ซ่อนรักพรางใจ (ตอนที่ 6)

ซ่อนรักพรางใจ

ตอนที่  6  เลี้ยงสละโสด


…..เสียงดนตรีภายในผับหรูระดับกำลังบรรเลงไปอย่างคึกคักสนุกสนานเพื่อให้เหล่านักท่องราตรีได้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่  กลุ่มของหนุ่มสาวห้าคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในผับหรูแห่งนี้เป็นครั้งแรกถึงกับร้องเสียงโอ้โหกันเลยทีเดียว
“ ว้าว…ว่าที่สามีเธอใจป้ำมากนินา  นี่มันระดับคนมีเงินทั้งนั้นเลย ”   มะเหมี่ยวสาวหมวยในกลุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งหมดได้ขึ้นมานั่งโต๊ะบนชั้นลอยระดับวีไอพีที่สามารถสองดูบรรยากาศรอบผับได้ชัดเจน
“ พี่เขาก็ต้องเลือกสถานที่ที่มีความปลอดภัยดีเยี่ยมให้นินาอยู่แล้ว ”  เก่งกาจหนุ่มร่างเล็กหน้าเข้มมองรอบๆตัวอย่างสนใจ
“ จะสนุกกันทั้งทีไปฉลองนมปั่นก็ไม่มันส์น่ะสิ  อ่ะ สั่งเครื่องดื่มกันเถอะ ”  ธงไธย หนุ่มหล่อในกลุ่มชวนเพื่อนๆสั่งเครื่องดื่ม  สักครู่พนักงานก็เข้ามารับรายการเครื่องดื่ม
“ นินาไม่เคยดื่ม  สั่งเบาๆอย่างพั้นช์ดีกว่านะ  เดี๋ยวเมาขึ้นมาพี่เต็มด่าพวกเราเปิง ”  ปณาลีหันมาบอกเพื่อนสาว
“ ไม่ขนาดนั้นหรอก  หนูลีก็อย่าดื่มหนักนะ ”  ลัลนาเตือนเพราะเพื่อนสาวถ้าได้สนุกแล้วล่ะก็ลืมตัวทุกที
จากนั้นไม่นานทุกคนก็เริ่มครึกครื้นไปตามบรรยากาศ  ต่างคนเริ่มลุงขึ้นมาโยกย้ายไปตามจังหวะดนตรีที่ดีเจกำลังเปิดอย่างสนุกสนานจนมาถึงช่วงที่เพลงเริ่มมีจังหวะช้าลงเป็นโอกาสให้เหล่านักเต้นได้พัก  หลายๆคู่หนุ่มสาวเริ่มกกกอดแอบอิงกันโยกย้ายตัวช้าๆไปตามเสียงเพลง  เพื่อนๆในกลุ่มก็เริ่มจับคู่กันยกเว้นก็แต่ลัลนาสาวหวานที่ไม่กล้าออกลีลาอย่างเพื่อนคนอื่นจนปณาลีเพื่อนสนิทต้องเข้ามาดึงแขนลุกขึ้น
“ ไม่ไหวหรอก  นินาเต้นไม่เป็น ”  ลัลนาโบกมือไปมายอมแพ้
“ จังหวะเบาๆเอง  ซ้อมไว้เผื่อเต้นรำในงานแต่งงานไง ”  ธงไธยกับมะเหมี่ยวที่จับคู่กันเต้นหันมาเรียก
“ ธงพูดถูก  มาซ้อมกับหนูลีเร็ว  อีตาเก่งไปจ้อสาวที่ไหนแล้วก็ไม่รู้  ”
“ เอาน่านินา  อุตส่าห์มีโอกาสมารวมตัวกันได้เต็มที่หน่อย  สองเดือนที่เหลือก็จะยุ่งเตรียมงานอีก ”  มะเหมี่ยวคะยั้นคะยอเสริม  ลัลนาทนแรงยุของเพื่อนๆไม่ไหวจึงลุกขึ้นมาร่วมสนุกด้วยอย่างสนุกสนานและเบาๆตามสไตล์สาวเรียบร้อย  



