เอาประสบการณ์ที่คิดว่ามีประโยชน์มาแชร์ให้ฟัง
น้องที่รู้จักมาแชร์เรื่องรุ้สึกไม่ดีเวลาเห็นเพื่อนๆในเฟสไปเที่ยว มีความสะดวกสบาย หรือมีความสุข ภาพเหล่านั้นนำไปสู่ความทุกข์ใจ และนำไปสู่การตั้งคำถามว่าเกิดจากอะไร?
เนื่องจากเป็นคนสนใจประเด็นพวกนี้อยู่มาก เลยมักจะมีน้องๆมาคุยมาปรึกษาตลอด กรณีนี้ก็เช่นกัน
ทำให้อยากรุ้เหมือนกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
คิดอยู่นาน ก่อนจะรุ้สึกคุ้นๆว่า เพราะจิตน้องน่าจะไม่ได้เปิดระบบ ความรุ้สึกยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี หรือ ทางธรรมเรียกว่าขาดมุฑิตา
"จิตไม่ได้ใส่ฟังกชั่น มุฑิตา เข้าไปในระบบ หรือไม่ฟังกชั่นนี้ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่"เป็นการตั้งปัญหาขึ้นมาน่าจะเป็นประเด็นนี้
ทำให้เกิดความสนใจศึกษาลงไป มุฑิตาเนี่ย มันเป็นมวยถูกคู่กับ อิจฉา(ริษยา) คือถ้ามีมุฑิตา อิจจาริษยาก็จะลดไปหรือหายไปในที่สุด ถ้าจะแก้ก็ต้องไปใส่ตัวมุฑิตาให้เกิดในจิตให้ได้ และต้องหาให้ได้ว่าทำไมจิตถึงขาดมัน
ซึ่งจะเข้าใจได้ต่อเมื่อเราเข้าใจ ความอิจฉาเสียก่อน
ไปนั่งกวาดต้อนข้อมูลอยู่นาน ทั้งจากข้อมูลของสมาคมจิตแพทย์ รวมทั้งปรัชญาทางศาสนาต่างๆ
ยอ่ยให้เข้าใจง่ายๆว่า
ความอิจฉานั้น รากในระดับแรกคือ ความไม่พอใจผู้อื่น สถานนีถัดมา ที่ไม่พอใจผู้อื่น เพราะ"ไม่พอใจตัวเอง" ซึ่งรากของความไม่พอใจตัวเองนั้น มีปมทางจิตใจได้หลายสาเหตุ แต่ตัวฐานน่าจะคือโลภะ - และ อคติต่อตัวเอง
เมื่อไปจับตัวปัญหาได้ว่าเกิดจากความไม่พอใจตัวเอง พาลไปเกาะกับผู้อื่นและไม่พอใจความสำเร็จของผุ้อื่นไปด้วยนั้น ทางแก้ก็ต้องสลายความไม่พอใจตัวเองให้ได้ ซึ่งมันเป็นงานยุ่งยากอยู่เหมือนกัน
นั่นคือข้อแรกต้องไปสลายอคติต่อตัวเองให้ได้ ซึ่งก็คือ การรับรุ้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองอย่างแท้จริงโดยไม่บิดเบือน(อคติ)
สองคือ ต้องไปสลายความรุ้สึกขาดหรือคาดหวังต่อตัวเองให้ได้(โลภะ)
ยากนะ ยากมาก แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะลองดู
การแก้อคติเกี่ยวกับตัวเองคือ การพิจรณาอย่างท่องว่า ตัวเราเป็นเราในวันนี้เกิดจากเหตุปัจจัยใดเป็นเหตุ เหตุปัจจัยใดเกิดจากตัวเราเป็นผู้กระทำ เหตุปัจจัยใดเป็นเหตุที่เกิดจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ หลายคนที่มีอคติต่อตัวเองจะมีปัญหา เกี่ยวกับที่มาของเหตุปัจจัย บิดเบือนวิปลาสไป(กรณีอคติต่อตัวเองนี้รวมถึงผู้ป่วยซึมเศร้าที่โทษตัวเองทุกอย่าง โดยไม่ได้มองว่าเหตุทั้งหมดเป็นไปอย่างไรตามความเป็นจริง)
สองการสลายความคาดหวังและความรุ้สึกขาด(โลภะ)
