⚡️⚡️⚡️ <<< คนขายวิญญาณ - ตอนที่ 5 >>> ⚡️⚡️⚡️

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1 = https://ppantip.com/topic/36826773

ตอนที่ 2 = https://ppantip.com/topic/36840648

ตอนที่ 3 = https://ppantip.com/topic/36854431

ตอนที่ 4 = https://ppantip.com/topic/36870573


"พันธสัญญา...ได้มาแต่ใด...ได้มาจากใคร....ให้ข้าเฉิดฉาย

ทั่วทั้งแผ่นดิน...ศิลปินมากมาย....โด่งดังทั้งหลาย......ไม่อาจขวางทาง

ข้าคนพิเศษ.....ประเภทสรรค์สร้าง....ท่านเลือกแล้ววาง....สุดยอดฝีมือ

ข้าเคยเศร้าโศก....โลกต้องระบือ......เทพความมืดคือ......ที่พึ่งหนึ่งเดียว !!!"


ทันทีที่ร้องบทเพลงบทสุดท้ายของเพลง "พันธสัญญา" จบลง ด้วยการตะโกนร้องซึ่งฟังดูโหยหวน โทนเสียงสูงลิ่ว ท่อนกีตาร์โซโล่อันสุดร้อนแรงก็ถูกบรรเลงด้วยปลายนิ้วของแอ๊ดดี้ กีตาริสต์และนักร้องวง DARK ROCKER วงดนตรีร็อกวงใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่ถึงเดือน แต่ยอดขายเทปอัลบั้มแรกในชื่อเดียวกันกับชื่อเพลงก็ทำยอดขายทะลุล้านตลับไปแล้ว...โซ่โล่ตอนจบฟังดูเหมือนมีมนต์ขลังสะกดคนฟังให้ตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ในจังหวะสปีดร็อกดุเดือด มือกลองใช้เท้ารัวกระเดื่องหนักแน่นสะท้านอกสะท้านใจพร้อมกับเสียงกีตาร์โซโล่รัวบาดใจหลั่งไหลเหมือนสายน้ำตกจากภูผา และค่อยๆเฟด เบาลง เบาลง จนจบด้วยความเงียบงัน

และเมื่อเพลงจบลง คนที่ดูอยู่ในห้องซ้อมก็พากันปรบมือ บางคนเป่าปากวี๊ด บางคนก็กรี๊ดเสียงดังลั่น

"สุดยอดมาก แอ๊ดดี้!" เสียงหนึ่งกล่าวชมมาจากข้างหลังกลองชุดใหญ่

"ขอบคุณครับ พี่ชัย" แอ๊ดดี้หันไปกล่าวขอบคุณคนที่กล่าวซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนอื่น "วิชัย" เจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีและมือกลองคนที่เขาได้พบได้รู้จัก ได้ลองซ้อมดนตรีด้วยกัน ชักชวนเขามาก่อนและสุดท้ายขาย ฟลายอิ้งวีให้เขานั่นเอง

"อัลบั้มแรกเปิดตัวแล้วแจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม" ชายอีกคนหนึ่งท่าทางภูมิฐาน ร่างสูงใหญ่ ผิวขาว ไว้หนวดพองาม ปรบมือช้าๆ สามสี่ครั้ง "คนในวงการหลายคนต้องจับตามองนาย ฝีมือกีตาร์ของนาย พี่บอกได้เลยว่าไม่เป็นรองใคร!"

"ขอบพระคุณพี่เต้ครับ ที่ให้โอกาสผม" แอ๊ดดี้ยกมือไหว้และก้มลงกล่าวขอบคุณชายชื่อ "เต้" ชื่อจริงคือ นิวัติ เขาเป็นบอสใหญ่ของบริษัท ซีจีเอ็ม เอนเตอร์เทนเม้นท์ และยังเป็นโปรดิวเซอร์อีกด้วย

บิ๊กบอสเอื้อมมือขวาไปตบไหล่แอ๊ดดี้เบาๆ ด้วยความรักใคร่และชื่นชม

"ตั้งใจซ้อมไปเรื่อยๆนะ ตอนนี้ยังอ่านโน้ตไม่เป็นก็ไม่เป็นไร เพราะนายมีความจำดีมาก ดีอย่างเหลือเชื่อ เพราะนายสามารถแต่งทำนองโซโล่เองได้ และจำมันได้ทุกจุด ทุกเม็ด อย่างกะคิตาโร่ !!" เขาเปรียบเทียบแอ๊ดดี้กับศิลปินเพลงบรรเลงชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งไม่มีความรู้เรื่องโน้ตดนตรีเลยเช่นกัน แต่ก็ทำเพลงออกอัลบั้มมาหลายสิบชุดแล้ว แถมเวลาแสดงคอนเสิร์ต ยังเป็นคอนดัคเตอร์เองอีก

