ซ่อนรักพรางใจ
ตอนที่ 6 เลี้ยงสละโสด
…..เสียงดนตรีภายในผับหรูระดับกำลังบรรเลงไปอย่างคึกคักสนุกสนานเพื่อให้เหล่านักท่องราตรีได้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่ กลุ่มของหนุ่มสาวห้าคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในผับหรูแห่งนี้เป็นครั้งแรกถึงกับร้องเสียงโอ้โหกันเลยทีเดียว
“ ว้าว…ว่าที่สามีเธอใจป้ำมากนินา นี่มันระดับคนมีเงินทั้งนั้นเลย ” มะเหมี่ยวสาวหมวยในกลุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งหมดได้ขึ้นมานั่งโต๊ะบนชั้นลอยระดับวีไอพีที่สามารถสองดูบรรยากาศรอบผับได้ชัดเจน
“ พี่เขาก็ต้องเลือกสถานที่ที่มีความปลอดภัยดีเยี่ยมให้นินาอยู่แล้ว ” เก่งกาจหนุ่มร่างเล็กหน้าเข้มมองรอบๆตัวอย่างสนใจ
“ จะสนุกกันทั้งทีไปฉลองนมปั่นก็ไม่มันส์น่ะสิ อ่ะ สั่งเครื่องดื่มกันเถอะ ” ธงไธย หนุ่มหล่อในกลุ่มชวนเพื่อนๆสั่งเครื่องดื่ม สักครู่พนักงานก็เข้ามารับรายการเครื่องดื่ม
“ นินาไม่เคยดื่ม สั่งเบาๆอย่างพั้นช์ดีกว่านะ เดี๋ยวเมาขึ้นมาพี่เต็มด่าพวกเราเปิง ” ปณาลีหันมาบอกเพื่อนสาว
“ ไม่ขนาดนั้นหรอก หนูลีก็อย่าดื่มหนักนะ ” ลัลนาเตือนเพราะเพื่อนสาวถ้าได้สนุกแล้วล่ะก็ลืมตัวทุกที
จากนั้นไม่นานทุกคนก็เริ่มครึกครื้นไปตามบรรยากาศ ต่างคนเริ่มลุงขึ้นมาโยกย้ายไปตามจังหวะดนตรีที่ดีเจกำลังเปิดอย่างสนุกสนานจนมาถึงช่วงที่เพลงเริ่มมีจังหวะช้าลงเป็นโอกาสให้เหล่านักเต้นได้พัก หลายๆคู่หนุ่มสาวเริ่มกกกอดแอบอิงกันโยกย้ายตัวช้าๆไปตามเสียงเพลง เพื่อนๆในกลุ่มก็เริ่มจับคู่กันยกเว้นก็แต่ลัลนาสาวหวานที่ไม่กล้าออกลีลาอย่างเพื่อนคนอื่นจนปณาลีเพื่อนสนิทต้องเข้ามาดึงแขนลุกขึ้น
“ ไม่ไหวหรอก นินาเต้นไม่เป็น ” ลัลนาโบกมือไปมายอมแพ้
“ จังหวะเบาๆเอง ซ้อมไว้เผื่อเต้นรำในงานแต่งงานไง ” ธงไธยกับมะเหมี่ยวที่จับคู่กันเต้นหันมาเรียก
“ ธงพูดถูก มาซ้อมกับหนูลีเร็ว อีตาเก่งไปจ้อสาวที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ”
“ เอาน่านินา อุตส่าห์มีโอกาสมารวมตัวกันได้เต็มที่หน่อย สองเดือนที่เหลือก็จะยุ่งเตรียมงานอีก ” มะเหมี่ยวคะยั้นคะยอเสริม ลัลนาทนแรงยุของเพื่อนๆไม่ไหวจึงลุกขึ้นมาร่วมสนุกด้วยอย่างสนุกสนานและเบาๆตามสไตล์สาวเรียบร้อย
…ประมาณห้าทุ่มเศษ เหมรัศนิ์กับอคินก็มาสมทบด้วย ปณาลีทั้งผลักทั้งดันลัลนาออกไปเต้นรำกับว่าที่เจ้าบ่าว
