จากกระทู้ก่อนหน้า
•
สื่อโป๊ะแตก !!! เมื่อดันไปกล่าวหาคนอื่นโดยไม่หาข้อมูลก่อน - ภาค 1
•
สื่อโป๊ะแตก !!! เมื่อดันไปกล่าวหาคนอื่นโดยไม่หาข้อมูลก่อน - ภาค 2
จะเห็นได้ว่านักเคลื่อนไหว และชาวบ้านมีข้อมูลไม่ครบทุกด้าน เชื่อข้อมูลเพียงด้านเดียว ก็สามารถถูกปลุกปั่นให้เข้าใจตามๆ กันแล้วว่า
"รัฐมาไล่ที่ ยกที่ดินให้นายทุนเอาไปใช้ประโยชน์ โดยไม่เห็นใจชาวบ้านตาดำๆ"
แต่แท้จริงแล้วชาวบ้านกำลังถูกปั่นหัวโดยชุดข้อมูลของนักเคลื่อนไหว กับคำว่า "นายทุน" หรือ "เอื้อกลุ่มทุน" เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP มีแผนลงทุนด้วยงบประมาณจำนวนหลัก แสนล้านบาท เพื่อสร้างเมืองใหม่ ณ แปดริ้ว ฉะเชิงเทรา บนพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ ด้วยหลักคิด Smart City ผังเมืองที่เป็นระบบ สาธารณูปโภคครบถ้วน ยกระดับเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่สอดคล้องกับโครงการ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC
ในเมืองจะมีระบบสาธารณูปโภคครบครัน อาทิ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า ฯลฯ และใช้ระบบ Zero Waste หรือ การรีไซเคิลขยะให้เป็นศูนย์ เช่น การรีไซเคิลและแปรรูปขยะให้กลับมาทำประโยชน์ หรือการแปลงขยะกลับมาเป็นพลังงาน เป็นต้น ฯลฯ
ในส่วนของการคมนาคม จะทำเส้นทางการคมนาคมในตัวเมืองเป็น 3 ชั้น ชั้นบนเป็นสวนสาธารณะ ชั้นกลางเป็นถนน และทางรถไฟ ส่วนชั้นล่างสุดเป็นส่วนของ Infra-structure เช่น ขยะ ท่อน้ำเสีย ท่อบริการของระบบไฟฟ้า-ประปา ในขณะที่ศูนย์การค้าและศูนย์ธุรกิจจะอยู่กลางเมือง
จนทำให้สื่อหลายสำนักพยายามหาข้อมูล และชี้จุดไปว่าเมืองใหม่ของซีพีนั้นจะอยู่ตรงไหน อำเภออะไร ทำให้ยิ่งเป็นการกระตุ้นความอยากรู้ของนักลงทุน รวมถึงนายหน้าที่ดิน ยิ่งอยากจะรู้มากเข้าไปอีกว่าอยู่ตรงส่วนไหนของจังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้การกะเก็งกำไรซื้อที่ดินทุนไว้ เพราะจากพื้นที่เกษตรกรรมที่เป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งมีราคาขายต่อไร่ไม่กี่ล้านบาท แต่หากถูกนำไปพัฒนา หรืออยู่ติดกับพื้นที่ที่กำลังจะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ของซีพีแล้ว ยิ่งจะทำให้มูลค่าของที่ดินพุ่งสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว
หรือบางสื่อก็พยายามโยงไปว่า "ที่ราชพัสดุ ที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว" ที่ทางกรมธนารักษ์ได้จัดหาพื้นที่ของรัฐให้กับทางสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก อาจจะเป็นหนึ่งในที่ดินผืนใหญ่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่จะถูกนำไปพัฒนาเป็นเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดีและทันสมัย เพื่อรองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ และเมืองอื่นๆ ในจังหวัดใกล้เคียงอีอีซี
ผนวกกับการที่เจ้าสัวฯ ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องแผนการพัฒนาเมืองของซีพี ยิ่งทำให้ถูกเข้าใจว่า อาจจะอยู่ในที่ดินผืนนี้ก็ได้
เนื่องจากที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขที่ ฉช. 611-614 มีเนื้อที่กว่า 4,000 ไร่
จึงถูกสื่อจับขึงพืดเป็นแพะบูชายัญให้กับคำโกหกคำโต ที่พยายามจับเรื่องนั้นนิด เรื่องนี้หน่อย มาผสมปนเปกันเพื่อให้เป็นข่าว
แต่ไม่ได้มองย้อนกลับไปถึงปูมหลังว่า พื้นที่นี้มีปัญหาข้อพิพาทกันมานานนมระหว่างทหารเรือ และชาวบ้าน ในการไม่ต่อสัญญาเช่าตั้งแต่ปี 2557 เป็นข้อพิพาทติดพันมาจนถึงปัจจุบัน และไม่มีความเกี่ยวข้องใดใดกับทั้งอีอีซี หรือ ซีพี เลย
สื่อโป๊ะแตก !!! เมื่อดันไปกล่าวหาคนอื่นโดยไม่หาข้อมูลก่อน - ภาค 3 (ตอนจบ)
• สื่อโป๊ะแตก !!! เมื่อดันไปกล่าวหาคนอื่นโดยไม่หาข้อมูลก่อน - ภาค 1
• สื่อโป๊ะแตก !!! เมื่อดันไปกล่าวหาคนอื่นโดยไม่หาข้อมูลก่อน - ภาค 2
จะเห็นได้ว่านักเคลื่อนไหว และชาวบ้านมีข้อมูลไม่ครบทุกด้าน เชื่อข้อมูลเพียงด้านเดียว ก็สามารถถูกปลุกปั่นให้เข้าใจตามๆ กันแล้วว่า