สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน ของขวัญผมไม่มีให้นะ เอานิยายตอนใหม่ไปอ่านแทนละกันครับ
โปรดทราบก่อนอ่าน
******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้ ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 ปลายฟ้า พิทักษ์ธรรม์
https://ppantip.com/topic/37066376
ตอนที่ 2 พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
https://ppantip.com/topic/37083267
ตอนที่ 3 ศพและของหาย
https://ppantip.com/topic/37107432
ตอนที่ 4 สารวัตรวิทยา
https://ppantip.com/topic/37130343
ตอนที่ 5 ห้องนิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยี
https://ppantip.com/topic/37140547
ตอนที่ 6 คนตายที่ห้องทดลอง
https://ppantip.com/topic/37152856
ตอนที่ 7 ห้องทดลองที่เกิดเหตุ
https://ppantip.com/topic/37163356
ตอนที่ 8 เด็กสาวผู้ตาย
https://ppantip.com/topic/37178386
ตอนที่ 9 ศพข้างไดโนเสาร์
https://ppantip.com/topic/37188652
ตอนที่ 10 หลังเกิดเหตุ
https://ppantip.com/topic/37197736
ตอนที่ 11 ร้าน E.T.
https://ppantip.com/topic/37207154
ตอนที่ 12 สาวห้าวสืบ
https://ppantip.com/topic/37221198
ตอนที่ 13 หาข้อมูล
https://ppantip.com/topic/37229465
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 14 : โทรศัพท์มือถือ
ปลายฟ้าเดินออกจากห้องน้ำพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
เหตุที่เขาอารมณ์ดีเช่นนี้ ใช่ว่ามาจากการที่เขาหาข้อมูลจนรู้คำตอบของปริศนาห้องปิดตายแล้ว เพราะมันมาจากการใกล้ถึงเวลาที่จะกระทำการหนึ่ง
การกระทำที่ว่านี้คือ การโทรศัพท์หาสิรินทร์
เนื่องจากในช่วงกลางวันเขาได้โทรหาสิรินทร์ แต่เธอไม่รับสาย ปลายฟ้าจึงตั้งใจหมายมั่นปั้นมือจะโทรหาเธอช่วงกลางคืนอีกครั้ง
“อารมณ์ดีจังนะ”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องถามปลายฟ้า เธอผู้นี้กำลังนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์
“ก็นิดหน่อยครับแม่” ปลายฟ้าบอก พลางเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดศีรษะไปด้วย
“คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงสินะ” แม่ของปลายฟ้าบอกเหมือนรู้ทัน
“แหะ ๆ” หนุ่มผมตั้งที่ตอนนี้ผมไม่ตั้งเพราะเปียกน้ำอยู่ยิ้มบาง ๆ
“แล้วมีนเป็นไงบ้างล่ะ ช่วงนี้ไม่เห็นเลย” แม่ถาม
ปลายฟ้ายิ้มรับ ดูเหมือนแม่ของเขาคงนึกว่าที่ลูกตัวเองอารมณ์ดีอย่างนี้มาจากมีนแฟนสาวของลูก ซึ่งแท้จริงเหตุที่เขาอารมณ์ดีนั้นมาจากสิรินทร์ต่างหาก
“ช่วงนี้มีนยุ่งน่ะแม่ เรียนโทก็งี้แหละครับ ต้องทำโปรเจกต์ ทำทีสิส แถมที่มหา’ลัยดันมีคดีฆาตกรรมอีก”
“อ้อ มิน่าช่วงนี้ไม่แวะมาบ้านเราเลย” แม่ของปลายฟ้าพยักหน้าเล็ก ๆ “แล้วคดีที่ทำงานลูกล่ะ ไปถึงไหนแล้ว?”
