ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 14 โทรศัพท์มือถือ

สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน ของขวัญผมไม่มีให้นะ เอานิยายตอนใหม่ไปอ่านแทนละกันครับ

โปรดทราบก่อนอ่าน

******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้  ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ  (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******


ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 14 : โทรศัพท์มือถือ


    ปลายฟ้าเดินออกจากห้องน้ำพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี

    เหตุที่เขาอารมณ์ดีเช่นนี้ ใช่ว่ามาจากการที่เขาหาข้อมูลจนรู้คำตอบของปริศนาห้องปิดตายแล้ว เพราะมันมาจากการใกล้ถึงเวลาที่จะกระทำการหนึ่ง

    การกระทำที่ว่านี้คือ การโทรศัพท์หาสิรินทร์

    เนื่องจากในช่วงกลางวันเขาได้โทรหาสิรินทร์ แต่เธอไม่รับสาย ปลายฟ้าจึงตั้งใจหมายมั่นปั้นมือจะโทรหาเธอช่วงกลางคืนอีกครั้ง

    “อารมณ์ดีจังนะ”

    เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องถามปลายฟ้า เธอผู้นี้กำลังนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์

    “ก็นิดหน่อยครับแม่” ปลายฟ้าบอก พลางเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดศีรษะไปด้วย

    “คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงสินะ” แม่ของปลายฟ้าบอกเหมือนรู้ทัน

    “แหะ ๆ” หนุ่มผมตั้งที่ตอนนี้ผมไม่ตั้งเพราะเปียกน้ำอยู่ยิ้มบาง ๆ

    “แล้วมีนเป็นไงบ้างล่ะ ช่วงนี้ไม่เห็นเลย” แม่ถาม

    ปลายฟ้ายิ้มรับ ดูเหมือนแม่ของเขาคงนึกว่าที่ลูกตัวเองอารมณ์ดีอย่างนี้มาจากมีนแฟนสาวของลูก ซึ่งแท้จริงเหตุที่เขาอารมณ์ดีนั้นมาจากสิรินทร์ต่างหาก

    “ช่วงนี้มีนยุ่งน่ะแม่ เรียนโทก็งี้แหละครับ ต้องทำโปรเจกต์ ทำทีสิส แถมที่มหา’ลัยดันมีคดีฆาตกรรมอีก”

    “อ้อ มิน่าช่วงนี้ไม่แวะมาบ้านเราเลย” แม่ของปลายฟ้าพยักหน้าเล็ก ๆ “แล้วคดีที่ทำงานลูกล่ะ ไปถึงไหนแล้ว?”

    “ผมก็สืบ ๆ อยู่ล่ะครับ แต่ก็ยังสรุปผลไม่ได้เลย”

    “ไงก็ระวังตัวด้วยนะ ถ้ามีอะไรให้แม่ช่วยบอก” แม่ของปลายฟ้าบอก แล้วหันหน้ากลับไปทำงานของตนต่อ

    จากนั้นปลายฟ้าก็เดินเข้าห้องของตัวเอง เช็ดเนื้อตัวสวมเสื้อผ้าและจัดทรงผมจนเรียบร้อย แล้วค่อยตรงไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ

    คลี่ยิ้มวูบหนึ่ง เอนตัวทิ้งร่างลงบนเตียงนอน นิ้วมือกดโทรศัพท์มือถือในมือโทรออก

    แน่นอนว่าเขาโทรศัพท์หาสิรินทร์

    ปลายฟ้ารอเสียงสัญญาณสักครู่ก็ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสาย

    “สวัสดีครับ ขอสายรินครับ” ปลายฟ้าบอกทันทีที่รู้ว่ามีคนรับ

    “พูดอยู่ค่ะ ใครเหรอ... ใช่ปลายรึเปล่า” เสียงหวาน ๆ จากปลายสายตอบ

    “ครับ ปลายครับ เป็นไงบ้าง สบายดีไหมครับ?”

    “สบายดีจ๊ะ” สิรินทร์ตอบกลับ “ปลาย โทรหารินตอนกลางวันด้วยใช่ไหม?”