…ประมาณห้าทุ่มเศษ  เหมรัศนิ์กับอคินก็มาสมทบด้วย  ปณาลีทั้งผลักทั้งดันลัลนาออกไปเต้นรำกับว่าที่เจ้าบ่าว
“ จังหวะโรแมนติกโคตร ”  เก่งกาจที่มึนได้ที่ชูแก้วหยอยๆ
“ ท่าจะไม่ไหวแล้วเว้ยไอ้เก่ง  จ้อสาวได้เบอร์ไปเยอะถึงมายกเต็มที่ ”  ธงไธยส่ายหัว
“ ตลอด… ”  สาวๆพูดพร้อมกันแล้วหัวเราะ เห็นท่าว่าเก่งกาจจะฟุบยาวธงไธยจึงเอ่ยขอตัวกลับ  มะเหมี่ยวที่บ้านอยู่ใกล้ๆกันจึงขอกลับด้วยเสียเลย
“ ขอบใจนะทุกคน  วันงานไปให้ได้นะ ”  ลัลนายิ้มหวานบอกเพื่อนๆ
“ จ้า ไปแน่นอน ”  มะเหมี่ยวยิ้มตาหยี
“ ลีกับนินามีคนดูแลต่อแล้วเราก็ไม่ห่วงละ  แต่ไอ้เก่งมันเมาทีไรรั่วตลอดเดี๋ยวอีกหน่อยคงแผลงฤทธิ์  พามันกลับก่อนดีกว่า ” ธงไธยว่าแล้วหิ้วปีกเพื่อนขึ้นมา
“ ถ้าอย่างนั้นก็กลับกันดีๆนะ  ถึงบ้านกันแล้วแชทกลุ่มมาบอกด้วย ”  ปณาลีบอกก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเพื่อนๆ
“ เหลือแค่พวกเราละ ป่ะ หนูลีไปเปิดฟลอร์กับเฮียหน่อยอิหนู ”  อคินชวนรุ่นน้องสาวเมื่อจังหวะช้าๆจบลงแล้วเปลี่ยนเป็นจังหวะเร้าใจแทน
ปณาลีจึงลุกขึ้นแล้วควงแขนอคินออกไปเต้นอย่างสนุกสนาน  ยิ่งชุดที่ใส่เป็นเดรสเข้ารูปสีแดงสั้นเหนือเข่าก็ยิ่งอวดรูปร่างระหงให้เซ็กซี่เย้ายวนสายตาบรรดาหนุ่มๆในผับ  แต่มีอคินที่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆจึงไม่มีใครกล้าเข้าไปหาสาวสวยได้ถนัดนัก  
“ พี่คินๆ  เย้ๆๆๆ ”  ปณาลีแก้มแดงปลั่งด้วยฤทธิ์น้ำเมายิ้มหวานใส่รุ่นพี่หนุ่มแล้วกอดคอโยกตัวไปมา
“ เฮ้ยๆ  อย่ามายั่วกันนะยัยบ๊อง  พิศวาสไม่ลงว่ะ ”  อคินส่ายหัวระอา  
“ หนูลีเมาแล้วล่ะค่ะพี่เต็ม ”  ลัลนาบอกคู่หมั้นหนุ่มเมื่อทั้งคู่กลับเข้ามานั่งที่โซฟา
“ อืม  พี่ว่าเรากลับกันดีไหม  จะได้ไปส่งหนูลีด้วย ”  แล้วเขาก็บอกกับอคินที่ทั้งฉุดทั้งลากปณาลีกลับมานั่งที่เดิมได้
“ งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งยัยหนูลีขี้เมาละกัน ”  อคินบอกพร้อมกับเรียกเช็คบิลแล้วก็ออกมายังลานจอดรถ  เมื่อคู่หมั้นกลับไปแล้วเขาก็เตรียมสตาร์ทรถออกไปเช่นกันแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อมือบางของหญิงสาวที่คิดว่าเมาหลับไปแล้วเอื้อมมาแตะเงียบๆ  อคินหันมามองใบหน้าสวยเฉี่ยวในคืนนี้แล้วก็ต้องถอนหายใจ
“ นึกว่าเมาจริงๆซะอีก ”  แล้วก็สตาร์ทเครื่องออกรถ
“ ลียังไม่อยากกลับเลยค่ะพี่คิน ”  เสียงของปณาลีสั่น
“ พี่ไม่ปล่อยเราไว้คนเดียวในที่แบบนี้หรอกนะ  แล้วจะไปไหนต่อล่ะ ”  ปณาลียังยืนยันที่จะไม่กลับบ้าน  สุดท้ายอคินก็ต้องก็ใจอ่อนเพราะทั้งรักทั้งสงสารน้องสาวคนนี้
“ อยากเมาอ่ะ  เมาแบบให้มันสุดๆไปเลย  อยากลืมคืนนี้… ”  ปณาลีทิ้งตัวพิงเบาะนั่งอย่างหมดแรง
“ เฮ่อ  จริงๆเลย  พี่ชายเราอยู่บ้านไหมล่ะ ”  อคินเกรงว่าตัวยุ่งข้างกายจะเจอปัญหาแล้วก็หลุดเรื่องความในใจออกไป
“ พี่อ้อมไปรับงานที่ใต้  กว่าจะกลับก็อีกเป็นเดือน ”
“ งั้นก็ไม่มีใครอยู่บ้าน  ปล่อยคนเมาไว้บ้านถ้าโจรขึ้นบ้านก็ซวยไอ้คินน่ะสิ ”  อคินบ่นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจะพาไปที่ไหน