“ผมก็สืบ ๆ อยู่ล่ะครับ แต่ก็ยังสรุปผลไม่ได้เลย”
“ไงก็ระวังตัวด้วยนะ ถ้ามีอะไรให้แม่ช่วยบอก” แม่ของปลายฟ้าบอก แล้วหันหน้ากลับไปทำงานของตนต่อ
จากนั้นปลายฟ้าก็เดินเข้าห้องของตัวเอง เช็ดเนื้อตัวสวมเสื้อผ้าและจัดทรงผมจนเรียบร้อย แล้วค่อยตรงไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ
คลี่ยิ้มวูบหนึ่ง เอนตัวทิ้งร่างลงบนเตียงนอน นิ้วมือกดโทรศัพท์มือถือในมือโทรออก
แน่นอนว่าเขาโทรศัพท์หาสิรินทร์
ปลายฟ้ารอเสียงสัญญาณสักครู่ก็ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสาย
“สวัสดีครับ ขอสายรินครับ” ปลายฟ้าบอกทันทีที่รู้ว่ามีคนรับ
“พูดอยู่ค่ะ ใครเหรอ... ใช่ปลายรึเปล่า” เสียงหวาน ๆ จากปลายสายตอบ
“ครับ ปลายครับ เป็นไงบ้าง สบายดีไหมครับ?”
“สบายดีจ๊ะ” สิรินทร์ตอบกลับ “ปลาย โทรหารินตอนกลางวันด้วยใช่ไหม?”
“ใช่ครับ รินไม่เห็นรับสายเลย”
“พอดียุ่ง ๆ อยู่น่ะ ว่าจะโทรหาอยู่เหมือนกัน”
“เหรอ.. งั้นปลายก็อ่านใจรินได้สินะ เลยโทรมาหาก่อน”
“น่ะ... แล้วปลายทำไรอยู่ล่ะ?”
“ก็ไม่ได้ทำอะไรเท่าไรหรอกริน เราแค่กำลังนั่งคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เจอในร้าน E.T. เมื่อวานน่ะ”
“ใครกันเหรอ?” สิรินทร์ถาม
ผู้หญิงที่ปลายฟ้าพูดถึงย่อมเป็นสิรินทร์
แต่ไม่รู้ว่าที่สิรินทร์ถามว่าใครนั้น เธอแกล้งถามไปอย่างนั้นหรือเพราะว่าไม่รู้จริง ๆ กันแน่
ทั้งสองพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือไปได้ประมาณยี่สิบนาที สิรินทร์ก็ขอตัววางสาย เพื่อไปธุระอื่นต่อ
“เวลาแห่งความสุขมันช่างน้อยนิดจริง” ปลายฟ้าพูดขึ้นหลังจากวางสาย ท่าทางเขายังอยากคุยกับสิรินทร์อีกมาก
หนุ่มผมตั้งมองโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งวางสาย ที่หน้าจอตอนนี้เห็นมีเบอร์ไม่ได้รับสายอยู่ สายไม่ได้รับนี้คงโทรมาช่วงยี่สิบนาทีที่เขาคุยกับสิรินทร์
ผู้โทรมาเป็น มีน แฟนสาวของเขานั่นเอง
ปลายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อมีน เขามัวคุยเพลินจนลืมสังเกตว่าแฟนตัวเองโทรซ้อนมาเสียแล้ว ตอนนี้จึงต้องรีบโทรออกหามีนทันที
ในครั้งแรกนั้นมีนไม่ได้รับสาย ปลายฟ้าต้องโทรอีกครั้งถึงทางนั้นจะรับ
“ฮัลโหล มีน”
ไม่มีเสียงมีนตอบทันที ปลายฟ้าต้องพูดอีกครั้ง มีนถึงตอบว่า
“ทำอะไรอยู่เหรอ.. เมื่อกี้โทรไปทำไมไม่รับ”
“ติดสายอยู่น่ะมีน..” ปลายฟ้าบอกตามตรง เพราะรู้ว่าโทรศัพท์สมัยนี้จะแจ้งว่าตัวผู้โทรหาเป็นสายซ้อนเข้ามาได้ หากกำลังโทรเข้าในขณะที่ต้นทางติดสายอยู่ แต่อย่างไรเขาก็ยังโกหกแบบเนียน ๆ ไปอีกว่า “พอดีคุยกับไอ้เจมันน่ะ”
“เหรอ...” มีนพูดแค่นี้ แล้วนิ่งเงียบให้ระทึกเล่น
“คดีที่มหา’ลัยเป็นไงบ้างล่ะ?” ปลายฟ้าเห็นว่าทางนั้นเงียบ รีบเปลี่ยนประเด็นถามอย่างอื่นเพื่อทำลายความเงียบ
มีนนิ่งเงียบอีกพักหนึ่ง แล้วตอบว่า “ก็คืบหน้าบ้างแล้ว”
เหมือนจะได้ผล หนุ่มผมตั้งรีบพูดต่ออีกว่า “แล้วได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมไหม?”
