ซ่อนรักพรางใจ
ตอนที่ 10 ยิ่งใกล้เข้ามา หัวใจก็ยิ่งเจ็บปวด
……หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ภายในห้องทำงานส่วนตัวกำลังเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาสวยกระพริบเล็กน้อยเมื่อนึกสงสัยว่าเธอเห็นสายฝนที่เคยตกชุกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่...วันเดือนค่อยๆหมุนผ่านพ้นไป เดือนตุลาคม ปณาลีหลับตาลงอย่างอ่อนแรงพลางนึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
“ ยิ้มกันหน่อยสาวๆ พี่คินสุดหล่อจะถ่ายรูปให้ อ่ะ หนึ่ง สอง สาม…” อคินร้องบอกสองสาวในชุดรับปริญญาที่ต่างกอดคอกันกลมด้วยความภาคภูมิใจ แล้วบรรดาเพื่อนๆก็ร้องโห่ออกมาอย่างอิจฉาเมื่อว่าที่เจ้าบ่าวของบัณฑิตสาวในกลุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับหอบเอากุหลาบสีชมพูช่อโตมามอบให้และร่วมถ่ายภาพคู่
“ โอ้ยๆๆ ถ่ายรูปรับปริญญานะคะไม่ใช่พรีเวดดิ้ง ” ปณาลีร้องบอกเสียงใส
“ ฮิ้วววววว ” ทุกคนต่างร้องเชียร์ใส่
“ ยินดีกับบัณฑิตทุกคนนะครับ จากนี้ก็ขอให้ทุกคนเผชิญโลกกว้างด้วยความเข้มแข็งนะ ” เหมรัศนิ์อวยพรทุกคน
“ คร๊าบผม / ค๊า ” บัณฑิตที่เป็นรุ่นน้องรับคำกับอื้ออึง
หลังรับปริญญาบ้านปฏิไพศาลกุลก็จัดงานเลี้ยงอีกครั้งเพื่อฉลองให้บัณฑิตทั้งสอง งานนี้มีบิดามารดาของลัลนามาร่วมด้วยเพราะถือว่าเป็นกำลังจะครอบครัวเดียวกันแล้ว และใกล้ถึงวันงานแต่งงานจึงถือโอกาสอยู่ช่วยกันเตรียมงานเสียเลย
“ อุ๊บ!!!... ” ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกันปณาลีก็หลบมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง หญิงสาวรู้สึกอาการไม่ดีมาตั้งแต่ช่วงซ้อมรับปริญญาแล้วแต่ก็คิดว่าอาจเป็นเพราะตนเองโหมงานหนักมาตลอดและบวกกับอาการเหนื่อยจากซ้อมรับปริญญา
“ เฮ่อ…สงสัยจะเครียดเกินไป ” ล้างหน้าล้างมือเรียบร้อยก็ออกมาจากห้องน้ำ
“ หนูลี ” เสียงทุ้มของคุณสุธีรีชเรียกหญิงสาวไว้เมื่อเห็นท่าทางอ่อนเพลียนั้น
“ ขา คุณลุงมีอะไรใช้หนูลีไหมคะ ” ปณาลีสาวเท้าเข้ามากอดแขนผู้สูงวัยแล้วยิ้มบางๆ
“ ไม่สบายเหรอลูก ” วางมือลงบนศีรษะอย่างเอ็นดู ปณาลีรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอเมื่อหยาดน้ำตาไหลออกมา คุณสุธีรัชจึงพามานั่งพักที่ห้องทำงานส่วนตัว สายตาคนผ่านโลกมาค่อนชีวิตมองดูหญิงสาวคราวลูกด้วยความเมตตา หุ่นบางอ้อนแอ้นซูบลงไปไม่น้อยจนท่านนึกห่วง และหลังๆมานี้ปณาลีหายไปหน้าเป็นพักกว่าจะเข้ามาเยี่ยมเยียนผู้ใหญ่ทั้งสอง
“ อย่าคิดอะไรให้มากเลย ความรักเป็นสิ่งที่ดีไม่ว่าจะเป็นรักแบบไหน ” ปณาลีช้อนสายตาขึ้นมามองด้วยความละอายใจ
