สวัสดีค่ะ แนะนำตัวเลยนะ เราชื่อปัท ตอนนี้อายุ 23 ปี ปัทก็เป็นคนนึงที่ ชอบแฝงตัวอยู่ตามเพจหรือกระทู้พันทิปเพื่อติดตามคนที่เค้าลดน้ำหนักเพื่อที่จะหาแรงบันดาลใจบ้างเหมือนเพื่อนๆหลายๆคนเลยค่ะ (แต่ไม่ลดสักที555 ลำไยตัวเอง) คือติดตามเค้าตลอดแต่ไม่คิดจะทำ จนเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ชีวิตของปัทก็เริ่มเปลี่ยนไปค่ะเพื่อนๆทุกคน และวันนี้ที่ตัดสินใจมาตั้งกระทู้เพราะเพียงแค่อยากเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจ และเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆ ในการลดน้ำหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองมาให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้ฟังกันนะคะ เป็นกระทู่แรกเลยที่มาเขียนอะไรแบบนี้ หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยทุกคนไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ กระทู้จะยาวหน่อยนะคะ เพราะปัทตั้งใจไว้แล้วว่าลงทั้งที่ก็ต้องละเอียด อาจจะยาวจนต่อ เม้นสอง เม้นสาม เม้นสี่ 55555 อย่าเพิ่งรำคาญกันนะคร้า
🎊งานพลีชีพมาละจร้า😂😂
🌸ตัวปัทเองเนี่ยเป็นเด็กขี้โรคตั้งแต่เด็ก รือป่วยง่ายมากๆ จะเรียกว่าเป็นคนที่อ้วนตั้งแต่เด็กเลยมั้ยก็ไม่เชิง ไม่รู้จะนิยามว่าอะไรดี เอาเป็นว่า ให้ภาพด้านล่างมันอธิบายก็แล้วกัน 😂👇
และนี่คือรูปตอน ป.4 ซึ่งน้ำหนักตอนนั้นอยู่ที่ประมาน 64-65 กิโล ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ราวๆนั้นแหละอ่ะถึงอ้วนแต่ก็มีความรักรำไทยตั้งแต่เด็กนะจร้า😂👇(รูปตะแคง555ท่ดๆนะคร้า)
นั่นแหละค่ะ คือพอหลังจากช่วง ป.4 อ่ะคือ โตเร็วมาก โตสุดในห้อง โตกว่าผู้ชาย กลับจาก โรงเรียนก็กินเยอะ กินไก่ย่างข้าวเหนียว หรือไม่ก็มาม่า 🤘🏾จนน้ำหนักพุ่งขึ้นมาถึงประมาณ 70กิโลในช่วง ป.6 นะคะ แล้วอย่างที่บอกว่าเดิมก็ขี้โรคอยู่แล้ว ไปโรงเรียนก็สามวันดีสี่วันไข้ ยิ่งพอน้ำหนักขึ้นก็แน่นอนค่ะว่ามันก็มาพร้อมกับสุขภาพที่ย่ำแย่ลง และการรำไทยที่รักก็เป็นอีนต้องหนุดไปเพราะอ้วน ไม่กล้ารำ 😂😂แล้วยังไม่ชอบการออกกำลังกายเลย ยกเว้นการว่ายน้ำ
🌸🌸แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพอขึ้น ม.ต้น น้ำหนักก็ขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นๆ ลงๆ (เสียดายหารูปช่วง ม.ต้นไม่เจอเลยค่ะ ความเจริญยังเข้าไม่ค่อยถึง🙏😂) ตอน ม.1 น้ำหนักก็อยู่ที่ ประมาน 72 กิโล โดยไม่มีการออกกำลังกายใดมดทั้งสิ้น ยกเว้ยคาบพละในโรงเรียนแค่นั้น! ตอนนั้น พวกเครื่องดื่มแบบควบคุมน้ำหนักกำลังบูมเลย แม่ปัทก็แบบ อยากให้ลูกลองดื่มดู หลายๆคนอาจจะคุ้นชื่อคุ้นหูแหละค่ะถ้าบอกไป **ขอเซ็นเซอร์นะคะเดี่ยวงานเข้า** ก็คือเป็นพวกกาแฟควบคุมน้ำหนักนั่นแหละค่ะ ที่ชอบเคลมว่า