"แต่อย่างไรก็ตาม รู้ ย่อมดีกว่าไม่รู้ เพราะฉะนั้น พี่จะจัดโปรแกรมให้นายไปเข้าเรียนดนตรี อาจจะอาทิตย์ละวันหรือสองวัน เพื่อที่ว่า ต่อไปข้างหน้า ถ้านายแต่งเพลงใหม่ๆ จะได้เขียนบันทึกโน้ต นักดนตรีคนอื่นๆที่เล่นร่วมวงกับนายจะได้สะดวกในการเล่นมากขึ้น ช่วยปรับแต่งเพลงให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นได้ ดีไหมแอ๊ดดี้ ?"

"ได้ครับผม" แอ๊ดดี้ตอบรับทันที เพราะเขาเองก็อยากเรียนอย่างจริงจังมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสในอดีตที่ผ่านมา "สุดแล้วแต่ความเมตตากรุณาของพี่เต้ครับผม"

"ดีมาก! ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ก็อยู่ด้วยกันได้นาน" บิ๊กบอสพยักหน้า แล้วกล่าวต่อไป "อ้อ...ขอแจ้งข่าวดีให้ทุกคนฟังนะ ดาร์ค ร็อกเกอร์ จะเปิดคอนเสิร์ตของตัวเองเป็นครั้งแรก ในเดือนหน้านี้!"

ทุกคนในวงฮือฮาขึ้นมาทันที และแอ๊ดดี้เบิกตากว้าง... "เร็วเกินคาดเลยครับผม"

"รู้สึกยังไงบ้าง ?" บิ๊กบอสลองถาม

"ตื่นเต้นครับผม" แอ๊ดดี้ตอบไปอย่างซื่อๆ

"อย่าตื่นเต้นมากเสียจนโซโล่เพี้ยนล่ะ!" นิวัติกล่าวยิ้มๆ

แอ๊ดดี้หัวเราะออกมานิดหนึ่ง ก่อนจะตอบ "ไม่มีทางเพี้ยนได้หรอกครับผม พี่เต้โปรดวางใจได้เลยครับผม"

"เยี่ยม!" นิวัติกล่าวชมอีกครั้ง แล้วหันไปทางขวา ซึ่งมีสาวๆยืนอยู่สามคน "เอ้า! สาวๆ เข้ามาใกล้ๆ มาทำความรู้จักกันหน่อย"

ทั้งสามสาวก้าวเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม คนหนึ่งตัดผมสั้น คนที่สองผมยาวประบ่า อีกคนผมยาวจนถึงกลางหลัง

บิ๊กบอสเริ่มกล่าวแนะนำสาวทั้งสามคนให้แอ๊ดดี้และคนในวงรู้จัก

"สามสาวนี้ จะเป็นนักร้องคอรัสให้กับวง สำหรับคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า คนผมสั้นนี่คือ เอ๋ คนผมประบ่านี่คือ มิ้งค์ และคนผมยาวสลวยนี่คือ ติ๊ก"

"สวัสดีค่ะ" ทั้งสามสาวยกมือไหว้สมาชิกวง ดาร์ค ร็อกเกอร์ พร้อมกัน

"สวัสดีครับ" ทุกคนในวงยกมือรับไหว้

"สำหรับชื่อคนในวงนี้ คงไม่ต้องให้พี่แนะนำแล้วนะ ?" บิ๊กบอสถามสามสาว

ทั้งสามคนสั่นศีรษะยิ้มๆ ก่อนที่สาวชื่อติ๊กจะกล่าว

"โอ๊ยย....ไม่ต้องหรอกค่าาา นาทีนี้ ใครไม่รู้จักสมาชิกวง ดาร์ค ร็อกเกอร์ ต้องถามเลยค่ะว่า บ้านอยู่หลังเขาเหรอ !!"