“ หนูลี แย่มากใช่ไหมคะ ” คุณสุธีรัชแตะไหล่บอบบางมากอดหลวมๆ ท่านลูบศีรษะเธอปลอบประโลม
“ หนูเป็นผู้หญิงที่ดีมากเชื่อลุงสิ ลุงไม่เคยเห็นใครมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เท่าหนูมาก่อน นินาเองก็เช่นกัน หนูสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ”
“ คุณลุง… ” ปณาลีร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้น ตอนนั้นเองที่ประตูห้องทำงานเปิดเข้ามา
“ คุณพ่ออยู่ที่นี่เอง อ้าว! หนูลีเป็นอะไร ” หัทยานั่นเองที่เข้ามา เธอตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าหญิงสาวที่รักดั่งน้องสาวอีกคนกำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของบิดา
“ น้องไม่ค่อยสบายน่ะเจ้าตาล ดูแลน้องด้วยนะพ่อจะออกไปดูแลพ่อแม่หนูนินาเสียหน่อย ” คุณสุธีรัชยังไม่ทันก้าวขาออกจากห้องก็ต้องหันมาตามเสียงวิ่งของปณาลีที่วิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำของห้องทำงาน คิ้วของท่านขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด ปณาลีหายหน้า บุตรชายมีท่าทีไม่สงบนักเมื่อต้องเจอหน้าหญิงสาว สักครู่หัทยาก็ประคองปณาลีออกมานั่งพักที่โซฟา คุณสุธีรัชยังยืนอยู่ที่เดิม
“ ตาลนึกว่าคุณพ่อออกไปแล้ว ” หัทยาค้นหายาดมแถวโต๊ะทำงานบิดามาจ่อจมูกหญิงสาวแต่เธอกลับปัดมันออก
“ เหม็นค่ะพี่ตาล หนูลีไม่เอา ” ปณาลีหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วก็หลับไปดื้อๆ
“ อ้าว หนูลี เป็นลมหรอนั่น ” พยายามเขย่าเรียกแต่ก็เงียบ บิดาจึงเดินเข้ามาใช้หลังมือแตะหน้าผากของปณาลี
“ เดี๋ยวพอหนูลีตื่น ตาลพาน้องไปตรวจกับอาหมอนะ ” สั่งบุตรสาวไว้
“ เอ๊ะ น้องแค่เหนื่อยจากรับปริญญามั้งคะคุณพ่อ จะไปหาอาหมอทำไมคะ อาหมอตรวจ… ” หัทยาเบิกตากว้างเมื่อนึกได้ว่าอาหมอหรือ หมอสุภวัฒน์ น้องชายของบิดาและเป็นอาของ เธอท่านเป็นหมอสูตินารี
“ คุณพ่อคิดว่า หนูลี… ” หัทยาอ้ำอึ้ง
“ หมออะไรก็ตรวจวัดไข้ได้น่าเจ้าตาล พ่อฝากดูแลน้องด้วยนะ ” พูดแค่นั้นบิดาก็ออกจากห้องไป หัทยาจึงหันมามองหน้าคนที่หลับอยู่ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
ปณาลีลืมตาขึ้นเมื่อมีเสียงเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา
“ ไงคนเก่ง ข่าวว่าป่วยจนต้องหามไปโรงพยาบาล ” อคินเดินเข้ามาหา แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยื่นมือมาแตะหน้าผากรุ่นน้องสาว แล้วก็แตะที่คอตัวเองบ้าง
“ ไม่เห็นจะร้อนเลยนี่ เหนื่อยจากซ้อมรับปริญญาหรือเปล่า ” อคินถามเพราะหลังจากที่หัทยาพาปณาลีไปโรงพยาบาลแล้วก็พาไปส่งที่บ้านเลย