ความรุ้สึกขาดของจิต อาจเกิดได้ทั้งจากตัวเราในปัจจุบัน หรือ ปมจากตัวเราในอดีต หรือสภาพแวดล้อมที่ผลักดันตัวเราในอดีตและปัจจบัน ตัวนี้พูดยากและแก้กันยาก ทางที่ดีที่สุดคือ การมองเห็นมันให้ได้ก่อนว่า มันมีผลอย่างไรต่อตัวเราบ้าง บางครั้งการเห็นมันก่อน ปล่อยมันเกิด มีสติไปตามจับ และปล่อยให้มันบรรเทาลงไปเอง อาจจะเป็นทางแก้ที่เป็นไปได้ที่สุดกับปัญหาที่เกิดจาก ไวรัสตัวนี้ พอทำบอ่ยๆเข้ารุ้จักมันมากเข้าแล้วค่อยรวมกำลัง ล้วงลงไปถึงปมในอคติที่เป็นแรงขับ ให้เกิดความริษยา เช่น บางคนโดนพ่อแม่เลี้ยงแบบเปรียบเทียบตั้งแต่เด็ก โตขึ้นก็โดนกดดันจากครอบครัวจนกลายเป็นรุ้สึกขาดตลอด เพราะครอบครัวไม่เคยพอใจในตัวเราเป็นต้น เช่นนี้ ทางแก้ก็ต้องให้รุ้ให้เข้าใจที่มาที่ไปของการรุ้สึกขาดของเราแล้ว ความรุ้สึกคาดหวังและขาดทีเกิดจากปมทางจิตเราก็น่าจะบรรเทาลง
หลังจากตามอ่านเว็บทั้งทางศาสนาและทางจิตวิทยา ยังไม่ได้คำตอบทีครบนัก ก็เลยรวมๆมาสรุปไว้คร่าวๆ ทางแก้คือมีสติ ให้สติรุ้ว่าตัวเองขาดมุฑิตา เมื่อรุ้ว่าตัวเองขาดมุฑิตา พิจรณาต่อให้เห็นอคติเห็นความโลภที่อยู่ในจิต เมื่อรุ้แล้วก็ค่อยไปสติไปจับปัญญาไปแก้อคติความโลภในจิตใจของเรานั้นถ้าแก้ได้ ความรุ้สึกเศร้าหมองก็น่าจะบรรเทาลง เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วฟังกชั่นระบบมุฑิตาก็จะกลับมานั่นเอง
ขอให้สนุกกับการเขียนโปรแกรมในจิตใจกันใหม่นะครับ
ตอนต่อไปจะ โพสลึกลงไปในแก้ปัญหานี้
และ ส่วนหนึ่งของปัญหานี้ที่ เบ่งบานเชื่อมโยงไปถึงอาการซึมเศร้าด้วย
(ตอนที่ 1)มีความทุกข์ใจ เวลาเห็นคนอื่นได้ดีมีความสุข
น้องที่รู้จักมาแชร์เรื่องรุ้สึกไม่ดีเวลาเห็นเพื่อนๆในเฟสไปเที่ยว มีความสะดวกสบาย หรือมีความสุข ภาพเหล่านั้นนำไปสู่ความทุกข์ใจ และนำไปสู่การตั้งคำถามว่าเกิดจากอะไร?
เนื่องจากเป็นคนสนใจประเด็นพวกนี้อยู่มาก เลยมักจะมีน้องๆมาคุยมาปรึกษาตลอด กรณีนี้ก็เช่นกัน
ทำให้อยากรุ้เหมือนกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
คิดอยู่นาน ก่อนจะรุ้สึกคุ้นๆว่า เพราะจิตน้องน่าจะไม่ได้เปิดระบบ ความรุ้สึกยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี หรือ ทางธรรมเรียกว่าขาดมุฑิตา
"จิตไม่ได้ใส่ฟังกชั่น มุฑิตา เข้าไปในระบบ หรือไม่ฟังกชั่นนี้ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่"เป็นการตั้งปัญหาขึ้นมาน่าจะเป็นประเด็นนี้
ทำให้เกิดความสนใจศึกษาลงไป มุฑิตาเนี่ย มันเป็นมวยถูกคู่กับ อิจฉา(ริษยา) คือถ้ามีมุฑิตา อิจจาริษยาก็จะลดไปหรือหายไปในที่สุด ถ้าจะแก้ก็ต้องไปใส่ตัวมุฑิตาให้เกิดในจิตให้ได้ และต้องหาให้ได้ว่าทำไมจิตถึงขาดมัน
ซึ่งจะเข้าใจได้ต่อเมื่อเราเข้าใจ ความอิจฉาเสียก่อน
ไปนั่งกวาดต้อนข้อมูลอยู่นาน ทั้งจากข้อมูลของสมาคมจิตแพทย์ รวมทั้งปรัชญาทางศาสนาต่างๆ
ยอ่ยให้เข้าใจง่ายๆว่า
ความอิจฉานั้น รากในระดับแรกคือ ความไม่พอใจผู้อื่น สถานนีถัดมา ที่ไม่พอใจผู้อื่น เพราะ"ไม่พอใจตัวเอง" ซึ่งรากของความไม่พอใจตัวเองนั้น มีปมทางจิตใจได้หลายสาเหตุ แต่ตัวฐานน่าจะคือโลภะ - และ อคติต่อตัวเอง