…..คอนโดชุดของอคินคือที่หมาย  แม้จะไม่เหมาะสมกับการพาผู้หญิงที่กำลังเมามายเข้ามาแต่ก็ต้องยกเว้นสำหรับปณาลีเพราะต่อให้ฟ้าดินถล่มทลายอคินก็ไม่มีทางหน้ามืดได้
“ ถ้าเมาก็คลานเข้าห้องนี้นะ  เป็นห้องว่างไว้นอนเวลาเพื่อนพี่มาเมากัน ” อคินบอกไว้ก่อนจะเข้าครัวไปเตรียมแก้วและไวน์มาตั้งที่ระเบียงห้อง  ลมเย็นๆยามดึกโชยมาถูกร่างบางจนรู้สึกหนาวเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
“ อีกสองเดือนเองนะพี่คิน ”  ปณาลีเอ่ยเสียงแผ่ว
“ อืม…เลิกคิดเสียเถอะ  คืนนี้จะดื่มให้ลืมไม่ใช่เหรอ ไม่หมดขวดห้ามนอน ”  อคินแย่งแก้วเปล่าของปณาลีมาเทเพิ่ม
“ ทำไมลีถึงรักเขานะพี่คิน  รักทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้ว  ทำไมลีไม่รักคนอื่น ”  พอเริ่มเมาหนักก็เริ่มเพ้อหนัก
“ คนมันเจอหน้ากันทุกวัน  ยิ่งเราหวั่นไหวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  มันจะรักก็ไม่แปลก ”  อคินปลอบใจในแบบของเขา
“ พี่คินเคยรักใครแบบจังๆหัวใจบ้างไหม ”  
“ ก็เคยรักนี่นะ ”  อคินตอบพลางเงยหน้าดูท้องฟ้ามืดมน “ รักแบบวัยรุ่นใสๆน่ะ  พวกเรามันอารมณ์ศิลปินก็ต้องมีอ่อนไหวหวานแหววอยู่แล้ว รัก หลง ใคร่ อกหักก็เจ็บ ธรรมด๊า… ”  รุ่นพี่หนุ่มตอบอย่างคนเคยผ่านช่วงเวลาแสนสาหัสนั้นมาก่อน
ปณาลีหัวเราะกับประโยคนั้น  ก่อนจะตั้งคำถามไปเรื่อยๆ
“ ทำไมสำหรับลีมันรู้สึกมากกว่านั้นล่ะพี่คิน  มันลึกล้ำแปลกๆ สายตาเขาไม่เคยมองมาที่ลีเลยแต่ลีก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมมืดๆเดินวนไปวนมาหาทางออกไม่เจอ  เขาจะรู้บ้างไหมว่าลีทรมาน  เจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับคนรัก  แต่ก็มีความสุขมากๆเมื่อเห็นเขารักกัน…. ”  อคินปล่อยให้ปณาลีพร่ำเพ้อจนพอใจก่อนจะเริ่มเงียบลงหมดฤทธิ์แล้วหลับไปเอง
“ โห  หมดฤทธิ์ในครึ่งชั่วโมง  อะไรมันจะแรงขนาดนั้นวะไวน์ขวดนี้ ”  อคินทึ่งเพราะเป็นไวน์ยี่ห้อใหม่เพิ่งซื้อมาลองชิม ต้องยอมรับว่ารสชาดดีแต่ก็ทำเอาเขามึนไปบ้าง  เขย่าดูก็พร่องไปครึ่งขวดจึงวางใส่ถังน้ำแข็งไว้ก่อนที่จะพยุงร่างรุ่นน้องสาวไปวางลงบนเตียงในห้องรับรองจัดการห่มผ้าเปิดแอร์ให้เรียบร้อยก็ตั้งท่าจะออกไปแต่สังเกตเห็นใบหน้าที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่จึงเดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอ  คาดว่าคนเมาน่าจะสบายตัวขึ้นก็ลุกขึ้นปิดไฟแล้วออกจากห้องไป