“ ก็…คงเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ ” ปณาลีตอบเลี่ยงๆ แล้วก็หันไปสนใจกับผลไม้รสเปรี้ยวตรงหน้า
“ เหอะๆ เห็นแล้วเข็ดฟัน ยังชอบกินของแบบนี้ไม่เปลี่ยนเลยนะเรา สงสารลำไส้ ” อคินทำท่าขนลุกเมื่อหยิบมาชิมหนึ่งคำ
“ วิตามินซีไงพี่คิน โธ่…” แล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย
“ หมอว่ายังไงมั่งล่ะไปตรวจมา ” อคินถามแล้วก็หยิบเอาผลงานบนโต๊ะมาเปิดดูจึงไม่เห็นท่าทางอ้ำอึ้งของอีกฝ่าย
“ ก็อ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย ให้ยาบำรุงมาทานค่ะ ”
“ พี่คงใช้งานเราหนักไป งั้นงานพวกนี้ก็ไม่ต้องเร่งหรอก ไม่ไหวก็พักเข้าใจไหมยัยเด็กดื้อ ” อคินบอกด้วยความห่วงใย
“ รักพี่คินจัง ” ปณาลีทำเสียงหวานอ้อน
“ มาทำอ้อนอีก ป่ะ ไปกินข้าวกัน ” อคินดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะชวนแต่ปณาลีกลับรีบปฏิเสธทันทีแล้วบอกว่าขอตัวกลับบ้านเลยเพราะเริ่มง่วงเพราะยาบำรุงที่ทานไปตอนเช้า อคินจึงขับรถมาส่งพร้อมสั่งให้หาข้าวกิน ทานยาแล้วพักผ่อนให้มากก่อนจะกลับไป
ปณาลีเดินเปิดประตูรั้วเข้ามาก็เห็นว่ามีรถยนต์จอดอยู่หนึ่งคันก็รู้ได้ทันทีว่าพี่ชายกลับมาแล้ว
“ พี่อ้อม…โอ๊ะ! ” พอตะโกนเรียกพี่ชายก็รู้สึกหน้ามืดเซไปจับขอบอ่างบัวหน้าบ้านไว้ ปกรณ์ที่เดินออกมาเพราะเสียงเรียกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นน้องสาวทำท่าจะเอาหน้าจุ่มลงไปในอ่างบัวจนต้องรีบเข้าไปพยุงไว้
“ หนูลีเป็นอะไรน่ะ ” เห็นน้องสาวเป็นลมพับไปพี่ชายก็รีบอุ้มเข้ามาในบ้านทันที
มือที่กำลังกดส่งข้อความด้วยอาการกระวนกระวายใจอยู่ในสายตาของเหมรัศนิ์ตลอดจนเขาต้องเรียกเพื่อนสนิทให้หันมาตอบคำถาม
“ เป็นอะไรวะคิน กิ๊กไม่ตอบแชทรึไง ”
“ พี่คินมีกิ๊กด้วยหรอคะ ” ลัลนาถามเสียงซื่อ
“ อ้อ เปล่าหรอก ก่อนมานี่ฉันไปส่งหนูลีที่บ้านมา สั่งไว้ให้กินข้าวกินยาแล้วนอน นี่ยังไม่แชทมาบอกเลยว่าทำตามรึยัง ยิ่งหลงๆอยู่ด้วย ” อคินเลิกพิมพ์โทรศัพท์หันมาสนใจอาหารตรงหน้า
“ นินาโทรหาเมื่อเช้าก็บอกว่าดีขึ้นแล้วนะคะ นี่ไม่สบายอยู่บ้านคนเดียวใครจะดูแล นินาไปหาหนูลีดีกว่าค่ะ ” ลัลนาทำท่าจะหยิบโทรศัพท์อคินก็โบกมือยั้งไว้ก่อน
“ ไม่เป็นอะไรหรอกนินา พี่เห็นมีรถจอดอยู่คุณปกรณ์คงกลับมาแล้วล่ะ ” อคินบอก
“ ใครเหรอ คุณปกรณ์ ” เหมรัศนิ์สงสัย
“ พี่อ้อมน่ะค่ะ เป็น… ” ลัลนากำลังจะตอบ
“ แฟนยัยหนูลีน่ะ คบกันแบบลับๆ ถ้ากลับมาแล้วคงดูแลกันเอง ” อคินตอบยิ้มๆเมื่อเห็นลัลนาทำตาโต
“ หือ ทำไมต้องคบกันลับๆล่ะ มีแฟนดูแลก็ดีแล้วนี่ ” คนถูกหลอกทำท่าสงสัย
“ เอ่อ…พี่อ้อมต้องไปทำงานที่อื่นไกลๆก็เลยไม่ค่อยมีใครรู้จักน่ะค่ะพี่เต็ม นินาเองก็เจอปีละไม่กี่ครั้งเอง ”
