พรหมลิขิตผิดคิว (6) โดย ธีมา

ลิ้งค์ย้อนหลัง
บทนำ https://ppantip.com/topic/37374123
บทที่ 2 https://ppantip.com/topic/37377039
บทที่ 3 https://ppantip.com/topic/37379538
บทที่ 4 https://ppantip.com/topic/37382097
บทที่ 5 https://ppantip.com/topic/37384898

.................................................................................
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เจ้าของผลงานขอสงวนสิทธิ์ในการ ห้ามคัดลอก ห้ามดัดแปลง ห้ามทำซ้ำ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดในนิยายไปเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
..................................................................................

บทที่ 6

หากนิพิทไม่ชอบรอ ตอนนี้ชายหนุ่มจึงเริ่มร่างขั้นตอน และวางแผนสิ่งที่จะทำขึ้นมา อย่างหนึ่งนั้นเขาศึกษาเรื่องซื้อแหวนเพชร และชายหนุ่มก็ต้องถามคนมีความรู้ระดับเดียวกันเท่านั้น เมื่อกลับเข้ามหาวิทยาลัย เขาจึงตรงไปหาคนที่ต้องการ...

เขาเคาะประตูห้อง ก่อนเปิดเข้าไปทันที

“โอ๊ะ! โทษทีครับ ผมนึกว่าอาจารย์ว่าง ไม่นึกว่าจะมีแขก”

อาจารย์ผ่องศรีโบกมือว่าไม่ใช่แขก…  “นี่หลานชายดิฉันเองค่ะชื่อปราบศึก”

ปราบศึกลุกขึ้น และผายมือ เพื่อเชิญให้อีกฝ่ายนั่งเก้าอี้ว่าง หากคนเพิ่งเข้ามากลับพูดว่า

“อ๋อ ไม่เป็นไรมิได้ครับ พอดีผมจะไม่รบกวนนาน คือผมมีเรื่องอยากขอถามอะไรอาจารย์ผ่องศรีสักสองสามคำเท่านั้นเองครับ”

“ว่ามาเลยค่ะอาจารย์” เจ้าของห้องบอกอย่างไม่รู้สึกแปลก อันที่จริงเธอก็เคยชินนิสัยทำงานรวดเร็วของอีกฝ่ายอยู่แล้ว

ครั้งนี้นิพิทปรึกษาเรื่องร้านสำหรับซื้อเพชร

“อุ๊ย! นี่อาจารย์จะแต่งงานหรือคะ”

“ก็ประมาณนั้นครับ” นิพิทหน้าแดง

“แหม ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ ค่ะ” อาจารย์ผ่องศรีตื่นเต้นซะเอง ราวนิพิทเป็นหลานปราบศึกของเธอ “ดิฉันขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะ แล้วนี่อาจารย์จะดูแหวนกันใช่ไหมคะ”

นิพิทบอกขอบคุณเสียก่อนๆหงึกหน้าว่า

“ใช่ครับ แล้วก็ตุ้มหูคู่หนึ่งด้วย พอดีแฟนผมเธอทำตุ้มหูหายไปข้างหนึ่งน่ะ ผมเลยว่าไหนๆ ก็ไหนๆ เราก็จะสั่งทำเสียทีเดียวเลย”

“เอ...ดิฉันว่าอาจารย์เอาตุ้มหูข้างที่เหลือไปให้เขาดูเป็นตัวอย่างก็ได้นี่คะ เชื่อเถิดค่ะว่าร้านเขาเก่ง อาจารย์ก็แค่สั่งทำอีกข้างก็ได้ ประหยัดดีด้วย” ป้าของปราบศึกแนะนำอย่างหวังดี

หากอีกคนกลับคิดต่าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งเล็กน้อยว่า

“ไม่ดีจะกว่าครับอาจารย์ ผมว่าของที่หายแล้วก็ให้หายไปเถอะ ทำอันใหม่แบบใหม่ดีกว่า คือผมไม่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆน่ะครับ”

คนแนะนำสะดุดหูเล็กๆ หากก็ผ่านความรู้สึกได้อย่างใจกว้าง ก่อนเปลี่ยนกล่าวคำชมซึ่งๆ หน้าว่า

“แหม อาจารย์นี่ช่างเป็นแฟนที่น่ารักจริงๆเลยค่ะ”

คราวนี้นิพิทหน้าแดงเป็นลูกตำลึง

“เอาเพชรแถวบ้านหม้อไหมคะ”

ย่านนั้นก็ดังและขึ้นชื่อ หากชายหนุ่มต้องการแบบทันสมัย อย่างในห้างหรู และเขาอยากได้เพชรที่มียี่ห้อ...ยิ่งดังระดับโลกก็ยิ่งดี...นิพิทบอกเช่นนี้

ผู้ชายคนนี้ ถ้าไม่รักแฟนมาก ก็เป็นคนพวกจำพวกขี้อวด ต้องดีและเด่นกว่าคนอื่นเสมอ
...ปราบศึกผู้นั่งฟังเงียบๆ คิดในใจ

“แหม ดิฉันลืมไป ว่าอาจารย์เป็นพวกคนรุ่นใหม่ไฟแรง” อาจารย์ผ่องศรีพูดสัพยอกยิ้มๆ ขณะเปิดกระเป๋าค้นหา และยื่นนามบัตรให้ไป

“เขาเป็นอาจารย์สอนที่นี่หรือฮะป้า” ปราบศึกถาม เมื่ออีกคนคล้อยหลัง

“ใช่”

“ท่าทางเก่งน่าดูนะครับ”

