สวัสดีครับทุกท่าน นำตอนใหม่มาให้อ่านกันอีกแล้ว ตอนนี้เรามาดูรายละเอียดอีกคดีที่ซ้อนมาดีกว่าเป็นอย่างไร
โปรดทราบก่อนอ่าน
******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้ ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 ปลายฟ้า พิทักษ์ธรรม์
https://ppantip.com/topic/37066376
ตอนที่ 2 พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
https://ppantip.com/topic/37083267
ตอนที่ 3 ศพและของหาย
https://ppantip.com/topic/37107432
ตอนที่ 4 สารวัตรวิทยา
https://ppantip.com/topic/37130343
ตอนที่ 5 ห้องนิทรรศการเปิดโลกเทคโนโลยี
https://ppantip.com/topic/37140547
ตอนที่ 6 คนตายที่ห้องทดลอง
https://ppantip.com/topic/37152856
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 7 : ห้องทดลองที่เกิดเหตุ
ไม่นานตำรวจในพื้นที่ได้รุดมายังห้องทดลองนี้เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ตอนนี้รอบ ๆ ห้องทดลองของคณะวิทยาศาสตร์จึงถูกปิดล้อมด้วยแถบกั้น มีเพียงเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องอยู่ภายใน
ตำรวจนายหนึ่งเดินตรวจพื้นที่เกิดเหตุอย่างมุ่งมั่น สังเกตสิ่งต่าง ๆ ในห้องทดลองอย่างละเอียด ซึ่งทันทีที่มีนและแอล สองคนในกลุ่มผู้พบเจอศพเห็นหน้าตำรวจนายนี้ ต่างก็ยกมือไหว้และพูดขึ้นว่า
“สวัสดีค่ะ(ครับ) สารวัตรสรวุทธ”
ผู้เป็นตำรวจรับไหว้ มองหน้าทั้งสอง “อืม... พวกเธอเองเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“ค่ะ แต่หนูไม่อยากเจอสารวัตรเท่าไหร่หรอกค่ะ เจอทีไรมีแต่เรื่องพวกนี้ทุกที” มีนพูดต่อ
ผู้โดนเรียกว่าสารวัตรยิ้มบาง ๆ “เอาน่าน้องมีน มันเป็นหน้าที่ แต่ฉันไม่ใช่สารวัตรแล้วนะ ดูที่บ่าดี ๆ สิ”
สาวห้าวจ้องสัญลักษณ์บอกยศที่บ่าของนายตำรวจ “อ้อ..ค่ะ เป็นรองผู้กำกับฯแล้วใช่ไหมคะ?”
รองผู้กำกับการสรวุทธพยักหน้ารับ “ก็ทำคดีที่มหา’ลัยนี้จนเลื่อนยศ คงต้องขอบคุณทางมหา’ลัยที่มีงานให้ทำอยู่เสมอ”
“อ่ะ..ค่ะ” มีนยิ้มแหย ๆ ไม่คิดว่ารองผู้กำกับฯสรวุทธจะเล่นมุขนี้
“เอ่อ.. แล้วปลายไม่อยู่ด้วยหรือ จะได้ให้ช่วยสืบ”
“ไม่อยู่แล้วค่ะ” มีนตอบ “ปลายทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติแล้ว”
“เออ นั่นสิ ลืมไป แต่พอมีคดีเกิดขึ้นที่มหา’ลัยทีไร นึกถึงปลายทุกที”
นายตำรวจผู้นี้คือ พ.ต.ท. สรวุทธ เรืองอำนาจ อดีตสารวัตรผู้เลื่อนขั้นเป็นรองผู้กำกับการในปัจจุบัน เขาเคยมาสืบคดีที่มหาวิทยาลัยอยู่หลายครั้ง รู้จักกับปลายฟ้า มีนและพรรคพวกคนอื่นเป็นอย่างดี
พวกเขาพูดคุยกันอีกเล็กน้อย รองผู้กำกับฯสรวุทธก็ตรวจดูที่เกิดเหตุต่อ ส่วนมีนและกลุ่มผู้พบศพก็ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่นายอื่น
ตอนนี้ศพของพิสิทธิ์ถูกเคลื่อนย้ายไปตรวจสอบแล้ว เหลือเพียงแต่ชอล์กขีดแทนร่าง จากการตรวจสอบพบว่า พิสิทธิ์เสียชีวิตด้วยการถูกแทงด้วยมีดปลายแหลม โดยมีดนี้ถูกปักคาอกของเขา ไม่พบรอยนิ้วมือผู้ใดที่มีดเลย
หากเป็นเช่นนี้ย่อมคือ การฆาตกรรมอย่างแน่นอน แต่ทว่ามันมีจุดหนึ่งที่ยังเป็นปัญหาอยู่
เนื่องจากศพถูกพบตอนกำลังเปิดห้องทดลอง ประตูและหน้าต่างถูกปิดล็อคไว้หมด จึงไม่น่าจะมีใครเข้าไปฆ่าเขาแล้วออกมาได้ทั้งที่ประตูและหน้าต่างถูกปิดไว้อย่างนี้
มันกลายเป็นฆาตกรรมในห้องปิดตายไปเสียแล้ว
โดยรายละเอียดต่าง ๆ ของห้องทดลองที่เกิดเหตุมีดังนี้
