สวัสดีครับทุกท่าน ได้เวลามาอัพเดทตอนใหม่กันแล้วนะครับ ช่วงนี้งานยุ่ง ๆ อาจจะช้าไปหน่อย หวังว่าจะยังรอกันนะครับ เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จบซีรี่ส์นี้แล้วครับ
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 ปลายฟ้า พิทักษ์ธรรม์
https://ppantip.com/topic/37066376
ตอนที่ 2 พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
https://ppantip.com/topic/37083267
ตอนที่ 3 ศพและของหาย
https://ppantip.com/topic/37107432
ตอนที่ 4 สารวัตรวิทยา
https://ppantip.com/topic/37130343
ตอนที่ 5 ห้องนิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยี
https://ppantip.com/topic/37140547
ตอนที่ 6 คนตายที่ห้องทดลอง
https://ppantip.com/topic/37152856
ตอนที่ 7 ห้องทดลองที่เกิดเหตุ
https://ppantip.com/topic/37163356
ตอนที่ 8 เด็กสาวผู้ตาย
https://ppantip.com/topic/37178386
ตอนที่ 9 ศพข้างไดโนเสาร์
https://ppantip.com/topic/37188652
ตอนที่ 10 หลังเกิดเหตุ
https://ppantip.com/topic/37197736
ตอนที่ 11 ร้าน E.T.
https://ppantip.com/topic/37207154
ตอนที่ 12 สาวห้าวสืบ
https://ppantip.com/topic/37221198
ตอนที่ 13 หาข้อมูล
https://ppantip.com/topic/37229465
ตอนที่ 14 โทรศัพท์มือถือ
https://ppantip.com/topic/37242456
ตอนที่ 15 อาคารดวงดาว
https://ppantip.com/topic/37265638
ตอนที่ 16 รายที่สาม
https://ppantip.com/topic/37287757
แถมภาพปลายฟ้าในชุดเชอร์ล็อค โฮล์มส์คู่กับมีน ในชุดคินดะอิจิ โคสุเกะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 17 : ไดโนเสาร์
ดิเรกถูกตำรวจคุมตัวไปแล้ว
หลังจากตำรวจสืบหาโปรเจ็คเตอร์และกล้องอินฟราเรดจนพบเจอ ก็รุดมาคุมตัวดิเรกทันที
แต่ดิเรกยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขายืนยันว่าไม่ได้ขโมยของทั้งสองเอาไปขาย ทั้งที่มีพยานยืนยันเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องไฟฟ้าก็ตาม แถมยังปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าใครอีกด้วย
แม้ตำรวจจะเชื่อว่าดิเรกเป็นคนกระทำเนื่องจากมีพยานชี้ตัว และมีหลักฐานเป็นสายรัดข้อมือสีฟ้าตัวอักษร ILO ที่มีลักษณะเข้าคู่กับสายรัดข้อมือสีชมพูที่มีตัวอักษร VEU ของเด็กหญิงผู้ตาย แต่ก็ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นดิเรกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเจ้าตัวยังไม่ยอมรับ บอกว่าสายถักนั่นเขาเจอมา ไม่ใช่ของเขาโดยตรง และยังบอกว่าตนเองจะเข้าไปขโมยของได้อย่างไร ถ้าในห้องนิทรรศการปิดล็อคอยู่ทุกทางอย่างนั้น
ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่จึงทำได้แค่คุมตัว เพราะยังไขปริศนาห้องตายนั้นไม่ได้
แต่การที่ดิเรกถูกคุมตัวนี้ ทำให้เกิดเป็นประเด็นถกเถียงของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ขึ้นมา
ช่วงเช้าของอีกวันเหล่าเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนิทรรศการต่างจับกลุ่มพูดคุยอยู่ที่นิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยีที่ปรีชาดูแลอยู่
“ตกลงเป็นดิเรกหรือนี่” วาสนาพูดขึ้นมา เธอลงมาจากนิทรรศการตัวเองเพื่อมาเม้าท์เรื่องนี้โดยเฉพาะ
“ตำรวจเค้าว่างั้น..” ปรีชาว่า “มีทั้งพยานและหลักฐานเลย”
“พยาน หลักฐานคืออะไรเหรอครับ” ปรเมศที่ลงตามมาด้วยถามปรีชา