ไม่โยโย่อะไรประมานนั้น แต่ของปัท ปัทจะกินแบบเป็นโกโก้ค่ะ เพราะปัทเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มพวกกาแฟเลย หรือพวกน้ำหวานก็ไม่ชอบ แต่โกโก้พอขืนใจกินได้หน่อย จำได้ว่ากินได้อาทิตย์เดียว ไม่อยากกินอะไรเลย เหมือนน่างกายเราไม่หิวอ่ะ ก็กินแต่ไอนั่นแหละ กลางวันก็ทานข้าวนิดเดียว แล้วใจสั่น เพราะอะไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ก็เลยหยุดไป ถามว่าน้ำหนักลงมั้ย ปัทก็ไม่รู้ค่ะ แต่ที่แน่ๆคือ ไอ้ที่เคลมว่าไม่โยโย่อ่ะค่ะ คือแบบ หืมมม 😥😥 หนุดเมื่อไหร่ตีกลับเมื่อนั้นแหละค่ะ 😂 คุณหลวงหลอกอิชั้น🙄🙄 หลังจากนั้นก็กลายเป็นคนที่น้ำหนักไม่ค่อยคงที่ ขึ้นๆลงๆ แบบรวดเร็ว แบบ งงๆ ป่วยบ่อยขึ้น กระทบการเรียนมากๆ จนช่วง เรียนปวช คือแบบ👇👇👇 ไปดูกันเลยค่ะ
ใช่ คนที่ใส่ชุดนักเรียนนั่นแหละค่ะคือปัทเอง น้ำหนักตอนนั้นคือ หนักสุดในชีวิตค่ะ 82 กิโล คือแบบ ตัวดำอยู่แล้ว ทีนี้ก็มาครบเลย อ้วน ดำ ขี้โรค หมดกำลังใจที่จะดูแลตัวเอง และที่รู้สึกแย่👎ที่สุดคือ ด้วยความที่เราเป็นคนที่ชอบเรียนและทำกิจกรรมไปในเวลาเดียวกัน การที่เราอ้วน มันก็ส่งผลต่อความมั่นใจของเรามากๆเลยค่ะ ยิ่งพอโตขึ้น เข้าสังคมมากขึ้นเราก็ยิ่งรู้สึกแย่ เคยมีความคิดจะลดแบบจริงจังอยู่หลายครั้ง แต่ก็เอาชนะใจตัวเองไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เช่น รร อยู่ไกลจากบ้าน การเดินทางก็ไกลอยู่แล้ว กลับมาก็เหนื่อย ทำการบ้านเสร็จก็นอน การเรียนบางทีเครียด ไม่มีอารมณ์จะออกกำลังกาย ติดโทรศัพท์ ที่แน่ๆที่สุด คือ ขี้เกียจ!!!
🌸🌸ยิ่งตอนขึ้น ปวส นี่คือใช่ย่อยเลยค่ะไปฝึกงานนี่แบบ พี่ที่ฝึกงานบอกว่าอ้วนเกินไปละแต่ตอนนั้นน้ำหนักแค่ 80เองนะคะพี่ แค่ 80 เอ๊งงง😘😘 👇สัดส่วนหรอ ก็ สูง 158 หนัก80 อก 40 เอว 38 สะโพก 44 ค่ะ🤣
สภาพคือจะเรียกว่านางยักษ์ก็ไม่เถียง
ของกินที่ชอบแล้วกินเกือบทุกวันคือเจ้านี้เลยค่ะ👎👇
😅😅😅😅😅
ไม่อ้วนได้ไงละ แต่ก็ยังรักษาสวยรักงามในแบบที่พอทำได้อยู่
👉👉จนพอเรียน ปวส2 ก่อนจบจะมีช่วงที่เครียดหน่อย น้ำหนักลงไปเหลือ 75 โดยที่ไม่ได้ลดหรืออะไรเลยนะคะ ก็ตอนนั้นไม่ได้อะไรมาก ยังคงเป็นสถิติเดิมๆที่เคยผ่านไม่ได้ใส่ใจอะไร
และหลังจาก จบ ปวส นี่แหละค่ะ คือจุดเปลี่ยน🌸🌸 คือพอเรียบจบก็กิจเยอะมากกก ชีวิตเริ่มชีเรียสขึ้น ก็ยิ่งกินเยอะขึ้นมากๆๆๆ จนมีอยู่วันนึง รู้สึกไม่สบายตัว รู้สึกอึดอัด รู้สึกเองเลยว่าแบบเยอะเกินไป ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน😅แบบบางที่ร่างกายไม่ได้หิว แต่ปากมันอยากกิน ของหวาน ของที่ทำให้อ้วนคือจัดเต็ม อ่ะก็ไปชั่งน้ำหนักที่หน้าเซเว่นแถวบ้าน ไปกับแม่ พอขึ้นตราชั่ง น้ำหนักก็อยู่ที่ 79 ใช่ 79 แต่รู้สึกแย่ รู้สึกเฟลมาก แปลกเนอะ ทั้งที่เคยอ้วนกว่านี้ แต่เพิ่งจะสำนึกได้ คือเฟลจนแบบเหมือนจะร้องไห้อ่ะ เหมือนมองอยาคตแล้วท้อ ดราม่าเลยตอนนั้น 😭😭 เจ็บใจตัวเอง พูดกับแม่ว่า ลูกจะลด ลูกจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ แม่ก็อืมๆ (เหมือนประมานว่าพูดมาหลายรอบละ) แต่ปัทก็รู้ตัวนะว่าขนาดแม่นังไม่เชื่อเลยว่าเราจะทำได้ ก็เลยตอนนั้นที่เริ่มลด ปัทก็ไม่ได้บอกกับใครอีกเลยค่ะว่าจะลด เพราะไม่อยากได้ยินเสียงที่ยอกว่า จะทำได้หรอ ไหวหรอ อะไรประมานนั้น เพราะฟังแล้วมันบั่นทอนกำลังใจ ***เพราะในเมื่อเรามีกำลังใจที่จะลดแล้วเราต้องปกป้องความรู้สึกนั้นไว้ให้อยู่กับเรานานที่สุด**♥️
และนี่ก็คือรูปตอนที่ปัทเริ่มลดน้ำหนักค่ะ👆เริ่มเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2561
🌸ปัทเริ่มลดด้วย น้ำหนัก 79.3 กิโลกรัม รอบอก 39 เอว 38 สะโพก 43 ค่ะ เป้าหมายแรกคือพยายามให้เหลือสัก 70ก่อน จะไหวป่าวว้ะ แต่ก็ต้องลองเว้ย
👉โดยเริ่มแรกสิ่งที่ปัททำเลยก็คือ เปิดดูคลิปตามยูทูป หาข้อมูลหาสูตรนู้นนี่นั้น และก็ถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้ค่ะ เพื่อจะได้หวังว่าเราจะได้ถ่ายรูปตอนที่เราผอมลงๆ เรื่อย ไม่รู้ตะทำได้รึเปล่า แต่มันก็ต้องเริ่มเนอะ
🌸🌸โดยปัทได้ข้อสรุปคือ ออกกำลังกาย+ควบคุมอาหาร
👉เรื่องอาหาร ปัทก็งดพวกขนม ของหวานก่อนเลยค่ะ อาหารกลางวันยังกินเหมือนเดิมแต่ลดปริมานลงมา ลดปริมานข้าวจากที่เคยกินข้าวมื้อละ 2 จานก็ ลดเหลือแค่จานเดียว จากที่เคยกินวันละหลายๆมื้อ กินทั้งวันก็แบ่งมื้อให้ชัดเจนว่า กิน ช่วงเช้า เที่ยง และมื้อหลังออกกำลังกายค่ะ มื้อหลังออกกำลังกายปัทจะดื่มแค่นมอย่างเดียว ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องนับแคล หรือพวกไขมันอะไรหรอกค่ะ แค่คิดว่าเอาให้ร่างกายเราปรับได้ก่อน
👉ในส่วนของการออกกำลังกายค่อนข้างจะหักโหมในเรื่องของการออกกำลังกายค่ะ คือปัทก็วิ่งเลย รอบสนามบอลค่ะ
อายมาก เขิลมาก แต่ก็วิ่ง กะไว้ว่าจะออกกำลังกายให้ได้วันละชั่วโมง แต่พอวิ่งไปได้ไม่ถึง ครึ่งสนาม ตาลายมาก เหนื่อยมาก เหมือนจะตายเลยค่ะ แต่ก็สู้จนวิ่งจบ วิ่งๆ เดินๆ จนครบ 1 ชั่วโมง ตามที่ตั้งใจไว้ ด้วยรองเท้าคู่ใจ
👉หลังจากวิ่งเสร็จ ปัทก็พยายามซิตอัพ บริหารร่างกายบ้าง ปั่นจักรยานอาหารบ้างค่ะ
🌸🌸🌸ก็คือช่วงแรกปัทก็ทำแบบนี้วนๆไปค่ะ จนพอผ่านมาได้ประมาน เกือบสองอาทิตย์ น้ำหนักลดลงประมาน 1 กิโลเอง แต่เริ่มปรับตัวได้ในส่วนของการทานอาหาร แต่ก็มีอยากกินของโปรดอยู่ค่ะ คือบางวันนอนน้ำตาคลอ ชอบอยากกินระหว่างมื้อ ต้องห้ามใจไว้ทำให้ได้ตามแผน เวลาครอบครัวทานอาหารเย็น ก็หนีเข้าห้องใส่หูฟังไปเลย😂😂🤣 ฉันต้องทำให้ได้ แม้จะทรมานก็ตาม แต่ในส่วนของการออกกำลังกาย ปัทเริ่มบาดเจ็บตรงหัวเข่าค่ะ เพราะน่าจะเกิดจากน้ำหนักเยอะเกินไป ก็เลยเปลี่ยนมาเป็น เดินเร็วแทนค่ะ วันละ1ชั่วโมง ตามเป้าเดิมค่ะ กลับมาก็ซิตอัพ และพวกบอดี้เวทเองที่บ้านค่ะ ท่าง่ายๆ และก็ดื่มนมเหมือนเดิม แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นนมที่ไม่มีไขมันแทนนะคะ
