ภารดีปิดโทรศัพท์เสียก่อนๆเดินกลับเข้าล็อบบี้โรงแรม ความจริงเธอไม่ได้ติดถ่ายแบบดังที่อ้าง หากหญิงสาวตั้งใจเบี้ยวนัด หล่อนคบปราบศึกมานานนม ตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นพริตตี้และนางแบบโนเนม ตอนนี้หล่อนเริ่มพอมีชื่อบ้างเล็กน้อย แม้จะห่างชั้น ‘ซุปเปอร์สตาร์’ ที่ใฝ่ฝัน หญิงสาวจึงต้องการไต่ระดับด้วยการเล่นหนังทุนใหญ่ๆสักเรื่อง จากนั้นโกอินเตอร์ แต่ความดังต้องสร้าง และตอนนี้ภารดีก็กำลังจะทำสิ่งนั้น บีน่าผู้จัดการได้ข่าววงใน ว่าผู้กำกับหนังชื่อดังกำลังจะมากินข้าวที่โรงแรมแห่งนี้ ที่เกี่ยวข้องกับหนังโปรเจกใหญ่ระดับเอเชีย... ภารดีจึงมาดักรอเขา
เมื่อมาถึงหญิงสาวไม่แปลกใจเลย ที่พบเพื่อนร่วมอาชีพหลายคน ซึ่งต่างมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน การรอนั้นไม่โจ่งแจ้ง หลายคนจึงแสร้งว่ามี ‘ธุระ’ ในล็อบบี้ของโรงแรมแห่งนี้
หล่อนระวังตัวตอนรับสายปราบศึก วงการนี้มายาสมชื่อ คนต่างชิงดีชิงได้ และขัดขากันทุกรูปแบบ หล่อนไม่อยากดับขณะไม่ทันดัง ด้วยการถูกแฉว่ามีผู้ชายเสียแล้ว ปราบศึกเป็นของตายที่ไม่ไปไหนแน่ การ ‘เท’ เขาชั่วคราวจึงไม่น่าห่วง...
หากการชิงเข้าถึงตัวผู้กำกับสรัชก่อนใครนั่นหรอกที่สำคัญกว่า!
ร่างผอมและสูงเพรียวกลับเข้ามาในล็อบบี้ แต่เมื่อนึกอะไรได้บางอย่าง หล่อนทำทีจะเข้าห้องน้ำ ความจริงแล้วภารดีมิได้ไฮโซเช่นภาพที่แสร้งสร้าง เธอมีภูมิหลังจากครอบครัวขาดแคลน ที่ต้องปากกัดตีนถีบ และทำงานสารพัดเพื่อเงิน ครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม หล่อนจึงพอรู้ว่าในโรงแรมหรูมากๆ บางแห่งมีที่จอดรถพิเศษ เพื่อบริการลูกค้าคนสำคัญมาก …
และไม่แน่ว่าสรัชอาจไปที่นั่น!
เมื่อลับตาคนแล้วภารดีเลี้ยวอีกทางตรงข้ามห้องน้ำ ไปยังลิฟต์ชั้นจอดรถ ในเมื่อโอกาสไม่ลอยมาหา หญิงสาวก็จะเดินหน้าเข้าใส่เอง...!
หล่อนเพลินกับความคิดจนเกือบชนเข้ากับใครคนหนึ่ง ภารดีตกใจ ร่างเซจะล้ม แต่ดีที่ฝ่ายนั้นคว้าแขนหล่อนเอาไว้ได้
“นี่...” หญิงสาวเข้าใจว่าเป็นพนักงานของโรงแรมมาทำให้เสียฤกษ์ เธอเตรียมเอาเรื่องเต็มที่ ชนิดให้ดังถึงผู้จัดการ และลงโลกโซเซียล...
ถ้าอยากดังก็ต้องชิงพื้นที่สื่อ ยิ่ง ‘ดราม่า’ เท่าใดคนก็ยิ่งสนใจ!
“ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ”
“อุ๊ย...!” ใบหน้า ‘เหวี่ยงๆ’ เปลี่ยนฉับไวเมื่อเห็นอีกฝ่ายถนัดตา
“คุณไม่เป็นไรนะฮะ” บอกพร้อมปล่อยแขน
“พี่โต้! พี่โต้นี่เอง สวัสดีค่ะพี่” ภารดีกระพุ่มมือไหว้ เก็บอาการตื่นเต้น เพราะเขาคือ ‘โต้ สรัช’ ผู้กำกับชื่อดังแห่งยุคที่หล่อนอยากพบ!
“ครับ...เอ่อ...หวัดดีครับ”
“หนูชื่อดีดี้ไงคะ ดีดี้ ภารดี เดอะฮ้อตบันนี่ เราเคยเจอกันงานประกาศรางวัลในเทศกาลหนังกรุงเทพฯ พี่จำได้มั้ยคะ ตอนนั้นดีดี้ยังเข้าไปแสดงความยินดีด้วยเลย ตอนหนังพี่โต้ได้รางวัล”
“อ๋อ...” ชายหนุ่มพยักหน้าเอาไว้ก่อน ทั้งๆ จำไม่ได้แน่ งานของสรัชมากมายนัก วันๆ เขาเห็นคนนับไม่ถ้วนจนจำชื่อไม่ไหว หากที่เขาพยักหน้าเอาไว้ก็เพราะความเซ็กซี่ ยิ่งชุดที่ใส่สั้นแสนสั้น อวดขาเรียว แถมคว้านคอลึกมาก ที่ผู้ชายทั้งแท่งใครมองผ่านก็บ้าแล้ว...
สรัชอยู่ในแวดวงคนสวย และเขาก็ชอบผู้หญิงอย่างนี้แหละ ที่...สวยมีอกเอวสะโพก...สวยร้อนๆ ค่อนไปทางระอุ!
“น้องดีดี้นี่เอง เมื่อกี้ขอโทษอีกทีนะคะ ผม...เอ๊ย... พี่นี่ซุ่มซ่ามน่าตีจังเลย” ปากยิ้มนัยน์ตากรุ้มกริ่ม
ภารดีอ่านออกอย่างชัดแจ้ง เธอแสร้งหัวเราะคิกเปี่ยมจริต
“ใช่ค่ะ น่าตีจริงๆ”
“แล้วจะให้ผมทำไงคะ คนสวยๆอย่างน้องดีดี้ถึงจะหายโกรธ”
เขาสนใจเธอแล้ว...! ภารดีเนื้อเต้น ก่อนเธอทอดเสียงหวาน
“พี่โต้ต้องถูกลงโทษค่ะ”
ดูท่าก็รู้ว่าสองคนน่าจะคุยกันยาว...สรัชก็เข้าใจนัยยะ
“ด้วยความยินดีครับ ถ้าเป็นน้องดี้ดี จะลงโทษยังไงพี่ก็เต็มใจเสมอ ยอมตั้งแต่ในมุ้งเลยก็ได้ ว่ามาได้เลยครับ”
“ก็...ดินเน่อร์มื้อค่ำนี้เป็นไงคะ” ภารดีปรารถนาจะนั่งร่วมโต๊ะ ที่มีทั้งนายทุนผู้สร้าง คนเขียนบท และดาราชั้นแนวหน้า เพื่อให้คนพวกนั้นรู้จักเธอ และก็ไม่แน่ ถ้าหากเธอเข้าตานายทุนกระเป๋าหนัก ภารดีก็จะยิ่งกว่าโชคดี ที่จะมีทั้งเงินและชื่อเสียง หญิงสาวเผลอยิ้มลำพองใจ ว่าบัดนี้...บันไดดาวทอดลงมาหาเธอแล้ว!