“ จังหวะโรแมนติกโคตร ” เก่งกาจที่มึนได้ที่ชูแก้วหยอยๆ
“ ท่าจะไม่ไหวแล้วเว้ยไอ้เก่ง จ้อสาวได้เบอร์ไปเยอะถึงมายกเต็มที่ ” ธงไธยส่ายหัว
“ ตลอด… ” สาวๆพูดพร้อมกันแล้วหัวเราะ เห็นท่าว่าเก่งกาจจะฟุบยาวธงไธยจึงเอ่ยขอตัวกลับ มะเหมี่ยวที่บ้านอยู่ใกล้ๆกันจึงขอกลับด้วยเสียเลย
“ ขอบใจนะทุกคน วันงานไปให้ได้นะ ” ลัลนายิ้มหวานบอกเพื่อนๆ
“ จ้า ไปแน่นอน ” มะเหมี่ยวยิ้มตาหยี
“ ลีกับนินามีคนดูแลต่อแล้วเราก็ไม่ห่วงละ แต่ไอ้เก่งมันเมาทีไรรั่วตลอดเดี๋ยวอีกหน่อยคงแผลงฤทธิ์ พามันกลับก่อนดีกว่า ” ธงไธยว่าแล้วหิ้วปีกเพื่อนขึ้นมา
“ ถ้าอย่างนั้นก็กลับกันดีๆนะ ถึงบ้านกันแล้วแชทกลุ่มมาบอกด้วย ” ปณาลีบอกก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเพื่อนๆ
“ เหลือแค่พวกเราละ ป่ะ หนูลีไปเปิดฟลอร์กับเฮียหน่อยอิหนู ” อคินชวนรุ่นน้องสาวเมื่อจังหวะช้าๆจบลงแล้วเปลี่ยนเป็นจังหวะเร้าใจแทน
ปณาลีจึงลุกขึ้นแล้วควงแขนอคินออกไปเต้นอย่างสนุกสนาน ยิ่งชุดที่ใส่เป็นเดรสเข้ารูปสีแดงสั้นเหนือเข่าก็ยิ่งอวดรูปร่างระหงให้เซ็กซี่เย้ายวนสายตาบรรดาหนุ่มๆในผับ แต่มีอคินที่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆจึงไม่มีใครกล้าเข้าไปหาสาวสวยได้ถนัดนัก
“ พี่คินๆ เย้ๆๆๆ ” ปณาลีแก้มแดงปลั่งด้วยฤทธิ์น้ำเมายิ้มหวานใส่รุ่นพี่หนุ่มแล้วกอดคอโยกตัวไปมา
“ เฮ้ยๆ อย่ามายั่วกันนะยัยบ๊อง พิศวาสไม่ลงว่ะ ” อคินส่ายหัวระอา
“ หนูลีเมาแล้วล่ะค่ะพี่เต็ม ” ลัลนาบอกคู่หมั้นหนุ่มเมื่อทั้งคู่กลับเข้ามานั่งที่โซฟา
“ อืม พี่ว่าเรากลับกันดีไหม จะได้ไปส่งหนูลีด้วย ” แล้วเขาก็บอกกับอคินที่ทั้งฉุดทั้งลากปณาลีกลับมานั่งที่เดิมได้
“ งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งยัยหนูลีขี้เมาละกัน ” อคินบอกพร้อมกับเรียกเช็คบิลแล้วก็ออกมายังลานจอดรถ เมื่อคู่หมั้นกลับไปแล้วเขาก็เตรียมสตาร์ทรถออกไปเช่นกันแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อมือบางของหญิงสาวที่คิดว่าเมาหลับไปแล้วเอื้อมมาแตะเงียบๆ อคินหันมามองใบหน้าสวยเฉี่ยวในคืนนี้แล้วก็ต้องถอนหายใจ
“ นึกว่าเมาจริงๆซะอีก ” แล้วก็สตาร์ทเครื่องออกรถ
“ ลียังไม่อยากกลับเลยค่ะพี่คิน ” เสียงของปณาลีสั่น
