พรหมลิขิตผิดคิว (8/2) โดย ธีมา

ลิ้งค์ย้อนหลัง
บทนำ https://ppantip.com/topic/37374123
บทที่ 2 https://ppantip.com/topic/37377039
บทที่ 3 https://ppantip.com/topic/37379538
บทที่ 4 https://ppantip.com/topic/37382097
บทที่ 5 https://ppantip.com/topic/37384898
บทที่ 6 https://ppantip.com/topic/37391604
บทที่ 7 https://ppantip.com/topic/37394435
บทที่ 8/1 https://ppantip.com/topic/37404327

.........................................................................
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เจ้าของผลงานขอสงวนสิทธิ์ในการ ห้ามคัดลอก ห้ามดัดแปลง ห้ามทำซ้ำ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดในนิยายไปเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
..........................................................................

หากปราบศึกขายาวกว่า เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็ตามทัน ชายหนุ่มตรงดิ่งไปร้านบะหมี่ที่มีหมูแดงแขวนเรียงเต็มตู้ไม้ พอถึงเขาลากเก้ากี้ไม้กลมๆ มารอไว้ให้หล่อน และลากของตัวเองก่อนนั่งลงอย่างไม่มีพิธีรีตองอะไรทั้งสิ้น อุษณาคิดถึงผู้ชายอีกคนอย่างช่วยไม่ได้...

ถ้าหากเป็นนิพิท...

เขาต้องเรียกคนขายมาทำความสะอาดเสียก่อน และชายหนุ่มจะกินอาหารที่ร้านแถวนี้ก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น ก่อนกินเขาจะติเตียนเรื่องความสะอาด และจับช้อนชามตะเกียบมาเช็ดแล้วเช็ดอีก

อาเจ๊วัยกลางคนรูปร่างท้วมๆ ผู้เป็นภรรยาเจ้าของร้าน ส่งยิ้มพร้อมพยักหน้าทักทายให้อุษณาอย่างคุ้นเคย

“ซี้คุณหรือ” ปราบศึกถาม

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” ตอบห้วน

“โอ...อย่างดุ” เขาบ่นงึม ก่อนหันไปสั่งเจ้าของร้าน ที่มายืนรออย่างทันใจว่า “ผมขอบะหมี่น้ำสองที่เฮีย เอาพิเศษเลย ใส่หมูเยอะๆ นะ”

“ฉันไม่กินนะ” อีกคนออกตัว

“ไม่เป็นไรคุณ ผมกินคนเดียวสองชามได้สบายมาก” ปราบศึกยิ้มร่า จากนั้นสั่งต่อว่า “ขอเป๊บซี่ขวดน้ำแข็งสอง เออ...ว่าแต่คุณกินน้ำอัดลมหรือเปล่า” เขาวกกลับมาถามอุษณาในตอนท้าย

“เขาเรียก ดื่ม ไม่ใช่ กิน” หล่อนแก้ให้

“เหมือนกันแหละน่าคุณ จะซีเรียสไปใย” พอเจ้าของร้านไปแล้วปราบศึกตั้งข้อสังเกตใหม่ “ว่าแต่คุณเป็นอะไรท่าทางไม่เสบย”

อุษณาไหวไหล่...ไม่ตอบ

“ทะเลาะกะแฟนป่ะ ถูกโกงแชร์ หรือเครียด หรือหวยกิน”

“แล้วทำไมคะคุณปราบศึก คุณจะมาอยากรู้เรื่องของฉันไปทำไมไม่ทราบ เอาเป็นว่าคุณพูดธุระของคุณมาดีกว่า พอรู้แล้วฉันจะได้เข้าบ้าน” อุษณาชักบูด

หากปราบศึกใจเย็น เขาตั้งใจมาขอโทษและสงบศึก ไม่ใช่เปิดศึกใหม่ ชายหนุ่มพูดว่าเขารู้สึกผิดมากที่เข้าใจหญิงสาวผิดในครั้งนั้น...