หากสรัชเก๋ากว่า เขาหรี่ตามองท่าทางนั้นราวเสือมองลูกแกะ อยากเชยชิม ชายหนุ่มอยู่ในวงการมานาน ทำไมเขาจะไม่รู้ ว่าเธอหวังอะไรอยู่...
ภารดีมิใช่คนแรก!
หากเธอเป็นคนที่นับไม่ถ้วนต่างหาก ที่ทอดตัวหาเขาเพื่อสนองความทะเยอทะยานของตัวเอง และชายหนุ่มก็ยินดี ‘รับ’ อย่างเต็มใจเสมอ แล้ว...ในเมื่อจะเป็นสะพานทั้งทีมันก็ต้องแลกเปลี่ยน!
“ถ้างั้น เราไปดื่มไวน์สักแก้วเป็นไงฮะ”
“ที่ไหนคะ” หล่อนไม่ตื่นเต้นตกใจ
“ก็...ในห้องผม”
“แล้วทำไมต้องที่ห้องพี่โต้คะ” ภารดีสบตาท้าทาย หล่อนเห็นความต้องการโจ่งแจ้งในสายตาของฝ่ายชาย นอกจากสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดแล้วสรัชผู้นี้หาความคมคายไม่ได้สักนิด เขามีใบหน้าตอบ หน้าตาบ้านๆ ที่ซึ่งคงไม่มีใครมอง ถ้าหากไม่บังเอิญมีชื่อเสียง...
ปราบศึกหล่อกว่าหลายขุม!
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อชื่อนี้ผ่านเข้ามาในหัวอย่างไม่ตั้งใจ
“อ๋อ ก็เพราะผมทำงานค้างเอาไว้น่ะสิ บังเอิญผมมีโปรเจกใหญ่ระดับมาสเตอร์พีซขายเมืองนอก ที่จะคุยกับเสี่ยคืนนี้น่ะ และบังเอิญอีกทีว่ามีบางตัวยังขาดพอดี ผมเลยอยากให้ดีดี้ลองแคส เอาจริงๆนะ...พอแว่บแรกที่เห็นหน้าคุณ ผมรู้เลยว่าดีดี้นี่แหละ ที่เหมาะกับบทนี้ที่สุด”
เท่านั้นชื่อของปราบศึกก็หายวับ ภารดีอยากดัง เธออยากเป็นซุปเปอร์สตาร์ และอยากรวย ยิ่งดังไปไกลชนิดโกอินเตอร์เธอก็ยิ่งปรารถนา
พรหมลิขิตผิดคิว (บทที่3) โดย ธีมา
เมื่อมาถึงหญิงสาวไม่แปลกใจเลย ที่พบเพื่อนร่วมอาชีพหลายคน ซึ่งต่างมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน การรอนั้นไม่โจ่งแจ้ง หลายคนจึงแสร้งว่ามี ‘ธุระ’ ในล็อบบี้ของโรงแรมแห่งนี้
หล่อนระวังตัวตอนรับสายปราบศึก วงการนี้มายาสมชื่อ คนต่างชิงดีชิงได้ และขัดขากันทุกรูปแบบ หล่อนไม่อยากดับขณะไม่ทันดัง ด้วยการถูกแฉว่ามีผู้ชายเสียแล้ว ปราบศึกเป็นของตายที่ไม่ไปไหนแน่ การ ‘เท’ เขาชั่วคราวจึงไม่น่าห่วง...
หากการชิงเข้าถึงตัวผู้กำกับสรัชก่อนใครนั่นหรอกที่สำคัญกว่า!
