ครั้งนี้ขอพาเพื่อน ๆ มาลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Omakase (เชฟจัดให้) เรียกได้ว่ามื้อนี้ขอยกหน้าที่ให้กับเชฟกันเลย เราสามารถรอทานได้อย่างสบายใจ ซึ่งร้าน “Sushi Ichizu” มีเชฟสุดหล่อ อารมณ์ดี อย่างเชฟ Riku Toda เชฟชื่อดังจากญี่ปุ่น เป็นผู้จัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดในช่วงฤดูกาลนั้น ๆ มาเสิร์ฟกันแบบคำต่อคำกันเลยทีเดียว โดยการเสิร์ฟจะมีไล่ระดับของรสชาติ ตั้งแต่รสอ่อน ๆ ไปจนถึงรสหนักแน่นเข้มข้น
ร้านนี้ ตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 38/1 ร้านอยู่ตรงปากซอยเลย อยู่ในโครงการ Degree Square
ทางร้านเปิดให้บริการ วันอังคาร – อาทิตย์ โดยจะแบ่งช่วงเวลาออกเป็น 2 รอบต่อวัน คือ รอบ 17:30 น. และรอบ 20:30 น. เท่านั้น
สามารถโทรจองได้ เบอร์ 065-738-9999
คอร์สนี้ราคา 8,000++ ค่ะ
สำหรับครั้งนี้เราจองรอบ 17:30 น. ไว้ 2 ที่ ซึ่งในแต่ละรอบทางร้านสามารถ รองรับลูกค้าได้ทั้งหมด 9 ที่ค่ะ
หลังจากทำความรู้จักร้านกันแล้ว เรามาเริ่มกันที่เมนูแรกดีกว่า
-
Ginnan (แปะก๊วยคั่วเกลือ) : เป็นเมนูออเดิร์ฟ เคี้ยวมัน ๆ เพลินดีค่ะ
-
Sashimi Saba (ปลาซาบะญี่ปุ่น): สำหรับจานนี้จะเสิร์ฟตามฤดูกาลค่ะ
-
Ankimo (ตับปลาอังโกะ): รสชาติหอมและมีความเข้ากันกับซอสดีค่ะ อร่อยลงตัว
-
Kaki (หอยนางรม) : เป็นหอยนางรมนึ่งสาเก อร่อย ตัวใหญ่ เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาว เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ
-
Asari Soup (ซุปมิโสะหอยอาซาริ) : เป็นซุปมิโสะร้อน ๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับหอยอาซาริ รสชาติเข้มข้น
-
Chawanmushi (ไข่ตุ๋นหูฉลาม): มีความพิเศษที่ทางร้าน จะผสมน้ำสต็อกซึ่งสกัดจากปลาคัสซึโอะกับสาหร่ายคมบุ ทำให้ไข่ตุ๋นมีความหอมและมีความหวานเพิ่มขึ้น
-
Aji (ปลาทูญี่ปุ่น): เสิร์ฟมาพร้อมกับต้นหอมซอย และขิงเพื่อเพิ่มความหอม
-
Kimmedai : ปลาคินเมะได เป็นปลาน้ำลึก ปลายอดฮิตของคนญี่ปุ่น โดยจะย่างในส่วนของผิวปลาเล็กน้อย ทำให้มีความหอมมากยิ่งขึ้น ด้านบนจะเพิ่มมัสตาร์ดญี่ปุ่นเข้ามา ทำให้รสชาติกลมกล่อม
-
Akami (Maguro): เป็นส่วนเนื้อแดงของปลาทูน่า เนื้อมีรสชาติเข้มข้น คุณภาพดี และตกมาจากโอมะ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
-
Kuruma Ebi : กุ้งลายเสือ จากเกาะคิวซู เนื้อสดเด้ง หวาน กรอบ อร่อย
-
Negitoro Maki: ข้าวปั้นญี่ปุ่น ที่ห่อด้วยทูนาสับ ข้าวแน่น ขนาดพอดีคำ
-
Ikura : ไข่ปลาแซลมอนขนาดใหญ่ รสชาติดี กลมกล่อม
-
Kegani Gohan: ข้าวหน้าปูขน เสิร์ฟมากลิ่นหอมมาก รสชาติคือดีงามมาก
-