🌸👉ก็หลังจากนั้นปัทก็ทำมาเรื่อยๆจนเวลาผ่านเดือนกว่า ระหว่างทางก็มีท้อเป็นปกติแหละค่ะ พยายามหาความรู้เรื่องพวกไขมัน พวกอาหารการกิน อะไรกินดีไม่ดี เวลาเข้าเซ่เว่นจะอ่านฉลากก่อนเลย พิจารณาจากฉลากโภชนาการเป็นหลักค่ะ จากที่ไม่เคยสนใจ แต่ตั้งแต่ที่ศึกษามันจริงๆเข้าใจมันจริงๆ คือดีมากนะคะ อย่ามองข้าม คือเลือกกินมากขึ้น เริ่มกินแบบนับแคลค่ะ เริ่มปรับการกินอาหารในแต่ละมื้อ และเริ่มเข้าใจว่า การควบคุมอาหารไม่ใช่การกินตามสูตรที่คนอื่นเขียนมาหรือกินแบบเดิมทุกๆวัน ไม่ใช่การอดด้วยค่ะ เพราะพอปัทเริ่มศึกษาข้อมูล เราก็จะรู้ว่าอะไรมีประโยชน์เราก็จะจัดสรรค์ได้เอง แต่จากเดิมที่กินวันละสามมื้อ ปัทก็เปลี่ยนเป็นวันละสี่มื้อค่ะ โดยวิธีที่ปัทเลือกคือ ควบคุมอาหารยังไงก็ได้ แต่สันนึงก็ต้องกินให้ได้ครบ 5 หมูค่ะ เช่น
👉มื้อเช้า ปัทก็จะกินจำพวก ขนมปังโฮวีต โยเกิร์ต0ไขมัน ไข่ต้ม พวกธัญพืช อะไรแบบนี้แหละค่ะ
👉มื้อเที่ยง กินข้าวที่จากเดิมที่บอกไว้คือกินเหลือแค่1จาน(1จานนี่ตักแบบไม่นับทัพพีเลยนะ ใช้ใจล้วนๆ555)จากปกติ 2 จาน ใช่มั้ยคะ ปัดก็ทานแค่ 1 ทัพพีค่ะ แล้วพวกกับข้าวจะเน้นทำเอง เน้นผัก เนื้อพวกเนื้อที่ไม่ติดมัน พวกแกงจืด พวกนึ่งๆทั้งหลาย อะไรแบบนี้ค่ะ จะเลี่ยง พวก ทอด ผัด ไปเลย ต้องงดพวกของทอด มัน เค็ม หวาน ให้ได้ค่ะ และโชคดีอย่างนึงที่ปัทเป็นคนไม่ชอบทานขนมขบเคี้ยวหรือน้ำหวานเป็นกิจวัตประจำวัน เลยไม่ต้องทรมานในเรื่องนี้5555
👉มื้อที่3 คือมื้อก่อนที่ตะไปออกกำลังกายค่ะ ปัทก็จะกิน ผลไม้ค่ะ เช่น พวกฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว หรือกล้วยค่ะ พวกที่มีกากใยสูงค่ะ ขับถ่ายง่ายดี และทำให้มีแรงไปออกกำลังกายค่ะ
👉มื้อหลังออกกำลังกายก็ดื่มนมเหมือนเดิมค่ะ หลักๆจะเป็นนมจืดโปรตีนสูงของเมจิ สูตรไม่มีไขมันค่ะ แต่ถ้าวันไหนเบื่อ ก็มีดื่มนมเปรี้ยวดีไลท์ขวดเขียวบ้าง ย้ำว่าแค่บางวันนะคะ
🌸🌸🌸สำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะยังไง อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆค่ะ
และข้างล่างนี้ก็คือรูปภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วง สองเดือนแรกค่ะ👇รูปเยอะแต่ปัทขอเลือกเป็นช่วงๆของน้ำหนักที่ลงไปนะคะ
👆น้ำหนัก 75 ค่ะ ยังลงช้าอยู่เลย แต่โอเค ถือว่าเปลี่ยนแปลง
👆 ทำไปเรื่อยๆ ประบนู้นนิดนี่หน่อย ตามประสาคนขี้เบื่อไปเรื่อยๆ ค่ะ น้ำหนักก็ลงมาเรื่อยๆ ในรูปคือ 72 กิโลนะคะ