ร่างผอมและสูงเพรียวกลับเข้ามาในล็อบบี้ แต่เมื่อนึกอะไรได้บางอย่าง หล่อนทำทีจะเข้าห้องน้ำ ความจริงแล้วภารดีมิได้ไฮโซเช่นภาพที่แสร้งสร้าง เธอมีภูมิหลังจากครอบครัวขาดแคลน ที่ต้องปากกัดตีนถีบ และทำงานสารพัดเพื่อเงิน ครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม หล่อนจึงพอรู้ว่าในโรงแรมหรูมากๆ บางแห่งมีที่จอดรถพิเศษ เพื่อบริการลูกค้าคนสำคัญมาก …
และไม่แน่ว่าสรัชอาจไปที่นั่น!
เมื่อลับตาคนแล้วภารดีเลี้ยวอีกทางตรงข้ามห้องน้ำ ไปยังลิฟต์ชั้นจอดรถ ในเมื่อโอกาสไม่ลอยมาหา หญิงสาวก็จะเดินหน้าเข้าใส่เอง...!
หล่อนเพลินกับความคิดจนเกือบชนเข้ากับใครคนหนึ่ง ภารดีตกใจ ร่างเซจะล้ม แต่ดีที่ฝ่ายนั้นคว้าแขนหล่อนเอาไว้ได้
“นี่...” หญิงสาวเข้าใจว่าเป็นพนักงานของโรงแรมมาทำให้เสียฤกษ์ เธอเตรียมเอาเรื่องเต็มที่ ชนิดให้ดังถึงผู้จัดการ และลงโลกโซเซียล...
ถ้าอยากดังก็ต้องชิงพื้นที่สื่อ ยิ่ง ‘ดราม่า’ เท่าใดคนก็ยิ่งสนใจ!
“ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ”
“อุ๊ย...!” ใบหน้า ‘เหวี่ยงๆ’ เปลี่ยนฉับไวเมื่อเห็นอีกฝ่ายถนัดตา
“คุณไม่เป็นไรนะฮะ” บอกพร้อมปล่อยแขน
“พี่โต้! พี่โต้นี่เอง สวัสดีค่ะพี่” ภารดีกระพุ่มมือไหว้ เก็บอาการตื่นเต้น เพราะเขาคือ ‘โต้ สรัช’ ผู้กำกับชื่อดังแห่งยุคที่หล่อนอยากพบ!
“ครับ...เอ่อ...หวัดดีครับ”
“หนูชื่อดีดี้ไงคะ ดีดี้ ภารดี เดอะฮ้อตบันนี่ เราเคยเจอกันงานประกาศรางวัลในเทศกาลหนังกรุงเทพฯ พี่จำได้มั้ยคะ ตอนนั้นดีดี้ยังเข้าไปแสดงความยินดีด้วยเลย ตอนหนังพี่โต้ได้รางวัล”
“อ๋อ...” ชายหนุ่มพยักหน้าเอาไว้ก่อน ทั้งๆ จำไม่ได้แน่ งานของสรัชมากมายนัก วันๆ เขาเห็นคนนับไม่ถ้วนจนจำชื่อไม่ไหว หากที่เขาพยักหน้าเอาไว้ก็เพราะความเซ็กซี่ ยิ่งชุดที่ใส่สั้นแสนสั้น อวดขาเรียว แถมคว้านคอลึกมาก ที่ผู้ชายทั้งแท่งใครมองผ่านก็บ้าแล้ว...
สรัชอยู่ในแวดวงคนสวย และเขาก็ชอบผู้หญิงอย่างนี้แหละ ที่...สวยมีอกเอวสะโพก...สวยร้อนๆ ค่อนไปทางระอุ!