    “ใช่ครับ รินไม่เห็นรับสายเลย”

    “พอดียุ่ง ๆ อยู่น่ะ ว่าจะโทรหาอยู่เหมือนกัน”

    “เหรอ.. งั้นปลายก็อ่านใจรินได้สินะ เลยโทรมาหาก่อน”

    “น่ะ... แล้วปลายทำไรอยู่ล่ะ?”

    “ก็ไม่ได้ทำอะไรเท่าไรหรอกริน เราแค่กำลังนั่งคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เจอในร้าน E.T. เมื่อวานน่ะ”

    “ใครกันเหรอ?” สิรินทร์ถาม

    ผู้หญิงที่ปลายฟ้าพูดถึงย่อมเป็นสิรินทร์

    แต่ไม่รู้ว่าที่สิรินทร์ถามว่าใครนั้น เธอแกล้งถามไปอย่างนั้นหรือเพราะว่าไม่รู้จริง ๆ กันแน่

    ทั้งสองพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือไปได้ประมาณยี่สิบนาที สิรินทร์ก็ขอตัววางสาย เพื่อไปธุระอื่นต่อ

    “เวลาแห่งความสุขมันช่างน้อยนิดจริง” ปลายฟ้าพูดขึ้นหลังจากวางสาย ท่าทางเขายังอยากคุยกับสิรินทร์อีกมาก

    หนุ่มผมตั้งมองโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งวางสาย ที่หน้าจอตอนนี้เห็นมีเบอร์ไม่ได้รับสายอยู่ สายไม่ได้รับนี้คงโทรมาช่วงยี่สิบนาทีที่เขาคุยกับสิรินทร์

    ผู้โทรมาเป็น มีน แฟนสาวของเขานั่นเอง

    ปลายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อมีน เขามัวคุยเพลินจนลืมสังเกตว่าแฟนตัวเองโทรซ้อนมาเสียแล้ว ตอนนี้จึงต้องรีบโทรออกหามีนทันที

    ในครั้งแรกนั้นมีนไม่ได้รับสาย ปลายฟ้าต้องโทรอีกครั้งถึงทางนั้นจะรับ

    “ฮัลโหล มีน”  

    ไม่มีเสียงมีนตอบทันที ปลายฟ้าต้องพูดอีกครั้ง มีนถึงตอบว่า

    “ทำอะไรอยู่เหรอ.. เมื่อกี้โทรไปทำไมไม่รับ”

    “ติดสายอยู่น่ะมีน..” ปลายฟ้าบอกตามตรง เพราะรู้ว่าโทรศัพท์สมัยนี้จะแจ้งว่าตัวผู้โทรหาเป็นสายซ้อนเข้ามาได้ หากกำลังโทรเข้าในขณะที่ต้นทางติดสายอยู่  แต่อย่างไรเขาก็ยังโกหกแบบเนียน ๆ ไปอีกว่า “พอดีคุยกับไอ้เจมันน่ะ”

    “เหรอ...” มีนพูดแค่นี้ แล้วนิ่งเงียบให้ระทึกเล่น

    “คดีที่มหา’ลัยเป็นไงบ้างล่ะ?” ปลายฟ้าเห็นว่าทางนั้นเงียบ รีบเปลี่ยนประเด็นถามอย่างอื่นเพื่อทำลายความเงียบ

    มีนนิ่งเงียบอีกพักหนึ่ง แล้วตอบว่า “ก็คืบหน้าบ้างแล้ว”

    เหมือนจะได้ผล หนุ่มผมตั้งรีบพูดต่ออีกว่า “แล้วได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมไหม?”

    “ได้บ้าง รู้แล้วว่าฆาตกรเข้ามาทางไหน น่าจะเป็นหน้าต่างห้องทดลอง เพราะพบร่องรอยที่ด้านหลังหน้าต่างของห้อง”

    “อืม... แบบนี้ก็คล้าย ๆ คดีที่ทำงานปลายน่ะสิ ฆาตกรไม่ได้ใช้ประตูทางเข้าหลัก” ปลายฟ้าบอก “แล้วมีนรู้รึยังว่าฆาตกรเข้าไปในห้องที่ปิดตายได้อย่างไร?”

    “นิดหน่อย พอดีแอลเล่าเรื่องที่ไปพิสูจน์ผีในห้องทดลองให้ฟัง เลยได้ความคิดมาบ้าง”

    “เรื่องนั้นหรือ.. ยังไง?”