“ พี่ไม่ปล่อยเราไว้คนเดียวในที่แบบนี้หรอกนะ แล้วจะไปไหนต่อล่ะ ” ปณาลียังยืนยันที่จะไม่กลับบ้าน สุดท้ายอคินก็ต้องก็ใจอ่อนเพราะทั้งรักทั้งสงสารน้องสาวคนนี้
“ อยากเมาอ่ะ เมาแบบให้มันสุดๆไปเลย อยากลืมคืนนี้… ” ปณาลีทิ้งตัวพิงเบาะนั่งอย่างหมดแรง
“ เฮ่อ จริงๆเลย พี่ชายเราอยู่บ้านไหมล่ะ ” อคินเกรงว่าตัวยุ่งข้างกายจะเจอปัญหาแล้วก็หลุดเรื่องความในใจออกไป
“ พี่อ้อมไปรับงานที่ใต้ กว่าจะกลับก็อีกเป็นเดือน ”
“ งั้นก็ไม่มีใครอยู่บ้าน ปล่อยคนเมาไว้บ้านถ้าโจรขึ้นบ้านก็ซวยไอ้คินน่ะสิ ” อคินบ่นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจะพาไปที่ไหน
…..คอนโดชุดของอคินคือที่หมาย แม้จะไม่เหมาะสมกับการพาผู้หญิงที่กำลังเมามายเข้ามาแต่ก็ต้องยกเว้นสำหรับปณาลีเพราะต่อให้ฟ้าดินถล่มทลายอคินก็ไม่มีทางหน้ามืดได้
“ ถ้าเมาก็คลานเข้าห้องนี้นะ เป็นห้องว่างไว้นอนเวลาเพื่อนพี่มาเมากัน ” อคินบอกไว้ก่อนจะเข้าครัวไปเตรียมแก้วและไวน์มาตั้งที่ระเบียงห้อง ลมเย็นๆยามดึกโชยมาถูกร่างบางจนรู้สึกหนาวเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
“ อีกสองเดือนเองนะพี่คิน ” ปณาลีเอ่ยเสียงแผ่ว
“ อืม…เลิกคิดเสียเถอะ คืนนี้จะดื่มให้ลืมไม่ใช่เหรอ ไม่หมดขวดห้ามนอน ” อคินแย่งแก้วเปล่าของปณาลีมาเทเพิ่ม
“ ทำไมลีถึงรักเขานะพี่คิน รักทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้ว ทำไมลีไม่รักคนอื่น ” พอเริ่มเมาหนักก็เริ่มเพ้อหนัก
“ คนมันเจอหน้ากันทุกวัน ยิ่งเราหวั่นไหวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันจะรักก็ไม่แปลก ” อคินปลอบใจในแบบของเขา
“ พี่คินเคยรักใครแบบจังๆหัวใจบ้างไหม ”
“ ก็เคยรักนี่นะ ” อคินตอบพลางเงยหน้าดูท้องฟ้ามืดมน “ รักแบบวัยรุ่นใสๆน่ะ พวกเรามันอารมณ์ศิลปินก็ต้องมีอ่อนไหวหวานแหววอยู่แล้ว รัก หลง ใคร่ อกหักก็เจ็บ ธรรมด๊า… ” รุ่นพี่หนุ่มตอบอย่างคนเคยผ่านช่วงเวลาแสนสาหัสนั้นมาก่อน
ปณาลีหัวเราะกับประโยคนั้น ก่อนจะตั้งคำถามไปเรื่อยๆ
“ ทำไมสำหรับลีมันรู้สึกมากกว่านั้นล่ะพี่คิน มันลึกล้ำแปลกๆ สายตาเขาไม่เคยมองมาที่ลีเลยแต่ลีก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมมืดๆเดินวนไปวนมาหาทางออกไม่เจอ เขาจะรู้บ้างไหมว่าลีทรมาน เจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับคนรัก แต่ก็มีความสุขมากๆเมื่อเห็นเขารักกัน…. ” อคินปล่อยให้ปณาลีพร่ำเพ้อจนพอใจก่อนจะเริ่มเงียบลงหมดฤทธิ์แล้วหลับไปเอง