ลัลนาอธิบายแต่ก็ยังคงสงสัยที่อคินบอกว่าปกรณ์เป็นแฟนของปณาลี แต่เห็นท่าทางขยิบตาของอคินก็เลยปล่อยเลยตามเลย
“ ทำไมพี่คินบอกว่าพี่อ้อมเป็นแฟนหนูลีล่ะคะ ” ลัลนาถามผ่านแชทเมื่อแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว
“ เรารู้กันอยู่ว่าหนูลีคิดยังไงกับไอ้เต็ม มันเองก็ไม่สบายใจมาตลอด ให้มันเข้าใจว่าหนูลีมีคนดูแลน่ะดีแล้ว”
อคินบอกมาแบบนี้ลัลนาจึงเข้าใจ อย่างน้อยทุกคนจะได้หันหน้ามามองกันได้อย่างเดิม
***********************************************************************************************************************************
รักเฮียคิน
มุกตามัน
***********************************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37694309
ตอนที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37704868
ตอนที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37710134
ตอนที่ 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37714469
ตอนที่ 5
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37717748
ตอนที่ 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37721605
ตอนที่ 7
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37726558
ตอนที่ 8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37742970
ตอนที่ 9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37748901
ซ่อนรักพรางใจ (ตอนที่ 10)
ตอนที่ 10 ยิ่งใกล้เข้ามา หัวใจก็ยิ่งเจ็บปวด
……หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ภายในห้องทำงานส่วนตัวกำลังเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาสวยกระพริบเล็กน้อยเมื่อนึกสงสัยว่าเธอเห็นสายฝนที่เคยตกชุกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่...วันเดือนค่อยๆหมุนผ่านพ้นไป เดือนตุลาคม ปณาลีหลับตาลงอย่างอ่อนแรงพลางนึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
“ ยิ้มกันหน่อยสาวๆ พี่คินสุดหล่อจะถ่ายรูปให้ อ่ะ หนึ่ง สอง สาม…” อคินร้องบอกสองสาวในชุดรับปริญญาที่ต่างกอดคอกันกลมด้วยความภาคภูมิใจ แล้วบรรดาเพื่อนๆก็ร้องโห่ออกมาอย่างอิจฉาเมื่อว่าที่เจ้าบ่าวของบัณฑิตสาวในกลุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับหอบเอากุหลาบสีชมพูช่อโตมามอบให้และร่วมถ่ายภาพคู่
“ โอ้ยๆๆ ถ่ายรูปรับปริญญานะคะไม่ใช่พรีเวดดิ้ง ” ปณาลีร้องบอกเสียงใส
“ ฮิ้วววววว ” ทุกคนต่างร้องเชียร์ใส่
“ ยินดีกับบัณฑิตทุกคนนะครับ จากนี้ก็ขอให้ทุกคนเผชิญโลกกว้างด้วยความเข้มแข็งนะ ” เหมรัศนิ์อวยพรทุกคน