“ก็เอาการอยู่ทีเดียว คนนี้แหละคืออาจารย์ดร.นิพิท แฟนของหนูอุ่นไงล่ะ หลานจำหนูอุ่นได้ไหม ผู้หญิงคนที่ป้าให้ปราบไปส่งวันนั้นไง”

“หา! ว่าไงนะครับ” ปราบศึกแทบตกเก้าอี้ “ป้าผ่องว่าอะไรนะครับ เมื่อกี้ป้าพูดว่าอาจารย์คนนี้ เป็นแฟนของยัย...เอ้ย...คุณอุษณาหรือครับ”

“ก็ใช่น่ะสิ แกถามทำไมหรือ”

“เปล่าครับ” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ พร้อมครางในใจ ว่าเขาทำเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว ที่ไปกล่าวหาหญิงสาวเสียๆ หายๆ มิหนำซ้ำเขายังใจดำ ปล่อยให้เธอเดินตากฝนอีกด้วย...

โอย...นี่เขาทำลงไปได้ยังไง...ปราบศึกสุดจะโมโหตัวเอง

“ว่าไงนะ แกทำอะไรหรือตาปราบ” ผู้เป็นป้าหูไว

“อ๋อ เปล่าฮะ เปล่าทุกกรณีเอาไว้ก่อนเลยฮะ ผมแค่คิดถึงข่าวเรื่องรถขับปาดหน้ากัน แล้วคนขับหัวร้อนลงมาชักปืนยิง ว่าทำได้ไงฮะ” ชายหนุ่มเอาตัวรอด

“ก็นั่นน่ะสิ คนสมัยนี้มันยังไงก็ไม่รู้ ใจร้อนกันจริง แถมวู่วาม ไม่รู้จัก อะลุ้มอล่วยกัน แต่เอ...มีข่าวนี้ด้วยหรือตาปราบ เมื่อเช้าป้าก็ดูทีวีอยู่นะ หนังสือพิมพ์ก็อ่าน จำได้ว่าไม่เห็นมีข่าวนี้เลย”

“อ๋อ จากวงในครับ” ปราบศึกโยงเรื่องแบบน้ำขุ่นๆ

อาจารย์ผ่องศรีหมดความสงสัย เปลี่ยนมาเล่าเรื่องของอุษณาต่อเพื่อหวังให้สติหลานชายทางอ้อม อยากให้เขามองผู้หญิงจากเนื้อแท้คือความงามจากจิตใจ มากกว่ารูปลักษณ์อันฉาบฉวย...

ความฉาบฉวยทำคนลุ่มหลงและรุ่มร้อน คนเราจะมีความสุขจากการอยู่อย่างรุ่มร้อนทั้งชีวิต...ย่อมเป็นไปไม่ได้!

“คู่นี้เขาเหมะสมกันน่าดู หลานก็เห็นนี่ว่าหนูอุ่นเป็นคนดีน่ารัก ส่วนอาจารย์นิพิทนั้นไม่ต้องพูดถึง คุณสมบัติเขาครบ ฉลาด และเก่งหาตัวจับยาก รูปร่างหน้าตาหรือก็ดี”

หน้าตาดีกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ... ชายหนุ่มคอตกละอายใจต่ออุษณา

“อ้าว แล้วนั่นเป็นอะไรล่ะเจ้าปราบ จู่ๆนั่งหน้าจ๋อย หิวข้าวรึ”

“เปล่าฮะ”

“จริงหรือ หรือว่าหลานคิดถึงตัวเองเลยจ๋อย นี่ฟังป้านะเจ้าปราบ ผู้ชายน่ะ ต่อให้ประสบความสำเร็จอย่างไรก็ขอให้มีคู่ที่ดีเถอะ คู่คิดที่จะคอยเกื้อหนุนกันในทางที่ดี ครอบครัวกับงานน่ะ ถ้าสองอย่างดีเสมอกันชีวิตก็รุ่ง ในประวัติคนดังระดับโลกน่ะ คนเหล่านั้นมีลมใต้ปีกทั้งนั้นแหละ”

ปราบศึก ‘จ๋อยสนิท’ ตามคำพูดของป้าตัวเอง เมื่อเขาคิดถึงภารดี และปัญหาโลกแตกของตน เรื่องที่ป้าและแม่ของเขาไม่ชอบเธอเลย และดูเหมือนเธอก็ไม่ปิดบัง ว่าเธอไม่อยากเข้าใกล้ฝ่ายผู้ใหญ่เช่นกัน

“แต่เอ...ป้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าหนูอุ่นไปทำอีท่าไหนเข้าให้ ทำไมตุ้มหูของเธอถึงหายซะได้ นึกๆ แล้วเสียดายแทนจริงๆ ป้าเคยเห็นเธอใส่อยู่บ่อยๆ และจำได้ว่าแบบมันสวยสมตัวเธอทีเดียว”

“อะไรนะครับป้าผ่อง” ปราบศึกหูผึ่ง “เมื่อกี้ป้าว่าตุ้มหูอะไรฮะ”

“อ้าว แล้วกัน หลานไม่ได้ยินหรือ เมื่อกี้อาจารย์นิพิทบอกเอง ว่าแฟนเขาทำตุ้มหูหายไปข้างหนึ่ง เขาก็เลยจะซื้อคู่ใหม่ให้ น่ารักซะไม่มี”

โอย...นี่ฝีมือของเขาอีกแล้วหรือ! ปราบศึกครางในใจเป็นครั้งที่หลายของวันนี้ เมื่อเขารู้แล้ว และมั่นใจ...

ว่ามันต้องใช่ตุ้มหูข้างนั้นแน่ๆ!
.......................................................................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่