webakelove_cooking_school
#webakelove