“ คร๊าบผม / ค๊า ” บัณฑิตที่เป็นรุ่นน้องรับคำกับอื้ออึง
หลังรับปริญญาบ้านปฏิไพศาลกุลก็จัดงานเลี้ยงอีกครั้งเพื่อฉลองให้บัณฑิตทั้งสอง งานนี้มีบิดามารดาของลัลนามาร่วมด้วยเพราะถือว่าเป็นกำลังจะครอบครัวเดียวกันแล้ว และใกล้ถึงวันงานแต่งงานจึงถือโอกาสอยู่ช่วยกันเตรียมงานเสียเลย
“ อุ๊บ!!!... ” ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกันปณาลีก็หลบมาเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง หญิงสาวรู้สึกอาการไม่ดีมาตั้งแต่ช่วงซ้อมรับปริญญาแล้วแต่ก็คิดว่าอาจเป็นเพราะตนเองโหมงานหนักมาตลอดและบวกกับอาการเหนื่อยจากซ้อมรับปริญญา
“ เฮ่อ…สงสัยจะเครียดเกินไป ” ล้างหน้าล้างมือเรียบร้อยก็ออกมาจากห้องน้ำ
“ หนูลี ” เสียงทุ้มของคุณสุธีรีชเรียกหญิงสาวไว้เมื่อเห็นท่าทางอ่อนเพลียนั้น
“ ขา คุณลุงมีอะไรใช้หนูลีไหมคะ ” ปณาลีสาวเท้าเข้ามากอดแขนผู้สูงวัยแล้วยิ้มบางๆ
“ ไม่สบายเหรอลูก ” วางมือลงบนศีรษะอย่างเอ็นดู ปณาลีรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอเมื่อหยาดน้ำตาไหลออกมา คุณสุธีรัชจึงพามานั่งพักที่ห้องทำงานส่วนตัว สายตาคนผ่านโลกมาค่อนชีวิตมองดูหญิงสาวคราวลูกด้วยความเมตตา หุ่นบางอ้อนแอ้นซูบลงไปไม่น้อยจนท่านนึกห่วง และหลังๆมานี้ปณาลีหายไปหน้าเป็นพักกว่าจะเข้ามาเยี่ยมเยียนผู้ใหญ่ทั้งสอง
“ อย่าคิดอะไรให้มากเลย ความรักเป็นสิ่งที่ดีไม่ว่าจะเป็นรักแบบไหน ” ปณาลีช้อนสายตาขึ้นมามองด้วยความละอายใจ
“ หนูลี แย่มากใช่ไหมคะ ” คุณสุธีรัชแตะไหล่บอบบางมากอดหลวมๆ ท่านลูบศีรษะเธอปลอบประโลม
“ หนูเป็นผู้หญิงที่ดีมากเชื่อลุงสิ ลุงไม่เคยเห็นใครมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เท่าหนูมาก่อน นินาเองก็เช่นกัน หนูสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ”
“ คุณลุง… ” ปณาลีร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้น ตอนนั้นเองที่ประตูห้องทำงานเปิดเข้ามา
“ คุณพ่ออยู่ที่นี่เอง อ้าว! หนูลีเป็นอะไร ” หัทยานั่นเองที่เข้ามา เธอตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าหญิงสาวที่รักดั่งน้องสาวอีกคนกำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของบิดา
“ น้องไม่ค่อยสบายน่ะเจ้าตาล ดูแลน้องด้วยนะพ่อจะออกไปดูแลพ่อแม่หนูนินาเสียหน่อย ” คุณสุธีรัชยังไม่ทันก้าวขาออกจากห้องก็ต้องหันมาตามเสียงวิ่งของปณาลีที่วิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำของห้องทำงาน คิ้วของท่านขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด ปณาลีหายหน้า บุตรชายมีท่าทีไม่สงบนักเมื่อต้องเจอหน้าหญิงสาว สักครู่หัทยาก็ประคองปณาลีออกมานั่งพักที่โซฟา คุณสุธีรัชยังยืนอยู่ที่เดิม