Warabi Mochi: ขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่น ที่ทางเชฟทำกันสด ๆ เนื้อนุ่ม ทานคู่กับชาร้อนลงตัวพอดี
-
Tamakoyaki: เป็นไข่หวานที่ผสม Shibi Ebi รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้มีความชุ่มและมีกลิ่นกุ้งอยู่ในตัว เนื้อเนียนนุ่ม ไม่ฝืดคอ
-
Yakimo : ปลา Managatsuo นำไปย่าง ทำให้มีความหอม เนื้อปลามีความนวลขาว แน่นกรอบ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลค่ะ
และนี่ก็คือทั้งหมดของคอร์สที่เราทานในวันนี้ค่ะ แต่ด้วยความถูกใจ เราสั่ง Chirashi Box กลับบ้านด้วยค่ะ โดยเซตนี้วัตถุดิบจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเช่นกัน และราคาอยู่ที่ 2,500 บาท (สามารถสั่งเพิ่มในคอร์ส หรือสั่งกลับบ้านก็ได้ค่ะ)
โดยรวม ซูชิทำออกมาได้ดีมาก เชฟตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นการปรุงรสที่เข้ากันแต่ละคำ หรือใส่ใจในรายละเอียด คุณภาพวัตถุดิบดีทุกอย่างสดใหม่ แต่ละคำมีความน่าสนใจ คุ้มค่ากับราคา
เมนูเด็ด ต้องยกให้กับปลาคินเมะได, ข้าวหน้าปูขน และตับปลาอังโกะค่ะ
บรรยากาศร้าน: ให้อารมณ์เหมือนทานอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ ภายในร้านตกแต่งเรียบ ๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น
[SR] ซูชิคุณภาพพรีเมี่ยม เสิร์ฟสไตล์ Omakase
ครั้งนี้ขอพาเพื่อน ๆ มาลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Omakase (เชฟจัดให้) เรียกได้ว่ามื้อนี้ขอยกหน้าที่ให้กับเชฟกันเลย เราสามารถรอทานได้อย่างสบายใจ ซึ่งร้าน “Sushi Ichizu” มีเชฟสุดหล่อ อารมณ์ดี อย่างเชฟ Riku Toda เชฟชื่อดังจากญี่ปุ่น เป็นผู้จัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดในช่วงฤดูกาลนั้น ๆ มาเสิร์ฟกันแบบคำต่อคำกันเลยทีเดียว โดยการเสิร์ฟจะมีไล่ระดับของรสชาติ ตั้งแต่รสอ่อน ๆ ไปจนถึงรสหนักแน่นเข้มข้น
ร้านนี้ ตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 38/1 ร้านอยู่ตรงปากซอยเลย อยู่ในโครงการ Degree Square
ทางร้านเปิดให้บริการ วันอังคาร – อาทิตย์ โดยจะแบ่งช่วงเวลาออกเป็น 2 รอบต่อวัน คือ รอบ 17:30 น. และรอบ 20:30 น. เท่านั้น
สามารถโทรจองได้ เบอร์ 065-738-9999
คอร์สนี้ราคา 8,000++ ค่ะ
สำหรับครั้งนี้เราจองรอบ 17:30 น. ไว้ 2 ที่ ซึ่งในแต่ละรอบทางร้านสามารถ รองรับลูกค้าได้ทั้งหมด 9 ที่ค่ะ
หลังจากทำความรู้จักร้านกันแล้ว เรามาเริ่มกันที่เมนูแรกดีกว่า
- Ginnan (แปะก๊วยคั่วเกลือ) : เป็นเมนูออเดิร์ฟ เคี้ยวมัน ๆ เพลินดีค่ะ
- Sashimi Saba (ปลาซาบะญี่ปุ่น): สำหรับจานนี้จะเสิร์ฟตามฤดูกาลค่ะ
- Ankimo (ตับปลาอังโกะ): รสชาติหอมและมีความเข้ากันกับซอสดีค่ะ อร่อยลงตัว