🌸🌸🌸 ปล.ปัทลดแบบไม่ได้เวทเทรนนิ่งแบบจริงจังถึงขั้นเข้าฟิตเนสนะคะ แต่เน้นเวทเทรนนิ่งเองที่บ้านทุกวัน! ย้ำว่าทุกวันค่ะ ซิตอัพทุกวัน วันละ 100 ค่ะ หน้าท้องก็เริ่มลดลงเยอะเหมือนกัน แต่ช่วงนี้สัดส่วนปัทไม่ได้วัดไว้ค่ะ จะวัดอีกทีช่วงหลัง
👆พอมาเรื่อยๆย่างเข้าเดือนที่ 3 น้ำหนักก็ลง มาอยู่ที่ 70 กิโลค่ะ ตอนนี้เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงตัวเองชัดเจน คนเริ่มทักมากขึ้นมาผอมลงนะ ดีใจมาก รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเลย แบบเราทำได้นะ 9 กิโลก็ไม่ใช่เล่นๆ
5 เดือน 16 กิโล กับชีวิตที่โคตรจะแตกต่าง
🎊งานพลีชีพมาละจร้า😂😂
🌸ตัวปัทเองเนี่ยเป็นเด็กขี้โรคตั้งแต่เด็ก รือป่วยง่ายมากๆ จะเรียกว่าเป็นคนที่อ้วนตั้งแต่เด็กเลยมั้ยก็ไม่เชิง ไม่รู้จะนิยามว่าอะไรดี เอาเป็นว่า ให้ภาพด้านล่างมันอธิบายก็แล้วกัน 😂👇
และนี่คือรูปตอน ป.4 ซึ่งน้ำหนักตอนนั้นอยู่ที่ประมาน 64-65 กิโล ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ราวๆนั้นแหละอ่ะถึงอ้วนแต่ก็มีความรักรำไทยตั้งแต่เด็กนะจร้า😂👇(รูปตะแคง555ท่ดๆนะคร้า)
นั่นแหละค่ะ คือพอหลังจากช่วง ป.4 อ่ะคือ โตเร็วมาก โตสุดในห้อง โตกว่าผู้ชาย กลับจาก โรงเรียนก็กินเยอะ กินไก่ย่างข้าวเหนียว หรือไม่ก็มาม่า 🤘🏾จนน้ำหนักพุ่งขึ้นมาถึงประมาณ 70กิโลในช่วง ป.6 นะคะ แล้วอย่างที่บอกว่าเดิมก็ขี้โรคอยู่แล้ว ไปโรงเรียนก็สามวันดีสี่วันไข้ ยิ่งพอน้ำหนักขึ้นก็แน่นอนค่ะว่ามันก็มาพร้อมกับสุขภาพที่ย่ำแย่ลง และการรำไทยที่รักก็เป็นอีนต้องหนุดไปเพราะอ้วน ไม่กล้ารำ 😂😂แล้วยังไม่ชอบการออกกำลังกายเลย ยกเว้นการว่ายน้ำ
🌸🌸แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพอขึ้น ม.ต้น น้ำหนักก็ขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นๆ ลงๆ (เสียดายหารูปช่วง ม.ต้นไม่เจอเลยค่ะ ความเจริญยังเข้าไม่ค่อยถึง🙏😂) ตอน ม.1 น้ำหนักก็อยู่ที่ ประมาน 72 กิโล โดยไม่มีการออกกำลังกายใดมดทั้งสิ้น ยกเว้ยคาบพละในโรงเรียนแค่นั้น! ตอนนั้น พวกเครื่องดื่มแบบควบคุมน้ำหนักกำลังบูมเลย แม่ปัทก็แบบ อยากให้ลูกลองดื่มดู หลายๆคนอาจจะคุ้นชื่อคุ้นหูแหละค่ะถ้าบอกไป **ขอเซ็นเซอร์นะคะเดี่ยวงานเข้า** ก็คือเป็นพวกกาแฟควบคุมน้ำหนักนั่นแหละค่ะ ที่ชอบเคลมว่า ไม่โยโย่อะไรประมานนั้น แต่ของปัท ปัทจะกินแบบเป็นโกโก้ค่ะ เพราะปัทเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มพวกกาแฟเลย หรือพวกน้ำหวานก็ไม่ชอบ แต่โกโก้พอขืนใจกินได้หน่อย จำได้ว่ากินได้อาทิตย์เดียว ไม่อยากกินอะไรเลย เหมือนน่างกายเราไม่หิวอ่ะ ก็กินแต่ไอนั่นแหละ กลางวันก็ทานข้าวนิดเดียว แล้วใจสั่น เพราะอะไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ก็เลยหยุดไป ถามว่าน้ำหนักลงมั้ย ปัทก็ไม่รู้ค่ะ แต่ที่แน่ๆคือ ไอ้ที่เคลมว่าไม่โยโย่อ่ะค่ะ คือแบบ หืมมม 😥😥 หนุดเมื่อไหร่ตีกลับเมื่อนั้นแหละค่ะ 😂 คุณหลวงหลอกอิชั้น🙄🙄 หลังจากนั้นก็กลายเป็นคนที่น้ำหนักไม่ค่อยคงที่ ขึ้นๆลงๆ แบบรวดเร็ว แบบ งงๆ ป่วยบ่อยขึ้น กระทบการเรียนมากๆ จนช่วง เรียนปวช คือแบบ👇👇👇 ไปดูกันเลยค่ะ