“พยานก็เจ้าของร้านที่ไอ้ดิเรกมันเอาของไปปล่อย เขาชี้ตัวว่าเป็นมัน ส่วนหลักฐานก็เป็นสายรัดข้อมือที่เข้าคู่กับของเด็กที่ตาย”
“อ้อ..อย่างนี้นี่เอง” ปรเมศพยักหน้าคิดตาม
“แล้วการตายของสาธิตล่ะครับ เห็นบอกว่ามีจดหมายลาตายเขียนว่ามันยอมรับผิดด้วยนี่ครับ” แม้กระทั่งสุภาพ ที่ปกติจะอยู่ประจำนิทรรศการ แต่เพราะประเด็นนี้เขาก็ยอมออกมาพูดคุยเช่นกัน
“เรื่องนี้ไม่รู้สิ หรือว่าสาธิตก็ถูกไอ้ดิเรกฆ่าด้วย โดยวางแผนเขียนจดหมายลาตาย เพื่อเปลี่ยนประเด็น” ปรีชาออกความเห็น
“มันก็เป็นไปได้แหละ” วาสนาเห็นด้วย “แต่มองอีกมุมหนึ่งสาธิตมันก็มีสิทธิ์เป็นฆาตกรจริง ๆ ได้นะ”
“ผมก็คิดแบบนั้น มันก็น่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดนะครับ” ปรเมศบอก
“คงไม่พ้นสองคนนี้” ปรีชาเอ่ยต่อ “พอตำรวจจับได้ ฉันก็สบายตัวหน่อย ไม่โดนเพ่งเล็งแล้ว”
“แล้วตำรวจบอกหรือยังว่า ดิเรกเข้าไปขโมยของในห้องที่ล็อคนี้ได้อย่างไร” วาสนาถามขึ้น
“รู้สึกว่ายังไม่รู้นะ เพราะดิเรกเองก็ ปฏิเสธท่าเดียว ไม่ยอมรับและไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลย” ปรีชาตอบ
“งั้นเหรอ..” วาสนามองเขา “แต่ฉันไม่คิดว่าดิเรกมันจะฆ่ายัยพรกับสาธิตได้หรอกนะ ถึงมันจะชอบเล่นพนันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะฆ่าใครได้หรอก ยิ่งเป็นยัยพรแล้วด้วยนะ ยิ่งไม่มีทาง ทุกคนรู้ใช่ไหมว่าดิเรกมันชอบยัยพรอยู่”
หลายคนผงกศีรษะรับ
“นี่แหละฉันถึงคิดว่ามันไม่มีทางเป็นคนทำแน่ ๆ” เจ้าแม่ประจำตึกว่าต่อ
“ใช่เลยครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” สุภาพพูดแทรกขึ้นมา “มันยังบอกผมเลยว่าจะหาตัวฆาตกรให้ได้”
“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกสุภาพ” ปรีชาหันไปบอกเขา “แต่เอาเถอะ ต่อไปเรื่องนี้คงจบแล้ว ปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจเค้าทำงานต่อไป เราแค่คอยฟังว่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนี้ก็พอ ตอนนี้สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดคือ มันเข้าห้องนี้ได้อย่างไรเท่านั้นแหละ”
พูดเสร็จปรีชาก็มองไปรอบ ๆ ห้องนิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยีของตน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่รู้ถึงคำตอบของปริศนาห้องตายนี้ รวมทั้งหลายคนในห้องนี้ด้วยเช่นกัน
คำตอบของปริศนาห้องนิทรรศการปิดตายนี้มันคืออะไรกัน?
(มีต่อครับ)
ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 17 ไดโนเสาร์
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แถมภาพปลายฟ้าในชุดเชอร์ล็อค โฮล์มส์คู่กับมีน ในชุดคินดะอิจิ โคสุเกะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 17 : ไดโนเสาร์
ดิเรกถูกตำรวจคุมตัวไปแล้ว
หลังจากตำรวจสืบหาโปรเจ็คเตอร์และกล้องอินฟราเรดจนพบเจอ ก็รุดมาคุมตัวดิเรกทันที
แต่ดิเรกยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขายืนยันว่าไม่ได้ขโมยของทั้งสองเอาไปขาย ทั้งที่มีพยานยืนยันเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องไฟฟ้าก็ตาม แถมยังปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าใครอีกด้วย
แม้ตำรวจจะเชื่อว่าดิเรกเป็นคนกระทำเนื่องจากมีพยานชี้ตัว และมีหลักฐานเป็นสายรัดข้อมือสีฟ้าตัวอักษร ILO ที่มีลักษณะเข้าคู่กับสายรัดข้อมือสีชมพูที่มีตัวอักษร VEU ของเด็กหญิงผู้ตาย แต่ก็ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นดิเรกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเจ้าตัวยังไม่ยอมรับ บอกว่าสายถักนั่นเขาเจอมา ไม่ใช่ของเขาโดยตรง และยังบอกว่าตนเองจะเข้าไปขโมยของได้อย่างไร ถ้าในห้องนิทรรศการปิดล็อคอยู่ทุกทางอย่างนั้น
ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่จึงทำได้แค่คุมตัว เพราะยังไขปริศนาห้องตายนั้นไม่ได้
แต่การที่ดิเรกถูกคุมตัวนี้ ทำให้เกิดเป็นประเด็นถกเถียงของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ขึ้นมา
ช่วงเช้าของอีกวันเหล่าเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนิทรรศการต่างจับกลุ่มพูดคุยอยู่ที่นิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยีที่ปรีชาดูแลอยู่
“ตกลงเป็นดิเรกหรือนี่” วาสนาพูดขึ้นมา เธอลงมาจากนิทรรศการตัวเองเพื่อมาเม้าท์เรื่องนี้โดยเฉพาะ
“ตำรวจเค้าว่างั้น..” ปรีชาว่า “มีทั้งพยานและหลักฐานเลย”
“พยาน หลักฐานคืออะไรเหรอครับ” ปรเมศที่ลงตามมาด้วยถามปรีชา
“พยานก็เจ้าของร้านที่ไอ้ดิเรกมันเอาของไปปล่อย เขาชี้ตัวว่าเป็นมัน ส่วนหลักฐานก็เป็นสายรัดข้อมือที่เข้าคู่กับของเด็กที่ตาย”
“อ้อ..อย่างนี้นี่เอง” ปรเมศพยักหน้าคิดตาม
“แล้วการตายของสาธิตล่ะครับ เห็นบอกว่ามีจดหมายลาตายเขียนว่ามันยอมรับผิดด้วยนี่ครับ” แม้กระทั่งสุภาพ ที่ปกติจะอยู่ประจำนิทรรศการ แต่เพราะประเด็นนี้เขาก็ยอมออกมาพูดคุยเช่นกัน
“เรื่องนี้ไม่รู้สิ หรือว่าสาธิตก็ถูกไอ้ดิเรกฆ่าด้วย โดยวางแผนเขียนจดหมายลาตาย เพื่อเปลี่ยนประเด็น” ปรีชาออกความเห็น
“มันก็เป็นไปได้แหละ” วาสนาเห็นด้วย “แต่มองอีกมุมหนึ่งสาธิตมันก็มีสิทธิ์เป็นฆาตกรจริง ๆ ได้นะ”
“ผมก็คิดแบบนั้น มันก็น่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดนะครับ” ปรเมศบอก
“คงไม่พ้นสองคนนี้” ปรีชาเอ่ยต่อ “พอตำรวจจับได้ ฉันก็สบายตัวหน่อย ไม่โดนเพ่งเล็งแล้ว”
“แล้วตำรวจบอกหรือยังว่า ดิเรกเข้าไปขโมยของในห้องที่ล็อคนี้ได้อย่างไร” วาสนาถามขึ้น
“รู้สึกว่ายังไม่รู้นะ เพราะดิเรกเองก็ ปฏิเสธท่าเดียว ไม่ยอมรับและไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลย” ปรีชาตอบ
“งั้นเหรอ..” วาสนามองเขา “แต่ฉันไม่คิดว่าดิเรกมันจะฆ่ายัยพรกับสาธิตได้หรอกนะ ถึงมันจะชอบเล่นพนันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะฆ่าใครได้หรอก ยิ่งเป็นยัยพรแล้วด้วยนะ ยิ่งไม่มีทาง ทุกคนรู้ใช่ไหมว่าดิเรกมันชอบยัยพรอยู่”
หลายคนผงกศีรษะรับ
“นี่แหละฉันถึงคิดว่ามันไม่มีทางเป็นคนทำแน่ ๆ” เจ้าแม่ประจำตึกว่าต่อ
“ใช่เลยครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” สุภาพพูดแทรกขึ้นมา “มันยังบอกผมเลยว่าจะหาตัวฆาตกรให้ได้”
“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกสุภาพ” ปรีชาหันไปบอกเขา “แต่เอาเถอะ ต่อไปเรื่องนี้คงจบแล้ว ปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจเค้าทำงานต่อไป เราแค่คอยฟังว่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนี้ก็พอ ตอนนี้สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดคือ มันเข้าห้องนี้ได้อย่างไรเท่านั้นแหละ”
พูดเสร็จปรีชาก็มองไปรอบ ๆ ห้องนิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยีของตน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่รู้ถึงคำตอบของปริศนาห้องตายนี้ รวมทั้งหลายคนในห้องนี้ด้วยเช่นกัน
คำตอบของปริศนาห้องนิทรรศการปิดตายนี้มันคืออะไรกัน?
(มีต่อครับ)