ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 17 ไดโนเสาร์

สวัสดีครับทุกท่าน ได้เวลามาอัพเดทตอนใหม่กันแล้วนะครับ ช่วงนี้งานยุ่ง ๆ อาจจะช้าไปหน่อย หวังว่าจะยังรอกันนะครับ เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จบซีรี่ส์นี้แล้วครับ

ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แถมภาพปลายฟ้าในชุดเชอร์ล็อค โฮล์มส์คู่กับมีน ในชุดคินดะอิจิ โคสุเกะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 17 : ไดโนเสาร์


    ดิเรกถูกตำรวจคุมตัวไปแล้ว

    หลังจากตำรวจสืบหาโปรเจ็คเตอร์และกล้องอินฟราเรดจนพบเจอ ก็รุดมาคุมตัวดิเรกทันที

    แต่ดิเรกยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขายืนยันว่าไม่ได้ขโมยของทั้งสองเอาไปขาย ทั้งที่มีพยานยืนยันเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องไฟฟ้าก็ตาม แถมยังปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าใครอีกด้วย

    แม้ตำรวจจะเชื่อว่าดิเรกเป็นคนกระทำเนื่องจากมีพยานชี้ตัว และมีหลักฐานเป็นสายรัดข้อมือสีฟ้าตัวอักษร ILO ที่มีลักษณะเข้าคู่กับสายรัดข้อมือสีชมพูที่มีตัวอักษร VEU ของเด็กหญิงผู้ตาย แต่ก็ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นดิเรกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเจ้าตัวยังไม่ยอมรับ บอกว่าสายถักนั่นเขาเจอมา ไม่ใช่ของเขาโดยตรง และยังบอกว่าตนเองจะเข้าไปขโมยของได้อย่างไร ถ้าในห้องนิทรรศการปิดล็อคอยู่ทุกทางอย่างนั้น

    ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่จึงทำได้แค่คุมตัว เพราะยังไขปริศนาห้องตายนั้นไม่ได้

    แต่การที่ดิเรกถูกคุมตัวนี้ ทำให้เกิดเป็นประเด็นถกเถียงของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ขึ้นมา

    ช่วงเช้าของอีกวันเหล่าเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนิทรรศการต่างจับกลุ่มพูดคุยอยู่ที่นิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยีที่ปรีชาดูแลอยู่

    “ตกลงเป็นดิเรกหรือนี่” วาสนาพูดขึ้นมา เธอลงมาจากนิทรรศการตัวเองเพื่อมาเม้าท์เรื่องนี้โดยเฉพาะ

    “ตำรวจเค้าว่างั้น..” ปรีชาว่า “มีทั้งพยานและหลักฐานเลย”

    “พยาน หลักฐานคืออะไรเหรอครับ” ปรเมศที่ลงตามมาด้วยถามปรีชา

    “พยานก็เจ้าของร้านที่ไอ้ดิเรกมันเอาของไปปล่อย เขาชี้ตัวว่าเป็นมัน ส่วนหลักฐานก็เป็นสายรัดข้อมือที่เข้าคู่กับของเด็กที่ตาย”

    “อ้อ..อย่างนี้นี่เอง” ปรเมศพยักหน้าคิดตาม

    “แล้วการตายของสาธิตล่ะครับ เห็นบอกว่ามีจดหมายลาตายเขียนว่ามันยอมรับผิดด้วยนี่ครับ” แม้กระทั่งสุภาพ ที่ปกติจะอยู่ประจำนิทรรศการ แต่เพราะประเด็นนี้เขาก็ยอมออกมาพูดคุยเช่นกัน

    “เรื่องนี้ไม่รู้สิ หรือว่าสาธิตก็ถูกไอ้ดิเรกฆ่าด้วย โดยวางแผนเขียนจดหมายลาตาย เพื่อเปลี่ยนประเด็น” ปรีชาออกความเห็น

    “มันก็เป็นไปได้แหละ” วาสนาเห็นด้วย “แต่มองอีกมุมหนึ่งสาธิตมันก็มีสิทธิ์เป็นฆาตกรจริง ๆ ได้นะ”

    “ผมก็คิดแบบนั้น มันก็น่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดนะครับ” ปรเมศบอก

    “คงไม่พ้นสองคนนี้” ปรีชาเอ่ยต่อ “พอตำรวจจับได้ ฉันก็สบายตัวหน่อย ไม่โดนเพ่งเล็งแล้ว”

    “แล้วตำรวจบอกหรือยังว่า ดิเรกเข้าไปขโมยของในห้องที่ล็อคนี้ได้อย่างไร” วาสนาถามขึ้น

    “รู้สึกว่ายังไม่รู้นะ เพราะดิเรกเองก็ ปฏิเสธท่าเดียว ไม่ยอมรับและไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลย” ปรีชาตอบ

    “งั้นเหรอ..” วาสนามองเขา “แต่ฉันไม่คิดว่าดิเรกมันจะฆ่ายัยพรกับสาธิตได้หรอกนะ ถึงมันจะชอบเล่นพนันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะฆ่าใครได้หรอก ยิ่งเป็นยัยพรแล้วด้วยนะ ยิ่งไม่มีทาง ทุกคนรู้ใช่ไหมว่าดิเรกมันชอบยัยพรอยู่”

    หลายคนผงกศีรษะรับ

    “นี่แหละฉันถึงคิดว่ามันไม่มีทางเป็นคนทำแน่ ๆ” เจ้าแม่ประจำตึกว่าต่อ

    “ใช่เลยครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” สุภาพพูดแทรกขึ้นมา “มันยังบอกผมเลยว่าจะหาตัวฆาตกรให้ได้”

    “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกสุภาพ” ปรีชาหันไปบอกเขา “แต่เอาเถอะ ต่อไปเรื่องนี้คงจบแล้ว ปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจเค้าทำงานต่อไป เราแค่คอยฟังว่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนี้ก็พอ ตอนนี้สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดคือ มันเข้าห้องนี้ได้อย่างไรเท่านั้นแหละ”

    พูดเสร็จปรีชาก็มองไปรอบ ๆ ห้องนิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยีของตน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่รู้ถึงคำตอบของปริศนาห้องตายนี้ รวมทั้งหลายคนในห้องนี้ด้วยเช่นกัน

    คำตอบของปริศนาห้องนิทรรศการปิดตายนี้มันคืออะไรกัน?


(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่