ตอนที่ผ่าน ๆ มา =
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 = https://ppantip.com/topic/36826773
ตอนที่ 2 = https://ppantip.com/topic/36840648
ตอนที่ 3 = https://ppantip.com/topic/36854431
ตอนที่ 4 = https://ppantip.com/topic/36870573
ตอนที่ 5 = https://ppantip.com/topic/36887882/
ตอนที่ 6 = https://ppantip.com/topic/36901653
ตอนที่ 7 = https://ppantip.com/topic/36918484
ตอนที่ 8 = https://ppantip.com/topic/36937480
สองวันต่อมา ที่บ้านของ ทาร่า แอน วิลคินสัน น้องสาวต่างบิดาของแอ๊ดดี้...
แอ๊ดดี้ ติ๊ก และทาร่าแอน ร่วมกันศึกษาข้อมูลของบุคคล 9 คนซึ่งทาร่าแอนหามาได้จากอินเตอร์เน็ตทันทีที่กลับมาถึง ไม่มีการพักผ่อนกันเลยด้วยเป็นห่วงเรื่องเวลาว่าอาจจะไม่ทันการหากมัวชักช้า แม้ว่าแอ๊ดดี้จะเล่าให้สองสาวฟังแล้วถึงความฝันที่ได้เห็นและได้ยินคำพูดของพระแม่มารีและซาตาน บางประโยคทำให้ทุกคนมีความหวัง โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองซึ่งจอมปีศาจยอมรับปากอย่างมีเงื่อนไข..
"ข้าจะให้โอกาสเขาแก้ตัวด้วยวิธีการของข้า! และเจ้าหนุ่มนั่นต้องหาทางต่อสู้ด้วยตัวเอง ห้ามมิให้ท่าน หรือแม้แต่พระเจ้าสอดพระหัตถ์เข้ามายุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด!!"
และคำพูดสุดท้ายของพระแม่มารี...
"จงกลับไปศึกษาเรื่องราวเก้าคนที่เหลือที่บ้านน้องสาวของเจ้า หนทางรอดมีอยู่ในนั้น จงใช้สติปัญญาของตัวเจ้าเองเถิด !"
ปริศนาจึงมี 2 ข้อ คือ ซาตาน จะใช้วิธีการอะไรในการที่จะให้โอกาสแอ๊ดดี้ "แก้ตัว" ต่อสู้ดิ้นรนให้หลุดพ้นจากสัญญา และ อะไร หรือใคร คือ "หนทางรอด" ที่พระแม่มารีบอกใบ้เอาไว้ ??
บุคคล 9 คนที่เหลือซึ่งเชื่อกันว่าได้ทำสัญญาปีศาจ ได้แก่
1. สมเด็จพระสันตะปาปา ซิลเวสเตอร์ที่ 2 ในศตวรรษที่ 10
2. โยฮัน เกอร์ก เฟาสต์ (Johann Georg Faust) นักเล่นแร่แปรธาตุพเนจร โหราจารย์และจอมเวทย์จากเยอรมัน ยุคเรอเนสซองซ์
3. คอร์นีเลียส อะกริปป้า (Cornelius Agrippa) ผู้เป็นได้หลายอย่างเช่นนักเขียน นักกฏหมาย นักเล่นแร่แปรธาตุ จอมขมังเวทย์ นักบวช และโหราจารย์ ในยุคเรอเนสซองซ์เหมือนกัน
4. กิลล์ เดอ เรยส์ (Gilles de Rais) อัศวินผู้กล้าของฝรั่งเศสซึ่งภายหลังกลายเป็นอาชญากรในศตวรรษที่ 14
5. หลวงพ่อเออร์เบน กรานเดียร์ (Father Urbain Grandier) นักบวชคาทอลิกชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 16
6. จูเซปเป้ ตาร์ตินี่ (Giuseppe Tartini) นักดนตรีไวโอลินชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 17
7. โจนาธาน มอลตัน (Jonathan Moulton) บุคคลในตำนานของนิวแฮมป์เชียร์ในศตวรรษที่ 17
8. นิคโคโล ปากานินี (Nicolo Paganini) นักไวโอลินชาวอิตาลีอีกคนหนึ่งในศตวรรษที่ 18
9. โรเบิร์ต จอห์นสัน นักดนตรีกีตาร์บลูส์ชาวอเมริกันผิวดำ ในทศวรรษที่ 30-40
หลังจากที่ทุกคนได้อ่านและศึกษาข้อมูลของบุคคลทั้ง 9 คนแล้ว ทุกคนเห็นตรงกันว่า มี 3 คนเท่านั้นซึ่งเข้าข่ายที่จะเป็น "กุญแจไขปริศนาพระแม่มารี" ได้ นั่นคือ นักไวโอลินทั้งสองคน จูเซปเป้ ตาร์ตินี่,นิคโคโล ปากานินี และโรเบิร์ต จอห์นสัน
"สามคนนี้ เป็นนักดนตรี ซึ่งเปรียบเทียบได้กับแอ๊ดดี้" ทาร่าแอนสรุป "อีก 6 คนไม่ใกล้เคียงเลย ไม่มีอะไรที่จะต้องให้ความสนใจ พวกเราพิจารณาแค่สามคนนี้ก็พอแล้ว"
"พี่ว่า จูเซ็ปเป้ ตาร์ตินี่ น่าสนใจมากที่สุด" แอ๊ดดี้ลงความเห็นแบบฟันธง
"ทำไมเหรอคะ พี่แอ๊ดดี้ ?"