“ โห หมดฤทธิ์ในครึ่งชั่วโมง อะไรมันจะแรงขนาดนั้นวะไวน์ขวดนี้ ” อคินทึ่งเพราะเป็นไวน์ยี่ห้อใหม่เพิ่งซื้อมาลองชิม ต้องยอมรับว่ารสชาดดีแต่ก็ทำเอาเขามึนไปบ้าง เขย่าดูก็พร่องไปครึ่งขวดจึงวางใส่ถังน้ำแข็งไว้ก่อนที่จะพยุงร่างรุ่นน้องสาวไปวางลงบนเตียงในห้องรับรองจัดการห่มผ้าเปิดแอร์ให้เรียบร้อยก็ตั้งท่าจะออกไปแต่สังเกตเห็นใบหน้าที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่จึงเดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอ คาดว่าคนเมาน่าจะสบายตัวขึ้นก็ลุกขึ้นปิดไฟแล้วออกจากห้องไป
อคินออกมายังระเบียงเพื่อเก็บแก้วทั้งสองใบไปล้างทำความสะอาดแล้วคว่ำเรียบร้อยก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องจึงเดินออกไปส่องตาแมงดูและเปิดประตูต้อนรับพร้อมกับทำท่างงๆ
“ อะไรวะไอ้คินทำอย่างกับฉันไม่เคยมา ซุกใครไว้เปล่า ” เหมรัศนิ์ที่ไปส่งคู่หมั้นแล้ววนกลับรถมาคอนโดเพื่อนเอ่ยขึ้น
“ ก็เห็นไปส่งนินาแล้วก็นึกว่าจะกลับบ้านเลย ” พูดพลางขยับเปิดประตูให้เพื่อนสนิทเข้ามา
“ นึกว่าแกนอนแล้วซะอีก นั่งดื่มอยู่เหรอ ดื่มคนเดียวมันจะสนุกได้ไงไปเอาแก้วมา ” เหมรัชนิ์ทักเมื่อเห็นขวดไวน์แช่อยู่ในถังน้ำแข็งที่ระเบียงแต่ไม่เห็นแก้วสักใบ
“ อ๋อ เอ้อ รอเดี๋ยวเอาแก้วก่อน เหล้าด้วยไหม ” อคินลืมนึกถึงคนเมาทันทีเมื่อได้แก้วและบรั่นดีมานั่งดื่มกับเพื่อน
“ มานั่งดื่มแบบนี้นึกถึงสมัยเรียนเลยว่ะ… ”
เมื่อเหมรัชนิ์เปิดประเด็นมาก็เริ่มพูดคุยกันออกรส ทั้งสองคนผลัดกันเล่าเรื่องสนุกๆตามประสาผู้ชายจนเวลาล่วงเลยจนเกือบตีสาม อคินที่ดื่มล่วงหน้ามาเล็กน้อยก็เริ่มฟุบไปก่อนจึงถูกเพื่อนสนิทหิ้วพามาพักที่ห้องนอน ส่วนเหมรัศนิ์ก็เดินเซๆครึ้มๆไปยังห้องพักอีกห้องที่มาพักเวลาสังสรรค์โดยที่ไม่รู้ว่าบนเตียงที่ล้มตัวลงไปนอนมีร่างๆหนึ่งนอนอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มพลิกตัวกระสับกระส่ายด้วยความเมามายสักพักก่อนที่มือจะแตะสัมผัสไปถูกความนุ่มเนียนของร่างกายที่แม้ไม่เห็นกับตาก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงจนเกิดอารมณ์รัญจวนเพราะเขาไม่ได้สัมผัสมานานตั้งแต่คบกับคู่หมั้นสาว เลือดในกายหนุ่มฉีดพล่านอย่างระงับไม่อยู่จนต้องพลิกตัวเข้าหาร่างนวลเนียนนั้นทันทีอย่างไม่สามารถควบคุมได้...