เมื่อไปจับตัวปัญหาได้ว่าเกิดจากความไม่พอใจตัวเอง พาลไปเกาะกับผู้อื่นและไม่พอใจความสำเร็จของผุ้อื่นไปด้วยนั้น ทางแก้ก็ต้องสลายความไม่พอใจตัวเองให้ได้ ซึ่งมันเป็นงานยุ่งยากอยู่เหมือนกัน
นั่นคือข้อแรกต้องไปสลายอคติต่อตัวเองให้ได้ ซึ่งก็คือ การรับรุ้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองอย่างแท้จริงโดยไม่บิดเบือน(อคติ)
สองคือ ต้องไปสลายความรุ้สึกขาดหรือคาดหวังต่อตัวเองให้ได้(โลภะ)ยากนะ ยากมาก แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะลองดู
การแก้อคติเกี่ยวกับตัวเองคือ การพิจรณาอย่างท่องว่า ตัวเราเป็นเราในวันนี้เกิดจากเหตุปัจจัยใดเป็นเหตุ เหตุปัจจัยใดเกิดจากตัวเราเป็นผู้กระทำ เหตุปัจจัยใดเป็นเหตุที่เกิดจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ หลายคนที่มีอคติต่อตัวเองจะมีปัญหา เกี่ยวกับที่มาของเหตุปัจจัย บิดเบือนวิปลาสไป(กรณีอคติต่อตัวเองนี้รวมถึงผู้ป่วยซึมเศร้าที่โทษตัวเองทุกอย่าง โดยไม่ได้มองว่าเหตุทั้งหมดเป็นไปอย่างไรตามความเป็นจริง)
สองการสลายความคาดหวังและความรุ้สึกขาด(โลภะ)
ความรุ้สึกขาดของจิต อาจเกิดได้ทั้งจากตัวเราในปัจจุบัน หรือ ปมจากตัวเราในอดีต หรือสภาพแวดล้อมที่ผลักดันตัวเราในอดีตและปัจจบัน ตัวนี้พูดยากและแก้กันยาก ทางที่ดีที่สุดคือ การมองเห็นมันให้ได้ก่อนว่า มันมีผลอย่างไรต่อตัวเราบ้าง บางครั้งการเห็นมันก่อน ปล่อยมันเกิด มีสติไปตามจับ และปล่อยให้มันบรรเทาลงไปเอง อาจจะเป็นทางแก้ที่เป็นไปได้ที่สุดกับปัญหาที่เกิดจาก ไวรัสตัวนี้ พอทำบอ่ยๆเข้ารุ้จักมันมากเข้าแล้วค่อยรวมกำลัง ล้วงลงไปถึงปมในอคติที่เป็นแรงขับ ให้เกิดความริษยา เช่น บางคนโดนพ่อแม่เลี้ยงแบบเปรียบเทียบตั้งแต่เด็ก โตขึ้นก็โดนกดดันจากครอบครัวจนกลายเป็นรุ้สึกขาดตลอด เพราะครอบครัวไม่เคยพอใจในตัวเราเป็นต้น เช่นนี้ ทางแก้ก็ต้องให้รุ้ให้เข้าใจที่มาที่ไปของการรุ้สึกขาดของเราแล้ว ความรุ้สึกคาดหวังและขาดทีเกิดจากปมทางจิตเราก็น่าจะบรรเทาลง
หลังจากตามอ่านเว็บทั้งทางศาสนาและทางจิตวิทยา ยังไม่ได้คำตอบทีครบนัก ก็เลยรวมๆมาสรุปไว้คร่าวๆ ทางแก้คือมีสติ ให้สติรุ้ว่าตัวเองขาดมุฑิตา เมื่อรุ้ว่าตัวเองขาดมุฑิตา พิจรณาต่อให้เห็นอคติเห็นความโลภที่อยู่ในจิต เมื่อรุ้แล้วก็ค่อยไปสติไปจับปัญญาไปแก้อคติความโลภในจิตใจของเรานั้นถ้าแก้ได้ ความรุ้สึกเศร้าหมองก็น่าจะบรรเทาลง เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วฟังกชั่นระบบมุฑิตาก็จะกลับมานั่นเอง
ขอให้สนุกกับการเขียนโปรแกรมในจิตใจกันใหม่นะครับ
ตอนต่อไปจะ โพสลึกลงไปในแก้ปัญหานี้
และ ส่วนหนึ่งของปัญหานี้ที่ เบ่งบานเชื่อมโยงไปถึงอาการซึมเศร้าด้วย