ออกหมายจับ "สมหวัง" ผู้มีพระคุณ "จ่าเอ็ม" จ้างสังหาร "ลิม กิมยา" อดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา.
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9590041
ตำรวจโรงพักชนะสงคราม ขอศาล ออกหมายจับ “สมหวัง” ผู้มีพระคุณ “จ่าเอ็ม” จ้างสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา
วันที่ 14 ม.ค.2568 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ นาย
ลี รัตนรัศมี หรือชื่อไทย นาย
สมหวัง บำรุงกิจ อายุ 43 ปี ชาวกัมพูชา ใน 3 ข้อหา เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง
ในคดีที่ นาย
เอกลักษณ์ แพน้อย จ่าเอ็ม กองเรือ ได้รับการจ้างวานให้ก่อเหตุยิง นาย
ลิม กิมยา อดีตสส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา เสียชีวิต โดยผู้มีพระคุณที่จ่าเอ็มระบุเป็นผู้จ้างวานคือ นาย
สมหวัง
"กูรูไพศาล"ปลุกประชาชนซื้อหมู่บ้านจัดสรรที่ดินอัลไพน์ฟ้งเรียกค่าเสียหายกรมที่ดิน
https://siamrath.co.th/n/594035
วันที่ 15ม.ค.68-นาย
ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า
ด่วน
ประชาชนผู้ซื้อหมู่บ้านจัดสรรที่ดินอัลไพน์ทุกราย ที่ซื้อที่ดินโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน และได้รับความเสียหายจากการที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ให้เป็นที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามนั้น มีสิทธิ์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกรมที่ดิน ได้เต็มจำนวน คือทั้งค่าที่ดินค่าบ้าน ค่าตกแต่งและค่าเสียหายอื่นๆ พร้อมทั้งดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นด้วย
ผู้เสียหายทุกราย สามารถฟ้องคดีได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid02mDRJ3dC8wEoiair9rFr6LWffdqZqBc4YkwTRwLFL1WNMLndCwsNtbcdUwVgHG9iWl
คลัง รับพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหา ถก ธปท.ผ่อน LTV เร่งกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5000517
คลัง รับพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหา ถก ธปท.ผ่อน LTV เร่งกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ
เมื่อวันที่ 15 มกราคม นาย
อิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบ และก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จากการหารือกับ นาย
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้พิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ประคับประคองตลาดที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว โดยนาย
พิชัยรับทราบถึงปัญหาและรับไว้พิจารณาทั้ง 4 ข้อเสนอ ได้แก่ ลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองเหลือ 0.01% สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568, มาตรการวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ผ่านธนาคารของรัฐ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ, ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2568 ในอัตรา 50% และลดขนาดที่ดินของโครงการจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและพาณิชยกรรมให้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจและขนาดของครอบครัว แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้เวลาพิจารณาเท่าไหร่
นาย
พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ทั้ง 4 มาตรการที่เสนอนั้น นาย
พิชัยรับไว้พิจารณา เนื่องจากมีบางมาตรการต้องหารือกับกระทรวงมหาดไทยด้วย เช่น ลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% ลดภาษีที่ดิน 50% รวมถึงต้องพิจารณาถึงผลกระทบในแง่ของรายได้รัฐด้วย ถ้าเป็นบวกหรือกระทบไม่มากคงจะมีการดำเนินการให้ ส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะให้ธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาร่วมดำเนินการมากขึ้น
นอกจากนี้ นาย
พิชัยยังรับปากจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อผ่อนคลายมาตรการ LTV กระตุ้นผู้มีกำลังซื้อให้สามารถซื้อบ้านหลังที่ 2 และหลังที่ 3 ได้ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีการซื้อเก็งกำไรแล้ว รวมถึงยังระบุด้วยว่า ภาครัฐกำลังเร่งผลักดัน พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ให้สามารถเช่าได้
มากกว่า 30 ปี เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อต่างชาติ เนื่องจากปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์พึ่งกำลังซื้อต่างชาติที่มาซื้อบ้านหรู จึงทำให้ตลาดโดยรวมแย่มากกว่านี้ ทั้งนี้ หากภาครัฐไม่มีมาตรการออกมากระชาก คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 คงจะเหนื่อยกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
นาย
ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 4 มาตรการ รวมถึงมาตรการ LTV เป็นมาตรการที่จะมาพยุงตลาดอสังหาฯระยะสั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณ 1 เดือนนับจากนี้ เนื่องจากต้องประสานกับกระทรวงมหาดไทยด้วย ทั้งนี้ หากรัฐมีมาตรการกระตุ้นออกมา คาดหวังว่าปี 2568 เป็นปีแห่งการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย
นาย
ประเสริฐกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ด้วยตลาดมีปัญหาด้านโครงสร้าง จึงนำได้เสนอมาตรการระยะกลางและระยะยาวให้พิจารณาด้วย เช่น การวางโครงสร้างสัญญาเช่าระยะยาวสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติไม่เกิน 60 ปี โดยไม่ให้ต่างชาติถือครองที่ดิน การเพิ่มสัดส่วนการถือครองอาคารชุดของชาวต่างชาติจาก 49% เป็น 75% โดยจำกัดพื้นที่ พร้อมการจัดระเบียบการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติในฐานะผู้อยู่อาศัย การเก็บภาษีจากการถือครองและสัญญาเช่าระยะยาวของชาวต่างชาติ เพื่อจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เป็นต้น
JJNY : ออกหมายจับผู้มีพระคุณ"จ่าเอ็ม"│"กูรูไพศาล"ปลุกประชาชนซื้อหมู่บ้านอัลไพน์│คลังถกธปท.ผ่อน LTV│เกาหลีใต้จับกุมปธน.