- Kaki (หอยนางรม) : เป็นหอยนางรมนึ่งสาเก อร่อย ตัวใหญ่ เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาว เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ
- Asari Soup (ซุปมิโสะหอยอาซาริ) : เป็นซุปมิโสะร้อน ๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับหอยอาซาริ รสชาติเข้มข้น
- Chawanmushi (ไข่ตุ๋นหูฉลาม): มีความพิเศษที่ทางร้าน จะผสมน้ำสต็อกซึ่งสกัดจากปลาคัสซึโอะกับสาหร่ายคมบุ ทำให้ไข่ตุ๋นมีความหอมและมีความหวานเพิ่มขึ้น
- Aji (ปลาทูญี่ปุ่น): เสิร์ฟมาพร้อมกับต้นหอมซอย และขิงเพื่อเพิ่มความหอม
- Kimmedai : ปลาคินเมะได เป็นปลาน้ำลึก ปลายอดฮิตของคนญี่ปุ่น โดยจะย่างในส่วนของผิวปลาเล็กน้อย ทำให้มีความหอมมากยิ่งขึ้น ด้านบนจะเพิ่มมัสตาร์ดญี่ปุ่นเข้ามา ทำให้รสชาติกลมกล่อม
- Akami (Maguro): เป็นส่วนเนื้อแดงของปลาทูน่า เนื้อมีรสชาติเข้มข้น คุณภาพดี และตกมาจากโอมะ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
- Kuruma Ebi : กุ้งลายเสือ จากเกาะคิวซู เนื้อสดเด้ง หวาน กรอบ อร่อย
- Negitoro Maki: ข้าวปั้นญี่ปุ่น ที่ห่อด้วยทูนาสับ ข้าวแน่น ขนาดพอดีคำ
- Ikura : ไข่ปลาแซลมอนขนาดใหญ่ รสชาติดี กลมกล่อม
- Kegani Gohan: ข้าวหน้าปูขน เสิร์ฟมากลิ่นหอมมาก รสชาติคือดีงามมาก
- Warabi Mochi: ขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่น ที่ทางเชฟทำกันสด ๆ เนื้อนุ่ม ทานคู่กับชาร้อนลงตัวพอดี
- Tamakoyaki: เป็นไข่หวานที่ผสม Shibi Ebi รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้มีความชุ่มและมีกลิ่นกุ้งอยู่ในตัว เนื้อเนียนนุ่ม ไม่ฝืดคอ
- Yakimo : ปลา Managatsuo นำไปย่าง ทำให้มีความหอม เนื้อปลามีความนวลขาว แน่นกรอบ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลค่ะ
และนี่ก็คือทั้งหมดของคอร์สที่เราทานในวันนี้ค่ะ แต่ด้วยความถูกใจ เราสั่ง Chirashi Box กลับบ้านด้วยค่ะ โดยเซตนี้วัตถุดิบจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเช่นกัน และราคาอยู่ที่ 2,500 บาท (สามารถสั่งเพิ่มในคอร์ส หรือสั่งกลับบ้านก็ได้ค่ะ)
โดยรวม ซูชิทำออกมาได้ดีมาก เชฟตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นการปรุงรสที่เข้ากันแต่ละคำ หรือใส่ใจในรายละเอียด คุณภาพวัตถุดิบดีทุกอย่างสดใหม่ แต่ละคำมีความน่าสนใจ คุ้มค่ากับราคา
เมนูเด็ด ต้องยกให้กับปลาคินเมะได, ข้าวหน้าปูขน และตับปลาอังโกะค่ะ
บรรยากาศร้าน: ให้อารมณ์เหมือนทานอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ ภายในร้านตกแต่งเรียบ ๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น