"เพราะเขาได้ฟังซาตานบรรเลงเพลงด้วยไวโอลิน ในความฝัน แล้วตื่นขึ้นมา พยายามเล่นตาม แต่เขาบอกเองว่า เล่นอย่างไรก็ไม่เหมือน เพลงที่เขาพยายามแต่งเลียนแบบเพลงของซาตานคือ
เดวิลส์ ทริล โซนาต้า ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้แก่เขาเป็นอันมาก แต่ตัวเขาเองกลับบอกว่า มันยังห่างไกลกับเพลงที่เขาได้ฟังซาตานเล่นในความฝัน"
ติ๊กช่วยแปลคำพูดของแอ๊ดดี้เป็นภาษาอังกฤษให้ทาร่าแอนซึ่งทำหน้างงๆ หลังจากได้ฟังพี่ชายพูดภาษาไทยยืดยาว
"โอ้! ไอซี....ถ้าอย่างนั้น กุญแจไขปริศนาคือคนนี้แน่นอน!"
"แต่มันคือปริศนาอะไรนี่สิ...?" แอ๊ดดี้ทำท่าขบคิด พยายามคิด แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
"หรือว่า พระแม่มารี บอกใบ้ให้พี่แอ๊ดดี้ เล่นเพลงของเขา ?" ติ๊กตั้งข้อสงสัย โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ทาร่าแอนฟังรู้เรื่องไปเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแปล
"เป็นไปได้!" ทาร่าแอนทำตาโต "เราต้องหาเพลงนี้ให้แอ๊ดดี้ฟัง ต้องไปที่ร้านขายเทปหรือแผ่นเสียงที่มีเพลงบรรเลงไวโอลิน"
"พี่แอ๊ดเคยหัดสีไวโอลินไหมคะ ?" ติ๊กหันมาถาม
"ไม่เคยจ้ะ..ที่รัก" เขาส่ายหน้าปฏิเสธ "แต่พี่คงต้องลองหัดเล่นดู"
"ถ้าอย่างนั้น พวกเราออกไปข้างนอกกัน ไปร้านขายเครื่องดนตรีก่อนเพื่อให้แอ๊ดดี้เลือกซื้อไวโอลินซักตัวหนึ่ง แล้วค่อยไปหาซื้อเทปคาสเซ็ตต์หรือแผ่นเพลงกัน"
"โอเค งั้นไปกันเลย!"
คนทั้งสามพากันออกไปหาซื้อของทั้งสองอย่าง และได้ครบตามต้องการ
แอ๊ดดี้ได้ไวโอลินสีน้ำตาลแดงราคาสองพันเหรียญมาตัวหนึ่ง และทาร่าแอนก็หาทั้งเทปคาสเส็ตแผ่นซีดีเพลงบรรเลงไวโอลินซึ่งมีเพลง DEVIL'S TRILL SONATA ของ จูเซ็ปเป้ ตาร์ตินี่ แต่บรรเลงโดยนักดนตรีสมัยปัจจุบันได้มาเช่นกัน เธอใส่ม้วนเทปเข้าไปในเครืองเล่นในรถแล้วเปิดเพลงให้ฟังกันในขณะที่ขับรถกลับบ้าน
แอ๊ดดี้ ฟังอย่างตั้งใจ และหลังจากฟังจนจบเพลงแล้วจึงเริ่มกล่าว
"ไพเราะมาก และฟังดูน่ากลัวหลายช่วง น่าแปลกใจ เขาแต่งออกมาได้ถึงขนาดนี้ซึ่งฟังดูเยี่ยมมากๆเลย แต่กลับบอกว่า ยังห่างไกลจากเพลงที่ซาตานเล่นให้ฟังในความฝัน....น่าสงสัยจริงๆว่า เพลงที่แท้จริงซึ่งซาตานเล่นให้เขาฟังในความฝันคืนนั้น จะไพเราะ หรือน่ากลัวมากกว่านี้สักขนาดไหน ?"