ใช่ คนที่ใส่ชุดนักเรียนนั่นแหละค่ะคือปัทเอง น้ำหนักตอนนั้นคือ หนักสุดในชีวิตค่ะ 82 กิโล คือแบบ ตัวดำอยู่แล้ว ทีนี้ก็มาครบเลย อ้วน ดำ ขี้โรค หมดกำลังใจที่จะดูแลตัวเอง และที่รู้สึกแย่👎ที่สุดคือ ด้วยความที่เราเป็นคนที่ชอบเรียนและทำกิจกรรมไปในเวลาเดียวกัน การที่เราอ้วน มันก็ส่งผลต่อความมั่นใจของเรามากๆเลยค่ะ ยิ่งพอโตขึ้น เข้าสังคมมากขึ้นเราก็ยิ่งรู้สึกแย่ เคยมีความคิดจะลดแบบจริงจังอยู่หลายครั้ง แต่ก็เอาชนะใจตัวเองไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เช่น รร อยู่ไกลจากบ้าน การเดินทางก็ไกลอยู่แล้ว กลับมาก็เหนื่อย ทำการบ้านเสร็จก็นอน การเรียนบางทีเครียด ไม่มีอารมณ์จะออกกำลังกาย ติดโทรศัพท์ ที่แน่ๆที่สุด คือ ขี้เกียจ!!!
🌸🌸ยิ่งตอนขึ้น ปวส นี่คือใช่ย่อยเลยค่ะไปฝึกงานนี่แบบ พี่ที่ฝึกงานบอกว่าอ้วนเกินไปละแต่ตอนนั้นน้ำหนักแค่ 80เองนะคะพี่ แค่ 80 เอ๊งงง😘😘 👇สัดส่วนหรอ ก็ สูง 158 หนัก80 อก 40 เอว 38 สะโพก 44 ค่ะ🤣
สภาพคือจะเรียกว่านางยักษ์ก็ไม่เถียง
ของกินที่ชอบแล้วกินเกือบทุกวันคือเจ้านี้เลยค่ะ👎👇
😅😅😅😅😅
ไม่อ้วนได้ไงละ แต่ก็ยังรักษาสวยรักงามในแบบที่พอทำได้อยู่
👉👉จนพอเรียน ปวส2 ก่อนจบจะมีช่วงที่เครียดหน่อย น้ำหนักลงไปเหลือ 75 โดยที่ไม่ได้ลดหรืออะไรเลยนะคะ ก็ตอนนั้นไม่ได้อะไรมาก ยังคงเป็นสถิติเดิมๆที่เคยผ่านไม่ได้ใส่ใจอะไร
และหลังจาก จบ ปวส นี่แหละค่ะ คือจุดเปลี่ยน🌸🌸 คือพอเรียบจบก็กิจเยอะมากกก ชีวิตเริ่มชีเรียสขึ้น ก็ยิ่งกินเยอะขึ้นมากๆๆๆ จนมีอยู่วันนึง รู้สึกไม่สบายตัว รู้สึกอึดอัด รู้สึกเองเลยว่าแบบเยอะเกินไป ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน😅แบบบางที่ร่างกายไม่ได้หิว แต่ปากมันอยากกิน ของหวาน ของที่ทำให้อ้วนคือจัดเต็ม อ่ะก็ไปชั่งน้ำหนักที่หน้าเซเว่นแถวบ้าน ไปกับแม่ พอขึ้นตราชั่ง น้ำหนักก็อยู่ที่ 79 ใช่ 79 แต่รู้สึกแย่ รู้สึกเฟลมาก แปลกเนอะ ทั้งที่เคยอ้วนกว่านี้ แต่เพิ่งจะสำนึกได้ คือเฟลจนแบบเหมือนจะร้องไห้อ่ะ เหมือนมองอยาคตแล้วท้อ ดราม่าเลยตอนนั้น 😭😭 เจ็บใจตัวเอง พูดกับแม่ว่า ลูกจะลด ลูกจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ แม่ก็อืมๆ (เหมือนประมานว่าพูดมาหลายรอบละ) แต่ปัทก็รู้ตัวนะว่าขนาดแม่นังไม่เชื่อเลยว่าเราจะทำได้ ก็เลยตอนนั้นที่เริ่มลด ปัทก็ไม่ได้บอกกับใครอีกเลยค่ะว่าจะลด เพราะไม่อยากได้ยินเสียงที่ยอกว่า จะทำได้หรอ ไหวหรอ อะไรประมานนั้น เพราะฟังแล้วมันบั่นทอนกำลังใจ ***เพราะในเมื่อเรามีกำลังใจที่จะลดแล้วเราต้องปกป้องความรู้สึกนั้นไว้ให้อยู่กับเรานานที่สุด**♥️