“ ตาลนึกว่าคุณพ่อออกไปแล้ว ” หัทยาค้นหายาดมแถวโต๊ะทำงานบิดามาจ่อจมูกหญิงสาวแต่เธอกลับปัดมันออก
“ เหม็นค่ะพี่ตาล หนูลีไม่เอา ” ปณาลีหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วก็หลับไปดื้อๆ
“ อ้าว หนูลี เป็นลมหรอนั่น ” พยายามเขย่าเรียกแต่ก็เงียบ บิดาจึงเดินเข้ามาใช้หลังมือแตะหน้าผากของปณาลี
“ เดี๋ยวพอหนูลีตื่น ตาลพาน้องไปตรวจกับอาหมอนะ ” สั่งบุตรสาวไว้
“ เอ๊ะ น้องแค่เหนื่อยจากรับปริญญามั้งคะคุณพ่อ จะไปหาอาหมอทำไมคะ อาหมอตรวจ… ” หัทยาเบิกตากว้างเมื่อนึกได้ว่าอาหมอหรือ หมอสุภวัฒน์ น้องชายของบิดาและเป็นอาของ เธอท่านเป็นหมอสูตินารี
“ คุณพ่อคิดว่า หนูลี… ” หัทยาอ้ำอึ้ง
“ หมออะไรก็ตรวจวัดไข้ได้น่าเจ้าตาล พ่อฝากดูแลน้องด้วยนะ ” พูดแค่นั้นบิดาก็ออกจากห้องไป หัทยาจึงหันมามองหน้าคนที่หลับอยู่ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
ปณาลีลืมตาขึ้นเมื่อมีเสียงเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา
“ ไงคนเก่ง ข่าวว่าป่วยจนต้องหามไปโรงพยาบาล ” อคินเดินเข้ามาหา แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยื่นมือมาแตะหน้าผากรุ่นน้องสาว แล้วก็แตะที่คอตัวเองบ้าง
“ ไม่เห็นจะร้อนเลยนี่ เหนื่อยจากซ้อมรับปริญญาหรือเปล่า ” อคินถามเพราะหลังจากที่หัทยาพาปณาลีไปโรงพยาบาลแล้วก็พาไปส่งที่บ้านเลย
“ ก็…คงเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ ” ปณาลีตอบเลี่ยงๆ แล้วก็หันไปสนใจกับผลไม้รสเปรี้ยวตรงหน้า
“ เหอะๆ เห็นแล้วเข็ดฟัน ยังชอบกินของแบบนี้ไม่เปลี่ยนเลยนะเรา สงสารลำไส้ ” อคินทำท่าขนลุกเมื่อหยิบมาชิมหนึ่งคำ
“ วิตามินซีไงพี่คิน โธ่…” แล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย
“ หมอว่ายังไงมั่งล่ะไปตรวจมา ” อคินถามแล้วก็หยิบเอาผลงานบนโต๊ะมาเปิดดูจึงไม่เห็นท่าทางอ้ำอึ้งของอีกฝ่าย
“ ก็อ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย ให้ยาบำรุงมาทานค่ะ ”
“ พี่คงใช้งานเราหนักไป งั้นงานพวกนี้ก็ไม่ต้องเร่งหรอก ไม่ไหวก็พักเข้าใจไหมยัยเด็กดื้อ ” อคินบอกด้วยความห่วงใย
“ รักพี่คินจัง ” ปณาลีทำเสียงหวานอ้อน
“ มาทำอ้อนอีก ป่ะ ไปกินข้าวกัน ” อคินดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะชวนแต่ปณาลีกลับรีบปฏิเสธทันทีแล้วบอกว่าขอตัวกลับบ้านเลยเพราะเริ่มง่วงเพราะยาบำรุงที่ทานไปตอนเช้า อคินจึงขับรถมาส่งพร้อมสั่งให้หาข้าวกิน ทานยาแล้วพักผ่อนให้มากก่อนจะกลับไป