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9590041
ตำรวจโรงพักชนะสงคราม ขอศาล ออกหมายจับ “สมหวัง” ผู้มีพระคุณ “จ่าเอ็ม” จ้างสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา
วันที่ 14 ม.ค.2568 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ นายลี รัตนรัศมี หรือชื่อไทย นายสมหวัง บำรุงกิจ อายุ 43 ปี ชาวกัมพูชา ใน 3 ข้อหา เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง
ในคดีที่ นายเอกลักษณ์ แพน้อย จ่าเอ็ม กองเรือ ได้รับการจ้างวานให้ก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา อดีตสส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา เสียชีวิต โดยผู้มีพระคุณที่จ่าเอ็มระบุเป็นผู้จ้างวานคือ นายสมหวัง
"กูรูไพศาล"ปลุกประชาชนซื้อหมู่บ้านจัดสรรที่ดินอัลไพน์ฟ้งเรียกค่าเสียหายกรมที่ดิน
https://siamrath.co.th/n/594035
วันที่ 15ม.ค.68-นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า
ด่วน
ประชาชนผู้ซื้อหมู่บ้านจัดสรรที่ดินอัลไพน์ทุกราย ที่ซื้อที่ดินโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน และได้รับความเสียหายจากการที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ให้เป็นที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามนั้น มีสิทธิ์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกรมที่ดิน ได้เต็มจำนวน คือทั้งค่าที่ดินค่าบ้าน ค่าตกแต่งและค่าเสียหายอื่นๆ พร้อมทั้งดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นด้วย
ผู้เสียหายทุกราย สามารถฟ้องคดีได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
คลัง รับพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหา ถก ธปท.ผ่อน LTV เร่งกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5000517
คลัง รับพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหา ถก ธปท.ผ่อน LTV เร่งกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ
เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบ และก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จากการหารือกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้พิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ประคับประคองตลาดที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว โดยนายพิชัยรับทราบถึงปัญหาและรับไว้พิจารณาทั้ง 4 ข้อเสนอ ได้แก่ ลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองเหลือ 0.01% สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568, มาตรการวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ผ่านธนาคารของรัฐ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ, ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2568 ในอัตรา 50% และลดขนาดที่ดินของโครงการจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและพาณิชยกรรมให้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจและขนาดของครอบครัว แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้เวลาพิจารณาเท่าไหร่
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ทั้ง 4 มาตรการที่เสนอนั้น นายพิชัยรับไว้พิจารณา เนื่องจากมีบางมาตรการต้องหารือกับกระทรวงมหาดไทยด้วย เช่น ลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% ลดภาษีที่ดิน 50% รวมถึงต้องพิจารณาถึงผลกระทบในแง่ของรายได้รัฐด้วย ถ้าเป็นบวกหรือกระทบไม่มากคงจะมีการดำเนินการให้ ส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะให้ธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาร่วมดำเนินการมากขึ้น
นอกจากนี้ นายพิชัยยังรับปากจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อผ่อนคลายมาตรการ LTV กระตุ้นผู้มีกำลังซื้อให้สามารถซื้อบ้านหลังที่ 2 และหลังที่ 3 ได้ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีการซื้อเก็งกำไรแล้ว รวมถึงยังระบุด้วยว่า ภาครัฐกำลังเร่งผลักดัน พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ให้สามารถเช่าได้
มากกว่า 30 ปี เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อต่างชาติ เนื่องจากปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์พึ่งกำลังซื้อต่างชาติที่มาซื้อบ้านหรู จึงทำให้ตลาดโดยรวมแย่มากกว่านี้ ทั้งนี้ หากภาครัฐไม่มีมาตรการออกมากระชาก คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 คงจะเหนื่อยกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 4 มาตรการ รวมถึงมาตรการ LTV เป็นมาตรการที่จะมาพยุงตลาดอสังหาฯระยะสั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณ 1 เดือนนับจากนี้ เนื่องจากต้องประสานกับกระทรวงมหาดไทยด้วย ทั้งนี้ หากรัฐมีมาตรการกระตุ้นออกมา คาดหวังว่าปี 2568 เป็นปีแห่งการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย
นายประเสริฐกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ด้วยตลาดมีปัญหาด้านโครงสร้าง จึงนำได้เสนอมาตรการระยะกลางและระยะยาวให้พิจารณาด้วย เช่น การวางโครงสร้างสัญญาเช่าระยะยาวสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติไม่เกิน 60 ปี โดยไม่ให้ต่างชาติถือครองที่ดิน การเพิ่มสัดส่วนการถือครองอาคารชุดของชาวต่างชาติจาก 49% เป็น 75% โดยจำกัดพื้นที่ พร้อมการจัดระเบียบการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติในฐานะผู้อยู่อาศัย การเก็บภาษีจากการถือครองและสัญญาเช่าระยะยาวของชาวต่างชาติ เพื่อจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เป็นต้น