“ได้บ้าง รู้แล้วว่าฆาตกรเข้ามาทางไหน น่าจะเป็นหน้าต่างห้องทดลอง เพราะพบร่องรอยที่ด้านหลังหน้าต่างของห้อง”
“อืม... แบบนี้ก็คล้าย ๆ คดีที่ทำงานปลายน่ะสิ ฆาตกรไม่ได้ใช้ประตูทางเข้าหลัก” ปลายฟ้าบอก “แล้วมีนรู้รึยังว่าฆาตกรเข้าไปในห้องที่ปิดตายได้อย่างไร?”
“นิดหน่อย พอดีแอลเล่าเรื่องที่ไปพิสูจน์ผีในห้องทดลองให้ฟัง เลยได้ความคิดมาบ้าง”
“เรื่องนั้นหรือ.. ยังไง?”
“ก็ทางลับของพวกภาควิทยาศาสตร์ทางทะเลไง”
“อ้อ.. พอรู้ล่ะ ถ้าคิดตามนั้น งั้นก็ใช้วิธีที่คล้าย ๆ กับวิธีในคดีที่ทำงานปลายเลย”
“ยังไงล่ะ?”
ปลายฟ้าจึงเล่าวิธีการสร้างห้องปิดตายที่เขาคิดได้ในคดีฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์ให้มีนฟัง
“นั่นสิ ถ้าเป็นวิธีนี้ก็สามารถตอบการกระทำของคน ๆ นั้นได้แล้ว” มีนบอกเมื่อฟังจบ
“ดูเหมือนคำตอบของปริศนาห้องปิดตายของทั้งสองคดีนี้น่าจะคล้ายกันนะ เพราะห้องของทั้งสองคดีมีบางส่วนคล้ายกันอยู่ หนึ่งคือ ที่เกิดเหตุเป็นห้องสองห้องเชื่อมต่อกัน สองคือ กุญแจห้องไขได้เพียงประตูเดียว และสามคือ มีทางหนึ่งที่ปิดไว้ตลอด”
“ตอนนี้ก็คงเหลือแต่หลักฐานแล้วล่ะ เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาหลักฐานที่ไหนมามัดตัวคนร้ายเลย” สาวห้าวบอก
“ทางนี้ก็เหมือนกัน ไม่มีหลักฐานอะไร แถมยังชี้ชัดไม่ได้ เพราะมีหลายคนเข้าข่ายอยู่”
ทั้งสองพูดคุยเรื่องคดีไปอีกสักพัก จู่ ๆ มีนก็ถามปลายฟ้าขึ้นว่า
“แล้วเมื่อวานปลายนอนหลับสบายไหม?”
ปลายฟ้านิ่งจังหวะหนึ่ง อย่างที่รู้เมื่อคืนวานเขาออกไปเที่ยวและหาข้อมูลที่ร้าน E.T. และได้โกหกมีนไปว่า ช่วงเช้ามีประชุม ขอตัวนอนเร็ว ดังนั้นเขาย่อมไม่ได้นอนอย่างเต็มที่แน่
แต่หนุ่มผมตั้งก็ยังโกหกต่อไปว่า “ก็หลับสบายดีนะ”
“เหรอ..” น้ำเสียงมีนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “จริงหรือ?”
“จริง ๆ” ปลายฟ้ารีบตอบทันที “เมื่อคืนหลังจากคุยกับมีนเสร็จก็นอนเลย”
พอปลายฟ้าตอบเสร็จ มีนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นอีกว่า
“ประชุมเป็นไงบ้างล่ะ?”