ทุกคนหัวเราะ แล้วสาวติ๊กก็กล่าวต่อ "โดยเฉพาะ มือลีดส์ พี่แอ๊ดดี้ มีสาวๆ เหล่กันหลายคนเลยละค่ะ !!"

"รวมทั้งเธอด้วยใช่ไหมล่ะยายติ๊ก ?" สาวชื่อเอ๋แซว

"ใช่ ๆ พี่เต้ขา...พี่แอ๊ดดี้ด้วย มิ้งค์จะบอกให้ ยัยติ๊กนี่พูดถึงพี่แอ๊ดดี้บ่อยเลยค่ะ !!!"

ทุกคนหัวเราะกันอีกครั้ง สาวติ๊กตีมือเผียะเข้าให้ที่แขนสาวมิ้งค์แก้เขิน

"แหมมิ้งค์ก็...เอาความจริงมาพูด!!" ว่าแล้วก็ชะม้ายชายตาเหลือบแลมือกีตาร์โซโล่และยิ้มหวาน

แอ๊ดดี้ยกมือกุมหัวทำท่าเขิน "เอ้อ...ขอบคุณครับ แฮะๆ"

"ดีเลย!" บิ๊กบอสกล่าว "เวลาซ้อมเล่นคอนเสิร์ตกัน ให้ติ๊กเป็นฝ่ายบริการจัดหาข้าวหาน้ำหาขนมมาให้แอ๊ดดี้นะ บริการให้เต็มที่เลย!"

"ด้วยความยินดีค่ะ พี่เต้ !!" สาวติ๊กกล่าวตอบรับอย่างลิงโลด

"แหม...ออกอาการดีใจ อย่างกะกระดี่ได้น้ำเชียวนะแก!!" สาวเอ๋แซวมาอีก

"แน่นอนละซี่ !!!" สาวติ๊กตอบสวนทันควันด้วยหน้าเปื้อนยิ้ม

"อย่างอื่น ต้องให้บริการด้วยไหมคะ ?" สาวมิ้งค์ถามยิ้มๆอย่างมีเลศนัย แล้วอีกสองสาวก็กรี๊ดลั่นกับคำถามนั้น

"หึหึ" บิ๊กบอสหัวเราะ "แล้วแต่ซี่ !!"

คราวนี้เลยกรี๊ดกันทั้งสามสาว

บิ๊กบอสยิ้มและส่ายหัวกับความก๋ากั่นของสาวๆ แล้วยกมือซ้ายดูนาฬิกา ก่อนออกปากชวนลูกน้อง

"จะเที่ยงแล้ว พักเที่ยงไปทานข้าวกันเถอะ"

"เย้ !! วันนี้พี่เต้เลี้ยง ไชโย!!" สาวมิ้งค์เริงร่า

"ไปกันเถอะค่ะ!" สาวติ๊กปราดเข้ามาคล้องแขนแอ๊ดดี้อย่างฉับพลันไม่ทันที่มือกีตาร์โซโล่จะตั้งตัว

"อ่า...ครับผม!" แอ๊ดดี้ก็เลย เลยตามเลย และเมื่อมองหน้าสาวติ๊กในระยะประชิดก็ให้รู้สึกวาบหวาม ...เธอสวยไม่น้อยเลย ความสูงก็เท่ากันกับเรา 160 เซ็นต์เป๊ะ! ดวงตาเป็นประกาย...สวยและน่ารักจริงๆ...

"ไงคะ ?" สาวติ๊กเอ่ยถามยิ้มๆ เมื่อเห็นมือกีตาร์จ้องมองหน้าเธอแล้วอึ้ง

"เอ้อ...ปะ เปล่าครับ!" แอ๊ดดี้ตอบเสียงสั่นๆ

"เปล่าอะไร ? ทำไมมองติ๊กแล้วนิ่งเงียบไปล่ะคะ ?" สาวติ๊กรุกเร้า ยิ้มหวานมาให้อีก เล่นเอาใจนักกีตาร์แทบละลาย!

"อ่า...ก็...คือว่า..." แอ๊ดดี้คิดหาคำตอบไม่ได้ พลางนึกรำคาญตัวเองในใจ ทำไมตูงี่เง่าจังเลยวะ !!