**************************************************************************************************************
เรื่องนี้ไม่มีตบตีแย่งผู้ชายกันนะคะ มีแต่ดราม่าและแสนดีจนน่าหมั่นไส้
มุกตามัน
**************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37694309
ตอนที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37704868
ตอนที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37710134
ตอนที่ 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37714469
ตอนที่ 5
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37717748
ซ่อนรักพรางใจ (ตอนที่ 6)
ตอนที่ 6 เลี้ยงสละโสด
…..เสียงดนตรีภายในผับหรูระดับกำลังบรรเลงไปอย่างคึกคักสนุกสนานเพื่อให้เหล่านักท่องราตรีได้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่ กลุ่มของหนุ่มสาวห้าคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในผับหรูแห่งนี้เป็นครั้งแรกถึงกับร้องเสียงโอ้โหกันเลยทีเดียว
“ ว้าว…ว่าที่สามีเธอใจป้ำมากนินา นี่มันระดับคนมีเงินทั้งนั้นเลย ” มะเหมี่ยวสาวหมวยในกลุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งหมดได้ขึ้นมานั่งโต๊ะบนชั้นลอยระดับวีไอพีที่สามารถสองดูบรรยากาศรอบผับได้ชัดเจน
“ พี่เขาก็ต้องเลือกสถานที่ที่มีความปลอดภัยดีเยี่ยมให้นินาอยู่แล้ว ” เก่งกาจหนุ่มร่างเล็กหน้าเข้มมองรอบๆตัวอย่างสนใจ
“ จะสนุกกันทั้งทีไปฉลองนมปั่นก็ไม่มันส์น่ะสิ อ่ะ สั่งเครื่องดื่มกันเถอะ ” ธงไธย หนุ่มหล่อในกลุ่มชวนเพื่อนๆสั่งเครื่องดื่ม สักครู่พนักงานก็เข้ามารับรายการเครื่องดื่ม
“ นินาไม่เคยดื่ม สั่งเบาๆอย่างพั้นช์ดีกว่านะ เดี๋ยวเมาขึ้นมาพี่เต็มด่าพวกเราเปิง ” ปณาลีหันมาบอกเพื่อนสาว
“ ไม่ขนาดนั้นหรอก หนูลีก็อย่าดื่มหนักนะ ” ลัลนาเตือนเพราะเพื่อนสาวถ้าได้สนุกแล้วล่ะก็ลืมตัวทุกที
จากนั้นไม่นานทุกคนก็เริ่มครึกครื้นไปตามบรรยากาศ ต่างคนเริ่มลุงขึ้นมาโยกย้ายไปตามจังหวะดนตรีที่ดีเจกำลังเปิดอย่างสนุกสนานจนมาถึงช่วงที่เพลงเริ่มมีจังหวะช้าลงเป็นโอกาสให้เหล่านักเต้นได้พัก หลายๆคู่หนุ่มสาวเริ่มกกกอดแอบอิงกันโยกย้ายตัวช้าๆไปตามเสียงเพลง เพื่อนๆในกลุ่มก็เริ่มจับคู่กันยกเว้นก็แต่ลัลนาสาวหวานที่ไม่กล้าออกลีลาอย่างเพื่อนคนอื่นจนปณาลีเพื่อนสนิทต้องเข้ามาดึงแขนลุกขึ้น
“ ไม่ไหวหรอก นินาเต้นไม่เป็น ” ลัลนาโบกมือไปมายอมแพ้
“ จังหวะเบาๆเอง ซ้อมไว้เผื่อเต้นรำในงานแต่งงานไง ” ธงไธยกับมะเหมี่ยวที่จับคู่กันเต้นหันมาเรียก
“ ธงพูดถูก มาซ้อมกับหนูลีเร็ว อีตาเก่งไปจ้อสาวที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ”