“ประชุมเหรอ...” ปลายฟ้าพูดพลางนึกถึงคำที่ตัวเองโกหกมีนไป ความจริงแล้วในช่วงเช้าเขาไม่ได้มีประชุม ที่พูดไปตอนนั้นเพียงเพื่อโกหกมีนเท่านั้น
“ก็ไม่มีประเด็นอะไรสำคัญนะ เรื่องทั่วไปน่ะมีน” หนุ่มผมตั้งตอบ
มีนเงียบอีกครู่หนึ่งเหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่แล้วก็ได้แต่ตะกุกตะกัก แล้ววางสายไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ปลายฟ้างุนงงทันที เขาเชื่อว่าสิ่งที่ตอบไปไม่มีพิรุธ แฟนของตัวเองไม่มีทางรู้แน่ ๆ ว่าเขาออกไปเที่ยวกลางคืน จึงรีบกดโทรศัพท์มือถือโทรออกอีกครั้งเพื่อพูดคุยต่อ
แต่ว่าเมื่อโทรไปก็ไม่มีการรับสาย ต้องย้ำโทรอีกครั้ง
ทว่าผลยังเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าปลายฟ้าจะโทรออกอีกกี่ครั้ง มีนก็ยังไม่รับแม้แต่ครั้งเดียว
“เป็นอะไรไป? ทำไมไม่รับ?” หนุ่มผมตั้งพูดขึ้น ในมือยังถือมือถืออยู่
เขาหันมองโทรศัพท์มือถือนั่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
(มีต่อครับ)
ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 14 โทรศัพท์มือถือ
โปรดทราบก่อนอ่าน
******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้ ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 14 : โทรศัพท์มือถือ
ปลายฟ้าเดินออกจากห้องน้ำพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
เหตุที่เขาอารมณ์ดีเช่นนี้ ใช่ว่ามาจากการที่เขาหาข้อมูลจนรู้คำตอบของปริศนาห้องปิดตายแล้ว เพราะมันมาจากการใกล้ถึงเวลาที่จะกระทำการหนึ่ง
การกระทำที่ว่านี้คือ การโทรศัพท์หาสิรินทร์
เนื่องจากในช่วงกลางวันเขาได้โทรหาสิรินทร์ แต่เธอไม่รับสาย ปลายฟ้าจึงตั้งใจหมายมั่นปั้นมือจะโทรหาเธอช่วงกลางคืนอีกครั้ง
“อารมณ์ดีจังนะ”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องถามปลายฟ้า เธอผู้นี้กำลังนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์
“ก็นิดหน่อยครับแม่” ปลายฟ้าบอก พลางเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดศีรษะไปด้วย
“คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงสินะ” แม่ของปลายฟ้าบอกเหมือนรู้ทัน
“แหะ ๆ” หนุ่มผมตั้งที่ตอนนี้ผมไม่ตั้งเพราะเปียกน้ำอยู่ยิ้มบาง ๆ
“แล้วมีนเป็นไงบ้างล่ะ ช่วงนี้ไม่เห็นเลย” แม่ถาม
ปลายฟ้ายิ้มรับ ดูเหมือนแม่ของเขาคงนึกว่าที่ลูกตัวเองอารมณ์ดีอย่างนี้มาจากมีนแฟนสาวของลูก ซึ่งแท้จริงเหตุที่เขาอารมณ์ดีนั้นมาจากสิรินทร์ต่างหาก
“ช่วงนี้มีนยุ่งน่ะแม่ เรียนโทก็งี้แหละครับ ต้องทำโปรเจกต์ ทำทีสิส แถมที่มหา’ลัยดันมีคดีฆาตกรรมอีก”
“อ้อ มิน่าช่วงนี้ไม่แวะมาบ้านเราเลย” แม่ของปลายฟ้าพยักหน้าเล็ก ๆ “แล้วคดีที่ทำงานลูกล่ะ ไปถึงไหนแล้ว?”
“ผมก็สืบ ๆ อยู่ล่ะครับ แต่ก็ยังสรุปผลไม่ได้เลย”
“ไงก็ระวังตัวด้วยนะ ถ้ามีอะไรให้แม่ช่วยบอก” แม่ของปลายฟ้าบอก แล้วหันหน้ากลับไปทำงานของตนต่อ
จากนั้นปลายฟ้าก็เดินเข้าห้องของตัวเอง เช็ดเนื้อตัวสวมเสื้อผ้าและจัดทรงผมจนเรียบร้อย แล้วค่อยตรงไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ
คลี่ยิ้มวูบหนึ่ง เอนตัวทิ้งร่างลงบนเตียงนอน นิ้วมือกดโทรศัพท์มือถือในมือโทรออก
แน่นอนว่าเขาโทรศัพท์หาสิรินทร์
ปลายฟ้ารอเสียงสัญญาณสักครู่ก็ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสาย
“สวัสดีครับ ขอสายรินครับ” ปลายฟ้าบอกทันทีที่รู้ว่ามีคนรับ
“พูดอยู่ค่ะ ใครเหรอ... ใช่ปลายรึเปล่า” เสียงหวาน ๆ จากปลายสายตอบ
“ครับ ปลายครับ เป็นไงบ้าง สบายดีไหมครับ?”
