☀มงกุฎอัคคี - ปฐมบทต้นเพลิง
ตอนที่ ๑ กลางสมรภูมิ
https://ppantip.com/topic/39253472
ตอนที่ ๒ องค์ชาย
https://ppantip.com/topic/39256876
ตอนที่ ๓ นางทาส
https://ppantip.com/topic/39259835
ตอนที่ ๔ อามิน
https://ppantip.com/topic/39262780
ตอนที่ ๕ ระบำอัคคี
https://ppantip.com/topic/39265661
ตอนที่ ๖ ราชครู
https://ppantip.com/topic/39273815
ตอนที่ ๗ ราชาวิญญาณ
https://ppantip.com/topic/39276170
ตอนที่ ๘ ความลับของสองเรา
https://ppantip.com/topic/39281282
ตอนที่ ๙ สัญญา พันธนาการ
https://ppantip.com/topic/39284612
ตอนที่ ๑๐ แตกหัก
https://ppantip.com/topic/39291908
ตอนที่ ๑๑ กลางเพลิง
https://ppantip.com/topic/39298040
คุณ Furryjit
- ชมจนคนเขียนลอยทะลุเพดานไปแล้ว พอดีรู้สึกว่ามีหลายคนวาดเก่งกว่าเรา ยิ่งคนมากประสบการณ์คนต่างประเทศนี่เก่งๆ เยอะมาก เลยเลือกทำสิ่งที่คิดว่าทำได้ดีกว่า อย่างเขียน... เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้ไม่มีใครซ้ำรอยได้ ชอบอ่านมาตั้งแต่เด็กด้วยค่ะ อ่านหนังสือออกก็จับนิยายแล้ว อยากเล่าเรื่อง จะด้วยภาพหรือด้วยตัวหนังสือก็คือการเล่าเรื่อง แต่ก่อนไฟแรง ตอนนี้ก็มีท้อบ้าง สู้กระแสอันเชี่ยวกรากไม่ไหว ขนาดลงนิยายยังไม่ค่อยมีคนอ่านเลย มันอ่านยากไปมั้ง55 สมัยนี้ต้องง่ายๆ เร็วๆ จนสงสัยว่าพยายามไปเพื่ออะไร แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดซะที
คุณ แจ็ค ในสวนถั่ว
- เป็นคนตลกนะคะ55 อ่านแล้วขำทุกที จงเอาใจช่วยกวางในสวนของท่านต่อไป ดูกวางตัวนี้เกิดมาใหม่ตาจะบอดหรือจะสว่าง ส่วนเตมัน..........
คุณนักอ่านสาวๆ หายไปไหนกันหมดน้า
จบปฐมบทแล้ว มีใครแอบอ่านอยู่แวะมาทักทายคนเขียนบ้างนะคะ
รอยอดีต
ใครบางคนเคยว่าไว้
จิตวิญญาณของมนุษย์อาจโยงใยถึงกัน
ผ่านธารเวลารินไหลดุจเม็ดทราย
หากแต่ใครหลายคนกล่าวไว้เช่นกัน...
เวลานั้นเองจักกลบฝัง ดุจพายุทรายที่โหมมา
ลบเลือนสรรพสิ่งให้สิ้นสูญไป
ข้ามผ่านเนินทรายแห่งกาลเวลา ลูกแล้ว...ลูกเล่า...