“ เอาน่านินา อุตส่าห์มีโอกาสมารวมตัวกันได้เต็มที่หน่อย สองเดือนที่เหลือก็จะยุ่งเตรียมงานอีก ” มะเหมี่ยวคะยั้นคะยอเสริม ลัลนาทนแรงยุของเพื่อนๆไม่ไหวจึงลุกขึ้นมาร่วมสนุกด้วยอย่างสนุกสนานและเบาๆตามสไตล์สาวเรียบร้อย
…ประมาณห้าทุ่มเศษ เหมรัศนิ์กับอคินก็มาสมทบด้วย ปณาลีทั้งผลักทั้งดันลัลนาออกไปเต้นรำกับว่าที่เจ้าบ่าว
“ จังหวะโรแมนติกโคตร ” เก่งกาจที่มึนได้ที่ชูแก้วหยอยๆ
“ ท่าจะไม่ไหวแล้วเว้ยไอ้เก่ง จ้อสาวได้เบอร์ไปเยอะถึงมายกเต็มที่ ” ธงไธยส่ายหัว
“ ตลอด… ” สาวๆพูดพร้อมกันแล้วหัวเราะ เห็นท่าว่าเก่งกาจจะฟุบยาวธงไธยจึงเอ่ยขอตัวกลับ มะเหมี่ยวที่บ้านอยู่ใกล้ๆกันจึงขอกลับด้วยเสียเลย
“ ขอบใจนะทุกคน วันงานไปให้ได้นะ ” ลัลนายิ้มหวานบอกเพื่อนๆ
“ จ้า ไปแน่นอน ” มะเหมี่ยวยิ้มตาหยี
“ ลีกับนินามีคนดูแลต่อแล้วเราก็ไม่ห่วงละ แต่ไอ้เก่งมันเมาทีไรรั่วตลอดเดี๋ยวอีกหน่อยคงแผลงฤทธิ์ พามันกลับก่อนดีกว่า ” ธงไธยว่าแล้วหิ้วปีกเพื่อนขึ้นมา
“ ถ้าอย่างนั้นก็กลับกันดีๆนะ ถึงบ้านกันแล้วแชทกลุ่มมาบอกด้วย ” ปณาลีบอกก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเพื่อนๆ
“ เหลือแค่พวกเราละ ป่ะ หนูลีไปเปิดฟลอร์กับเฮียหน่อยอิหนู ” อคินชวนรุ่นน้องสาวเมื่อจังหวะช้าๆจบลงแล้วเปลี่ยนเป็นจังหวะเร้าใจแทน
ปณาลีจึงลุกขึ้นแล้วควงแขนอคินออกไปเต้นอย่างสนุกสนาน ยิ่งชุดที่ใส่เป็นเดรสเข้ารูปสีแดงสั้นเหนือเข่าก็ยิ่งอวดรูปร่างระหงให้เซ็กซี่เย้ายวนสายตาบรรดาหนุ่มๆในผับ แต่มีอคินที่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆจึงไม่มีใครกล้าเข้าไปหาสาวสวยได้ถนัดนัก
“ พี่คินๆ เย้ๆๆๆ ” ปณาลีแก้มแดงปลั่งด้วยฤทธิ์น้ำเมายิ้มหวานใส่รุ่นพี่หนุ่มแล้วกอดคอโยกตัวไปมา
“ เฮ้ยๆ อย่ามายั่วกันนะยัยบ๊อง พิศวาสไม่ลงว่ะ ” อคินส่ายหัวระอา
“ หนูลีเมาแล้วล่ะค่ะพี่เต็ม ” ลัลนาบอกคู่หมั้นหนุ่มเมื่อทั้งคู่กลับเข้ามานั่งที่โซฟา
“ อืม พี่ว่าเรากลับกันดีไหม จะได้ไปส่งหนูลีด้วย ” แล้วเขาก็บอกกับอคินที่ทั้งฉุดทั้งลากปณาลีกลับมานั่งที่เดิมได้
“ งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งยัยหนูลีขี้เมาละกัน ” อคินบอกพร้อมกับเรียกเช็คบิลแล้วก็ออกมายังลานจอดรถ เมื่อคู่หมั้นกลับไปแล้วเขาก็เตรียมสตาร์ทรถออกไปเช่นกันแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อมือบางของหญิงสาวที่คิดว่าเมาหลับไปแล้วเอื้อมมาแตะเงียบๆ อคินหันมามองใบหน้าสวยเฉี่ยวในคืนนี้แล้วก็ต้องถอนหายใจ
“ นึกว่าเมาจริงๆซะอีก ” แล้วก็สตาร์ทเครื่องออกรถ
“ ลียังไม่อยากกลับเลยค่ะพี่คิน ” เสียงของปณาลีสั่น