"ตอนนี้เราได้ศึกษาข้อมูลกันหมดแล้ว และดูเหมือนได้ข้อสรุปแล้ว" ทาร่าแอนกล่าว ก่อนจะถามพี่ชายเรื่องการเดินทางกลับ "ยูสองคนต้องกลับไทยแลนด์ในวันพรุ่งนี้แล้วใช่ไหม ?"
"ใช่จ้ะ ทาร่าแอน" ผู้พี่พยักหน้าตอบ "รอช้าไม่ได้แล้วเพราะไม่รู้ซาตานจะมาทวงวิญญาณพี่ตอนไหน.."
"คงไม่รีบทวงหรอก เพราะมีการเจรจากับแมรี่ให้พี่ได้โอกาสแก้ตัวนี่นา" น้องสาวกล่าวแย้ง เพื่อให้คลายความวิตกกังวล
"จริงด้วยพี่แอ๊ดดี้ ซาตานไม่รีบทวงวิญญาณพี่แน่ๆ มันต้องให้โอกาสพี่ทำอะไรบางอย่างก่อน! มันจะผิดคำพูดไม่ได้เพราะตกปากรับคำกับพระแม่แล้ว"
"ใช่! ถ้าซาตานบิดพลิ้วไม่ให้โอกาสพี่ แมรี่ต้องกลับมาขัดขวางแน่นอน คงไม่ปล่อยให้มันฆ่าพี่แล้วยึดเอาวิญญาณไปตามอำเภอใจหรอก"
การสันนิษฐานของสองสาว ทำให้แอ๊ดดี้ใจชื้น ใช่แล้ว...ตอนนี้ เขาเป็นประหนึ่งว่าได้รับการคุ้มกันจากพระแม่มารีเป็นการชั่วคราว แต่เมื่อไรที่ซาตานเผยวิธีการที่จะให้เขา "แก้ตัว" และเขาก้าวเข้าสู่กระบวนการนั้นละก็...เมื่อนั้น เขาจะต้องต่อสู้ด้วยตนเองเท่านั้น พระแม่มารีจะไม่กลับมายุ่งเกี่ยวอีก!
"พี่คงต้องกลับไป ณ สถานที่เดิม 4 แยกที่ทำสัญญา..." แอ๊ดดี้พูดกับสองสาว "ถ้าพี่กลับไปที่นั่น ต้องได้พบกับซาตานในร่างชายที่พี่เคยพบแน่"
"ระวังตัวนะ เดียร์โบร" ทาร่าแอนกล่าวเตือนด้วยความรักและเป็นห่วง "หากรู้แล้วว่าซาตานจะให้ทำอะไร พี่ต้องคิดให้รอบคอบ"
"ไม่ต้องห่วง ทาร่าแอน...พี่จะไม่ประมาทแน่!"
"ถ้าอย่างนั้น พี่สองคนก็เข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้จะได้เตรียมตัวเดินทางกลับ"
"หวังว่าคืนนี้ คงจะไม่ฝันร้ายอีกนะ.." แอ๊ดดี้รำพึง "ถ้าซาตานมาในฝันอีก ก็ให้บอกมาเลยว่าจะให้ทำอะไร!"
หลังจากนั้น ทั้งสามคนก็พากันเข้านอน
แอ๊ดดี้หลับสนิท ไม่มีความฝันใดๆ เข้ามารบกวนเลยแม้แต่น้อย...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
16 กันยายน 2532...เลยวันกำหนดเดิมของซาตานไปแล้ว !!