ปณาลีเดินเปิดประตูรั้วเข้ามาก็เห็นว่ามีรถยนต์จอดอยู่หนึ่งคันก็รู้ได้ทันทีว่าพี่ชายกลับมาแล้ว
“ พี่อ้อม…โอ๊ะ! ” พอตะโกนเรียกพี่ชายก็รู้สึกหน้ามืดเซไปจับขอบอ่างบัวหน้าบ้านไว้ ปกรณ์ที่เดินออกมาเพราะเสียงเรียกก็ต้องตกใจเมื่อเห็นน้องสาวทำท่าจะเอาหน้าจุ่มลงไปในอ่างบัวจนต้องรีบเข้าไปพยุงไว้
“ หนูลีเป็นอะไรน่ะ ” เห็นน้องสาวเป็นลมพับไปพี่ชายก็รีบอุ้มเข้ามาในบ้านทันที
มือที่กำลังกดส่งข้อความด้วยอาการกระวนกระวายใจอยู่ในสายตาของเหมรัศนิ์ตลอดจนเขาต้องเรียกเพื่อนสนิทให้หันมาตอบคำถาม
“ เป็นอะไรวะคิน กิ๊กไม่ตอบแชทรึไง ”
“ พี่คินมีกิ๊กด้วยหรอคะ ” ลัลนาถามเสียงซื่อ
“ อ้อ เปล่าหรอก ก่อนมานี่ฉันไปส่งหนูลีที่บ้านมา สั่งไว้ให้กินข้าวกินยาแล้วนอน นี่ยังไม่แชทมาบอกเลยว่าทำตามรึยัง ยิ่งหลงๆอยู่ด้วย ” อคินเลิกพิมพ์โทรศัพท์หันมาสนใจอาหารตรงหน้า
“ นินาโทรหาเมื่อเช้าก็บอกว่าดีขึ้นแล้วนะคะ นี่ไม่สบายอยู่บ้านคนเดียวใครจะดูแล นินาไปหาหนูลีดีกว่าค่ะ ” ลัลนาทำท่าจะหยิบโทรศัพท์อคินก็โบกมือยั้งไว้ก่อน
“ ไม่เป็นอะไรหรอกนินา พี่เห็นมีรถจอดอยู่คุณปกรณ์คงกลับมาแล้วล่ะ ” อคินบอก
“ ใครเหรอ คุณปกรณ์ ” เหมรัศนิ์สงสัย
“ พี่อ้อมน่ะค่ะ เป็น… ” ลัลนากำลังจะตอบ
“ แฟนยัยหนูลีน่ะ คบกันแบบลับๆ ถ้ากลับมาแล้วคงดูแลกันเอง ” อคินตอบยิ้มๆเมื่อเห็นลัลนาทำตาโต
“ หือ ทำไมต้องคบกันลับๆล่ะ มีแฟนดูแลก็ดีแล้วนี่ ” คนถูกหลอกทำท่าสงสัย
“ เอ่อ…พี่อ้อมต้องไปทำงานที่อื่นไกลๆก็เลยไม่ค่อยมีใครรู้จักน่ะค่ะพี่เต็ม นินาเองก็เจอปีละไม่กี่ครั้งเอง ”
ลัลนาอธิบายแต่ก็ยังคงสงสัยที่อคินบอกว่าปกรณ์เป็นแฟนของปณาลี แต่เห็นท่าทางขยิบตาของอคินก็เลยปล่อยเลยตามเลย
“ ทำไมพี่คินบอกว่าพี่อ้อมเป็นแฟนหนูลีล่ะคะ ” ลัลนาถามผ่านแชทเมื่อแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว
“ เรารู้กันอยู่ว่าหนูลีคิดยังไงกับไอ้เต็ม มันเองก็ไม่สบายใจมาตลอด ให้มันเข้าใจว่าหนูลีมีคนดูแลน่ะดีแล้ว”
อคินบอกมาแบบนี้ลัลนาจึงเข้าใจ อย่างน้อยทุกคนจะได้หันหน้ามามองกันได้อย่างเดิม
***********************************************************************************************************************************
รักเฮียคิน
มุกตามัน
***********************************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 5 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 6 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 7 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 8 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 9 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้