" คือว่า...ไรคะ ?" สาวติ๊กเอียงคอถามยิ้มแฉ่ง

"เขาตกตะลึงกับความสวยของเธอน่ะสิ !!!" บิ๊กบอสซึ่งเดินตามมาข้างหลังให้คำตอบ

สาวติ๊กหัวเราะคิก แล้วเอียงคอถามแอ๊ดดี้อีก

"พี่แอ๊ดดี้...พี่ว่าติ๊ก สวยพอไปวัดไปวาตอนค่ำๆ ได้ไหมคะ ?"

แอ๊ดดี้หัวเราะ แล้วตอบ ด้วยคำตอบที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว

"ไปทำไมตอนค่ำล่ะครับ ? ไปตอนเช้าตรู่เลยครับ !!!"

สาวติ๊กหัวเราะคิกๆ อย่างชอบอกชอบใจ กับขำในตัวมือกีตาร์

"แปลว่า พี่แอ๊ดดี้ว่า ติ๊กสวยเหรอคะ ?" เอียงคอถามอีกครั้ง

"ครับ!" คราวนี้แอ๊ดดี้ตอบโดยไม่ต้องคิด และแถมให้อีก "สวยมากด้วยครับผม!"

สาวติ๊กยิ้มกว้าง กอดแขนแอ๊ดดี้แน่นกว่าเดิม

ในร้านอาหารข้างบริษัท ทุกคน ทานมื้อเที่ยงกันด้วยความสดชื่นเบิกบาน โดยเฉพาะ แอ๊ดดี้

เขารู้สึกว่า โลกทั้งใบ ถูกฉาบด้วยสีชมพูไปแล้ว เพราะหลงรักสาวติ๊กเข้าให้อย่างจัง !!

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หนึ่งสัปดาห์ ผ่านไป...

แอ๊ดดี้ และวง ดาร์ค ร็อกเกอร์ ซ้อมคอนเสิร์ตกันอย่างตั้งอกตั้งใจ เพลงที่เตรียมไว้มีอยู่ 20 เพลง มีทั้งเพลงในอัลบั้ม "พันธสัญญา" 13 เพลง และเพลงร็อกต่างประเทศอีก 7 เพลง ซึ่งคัดเลือกมาอย่างดี

ทุกวันที่ซ้อมกัน สามสาว เอ๋ มิ้งค์ และติ๊ก มาซ้อมร้องคอรัสด้วยไม่เคยขาด โดยเฉพาะติ๊ก เธอมักจะมาก่อนเพื่อนเสมอ เพื่อคอย "เทคแคร์" แอ๊ดดี้ มือกีตาร์โซโล่ที่เธอหลงใหล และยิ่งวันเวลาผ่านไปนานเท่าไร แอ๊ดดี้ก็ยิ่งรู้สึกผูกพันกับเธอมากขึ้นเท่านั้น แต่เพราะเป็นคนที่พูดไม่เก่งเมื่ออยู่กับสาวๆ แอ๊ดดี้จึงพูดน้อย เพราะไม่รู้จะพูดอะไร กับทั้งนึกสงสัยว่าเวลาที่ผู้ชายพูดคุยกับสาวๆ เขาหาเรื่องอะไรมาคุยกันได้ตั้งมากมาย สังเกตจากอีกสองสาว เอ๋ กับมิ้งค์ ซึ่งกำลังคุยกระหนุงกระหนิงกับวิชัย เสี่ยใหญ่มือกลอง และแจ๊ค มือเบส สองคู่นั้นแทบจะคุยกันได้ตลอดเวลาแบบนันสต็อป แต่แอ๊ดดี้เป็นผู้ฟังสาวติ๊กพูด หรือไม่ก็คอยตอบคำถามของเธอเสียโดยส่วนใหญ่ ที่จะเปิดประเด็นคุยเองนั้นยากมาก ยังดีที่ติ๊กเป็นคนคุยเก่ง หาเรื่องชวนคุยได้เรื่อยๆ ไม่อย่างนั้น หากเป็นคนแบบเดียวกัน คงคุยกันยากลำบากแน่ๆ