ห้องทดลองตั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของอาคารคณะวิทยาศาสตร์ สำหรับห้องนี้จะมีกุญแจเพียงดอกเดียวในการล็อคหรือเปิดห้อง ซึ่งทางเข้าหรือการล็อคห้องนั้นใช้ประตูห้องเครื่องมือที่อยู่ติดกับทางเดินเป็นหลัก โดยประตูนี้เป็นแบบหมุนล็อค บิดล็อคจากภายในได้ แต่หากจะล็อคภายนอกต้องใช้กุญแจในการล็อคเท่านั้น
เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องเครื่องมือจะพบกับชั้นวางของและตู้โต๊ะเครื่องมือต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ที่ตั้งอยู่สองข้างทางซ้ายและขวา โดยสุดไปทางด้านซ้ายจะเป็นประตูเชื่อมกับห้องทดลองหลัก ประตูนี้จะเป็นแบบลูกบิดที่กดล็อคทางห้องเครื่องมือ ต้องผ่านประตูนี้ก่อนถึงจะสามารถเข้าห้องทดลองหลักได้
ในส่วนของห้องทดลองหลักเป็นห้องกว้าง มีโต๊ะทดลองและเก้าอี้วางยาวเป็นสองแถว ประตูด้านหน้าจะเป็นแบบหมุนล็อคที่ต้องบิดล็อคจากข้างใน หากจะล็อคจากข้างนอกต้องใช้กุญแจ แต่ทว่าประตูนี้ไม่มีกุญแจ ต้องเข้ามาเปิดจากภายในห้องทดลองหลักเท่านั้น
ภายในห้องทดลองหลักมีหน้าต่างสองบานเป็นแบบบานเลื่อน มีอ่างล้างอุปกรณ์อยู่ใกล้ ๆ โดยปกติแล้วหน้าต่างของห้องทดลองนี้จะถูกปิดไว้เกือบตลอด เพราะต้องการควบคุมอุณหภูมิในห้องทดลองหลักให้เหมาะสมอยู่เสมอ
ศพของพิสิทธิ์พบอยู่ตรงกลางห้องระหว่างโต๊ะทดลองทั้งสอง ทำให้ถ้าไม่เดินมาตรงกลางระหว่างโต๊ะทั้งสองนั้นก็จะไม่สังเกตเห็น
(มีต่อครับ)
ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 7 ห้องทดลองที่เกิดเหตุ
โปรดทราบก่อนอ่าน
******สำหรับคนที่ติดตามอ่านการสืบคดีของปลายฟ้าในระบบเรื่องสั้น [ปลายฟ้ากับคดีปริศนา] ที่ผมลงให้อ่านกันในถนนนักเขียนอยู่ตอนนี้ ต้องแจ้งก่อนว่าตัวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนคดีที่ 1 ฆาตกรรมกลางทะเล ของชุดนั้นเลยแหละครับ (และต่อจากชุด "ปลาย นักสืบจำเป็น" ที่เคยตีพิมพ์เมื่อนานมาแล้ว) โดยตัวเรื่องนี้มีลักษณะเป็นแบบนิยายเรื่องยาวหลายตอนจบอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเขียนเรื่องยาวๆเท่าไร ลองอ่านกันดูครับ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้วก็ลองอ่านอีกรอบก็ได้นะครับ*******
ลิ้งตอนที่ผ่านมาครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 7 : ห้องทดลองที่เกิดเหตุ
ไม่นานตำรวจในพื้นที่ได้รุดมายังห้องทดลองนี้เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ตอนนี้รอบ ๆ ห้องทดลองของคณะวิทยาศาสตร์จึงถูกปิดล้อมด้วยแถบกั้น มีเพียงเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องอยู่ภายใน
ตำรวจนายหนึ่งเดินตรวจพื้นที่เกิดเหตุอย่างมุ่งมั่น สังเกตสิ่งต่าง ๆ ในห้องทดลองอย่างละเอียด ซึ่งทันทีที่มีนและแอล สองคนในกลุ่มผู้พบเจอศพเห็นหน้าตำรวจนายนี้ ต่างก็ยกมือไหว้และพูดขึ้นว่า
“สวัสดีค่ะ(ครับ) สารวัตรสรวุทธ”
ผู้เป็นตำรวจรับไหว้ มองหน้าทั้งสอง “อืม... พวกเธอเองเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“ค่ะ แต่หนูไม่อยากเจอสารวัตรเท่าไหร่หรอกค่ะ เจอทีไรมีแต่เรื่องพวกนี้ทุกที” มีนพูดต่อ
ผู้โดนเรียกว่าสารวัตรยิ้มบาง ๆ “เอาน่าน้องมีน มันเป็นหน้าที่ แต่ฉันไม่ใช่สารวัตรแล้วนะ ดูที่บ่าดี ๆ สิ”
สาวห้าวจ้องสัญลักษณ์บอกยศที่บ่าของนายตำรวจ “อ้อ..ค่ะ เป็นรองผู้กำกับฯแล้วใช่ไหมคะ?”