“ผมขอโทษ”

อุษณาเบิกตากว้าง หากหญิงสาวยังระแวง หล่อนถามตรงๆเลยว่า

“ถามจริง ผีเข้าป่ะคุณ จะมาไม้ไหนอีกล่ะ”

ฟังแล้วปราบศึกถึงกับหัวเราะ เขาบอก

“อะไรกันนี่ ตกลงว่าผมชั่วเข้าขั้นขนาดนั้นเลยหรือ โอเค... อันนั้นคืออดีต ส่วนตอนนี้...ผมจะซีเรียสล่ะนะ ว่าที่ผมมาในวันนี้ผมไม่มีไม้ไหนทั้งสิ้น นอกจากอยากขอโทษจากใจ ที่เคยปากหมาใส่คุณวันก่อน แล้วก็...ผมเสียใจนะ ตอนที่ปล่อยให้คุณตากฝนน่ะ”

“อาจารย์บังคับมารึไง” อย่างไรก็ระแวง ก็เขาเล่นว่าหล่อนเสียขนาดนั้นจะให้อุษณาปลงใจเชื่อได้อย่างไร ตัวร้ายจะกลายเป็นพระเอกชั่วข้ามวันเช่นนั้นหรือ...

หล่อนว่ายาก!

“เปล่าหรอก ผมมาเอง แถมมาอย่างตั้งใจด้วย เพราะผมน่ะลูกผู้ชายพอ เมื่อทำผิดผมก็กล้ายอมรับผิด ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณอุ่น ลืมภาพที่ไม่ค่อยดีของผมนะครับ ผมยอมรับว่าผมบางทีก็มีหงุดหงิดบ้าง ก็คุณไม่ใช่ผมนี่ คุณไม่รู้หรอกว่าผมน่ะถูกจับคู่เสียจนมึนขนาดไหน ผมก็เลยมองคุณผิดไป แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว อย่าโกรธผมนะครับ เอาเป็นว่ามื้อนี้ผมเลี้ยงล่ะกัน เพื่อไถ่โทษ”

ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มสารภาพผิดแก่ป้าของตัวเองแล้วเช่นกัน ฝ่ายนั้นตำหนิเขาอย่างหนัก

ส่วนอุษณา...เมื่อได้ฟังปราบศึกพูดแล้ว เธอคิดว่าเขาก็ชัดเจนดี อุษณาเป็นคนมีเหตุผลและพออภัยได้ หากหล่อนไม่วายเหน็บว่า

“แค่ก๋วยเตี๋ยวชามเดียวเนี่ยนะคุณ”

“แหมคุณก็ ผมแค่ราชการเล็กๆ เงินเดือนน้อยนิดเท่านั้นเองนะ” ยิ้มเขินๆ ส่งใบหน้านั้นเยาว์วัยลงราวหนุ่มน้อย

ก๋วยเตี๋ยวสองชามถูกวางลงตรงหน้า มือใหญ่คว้าช้อนกับตะเกียบว่องไว บอกให้รู้ว่าหิวจริง หญิงสาวเลื่อนพวงเครื่องปรุงให้เขาอย่างเคยชิน หล่อนเทน้ำใส่แก้วให้เหมือนเวลากินกับรำไพ แต่อุษณาหมดสิทธิ์ทำอย่างนี้ถ้าหากอยู่กับนิพิท เพราะเขาจะเป็นฝ่ายตรวจความสะอาดเสียก่อน ก๋วยเตี๋ยวชามเดียวเคยถูกปรุงใหม่ถึงสามรอบจึงถูกใจเขา

ปราบศึกใช้ตะเกียบคีบกินเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อย กลิ่นน้ำซุปโชยยั่วน้ำลาย อุษณาผู้มีเพียงขนมกับกาแฟอยู่ในท้องเลยเลื่อนอีกชามที่เหลือมากินหน้าตาเฉย

ชายหนุ่มไม่ว่ากระไรนอกจากอมยิ้ม ตอนหนึ่งเขาถามว่า

“ถ้าคุณหายโกรธผมแล้ว เราสองคนเป็นเพื่อนกันได้ไหม”

“ขอคิดดูก่อน”

“ไม่ต้องคิดหรอกน่า” เมื่อเข้าใกล้กันขนาดนี้ปราบศึกว่าใบหน้าใสนั้นใสจริงๆ มันนวลเนียนแม้นไม่มีเครื่องสำอางแต้ม แถมมอมแมมเล็กน้อย เขาว่ามีผู้หญิงไม่กี่คนหรอก ที่จะมีผิวสวยได้ขนาดนี้ในเวลาเผยหน้าสด

“เอาความจริงเลยมั้ย” หล่อนถาม

“โหดป่ะล่ะ” ชายหนุ่มชักสีหน้าแหยง เพราะค่าที่เขา ‘อัด’ อีกฝ่ายเอาไว้มาก และกรรมกำลังจะตามสนองตัวเองเลย...