“สบายดีจ๊ะ” สิรินทร์ตอบกลับ “ปลาย โทรหารินตอนกลางวันด้วยใช่ไหม?”
“ใช่ครับ รินไม่เห็นรับสายเลย”
“พอดียุ่ง ๆ อยู่น่ะ ว่าจะโทรหาอยู่เหมือนกัน”
“เหรอ.. งั้นปลายก็อ่านใจรินได้สินะ เลยโทรมาหาก่อน”
“น่ะ... แล้วปลายทำไรอยู่ล่ะ?”
“ก็ไม่ได้ทำอะไรเท่าไรหรอกริน เราแค่กำลังนั่งคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เจอในร้าน E.T. เมื่อวานน่ะ”
“ใครกันเหรอ?” สิรินทร์ถาม
ผู้หญิงที่ปลายฟ้าพูดถึงย่อมเป็นสิรินทร์
แต่ไม่รู้ว่าที่สิรินทร์ถามว่าใครนั้น เธอแกล้งถามไปอย่างนั้นหรือเพราะว่าไม่รู้จริง ๆ กันแน่
ทั้งสองพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือไปได้ประมาณยี่สิบนาที สิรินทร์ก็ขอตัววางสาย เพื่อไปธุระอื่นต่อ
“เวลาแห่งความสุขมันช่างน้อยนิดจริง” ปลายฟ้าพูดขึ้นหลังจากวางสาย ท่าทางเขายังอยากคุยกับสิรินทร์อีกมาก
หนุ่มผมตั้งมองโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งวางสาย ที่หน้าจอตอนนี้เห็นมีเบอร์ไม่ได้รับสายอยู่ สายไม่ได้รับนี้คงโทรมาช่วงยี่สิบนาทีที่เขาคุยกับสิรินทร์
ผู้โทรมาเป็น มีน แฟนสาวของเขานั่นเอง
ปลายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อมีน เขามัวคุยเพลินจนลืมสังเกตว่าแฟนตัวเองโทรซ้อนมาเสียแล้ว ตอนนี้จึงต้องรีบโทรออกหามีนทันที
ในครั้งแรกนั้นมีนไม่ได้รับสาย ปลายฟ้าต้องโทรอีกครั้งถึงทางนั้นจะรับ
“ฮัลโหล มีน”
ไม่มีเสียงมีนตอบทันที ปลายฟ้าต้องพูดอีกครั้ง มีนถึงตอบว่า
“ทำอะไรอยู่เหรอ.. เมื่อกี้โทรไปทำไมไม่รับ”
“ติดสายอยู่น่ะมีน..” ปลายฟ้าบอกตามตรง เพราะรู้ว่าโทรศัพท์สมัยนี้จะแจ้งว่าตัวผู้โทรหาเป็นสายซ้อนเข้ามาได้ หากกำลังโทรเข้าในขณะที่ต้นทางติดสายอยู่ แต่อย่างไรเขาก็ยังโกหกแบบเนียน ๆ ไปอีกว่า “พอดีคุยกับไอ้เจมันน่ะ”
“เหรอ...” มีนพูดแค่นี้ แล้วนิ่งเงียบให้ระทึกเล่น
“คดีที่มหา’ลัยเป็นไงบ้างล่ะ?” ปลายฟ้าเห็นว่าทางนั้นเงียบ รีบเปลี่ยนประเด็นถามอย่างอื่นเพื่อทำลายความเงียบ
มีนนิ่งเงียบอีกพักหนึ่ง แล้วตอบว่า “ก็คืบหน้าบ้างแล้ว”
เหมือนจะได้ผล หนุ่มผมตั้งรีบพูดต่ออีกว่า “แล้วได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมไหม?”
“ได้บ้าง รู้แล้วว่าฆาตกรเข้ามาทางไหน น่าจะเป็นหน้าต่างห้องทดลอง เพราะพบร่องรอยที่ด้านหลังหน้าต่างของห้อง”
“อืม... แบบนี้ก็คล้าย ๆ คดีที่ทำงานปลายน่ะสิ ฆาตกรไม่ได้ใช้ประตูทางเข้าหลัก” ปลายฟ้าบอก “แล้วมีนรู้รึยังว่าฆาตกรเข้าไปในห้องที่ปิดตายได้อย่างไร?”