    “ก็ทางลับของพวกภาควิทยาศาสตร์ทางทะเลไง”

    “อ้อ.. พอรู้ล่ะ ถ้าคิดตามนั้น งั้นก็ใช้วิธีที่คล้าย ๆ กับวิธีในคดีที่ทำงานปลายเลย”

    “ยังไงล่ะ?”

    ปลายฟ้าจึงเล่าวิธีการสร้างห้องปิดตายที่เขาคิดได้ในคดีฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์ให้มีนฟัง

    “นั่นสิ ถ้าเป็นวิธีนี้ก็สามารถตอบการกระทำของคน ๆ นั้นได้แล้ว” มีนบอกเมื่อฟังจบ

    “ดูเหมือนคำตอบของปริศนาห้องปิดตายของทั้งสองคดีนี้น่าจะคล้ายกันนะ เพราะห้องของทั้งสองคดีมีบางส่วนคล้ายกันอยู่ หนึ่งคือ ที่เกิดเหตุเป็นห้องสองห้องเชื่อมต่อกัน สองคือ กุญแจห้องไขได้เพียงประตูเดียว และสามคือ มีทางหนึ่งที่ปิดไว้ตลอด”

    “ตอนนี้ก็คงเหลือแต่หลักฐานแล้วล่ะ เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาหลักฐานที่ไหนมามัดตัวคนร้ายเลย” สาวห้าวบอก

    “ทางนี้ก็เหมือนกัน ไม่มีหลักฐานอะไร แถมยังชี้ชัดไม่ได้ เพราะมีหลายคนเข้าข่ายอยู่”

    ทั้งสองพูดคุยเรื่องคดีไปอีกสักพัก จู่ ๆ มีนก็ถามปลายฟ้าขึ้นว่า

    “แล้วเมื่อวานปลายนอนหลับสบายไหม?”

    ปลายฟ้านิ่งจังหวะหนึ่ง อย่างที่รู้เมื่อคืนวานเขาออกไปเที่ยวและหาข้อมูลที่ร้าน E.T. และได้โกหกมีนไปว่า ช่วงเช้ามีประชุม ขอตัวนอนเร็ว ดังนั้นเขาย่อมไม่ได้นอนอย่างเต็มที่แน่

    แต่หนุ่มผมตั้งก็ยังโกหกต่อไปว่า “ก็หลับสบายดีนะ”

    “เหรอ..” น้ำเสียงมีนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “จริงหรือ?”

    “จริง ๆ” ปลายฟ้ารีบตอบทันที “เมื่อคืนหลังจากคุยกับมีนเสร็จก็นอนเลย”

    พอปลายฟ้าตอบเสร็จ มีนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นอีกว่า

    “ประชุมเป็นไงบ้างล่ะ?”

    “ประชุมเหรอ...” ปลายฟ้าพูดพลางนึกถึงคำที่ตัวเองโกหกมีนไป ความจริงแล้วในช่วงเช้าเขาไม่ได้มีประชุม ที่พูดไปตอนนั้นเพียงเพื่อโกหกมีนเท่านั้น

    “ก็ไม่มีประเด็นอะไรสำคัญนะ เรื่องทั่วไปน่ะมีน” หนุ่มผมตั้งตอบ

    มีนเงียบอีกครู่หนึ่งเหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่แล้วก็ได้แต่ตะกุกตะกัก แล้ววางสายไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

    ปลายฟ้างุนงงทันที เขาเชื่อว่าสิ่งที่ตอบไปไม่มีพิรุธ แฟนของตัวเองไม่มีทางรู้แน่ ๆ ว่าเขาออกไปเที่ยวกลางคืน จึงรีบกดโทรศัพท์มือถือโทรออกอีกครั้งเพื่อพูดคุยต่อ

    แต่ว่าเมื่อโทรไปก็ไม่มีการรับสาย ต้องย้ำโทรอีกครั้ง

    ทว่าผลยังเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าปลายฟ้าจะโทรออกอีกกี่ครั้ง มีนก็ยังไม่รับแม้แต่ครั้งเดียว

    “เป็นอะไรไป? ทำไมไม่รับ?” หนุ่มผมตั้งพูดขึ้น ในมือยังถือมือถืออยู่

    เขาหันมองโทรศัพท์มือถือนั่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่