และนี่ก็คือรูปตอนที่ปัทเริ่มลดน้ำหนักค่ะ👆เริ่มเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2561
🌸ปัทเริ่มลดด้วย น้ำหนัก 79.3 กิโลกรัม รอบอก 39 เอว 38 สะโพก 43 ค่ะ เป้าหมายแรกคือพยายามให้เหลือสัก 70ก่อน จะไหวป่าวว้ะ แต่ก็ต้องลองเว้ย
👉โดยเริ่มแรกสิ่งที่ปัททำเลยก็คือ เปิดดูคลิปตามยูทูป หาข้อมูลหาสูตรนู้นนี่นั้น และก็ถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้ค่ะ เพื่อจะได้หวังว่าเราจะได้ถ่ายรูปตอนที่เราผอมลงๆ เรื่อย ไม่รู้ตะทำได้รึเปล่า แต่มันก็ต้องเริ่มเนอะ
🌸🌸โดยปัทได้ข้อสรุปคือ ออกกำลังกาย+ควบคุมอาหาร
👉เรื่องอาหาร ปัทก็งดพวกขนม ของหวานก่อนเลยค่ะ อาหารกลางวันยังกินเหมือนเดิมแต่ลดปริมานลงมา ลดปริมานข้าวจากที่เคยกินข้าวมื้อละ 2 จานก็ ลดเหลือแค่จานเดียว จากที่เคยกินวันละหลายๆมื้อ กินทั้งวันก็แบ่งมื้อให้ชัดเจนว่า กิน ช่วงเช้า เที่ยง และมื้อหลังออกกำลังกายค่ะ มื้อหลังออกกำลังกายปัทจะดื่มแค่นมอย่างเดียว ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องนับแคล หรือพวกไขมันอะไรหรอกค่ะ แค่คิดว่าเอาให้ร่างกายเราปรับได้ก่อน
👉ในส่วนของการออกกำลังกายค่อนข้างจะหักโหมในเรื่องของการออกกำลังกายค่ะ คือปัทก็วิ่งเลย รอบสนามบอลค่ะ
อายมาก เขิลมาก แต่ก็วิ่ง กะไว้ว่าจะออกกำลังกายให้ได้วันละชั่วโมง แต่พอวิ่งไปได้ไม่ถึง ครึ่งสนาม ตาลายมาก เหนื่อยมาก เหมือนจะตายเลยค่ะ แต่ก็สู้จนวิ่งจบ วิ่งๆ เดินๆ จนครบ 1 ชั่วโมง ตามที่ตั้งใจไว้ ด้วยรองเท้าคู่ใจ
👉หลังจากวิ่งเสร็จ ปัทก็พยายามซิตอัพ บริหารร่างกายบ้าง ปั่นจักรยานอาหารบ้างค่ะ
🌸🌸🌸ก็คือช่วงแรกปัทก็ทำแบบนี้วนๆไปค่ะ จนพอผ่านมาได้ประมาน เกือบสองอาทิตย์ น้ำหนักลดลงประมาน 1 กิโลเอง แต่เริ่มปรับตัวได้ในส่วนของการทานอาหาร แต่ก็มีอยากกินของโปรดอยู่ค่ะ คือบางวันนอนน้ำตาคลอ ชอบอยากกินระหว่างมื้อ ต้องห้ามใจไว้ทำให้ได้ตามแผน เวลาครอบครัวทานอาหารเย็น ก็หนีเข้าห้องใส่หูฟังไปเลย😂😂🤣 ฉันต้องทำให้ได้ แม้จะทรมานก็ตาม แต่ในส่วนของการออกกำลังกาย ปัทเริ่มบาดเจ็บตรงหัวเข่าค่ะ เพราะน่าจะเกิดจากน้ำหนักเยอะเกินไป ก็เลยเปลี่ยนมาเป็น เดินเร็วแทนค่ะ วันละ1ชั่วโมง ตามเป้าเดิมค่ะ กลับมาก็ซิตอัพ และพวกบอดี้เวทเองที่บ้านค่ะ ท่าง่ายๆ และก็ดื่มนมเหมือนเดิม แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นนมที่ไม่มีไขมันแทนนะคะ