“ พี่ไม่ปล่อยเราไว้คนเดียวในที่แบบนี้หรอกนะ แล้วจะไปไหนต่อล่ะ ” ปณาลียังยืนยันที่จะไม่กลับบ้าน สุดท้ายอคินก็ต้องก็ใจอ่อนเพราะทั้งรักทั้งสงสารน้องสาวคนนี้
“ อยากเมาอ่ะ เมาแบบให้มันสุดๆไปเลย อยากลืมคืนนี้… ” ปณาลีทิ้งตัวพิงเบาะนั่งอย่างหมดแรง
“ เฮ่อ จริงๆเลย พี่ชายเราอยู่บ้านไหมล่ะ ” อคินเกรงว่าตัวยุ่งข้างกายจะเจอปัญหาแล้วก็หลุดเรื่องความในใจออกไป
“ พี่อ้อมไปรับงานที่ใต้ กว่าจะกลับก็อีกเป็นเดือน ”
“ งั้นก็ไม่มีใครอยู่บ้าน ปล่อยคนเมาไว้บ้านถ้าโจรขึ้นบ้านก็ซวยไอ้คินน่ะสิ ” อคินบ่นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจะพาไปที่ไหน
…..คอนโดชุดของอคินคือที่หมาย แม้จะไม่เหมาะสมกับการพาผู้หญิงที่กำลังเมามายเข้ามาแต่ก็ต้องยกเว้นสำหรับปณาลีเพราะต่อให้ฟ้าดินถล่มทลายอคินก็ไม่มีทางหน้ามืดได้
“ ถ้าเมาก็คลานเข้าห้องนี้นะ เป็นห้องว่างไว้นอนเวลาเพื่อนพี่มาเมากัน ” อคินบอกไว้ก่อนจะเข้าครัวไปเตรียมแก้วและไวน์มาตั้งที่ระเบียงห้อง ลมเย็นๆยามดึกโชยมาถูกร่างบางจนรู้สึกหนาวเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
“ อีกสองเดือนเองนะพี่คิน ” ปณาลีเอ่ยเสียงแผ่ว
“ อืม…เลิกคิดเสียเถอะ คืนนี้จะดื่มให้ลืมไม่ใช่เหรอ ไม่หมดขวดห้ามนอน ” อคินแย่งแก้วเปล่าของปณาลีมาเทเพิ่ม
“ ทำไมลีถึงรักเขานะพี่คิน รักทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้ว ทำไมลีไม่รักคนอื่น ” พอเริ่มเมาหนักก็เริ่มเพ้อหนัก
“ คนมันเจอหน้ากันทุกวัน ยิ่งเราหวั่นไหวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันจะรักก็ไม่แปลก ” อคินปลอบใจในแบบของเขา
“ พี่คินเคยรักใครแบบจังๆหัวใจบ้างไหม ”
“ ก็เคยรักนี่นะ ” อคินตอบพลางเงยหน้าดูท้องฟ้ามืดมน “ รักแบบวัยรุ่นใสๆน่ะ พวกเรามันอารมณ์ศิลปินก็ต้องมีอ่อนไหวหวานแหววอยู่แล้ว รัก หลง ใคร่ อกหักก็เจ็บ ธรรมด๊า… ” รุ่นพี่หนุ่มตอบอย่างคนเคยผ่านช่วงเวลาแสนสาหัสนั้นมาก่อน
ปณาลีหัวเราะกับประโยคนั้น ก่อนจะตั้งคำถามไปเรื่อยๆ
“ ทำไมสำหรับลีมันรู้สึกมากกว่านั้นล่ะพี่คิน มันลึกล้ำแปลกๆ สายตาเขาไม่เคยมองมาที่ลีเลยแต่ลีก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมมืดๆเดินวนไปวนมาหาทางออกไม่เจอ เขาจะรู้บ้างไหมว่าลีทรมาน เจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับคนรัก แต่ก็มีความสุขมากๆเมื่อเห็นเขารักกัน…. ” อคินปล่อยให้ปณาลีพร่ำเพ้อจนพอใจก่อนจะเริ่มเงียบลงหมดฤทธิ์แล้วหลับไปเอง