สู่ปัจจุบัน ทะเลทรายธาร์ ประเทศอินเดีย
เปลวแดดร้อนระยิบแลบเลียผิวทรายใต้ตะวันจนอากาศพร่าไหว หลายคนต้องปาดเหงื่อที่หยดไหลเจียนเข้าตา...พรายเมฆลวงตาเบื้องหน้าดูเสมือนหนึ่งอาชาขาววิ่งตัดผ่านไปบนเส้นทรายสีทอง กลางดินปนทรายร้อนแล้งนั้นยังมีร่องซึ่งถูกขุดลงไปลึก นานนับเดือนมาแล้วที่พวกเขาได้ขุดลงไปเพื่อค้นหาบางสิ่ง
...เสียงตะโกนเอะอะ เมื่อหีบทองคำใบใหญ่ถูกชักรอกขึ้นมาวางสงบบนพื้นแห้งแตกที่ถูกเม็ดทรายฉาบไว้ หัวหน้าคณะสำรวจรี่เข้ามา ตาวาววับจับจ้องเขม็งยามลูกมือช่วยกันเปิดหีบอย่างระมัดระวัง ชายกลางคนถูมือสั่นระริกเข้าหากัน แทบระงับความกระหายในดวงตามิได้ เมื่อนึกว่าตนรอคอยนาทีนี้มาแสนนานเพียงใด
“ต้นไม้อัคคีบนฝาหีบ ในที่สุด...ก็เจอร่องรอยเมืองสาบสูญในตำนาน” ...แน่นอน ภายในนั้นต้องมีสมบัติล้ำค่า ต้นไม้เพลิงคือสัญลักษณ์แห่งราชา
ฝาหีบแง้มเปิด แสงทองสว่างวาบชวนตะลึงสาดออกมา ปรากฏเป็นฝุ่นผงสีทองเหมือนทรายเนื้อละเอียด แต่หาได้มีสมบัติแม้สักชิ้น มีเพียงบางอย่างที่ดูคล้ายรากไม้ทองคำนอนสงบอยู่
“ทองรึ ?”
ทว่า...ทันทีที่ปลายนิ้วแตะถูก หัวหน้าคณะพลันโหยหวนลั่น !
ทุกคนต่างตะลึงเมื่อร่างศาสตราจารย์นักสำรวจโดนไฟลุกท่วมในพริบตา เขาล้มกลิ้งเกลือกรุนแรงบนทราย พวกพ้องพยายามเข้าช่วยชีวิต ไฟแรงร้ายกลับลามไปติดคนที่พุ่งเข้าช่วยอีกสอง ล้มลงดิ้นเร่าไปตามๆ กัน
...สุดท้าย ไม่มีใครดับไฟนั้นสำเร็จ ได้แต่มองร่างชายเคราะห์ร้ายทั้งสามมอดไหม้ดำเกรียมเป็นตอตะโก
อาถรรพณ์แรงร้ายที่บังเกิดพาให้ทุกคนเงียบกริบ ไม่กล้าแตะต้องสมบัติแห่งความตาย รองหัวหน้าคณะสำรวจนิ่งอั้น ได้แต่ตะลึงค้างอย่างไม่รู้จะจัดการเช่นไร “นี่มันบ้าชัดๆ ผมเพิ่งเคยเห็นเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก”
“คุณยังใหม่อยู่มาก ไม่แปลกที่จะเพิ่งเคยเจอ” ชายชราผิวพื้นเมืองผู้เป็นแขกรับเชิญของคณะสำรวจ เดินเข้ามาตบแขนชายหนุ่มหนักๆ ก่อนเอ่ยต่อ “เผ่าคามา เผ่าพันธุ์แห่งกรรม เขาว่ากันว่าของแรงนัก ถึงได้ไม่เคยมีใครกล้ายื่นมือไปแตะต้อง หลายคนกลัวแม้แต่จะเอ่ยถึงอาณาจักรโบราณที่ถูกสาปให้กลืนหายไปในทราย”
คนฟังยังไม่อาจปลงใจเชื่อเต็มร้อย ทว่าภาพมรณกรรมเบื้องหน้าพาให้สลดเหลือจะเอ่ย ได้แต่ทิ้งตัวนั่งกุมขมับบนทรายอย่างสับสน
“อาจารย์ต้องมาตายไปทั้งแบบนี้ต่อหน้าสิ่งที่ตามหามาตลอด แล้วนี่จะทำยังไง ไอ้ของในหีบผีสิงนั่นมันจะฆ่าใครเป็นรายต่อไป หรือเราต้องวางหีบกลับคืน โอ๊ย ! ผมมืดแปดด้านไปหมดแล้ว” คนพูดตาแดงช้ำ ยกมือขึ้นขยี้หัวแรงๆ
“รู้ไหม ในเวลาแบบนี้ พวกคร่ำหวอดที่เคยผ่านเรื่องเหนือโลกมักเรียกหาคนกลุ่มหนึ่ง”
คนสิ้นหวังเงยขึ้น ก่อนถามแหบล้า “ใครจะช่วยเรา...”
