คนเหนือแค่บางพื้นที่เท่านั้นที่จะมีโอกาสได้กินลูกเนียง ซึ่งพื้นบ้านจะเรียกว่า บะตึ๋งยาง และจะไม่เป็นที่รู้จัก
ของคนเหนือทั่วไป พบเห็นได้ทางอำเภอที่อยู่ทางชายแดนติดพม่าทาง อ.แม่สอด แม่ระมาก ท่าสองยาง
จ. ตาก และแทบทุกอำเภอ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
จากหน้าตาแล้วคืออันเดียวกันกับเนียงทางภาคใต้ เพียงแค่ถ้าเป็นทางเหนือยังเป็นพืชป่า ชาวบ้านเข้าไปเก็บ
ในป่าออกมาขาย แต่ก็เริ่มมีบ้างแล้วที่มีการในมาปลูกในสวนตามไหล่เขาไหล่ดอย
ทำเป็นขนมหวานแล้ว น่ากินไม่น้อย
ในตลาดเขาตวงขายเป็นลิตร ที่เห็นนี้ลิตรละ 50 บาท จัดการซื้อมา 2 ลิตร
นำไปต้มในน้ำเดือด สักพักเปลือกเขาจะร่อนออก ต้มต่อไปสักครึ่งชั่วโมง จัดการคัดเปลือกออกทิ้งแล้วล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
นำไปทุบแค่ให้บี้ให้แบน
ลงกระทะที่มีหางกะทิ เตรียมเชื่อม
เปิดไฟกลางค่อนมาทางอ่อน โรยเกลือป่น ต้องหมั่นคนไม่ให้กะทิแตกมัน
นำตาลปิ๊บใส่ตามไปทีหลัง ไม่งั้นมันจะไปรัดเนียงทำให้เหนียว แข็ง ชิมให้มีแค่หวานอ่อน ๆ เค็มนิด ๆ
น้ำตาลเข้าเนื้อได้ที่ใส่หัวกะทิลงไปอีกครั้ง คนต่อไปให้เหลือน้ำขลุกขลิก
ตักใส่กระป๋อง เข้าตู้เย็น พร้อมกินได้เมื่อใจต้องการ
กินกับกาแฟตอนเช้าก็ฟินใช่ย่อย
สวัสดึครับ
ลูกเนียงเมืองใต้ คนเหนือเอามาทำเป็นขนมกินเล่น "บะตึ๋งยางเชื่อมกะทิ"
ของคนเหนือทั่วไป พบเห็นได้ทางอำเภอที่อยู่ทางชายแดนติดพม่าทาง อ.แม่สอด แม่ระมาก ท่าสองยาง
จ. ตาก และแทบทุกอำเภอ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
จากหน้าตาแล้วคืออันเดียวกันกับเนียงทางภาคใต้ เพียงแค่ถ้าเป็นทางเหนือยังเป็นพืชป่า ชาวบ้านเข้าไปเก็บ
ในป่าออกมาขาย แต่ก็เริ่มมีบ้างแล้วที่มีการในมาปลูกในสวนตามไหล่เขาไหล่ดอย
ทำเป็นขนมหวานแล้ว น่ากินไม่น้อย
ในตลาดเขาตวงขายเป็นลิตร ที่เห็นนี้ลิตรละ 50 บาท จัดการซื้อมา 2 ลิตร
นำไปต้มในน้ำเดือด สักพักเปลือกเขาจะร่อนออก ต้มต่อไปสักครึ่งชั่วโมง จัดการคัดเปลือกออกทิ้งแล้วล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
นำไปทุบแค่ให้บี้ให้แบน
ลงกระทะที่มีหางกะทิ เตรียมเชื่อม
เปิดไฟกลางค่อนมาทางอ่อน โรยเกลือป่น ต้องหมั่นคนไม่ให้กะทิแตกมัน
นำตาลปิ๊บใส่ตามไปทีหลัง ไม่งั้นมันจะไปรัดเนียงทำให้เหนียว แข็ง ชิมให้มีแค่หวานอ่อน ๆ เค็มนิด ๆ
น้ำตาลเข้าเนื้อได้ที่ใส่หัวกะทิลงไปอีกครั้ง คนต่อไปให้เหลือน้ำขลุกขลิก
ตักใส่กระป๋อง เข้าตู้เย็น พร้อมกินได้เมื่อใจต้องการ
กินกับกาแฟตอนเช้าก็ฟินใช่ย่อย
สวัสดึครับ