“ โห หมดฤทธิ์ในครึ่งชั่วโมง อะไรมันจะแรงขนาดนั้นวะไวน์ขวดนี้ ” อคินทึ่งเพราะเป็นไวน์ยี่ห้อใหม่เพิ่งซื้อมาลองชิม ต้องยอมรับว่ารสชาดดีแต่ก็ทำเอาเขามึนไปบ้าง เขย่าดูก็พร่องไปครึ่งขวดจึงวางใส่ถังน้ำแข็งไว้ก่อนที่จะพยุงร่างรุ่นน้องสาวไปวางลงบนเตียงในห้องรับรองจัดการห่มผ้าเปิดแอร์ให้เรียบร้อยก็ตั้งท่าจะออกไปแต่สังเกตเห็นใบหน้าที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่จึงเดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอ คาดว่าคนเมาน่าจะสบายตัวขึ้นก็ลุกขึ้นปิดไฟแล้วออกจากห้องไป
อคินออกมายังระเบียงเพื่อเก็บแก้วทั้งสองใบไปล้างทำความสะอาดแล้วคว่ำเรียบร้อยก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องจึงเดินออกไปส่องตาแมงดูและเปิดประตูต้อนรับพร้อมกับทำท่างงๆ
“ อะไรวะไอ้คินทำอย่างกับฉันไม่เคยมา ซุกใครไว้เปล่า ” เหมรัศนิ์ที่ไปส่งคู่หมั้นแล้ววนกลับรถมาคอนโดเพื่อนเอ่ยขึ้น
“ ก็เห็นไปส่งนินาแล้วก็นึกว่าจะกลับบ้านเลย ” พูดพลางขยับเปิดประตูให้เพื่อนสนิทเข้ามา
“ นึกว่าแกนอนแล้วซะอีก นั่งดื่มอยู่เหรอ ดื่มคนเดียวมันจะสนุกได้ไงไปเอาแก้วมา ” เหมรัชนิ์ทักเมื่อเห็นขวดไวน์แช่อยู่ในถังน้ำแข็งที่ระเบียงแต่ไม่เห็นแก้วสักใบ
“ อ๋อ เอ้อ รอเดี๋ยวเอาแก้วก่อน เหล้าด้วยไหม ” อคินลืมนึกถึงคนเมาทันทีเมื่อได้แก้วและบรั่นดีมานั่งดื่มกับเพื่อน
“ มานั่งดื่มแบบนี้นึกถึงสมัยเรียนเลยว่ะ… ”
เมื่อเหมรัชนิ์เปิดประเด็นมาก็เริ่มพูดคุยกันออกรส ทั้งสองคนผลัดกันเล่าเรื่องสนุกๆตามประสาผู้ชายจนเวลาล่วงเลยจนเกือบตีสาม อคินที่ดื่มล่วงหน้ามาเล็กน้อยก็เริ่มฟุบไปก่อนจึงถูกเพื่อนสนิทหิ้วพามาพักที่ห้องนอน ส่วนเหมรัศนิ์ก็เดินเซๆครึ้มๆไปยังห้องพักอีกห้องที่มาพักเวลาสังสรรค์โดยที่ไม่รู้ว่าบนเตียงที่ล้มตัวลงไปนอนมีร่างๆหนึ่งนอนอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มพลิกตัวกระสับกระส่ายด้วยความเมามายสักพักก่อนที่มือจะแตะสัมผัสไปถูกความนุ่มเนียนของร่างกายที่แม้ไม่เห็นกับตาก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงจนเกิดอารมณ์รัญจวนเพราะเขาไม่ได้สัมผัสมานานตั้งแต่คบกับคู่หมั้นสาว เลือดในกายหนุ่มฉีดพล่านอย่างระงับไม่อยู่จนต้องพลิกตัวเข้าหาร่างนวลเนียนนั้นทันทีอย่างไม่สามารถควบคุมได้...
**************************************************************************************************************
เรื่องนี้ไม่มีตบตีแย่งผู้ชายกันนะคะ มีแต่ดราม่าและแสนดีจนน่าหมั่นไส้
มุกตามัน
**************************************************************************************************************
ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 5 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้