“ตระกูลของเหล่าผู้นำทาง เป็นเสมือนแสงสว่างในวันที่มืดมิด
เมห์ฮรา ”
☀มงกุฎอัคคี ๑๒ มัชฌิมบทโหมไฟ - รอยอดีต .................. {อสิตา}
ตอนที่ ๑ กลางสมรภูมิ https://ppantip.com/topic/39253472
ตอนที่ ๒ องค์ชาย https://ppantip.com/topic/39256876
ตอนที่ ๓ นางทาส https://ppantip.com/topic/39259835
ตอนที่ ๔ อามิน https://ppantip.com/topic/39262780
ตอนที่ ๕ ระบำอัคคี https://ppantip.com/topic/39265661
ตอนที่ ๖ ราชครู https://ppantip.com/topic/39273815
ตอนที่ ๗ ราชาวิญญาณ https://ppantip.com/topic/39276170
ตอนที่ ๘ ความลับของสองเรา https://ppantip.com/topic/39281282
ตอนที่ ๙ สัญญา พันธนาการ https://ppantip.com/topic/39284612
ตอนที่ ๑๐ แตกหัก https://ppantip.com/topic/39291908
ตอนที่ ๑๑ กลางเพลิง https://ppantip.com/topic/39298040
คุณ Furryjit
- ชมจนคนเขียนลอยทะลุเพดานไปแล้ว พอดีรู้สึกว่ามีหลายคนวาดเก่งกว่าเรา ยิ่งคนมากประสบการณ์คนต่างประเทศนี่เก่งๆ เยอะมาก เลยเลือกทำสิ่งที่คิดว่าทำได้ดีกว่า อย่างเขียน... เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้ไม่มีใครซ้ำรอยได้ ชอบอ่านมาตั้งแต่เด็กด้วยค่ะ อ่านหนังสือออกก็จับนิยายแล้ว อยากเล่าเรื่อง จะด้วยภาพหรือด้วยตัวหนังสือก็คือการเล่าเรื่อง แต่ก่อนไฟแรง ตอนนี้ก็มีท้อบ้าง สู้กระแสอันเชี่ยวกรากไม่ไหว ขนาดลงนิยายยังไม่ค่อยมีคนอ่านเลย มันอ่านยากไปมั้ง55 สมัยนี้ต้องง่ายๆ เร็วๆ จนสงสัยว่าพยายามไปเพื่ออะไร แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดซะที
คุณ แจ็ค ในสวนถั่ว
- เป็นคนตลกนะคะ55 อ่านแล้วขำทุกที จงเอาใจช่วยกวางในสวนของท่านต่อไป ดูกวางตัวนี้เกิดมาใหม่ตาจะบอดหรือจะสว่าง ส่วนเตมัน..........
คุณนักอ่านสาวๆ หายไปไหนกันหมดน้า
จบปฐมบทแล้ว มีใครแอบอ่านอยู่แวะมาทักทายคนเขียนบ้างนะคะ
จิตวิญญาณของมนุษย์อาจโยงใยถึงกัน
ผ่านธารเวลารินไหลดุจเม็ดทราย
เวลานั้นเองจักกลบฝัง ดุจพายุทรายที่โหมมา
ลบเลือนสรรพสิ่งให้สิ้นสูญไป
สู่ปัจจุบัน ทะเลทรายธาร์ ประเทศอินเดีย
เปลวแดดร้อนระยิบแลบเลียผิวทรายใต้ตะวันจนอากาศพร่าไหว หลายคนต้องปาดเหงื่อที่หยดไหลเจียนเข้าตา...พรายเมฆลวงตาเบื้องหน้าดูเสมือนหนึ่งอาชาขาววิ่งตัดผ่านไปบนเส้นทรายสีทอง กลางดินปนทรายร้อนแล้งนั้นยังมีร่องซึ่งถูกขุดลงไปลึก นานนับเดือนมาแล้วที่พวกเขาได้ขุดลงไปเพื่อค้นหาบางสิ่ง
...เสียงตะโกนเอะอะ เมื่อหีบทองคำใบใหญ่ถูกชักรอกขึ้นมาวางสงบบนพื้นแห้งแตกที่ถูกเม็ดทรายฉาบไว้ หัวหน้าคณะสำรวจรี่เข้ามา ตาวาววับจับจ้องเขม็งยามลูกมือช่วยกันเปิดหีบอย่างระมัดระวัง ชายกลางคนถูมือสั่นระริกเข้าหากัน แทบระงับความกระหายในดวงตามิได้ เมื่อนึกว่าตนรอคอยนาทีนี้มาแสนนานเพียงใด
“ต้นไม้อัคคีบนฝาหีบ ในที่สุด...ก็เจอร่องรอยเมืองสาบสูญในตำนาน” ...แน่นอน ภายในนั้นต้องมีสมบัติล้ำค่า ต้นไม้เพลิงคือสัญลักษณ์แห่งราชา
ฝาหีบแง้มเปิด แสงทองสว่างวาบชวนตะลึงสาดออกมา ปรากฏเป็นฝุ่นผงสีทองเหมือนทรายเนื้อละเอียด แต่หาได้มีสมบัติแม้สักชิ้น มีเพียงบางอย่างที่ดูคล้ายรากไม้ทองคำนอนสงบอยู่
“ทองรึ ?”