และทุกวัน หลังจากซ้อมเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ ซึ่งก็มักจะปาเข้าไปห้าทุ่มหรือเที่ยงคืน สาวติ๊กจะเป็นคนขับรถพาแอ๊ดดี้ไปส่งที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิทเป็นประจำ แอ๊ดดี้ขับรถยนต์ไม่เป็น จึงไม่คิดจะซื้อรถยนต์ ขับได้แต่มอเตอร์ไซค์ และต้องเป็นแบบ "รถผู้หญิง" ซึ่งไม่มีคลัทช์ด้วย รถมอเตอร์ไซค์ที่เขามีก็คือ ฮอนด้าดรีมเท่านั้นเอง และแอ๊ดดี้ไม่รู้จักเส้นทางในกรุงเทพด้วย จึงมีน้อยครั้งที่จะขับฮอนด้าดรีมไปไหนไกลๆ ดังนั้นเวลาจะไปทำงานที่บริษัท แอ๊ดดี้จึงนั่งแท็กซี่ไป ขากลับก็เลยเป็นโอกาสของสาวติ๊กที่จะพากลับ

วันสุดท้ายของการซ้อมเล่นคอนเสิร์ต หลังจากซ้อมเสร็จ นิวัติ บิ๊กบอส บอกกับทุกคน

"คืนนี้ เราจะเลี้ยงฉลองกัน เนื่องในโอกาสที่ยอดขายเทปอัลบั้มแรกของวง ดาร์ค ร็อกเกอร์ ผ่านทะลุสองล้านตลับแล้ว! พี่จองโรงแรมไว้แล้ว เดี๋ยวทุกคนกลับไปอาบน้ำอาบท่า หรือใครจะไม่อาบก็แล้วแต่นะ! แล้วเจอกันที่โรงแรม"

"เย้ !!! ได้ฉลองกันแล้ว !!" สาวมิ้งค์ร้องออกมาอย่างดีอกดีใจ

"งั้นเราไปกันเถอะค่ะ พี่แอ๊ดดี้" สาวติ๊กชวนพลางคว้าข้อมือหมับเข้าให้ "ติ๊กไปส่งพี่แอ๊ดดี้ก่อน พี่อาบน้ำแล้วรอติ๊กหน้าคอนโด ติ๊กจะไปรับพี่แอ๊ดดี้ตอนสองทุ่มนะคะ"

"โอเคครับ" แอ๊ดดี้ตอบตกลง แล้วปล่อยให้เธอจูงแขนไปขึ้นรถ

งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จคืนนั้นเป็นไปด้วยความสนุกสนานสำราญใจ บิ๊กบอสนิวัติ จัดการให้วง ดาร์ค ร็อกเกอร์ ขึ้นโชว์เพลงบนเวที 5 เพลง แล้วลงจากเวทีกลับมานั่งดื่มกินที่โต๊ะตามเดิม

แต่ก่อนที่แอ๊ดดี้จะลงจากเวทีตามเพื่อนๆ เขาก็ทำเซอร์ไพร้ซ์ ด้วยการหยิบกีตาร์คลาสสิคตัวหนึ่งซึ่งเขาแอบฝากไว้กับวงดนตรีประจำโรงแรมล่วงหน้าโดยไม่ให้ใครรู้มาก่อน ยกเว้นติ๊กซึ่งเป็นคนขับรถพามาส่งเท่านั้น แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเอามาทำไม เพราะโชว์เพลงครบ 5 เพลงแล้วก็ไม่เห็นแอ๊ดดี้เอามาเล่น จนกระทั่งทุกคนกำลังจะลงจากเวที แอ๊ดดี้จึงส่งสัญญาณมือบอกให้นักดนตรีประจำโรงแรมคนหนึ่งนำกีตาร์คลาสสิคตัวนั้นมาให้ พอรับมาแล้ว เขาก็กลับไปที่หน้าเวที นั่งบนเก้าอี้หมุนซึ่งเขาจัดมาให้แล้วเปิดไมค์ประกาศ

"ทุกท่านครับ ผมมีเพลงๆหนึ่ง แถมท้าย ก่อนจะลงจากเวที และผมจะเล่นและร้องเองแต่เพียงผู้เดียว ขอให้เพื่อนๆในวงกลับไปนั่งฟังผมข้างล่างกันนะครับ เพลงนี้ ผมเพิ่งแต่งสดๆร้อนๆ วันนี้เอง และยังไม่เคยมีใครได้ยินได้ฟังมาก่อน ผมตั้งชื่อเพลงๆนี้ว่า 'เธอคือความฝัน' ครับ"

กล่าวจบ แอ๊ดดี้ก็เริ่มบรรเลงบทอินโทรด้วยกีตาร์คลาสสิค ยามาฮ่า GC 31 เสียงใส ๆ ไพเราะจับใจ และด้วยท่วงทำนองใหม่เอี่ยม

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่