“นิดหน่อย พอดีแอลเล่าเรื่องที่ไปพิสูจน์ผีในห้องทดลองให้ฟัง เลยได้ความคิดมาบ้าง”
“เรื่องนั้นหรือ.. ยังไง?”
“ก็ทางลับของพวกภาควิทยาศาสตร์ทางทะเลไง”
“อ้อ.. พอรู้ล่ะ ถ้าคิดตามนั้น งั้นก็ใช้วิธีที่คล้าย ๆ กับวิธีในคดีที่ทำงานปลายเลย”
“ยังไงล่ะ?”
ปลายฟ้าจึงเล่าวิธีการสร้างห้องปิดตายที่เขาคิดได้ในคดีฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์ให้มีนฟัง
“นั่นสิ ถ้าเป็นวิธีนี้ก็สามารถตอบการกระทำของคน ๆ นั้นได้แล้ว” มีนบอกเมื่อฟังจบ
“ดูเหมือนคำตอบของปริศนาห้องปิดตายของทั้งสองคดีนี้น่าจะคล้ายกันนะ เพราะห้องของทั้งสองคดีมีบางส่วนคล้ายกันอยู่ หนึ่งคือ ที่เกิดเหตุเป็นห้องสองห้องเชื่อมต่อกัน สองคือ กุญแจห้องไขได้เพียงประตูเดียว และสามคือ มีทางหนึ่งที่ปิดไว้ตลอด”
“ตอนนี้ก็คงเหลือแต่หลักฐานแล้วล่ะ เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาหลักฐานที่ไหนมามัดตัวคนร้ายเลย” สาวห้าวบอก
“ทางนี้ก็เหมือนกัน ไม่มีหลักฐานอะไร แถมยังชี้ชัดไม่ได้ เพราะมีหลายคนเข้าข่ายอยู่”
ทั้งสองพูดคุยเรื่องคดีไปอีกสักพัก จู่ ๆ มีนก็ถามปลายฟ้าขึ้นว่า
“แล้วเมื่อวานปลายนอนหลับสบายไหม?”
ปลายฟ้านิ่งจังหวะหนึ่ง อย่างที่รู้เมื่อคืนวานเขาออกไปเที่ยวและหาข้อมูลที่ร้าน E.T. และได้โกหกมีนไปว่า ช่วงเช้ามีประชุม ขอตัวนอนเร็ว ดังนั้นเขาย่อมไม่ได้นอนอย่างเต็มที่แน่
แต่หนุ่มผมตั้งก็ยังโกหกต่อไปว่า “ก็หลับสบายดีนะ”
“เหรอ..” น้ำเสียงมีนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “จริงหรือ?”
“จริง ๆ” ปลายฟ้ารีบตอบทันที “เมื่อคืนหลังจากคุยกับมีนเสร็จก็นอนเลย”
พอปลายฟ้าตอบเสร็จ มีนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นอีกว่า
“ประชุมเป็นไงบ้างล่ะ?”
“ประชุมเหรอ...” ปลายฟ้าพูดพลางนึกถึงคำที่ตัวเองโกหกมีนไป ความจริงแล้วในช่วงเช้าเขาไม่ได้มีประชุม ที่พูดไปตอนนั้นเพียงเพื่อโกหกมีนเท่านั้น
“ก็ไม่มีประเด็นอะไรสำคัญนะ เรื่องทั่วไปน่ะมีน” หนุ่มผมตั้งตอบ
มีนเงียบอีกครู่หนึ่งเหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่แล้วก็ได้แต่ตะกุกตะกัก แล้ววางสายไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ปลายฟ้างุนงงทันที เขาเชื่อว่าสิ่งที่ตอบไปไม่มีพิรุธ แฟนของตัวเองไม่มีทางรู้แน่ ๆ ว่าเขาออกไปเที่ยวกลางคืน จึงรีบกดโทรศัพท์มือถือโทรออกอีกครั้งเพื่อพูดคุยต่อ
แต่ว่าเมื่อโทรไปก็ไม่มีการรับสาย ต้องย้ำโทรอีกครั้ง
ทว่าผลยังเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าปลายฟ้าจะโทรออกอีกกี่ครั้ง มีนก็ยังไม่รับแม้แต่ครั้งเดียว
“เป็นอะไรไป? ทำไมไม่รับ?” หนุ่มผมตั้งพูดขึ้น ในมือยังถือมือถืออยู่
เขาหันมองโทรศัพท์มือถือนั่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
(มีต่อครับ)