ทว่า...ทันทีที่ปลายนิ้วแตะถูก หัวหน้าคณะพลันโหยหวนลั่น !
ทุกคนต่างตะลึงเมื่อร่างศาสตราจารย์นักสำรวจโดนไฟลุกท่วมในพริบตา เขาล้มกลิ้งเกลือกรุนแรงบนทราย พวกพ้องพยายามเข้าช่วยชีวิต ไฟแรงร้ายกลับลามไปติดคนที่พุ่งเข้าช่วยอีกสอง ล้มลงดิ้นเร่าไปตามๆ กัน
...สุดท้าย ไม่มีใครดับไฟนั้นสำเร็จ ได้แต่มองร่างชายเคราะห์ร้ายทั้งสามมอดไหม้ดำเกรียมเป็นตอตะโก
อาถรรพณ์แรงร้ายที่บังเกิดพาให้ทุกคนเงียบกริบ ไม่กล้าแตะต้องสมบัติแห่งความตาย รองหัวหน้าคณะสำรวจนิ่งอั้น ได้แต่ตะลึงค้างอย่างไม่รู้จะจัดการเช่นไร “นี่มันบ้าชัดๆ ผมเพิ่งเคยเห็นเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก”
“คุณยังใหม่อยู่มาก ไม่แปลกที่จะเพิ่งเคยเจอ” ชายชราผิวพื้นเมืองผู้เป็นแขกรับเชิญของคณะสำรวจ เดินเข้ามาตบแขนชายหนุ่มหนักๆ ก่อนเอ่ยต่อ “เผ่าคามา เผ่าพันธุ์แห่งกรรม เขาว่ากันว่าของแรงนัก ถึงได้ไม่เคยมีใครกล้ายื่นมือไปแตะต้อง หลายคนกลัวแม้แต่จะเอ่ยถึงอาณาจักรโบราณที่ถูกสาปให้กลืนหายไปในทราย”
คนฟังยังไม่อาจปลงใจเชื่อเต็มร้อย ทว่าภาพมรณกรรมเบื้องหน้าพาให้สลดเหลือจะเอ่ย ได้แต่ทิ้งตัวนั่งกุมขมับบนทรายอย่างสับสน
“อาจารย์ต้องมาตายไปทั้งแบบนี้ต่อหน้าสิ่งที่ตามหามาตลอด แล้วนี่จะทำยังไง ไอ้ของในหีบผีสิงนั่นมันจะฆ่าใครเป็นรายต่อไป หรือเราต้องวางหีบกลับคืน โอ๊ย ! ผมมืดแปดด้านไปหมดแล้ว” คนพูดตาแดงช้ำ ยกมือขึ้นขยี้หัวแรงๆ
“รู้ไหม ในเวลาแบบนี้ พวกคร่ำหวอดที่เคยผ่านเรื่องเหนือโลกมักเรียกหาคนกลุ่มหนึ่ง”
คนสิ้นหวังเงยขึ้น ก่อนถามแหบล้า “ใครจะช่วยเรา...”
“ตระกูลของเหล่าผู้นำทาง เป็นเสมือนแสงสว่างในวันที่มืดมิด เมห์ฮรา ”