🌸👉ก็หลังจากนั้นปัทก็ทำมาเรื่อยๆจนเวลาผ่านเดือนกว่า ระหว่างทางก็มีท้อเป็นปกติแหละค่ะ พยายามหาความรู้เรื่องพวกไขมัน พวกอาหารการกิน อะไรกินดีไม่ดี เวลาเข้าเซ่เว่นจะอ่านฉลากก่อนเลย พิจารณาจากฉลากโภชนาการเป็นหลักค่ะ จากที่ไม่เคยสนใจ แต่ตั้งแต่ที่ศึกษามันจริงๆเข้าใจมันจริงๆ คือดีมากนะคะ อย่ามองข้าม คือเลือกกินมากขึ้น เริ่มกินแบบนับแคลค่ะ เริ่มปรับการกินอาหารในแต่ละมื้อ และเริ่มเข้าใจว่า การควบคุมอาหารไม่ใช่การกินตามสูตรที่คนอื่นเขียนมาหรือกินแบบเดิมทุกๆวัน ไม่ใช่การอดด้วยค่ะ เพราะพอปัทเริ่มศึกษาข้อมูล เราก็จะรู้ว่าอะไรมีประโยชน์เราก็จะจัดสรรค์ได้เอง แต่จากเดิมที่กินวันละสามมื้อ ปัทก็เปลี่ยนเป็นวันละสี่มื้อค่ะ โดยวิธีที่ปัทเลือกคือ ควบคุมอาหารยังไงก็ได้ แต่สันนึงก็ต้องกินให้ได้ครบ 5 หมูค่ะ เช่น
👉มื้อเช้า ปัทก็จะกินจำพวก ขนมปังโฮวีต โยเกิร์ต0ไขมัน ไข่ต้ม พวกธัญพืช อะไรแบบนี้แหละค่ะ
👉มื้อเที่ยง กินข้าวที่จากเดิมที่บอกไว้คือกินเหลือแค่1จาน(1จานนี่ตักแบบไม่นับทัพพีเลยนะ ใช้ใจล้วนๆ555)จากปกติ 2 จาน ใช่มั้ยคะ ปัดก็ทานแค่ 1 ทัพพีค่ะ แล้วพวกกับข้าวจะเน้นทำเอง เน้นผัก เนื้อพวกเนื้อที่ไม่ติดมัน พวกแกงจืด พวกนึ่งๆทั้งหลาย อะไรแบบนี้ค่ะ จะเลี่ยง พวก ทอด ผัด ไปเลย ต้องงดพวกของทอด มัน เค็ม หวาน ให้ได้ค่ะ และโชคดีอย่างนึงที่ปัทเป็นคนไม่ชอบทานขนมขบเคี้ยวหรือน้ำหวานเป็นกิจวัตประจำวัน เลยไม่ต้องทรมานในเรื่องนี้5555
👉มื้อที่3 คือมื้อก่อนที่ตะไปออกกำลังกายค่ะ ปัทก็จะกิน ผลไม้ค่ะ เช่น พวกฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว หรือกล้วยค่ะ พวกที่มีกากใยสูงค่ะ ขับถ่ายง่ายดี และทำให้มีแรงไปออกกำลังกายค่ะ
👉มื้อหลังออกกำลังกายก็ดื่มนมเหมือนเดิมค่ะ หลักๆจะเป็นนมจืดโปรตีนสูงของเมจิ สูตรไม่มีไขมันค่ะ แต่ถ้าวันไหนเบื่อ ก็มีดื่มนมเปรี้ยวดีไลท์ขวดเขียวบ้าง ย้ำว่าแค่บางวันนะคะ
🌸🌸🌸สำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะยังไง อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆค่ะ
และข้างล่างนี้ก็คือรูปภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วง สองเดือนแรกค่ะ👇รูปเยอะแต่ปัทขอเลือกเป็นช่วงๆของน้ำหนักที่ลงไปนะคะ
👆น้ำหนัก 75 ค่ะ ยังลงช้าอยู่เลย แต่โอเค ถือว่าเปลี่ยนแปลง
👆 ทำไปเรื่อยๆ ประบนู้นนิดนี่หน่อย ตามประสาคนขี้เบื่อไปเรื่อยๆ ค่ะ น้ำหนักก็ลงมาเรื่อยๆ ในรูปคือ 72 กิโลนะคะ
🌸🌸🌸 ปล.ปัทลดแบบไม่ได้เวทเทรนนิ่งแบบจริงจังถึงขั้นเข้าฟิตเนสนะคะ แต่เน้นเวทเทรนนิ่งเองที่บ้านทุกวัน! ย้ำว่าทุกวันค่ะ ซิตอัพทุกวัน วันละ 100 ค่ะ หน้าท้องก็เริ่มลดลงเยอะเหมือนกัน แต่ช่วงนี้สัดส่วนปัทไม่ได้วัดไว้ค่ะ จะวัดอีกทีช่วงหลัง
👆พอมาเรื่อยๆย่างเข้าเดือนที่ 3 น้ำหนักก็ลง มาอยู่ที่ 70 กิโลค่ะ ตอนนี้เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงตัวเองชัดเจน คนเริ่มทักมากขึ้นมาผอมลงนะ ดีใจมาก รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเลย แบบเราทำได้นะ 9 กิโลก็ไม่ใช่เล่นๆ