โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): ศัตรูเงียบที่อาจคร่าชีวิต หากคุณไม่ดูแลตัวเอง!
ในช่วงอากาศเย็น โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke กลายเป็นภัยที่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา กินอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย หรือมีโรคประจำตัวอย่าง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง คุณกำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นโรคนี้ได้ทุกเมื่อ
อาการเตือน: สัญญาณที่ต้องรีบสังเกต
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อเพิ่มโอกาสการรักษา:
1. ปากเบี้ยว: มุมปากตกลงข้างหนึ่ง ยิ้มไม่เท่ากัน
2. ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด: พูดจาติดขัด ฟังไม่เป็นคำ
3. แขนขาอ่อนแรง: ขยับแขนหรือขาข้างหนึ่งไม่ได้ หรือมีอาการชา
4. ซึม พูดจาสับสน: มึนงง จำคนรอบข้างหรือสถานการณ์ไม่ได้
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคนี้?
แม้ว่า Stroke จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่กลุ่มคนที่มีพฤติกรรมและโรคประจำตัวต่อไปนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก:
• ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง: ความดันที่สูงติดต่อกันทำให้หลอดเลือดเปราะและแตกได้ง่าย
• ผู้ป่วยเบาหวาน: น้ำตาลในเลือดสูงทำลายหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบตัน
• ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง: ไขมันสะสมในหลอดเลือดเป็นสาเหตุของหลอดเลือดตีบ
• คนที่สูบบุหรี่และดื่มสุรา: พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอักเสบและเสื่อมสภาพเร็ว
• ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย: การขาดการเคลื่อนไหวทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
ทำไม Stroke ถึงอันตราย?
โรคหลอดเลือดสมองถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก และเป็นต้นเหตุของความพิการระยะยาวในผู้ป่วยจำนวนมาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้สมองเสียหายถาวร สูญเสียการควบคุมร่างกาย หรือแม้แต่เสียชีวิตได้
ป้องกันไว้ก่อนสาย: สุขภาพดีเริ่มต้นที่ตัวคุณ
1. ควบคุมความดันโลหิต: หมั่นตรวจความดันอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
2. ลดน้ำตาลและไขมัน: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และหลีกเลี่ยงของทอดหรือของมัน
3. เลิกสูบบุหรี่และงดดื่มสุรา: นิสัยเหล่านี้เป็นตัวเร่งโรคหลอดเลือดสมองโดยตรง
4. ออกกำลังกายเป็นประจำ: อย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น เดินเร็ว วิ่ง หรือโยคะ
5. ลดความเครียด: หาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายจิตใจ
อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก่อนจะใส่ใจสุขภาพของตัวเอง การดูแลตัวเองวันนี้ อาจช่วยชีวิตคุณหรือคนที่คุณรักในวันพรุ่งนี้!
ช่วงอากาศเย็น ! อัตราเกิดฉ่ำ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ศัตรูเงียบที่อาจคร่าชีวิต
ในช่วงอากาศเย็น โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke กลายเป็นภัยที่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา กินอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย หรือมีโรคประจำตัวอย่าง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง คุณกำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นโรคนี้ได้ทุกเมื่อ
อาการเตือน: สัญญาณที่ต้องรีบสังเกต
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อเพิ่มโอกาสการรักษา:
1. ปากเบี้ยว: มุมปากตกลงข้างหนึ่ง ยิ้มไม่เท่ากัน
2. ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด: พูดจาติดขัด ฟังไม่เป็นคำ
3. แขนขาอ่อนแรง: ขยับแขนหรือขาข้างหนึ่งไม่ได้ หรือมีอาการชา
4. ซึม พูดจาสับสน: มึนงง จำคนรอบข้างหรือสถานการณ์ไม่ได้
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคนี้?
แม้ว่า Stroke จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่กลุ่มคนที่มีพฤติกรรมและโรคประจำตัวต่อไปนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก:
• ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง: ความดันที่สูงติดต่อกันทำให้หลอดเลือดเปราะและแตกได้ง่าย
• ผู้ป่วยเบาหวาน: น้ำตาลในเลือดสูงทำลายหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบตัน
• ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง: ไขมันสะสมในหลอดเลือดเป็นสาเหตุของหลอดเลือดตีบ
• คนที่สูบบุหรี่และดื่มสุรา: พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอักเสบและเสื่อมสภาพเร็ว
• ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย: การขาดการเคลื่อนไหวทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
ทำไม Stroke ถึงอันตราย?
โรคหลอดเลือดสมองถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก และเป็นต้นเหตุของความพิการระยะยาวในผู้ป่วยจำนวนมาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้สมองเสียหายถาวร สูญเสียการควบคุมร่างกาย หรือแม้แต่เสียชีวิตได้
ป้องกันไว้ก่อนสาย: สุขภาพดีเริ่มต้นที่ตัวคุณ
1. ควบคุมความดันโลหิต: หมั่นตรวจความดันอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
2. ลดน้ำตาลและไขมัน: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และหลีกเลี่ยงของทอดหรือของมัน
3. เลิกสูบบุหรี่และงดดื่มสุรา: นิสัยเหล่านี้เป็นตัวเร่งโรคหลอดเลือดสมองโดยตรง
4. ออกกำลังกายเป็นประจำ: อย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น เดินเร็ว วิ่ง หรือโยคะ
5. ลดความเครียด: หาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายจิตใจ
อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก่อนจะใส่ใจสุขภาพของตัวเอง การดูแลตัวเองวันนี้ อาจช่วยชีวิตคุณหรือคนที่คุณรักในวันพรุ่งนี้!