“น้องดีดี้นี่เอง เมื่อกี้ขอโทษอีกทีนะคะ ผม...เอ๊ย... พี่นี่ซุ่มซ่ามน่าตีจังเลย” ปากยิ้มนัยน์ตากรุ้มกริ่ม
ภารดีอ่านออกอย่างชัดแจ้ง เธอแสร้งหัวเราะคิกเปี่ยมจริต
“ใช่ค่ะ น่าตีจริงๆ”
“แล้วจะให้ผมทำไงคะ คนสวยๆอย่างน้องดีดี้ถึงจะหายโกรธ”
เขาสนใจเธอแล้ว...! ภารดีเนื้อเต้น ก่อนเธอทอดเสียงหวาน
“พี่โต้ต้องถูกลงโทษค่ะ”
ดูท่าก็รู้ว่าสองคนน่าจะคุยกันยาว...สรัชก็เข้าใจนัยยะ
“ด้วยความยินดีครับ ถ้าเป็นน้องดี้ดี จะลงโทษยังไงพี่ก็เต็มใจเสมอ ยอมตั้งแต่ในมุ้งเลยก็ได้ ว่ามาได้เลยครับ”
“ก็...ดินเน่อร์มื้อค่ำนี้เป็นไงคะ” ภารดีปรารถนาจะนั่งร่วมโต๊ะ ที่มีทั้งนายทุนผู้สร้าง คนเขียนบท และดาราชั้นแนวหน้า เพื่อให้คนพวกนั้นรู้จักเธอ และก็ไม่แน่ ถ้าหากเธอเข้าตานายทุนกระเป๋าหนัก ภารดีก็จะยิ่งกว่าโชคดี ที่จะมีทั้งเงินและชื่อเสียง หญิงสาวเผลอยิ้มลำพองใจ ว่าบัดนี้...บันไดดาวทอดลงมาหาเธอแล้ว!
หากสรัชเก๋ากว่า เขาหรี่ตามองท่าทางนั้นราวเสือมองลูกแกะ อยากเชยชิม ชายหนุ่มอยู่ในวงการมานาน ทำไมเขาจะไม่รู้ ว่าเธอหวังอะไรอยู่...
ภารดีมิใช่คนแรก!
หากเธอเป็นคนที่นับไม่ถ้วนต่างหาก ที่ทอดตัวหาเขาเพื่อสนองความทะเยอทะยานของตัวเอง และชายหนุ่มก็ยินดี ‘รับ’ อย่างเต็มใจเสมอ แล้ว...ในเมื่อจะเป็นสะพานทั้งทีมันก็ต้องแลกเปลี่ยน!
“ถ้างั้น เราไปดื่มไวน์สักแก้วเป็นไงฮะ”
“ที่ไหนคะ” หล่อนไม่ตื่นเต้นตกใจ
“ก็...ในห้องผม”
“แล้วทำไมต้องที่ห้องพี่โต้คะ” ภารดีสบตาท้าทาย หล่อนเห็นความต้องการโจ่งแจ้งในสายตาของฝ่ายชาย นอกจากสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดแล้วสรัชผู้นี้หาความคมคายไม่ได้สักนิด เขามีใบหน้าตอบ หน้าตาบ้านๆ ที่ซึ่งคงไม่มีใครมอง ถ้าหากไม่บังเอิญมีชื่อเสียง...
ปราบศึกหล่อกว่าหลายขุม!
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อชื่อนี้ผ่านเข้ามาในหัวอย่างไม่ตั้งใจ
“อ๋อ ก็เพราะผมทำงานค้างเอาไว้น่ะสิ บังเอิญผมมีโปรเจกใหญ่ระดับมาสเตอร์พีซขายเมืองนอก ที่จะคุยกับเสี่ยคืนนี้น่ะ และบังเอิญอีกทีว่ามีบางตัวยังขาดพอดี ผมเลยอยากให้ดีดี้ลองแคส เอาจริงๆนะ...พอแว่บแรกที่เห็นหน้าคุณ ผมรู้เลยว่าดีดี้นี่แหละ ที่เหมาะกับบทนี้ที่สุด”
เท่านั้นชื่อของปราบศึกก็หายวับ ภารดีอยากดัง เธออยากเป็นซุปเปอร์สตาร์ และอยากรวย ยิ่งดังไปไกลชนิดโกอินเตอร์เธอก็ยิ่งปรารถนา