อคินออกมายังระเบียงเพื่อเก็บแก้วทั้งสองใบไปล้างทำความสะอาดแล้วคว่ำเรียบร้อยก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องจึงเดินออกไปส่องตาแมงดูและเปิดประตูต้อนรับพร้อมกับทำท่างงๆ
“ อะไรวะไอ้คินทำอย่างกับฉันไม่เคยมา  ซุกใครไว้เปล่า  ” เหมรัศนิ์ที่ไปส่งคู่หมั้นแล้ววนกลับรถมาคอนโดเพื่อนเอ่ยขึ้น
“ ก็เห็นไปส่งนินาแล้วก็นึกว่าจะกลับบ้านเลย ”  พูดพลางขยับเปิดประตูให้เพื่อนสนิทเข้ามา
“ นึกว่าแกนอนแล้วซะอีก  นั่งดื่มอยู่เหรอ  ดื่มคนเดียวมันจะสนุกได้ไงไปเอาแก้วมา ”  เหมรัชนิ์ทักเมื่อเห็นขวดไวน์แช่อยู่ในถังน้ำแข็งที่ระเบียงแต่ไม่เห็นแก้วสักใบ
“ อ๋อ  เอ้อ รอเดี๋ยวเอาแก้วก่อน  เหล้าด้วยไหม ”  อคินลืมนึกถึงคนเมาทันทีเมื่อได้แก้วและบรั่นดีมานั่งดื่มกับเพื่อน
“ มานั่งดื่มแบบนี้นึกถึงสมัยเรียนเลยว่ะ… ”  
เมื่อเหมรัชนิ์เปิดประเด็นมาก็เริ่มพูดคุยกันออกรส  ทั้งสองคนผลัดกันเล่าเรื่องสนุกๆตามประสาผู้ชายจนเวลาล่วงเลยจนเกือบตีสาม  อคินที่ดื่มล่วงหน้ามาเล็กน้อยก็เริ่มฟุบไปก่อนจึงถูกเพื่อนสนิทหิ้วพามาพักที่ห้องนอน  ส่วนเหมรัศนิ์ก็เดินเซๆครึ้มๆไปยังห้องพักอีกห้องที่มาพักเวลาสังสรรค์โดยที่ไม่รู้ว่าบนเตียงที่ล้มตัวลงไปนอนมีร่างๆหนึ่งนอนอยู่ก่อนแล้ว  ชายหนุ่มพลิกตัวกระสับกระส่ายด้วยความเมามายสักพักก่อนที่มือจะแตะสัมผัสไปถูกความนุ่มเนียนของร่างกายที่แม้ไม่เห็นกับตาก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงจนเกิดอารมณ์รัญจวนเพราะเขาไม่ได้สัมผัสมานานตั้งแต่คบกับคู่หมั้นสาว   เลือดในกายหนุ่มฉีดพล่านอย่างระงับไม่อยู่จนต้องพลิกตัวเข้าหาร่างนวลเนียนนั้นทันทีอย่างไม่สามารถควบคุมได้...






**************************************************************************************************************

เรื่องนี้ไม่มีตบตีแย่งผู้ชายกันนะคะ  มีแต่ดราม่าและแสนดีจนน่าหมั่นไส้

มุกตามัน


**************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 5 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่