ป๊อด!

“คุณกล้าฟังหรือเปล่าเท่านั้นแหละ”

“คือๆๆ...” ปราบศึกโบกตะเกียบในมือราวกำลังร้องขอชีวิต “ผมมั่นใจมาก จริงๆนะอุ่น ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงสายโหด แต่คุณน่ารักนิสัยดี อันนี้พี่ตูนไม่ได้บอกไว้หรอกแต่ผมรู้เอง”

“ความจริงคือฉันไม่อยากคบกับคุณเท่าไหร่หรอก เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะคุณมันเป็นคนปากเสียไง และก็โคตรหลงตัวเองที่สุดในโลก นี่ฉันวิจารณ์โดยปราศจากอคตินะ ในฐานะผู้ปรารถนาดีอย่างแรง”

ตรงๆ แรง และเจ็บจนจิ๊ด หากก็พอทนได้...ปราบศึกตื้อหนักว่า

“โอเคคุณ ผมยอมให้คุณว่าก็ได้และจะไม่แก้ตัว แต่ตอนนี้ผมถือว่าเราหายกันนะ แล้วคุณก็ช่วยเก็บผมเอาไว้สักคนเถอะนะอุ่น จริงๆแล้วผมน่ะ เป็นคนดีนะจะบอกให้ แล้วผมก็มีอะไรมาให้ด้วยเพื่อแลกกันไง”

ฟังแล้วอุษณาส่ายหน้า หล่อนเหน็บว่า

“คุณนี่ขยันติดสินบนจริงนะ ทีแรกก็ก๋วยเตี๋ยว ครั้งที่สองก็จะอะไรอีกล่ะ”

ชายหนุ่มไม่ตอบ มือใหญ่ล้วงลงในกระเป๋าเสื้อ ก่อนหยิบของสิ่งนั้นออกมาให้ดู ถามว่า

“คุณจำมันได้ใช่มั้ย”

“นี่มันตุ้มหูของฉันนี่!” หญิงสาวตื่นเต้นพิศวง มือเรียวแบออกรับอย่างดีใจ ดอกไม้ทองคำขาววาวแวว “ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันจะได้มันคืนมา แล้วนี่คุณไปได้มาจากไหนหรือคะ”

“ก็ถูกใจมั้ยล่ะ” ปราบศึกยังไม่ตอบแต่ถามกลับ

“ดีใจมากกว่า คุณรู้มั้ยว่าตุ้มหูนี้มันมีความหมายสำหรับฉันมากเลยนะ เพราะว่ามันเป็นของขวัญชิ้นแรกที่ชั้นซื้อให้ตัวเองน่ะ จากเงินโบนัสก้อนแรกของชีวิต”

หล่อนยิ้มอย่างมีความสุข ส่งใบหน้านวลลอยเด่นออกมา ผุดผาดจนปราบศึกถือตะเกียบค้าง

ที่เคยมองผ่านๆว่าพอใช้ได้ แต่ตอนนี้เขาขอถอนคำพูด ผู้หญิงคนนี้ยิ่งพิศใกล้ๆ...ยิ่งสวย!

“เอ่อ...อะแฮ้ม” ชายหนุ่มถึงกระแอมเรียกหาคำพูด “คือมันหล่นในรถผมน่ะ”

“จริงหรือคะ ขอบคุณนะคุณปราบที่อุตส่าห์เก็บไว้ให้”

“ไม่เป็นไรครับ ตกลงว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”

“ก็ได้ค่ะ” หล่อนยินยอม

“ขอบคุณครับ” ปราบศึกยิ้มให้เธอ ก่อนสั่งก๋วยเตี๋ยวอีกสองชาม

“ทำไมสั่งเยอะจังคุณ” อุษณาฉงน

ชายหนุ่มตอบว่าเพื่อเลี้ยงฉลอง

“แค่ก๋วยเตี๋ยวเนี่ยนะ” หล่อนพูดประโยคเก่าก่อนหน้า

“แหมคุณก็ ผมเงินเดือนน้อยนี่” ปราบศึกยิ้มเขินๆอีกครั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่