รองผู้กำกับการสรวุทธพยักหน้ารับ “ก็ทำคดีที่มหา’ลัยนี้จนเลื่อนยศ คงต้องขอบคุณทางมหา’ลัยที่มีงานให้ทำอยู่เสมอ”
“อ่ะ..ค่ะ” มีนยิ้มแหย ๆ ไม่คิดว่ารองผู้กำกับฯสรวุทธจะเล่นมุขนี้
“เอ่อ.. แล้วปลายไม่อยู่ด้วยหรือ จะได้ให้ช่วยสืบ”
“ไม่อยู่แล้วค่ะ” มีนตอบ “ปลายทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติแล้ว”
“เออ นั่นสิ ลืมไป แต่พอมีคดีเกิดขึ้นที่มหา’ลัยทีไร นึกถึงปลายทุกที”
นายตำรวจผู้นี้คือ พ.ต.ท. สรวุทธ เรืองอำนาจ อดีตสารวัตรผู้เลื่อนขั้นเป็นรองผู้กำกับการในปัจจุบัน เขาเคยมาสืบคดีที่มหาวิทยาลัยอยู่หลายครั้ง รู้จักกับปลายฟ้า มีนและพรรคพวกคนอื่นเป็นอย่างดี
พวกเขาพูดคุยกันอีกเล็กน้อย รองผู้กำกับฯสรวุทธก็ตรวจดูที่เกิดเหตุต่อ ส่วนมีนและกลุ่มผู้พบศพก็ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่นายอื่น
ตอนนี้ศพของพิสิทธิ์ถูกเคลื่อนย้ายไปตรวจสอบแล้ว เหลือเพียงแต่ชอล์กขีดแทนร่าง จากการตรวจสอบพบว่า พิสิทธิ์เสียชีวิตด้วยการถูกแทงด้วยมีดปลายแหลม โดยมีดนี้ถูกปักคาอกของเขา ไม่พบรอยนิ้วมือผู้ใดที่มีดเลย
หากเป็นเช่นนี้ย่อมคือ การฆาตกรรมอย่างแน่นอน แต่ทว่ามันมีจุดหนึ่งที่ยังเป็นปัญหาอยู่
เนื่องจากศพถูกพบตอนกำลังเปิดห้องทดลอง ประตูและหน้าต่างถูกปิดล็อคไว้หมด จึงไม่น่าจะมีใครเข้าไปฆ่าเขาแล้วออกมาได้ทั้งที่ประตูและหน้าต่างถูกปิดไว้อย่างนี้
มันกลายเป็นฆาตกรรมในห้องปิดตายไปเสียแล้ว
โดยรายละเอียดต่าง ๆ ของห้องทดลองที่เกิดเหตุมีดังนี้
ห้องทดลองตั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของอาคารคณะวิทยาศาสตร์ สำหรับห้องนี้จะมีกุญแจเพียงดอกเดียวในการล็อคหรือเปิดห้อง ซึ่งทางเข้าหรือการล็อคห้องนั้นใช้ประตูห้องเครื่องมือที่อยู่ติดกับทางเดินเป็นหลัก โดยประตูนี้เป็นแบบหมุนล็อค บิดล็อคจากภายในได้ แต่หากจะล็อคภายนอกต้องใช้กุญแจในการล็อคเท่านั้น
เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องเครื่องมือจะพบกับชั้นวางของและตู้โต๊ะเครื่องมือต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ที่ตั้งอยู่สองข้างทางซ้ายและขวา โดยสุดไปทางด้านซ้ายจะเป็นประตูเชื่อมกับห้องทดลองหลัก ประตูนี้จะเป็นแบบลูกบิดที่กดล็อคทางห้องเครื่องมือ ต้องผ่านประตูนี้ก่อนถึงจะสามารถเข้าห้องทดลองหลักได้
ในส่วนของห้องทดลองหลักเป็นห้องกว้าง มีโต๊ะทดลองและเก้าอี้วางยาวเป็นสองแถว ประตูด้านหน้าจะเป็นแบบหมุนล็อคที่ต้องบิดล็อคจากข้างใน หากจะล็อคจากข้างนอกต้องใช้กุญแจ แต่ทว่าประตูนี้ไม่มีกุญแจ ต้องเข้ามาเปิดจากภายในห้องทดลองหลักเท่านั้น
ภายในห้องทดลองหลักมีหน้าต่างสองบานเป็นแบบบานเลื่อน มีอ่างล้างอุปกรณ์อยู่ใกล้ ๆ โดยปกติแล้วหน้าต่างของห้องทดลองนี้จะถูกปิดไว้เกือบตลอด เพราะต้องการควบคุมอุณหภูมิในห้องทดลองหลักให้เหมาะสมอยู่เสมอ
ศพของพิสิทธิ์พบอยู่ตรงกลางห้องระหว่างโต๊ะทดลองทั้งสอง ทำให้ถ้าไม่เดินมาตรงกลางระหว่างโต๊ะทั้งสองนั้นก็จะไม่สังเกตเห็น
(มีต่อครับ)