แอ๊ดดี้เดินทางกลับบ้านเกิดพร้อมกับติ๊ก ทันทีที่กลับมาถึงเมืองไทย และพักอยู่ด้วยกันที่บ้านของแอ๊ดดี้นั่นเอง ทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า จะไปที่ 4 แยกใกล้ตลาดตอนเที่ยงคืนพร้อมกัน โดยคาดว่าจะได้เจอซาตานในร่างของชายลึกลับคนนั้น
คืนวันนั้น ทั้งสองมาถึง 4 แยก ก่อนเที่ยงคืนประมาณ 10 นาที
ความเป็นไปต่างๆ ณ บริเวณนั้น เหมือนกับในคืนที่แอ๊ดดี้ปั่นจักรยานมาถึงแล้วจอดรอไม่มีผิด บรรยากาศเงียบสงัด ที่หน้าตลาดเริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาเล็กน้อย
แอ๊ดดี้และติ๊ก ยืนมองโน่นมองนี่อยู่ที่ข้างทาง ณ มุมหนึ่งของ 4 แยก...
จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืนตรง ทั้งสองก็ได้ยินเสียงรถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนมาทางด้านหลัง พร้อมกับเสียงใครคนหนึ่ง
"มารออะไรกันอยู่หรือ ไอ้หนุ่ม ? สาวน้อย ?"
ทั้งสองกลับหลังหันไปมอง
แล้วแอ๊ดดี้ก็แปลกใจ...เพราะผู้ชายคนที่ขับรถซึ่งก็เป็นรถโฟล์คคลาสสิคสีดำแบบเดียวกันกับที่เคยเจอเข้ามาจอดใกล้ๆ แล้วไขกระจกรถลงมาเผยให้เห็นหน้า ไม่ใช่ซาตานในร่างบุรุษที่เคยเจอคนนั้น
"เอ้อ...เรา รอพบคนที่เคยรู้จักกันคนหนึ่งอยู่ครับ" แอ๊ดดี้ตอบ
"นายชื่อแอ๊ดดี้ใช่ไหม ?"
คำถามของชายคนใหม่ทำให้ทั้งแอ๊ดดี้และติ๊กสะดุ้งเฮือก
หรือว่าซาตานมาในร่างใหม่ ?
"อ่า...ใช่ครับ ผมเอง" แอ๊ดดี้ตอบรับ
"ถ้างั้นก็ดีแล้ว!" ชายลึกลับคนใหม่กล่าว "คนที่นายเคยเจอ เป็นเจ้านายฉันเอง! และเขาฝากไอ้นี่มาให้นาย!"
พูดจบ เขาก็ล้วงอกเสื้อหยิบกระดาษม้วนหนึ่งออกมายื่นให้แอ๊ดดี้
"อะไรครับเนี่ย ?" แอ๊ดดี้เอ่ยถามโดยยังไม่รับมันมา
"สัญญาฉบับใหม่ไงล่ะ!" ชายคนใหม่กล่าวโดยยิ้มอย่างมีเลศนัย ตาวาวเป็นประกาย "แต่คราวนี้ ไม่ใช่ให้นายลงชื่อ!"
"อ้าว ??" แอ๊ดดี้ร้องด้วยความฉงน "แล้วให้ผมทำไม ?"
คำตอบของชายลึกลับคนใหม่ทำให้แอ๊ดดี้และติ๊กตกตะลึง
"ให้นาย ส่งให้เมียของนายเซ็น!"
"เฮ้ย !!!" แอ๊ดดี้ร้องลั่น "ได้ไง !! ???"
"นายให้เมียนายอ่านสัญญาเสียก่อนสิ!!" ชายลึกลับรุกเร้า
"ขอติ๊กอ่านหน่อยค่ะพี่แอ๊ดดี้!"
ยังไม่ทันที่แอ๊ดดี้จะตั้งตัว ติ๊กก็ปรี่เข้ามาคว้าม้วนกระดาษนั้นจากมือชายลึกลับ คลี่อ่านอยู่ครู่หนึ่ง เม้มปากเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็โพล่งออกมาคำหนึ่งพร้อมกับล้วงคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋า ซึ่งทำให้แอ๊ดดี้ตกใจสุดขีด
"ตกลง !!"
"เฮ้ยย !! ติ๊ก, บ้าหรือเปล่า !! ตกลงอะไร ???"
เขาปรี่เข้าไปหาเธอ พยายามจะแย่งคว้าคัตเตอร์อันนั้น แต่เธอหลบ แล้วใช้มันกรีดปลายนิ้วชี้ข้างซ้าย จากนั้นจิ้มปลายนิ้วซึ่งเลือดไหลออกมาแล้วลงไปที่ท้ายกระดาษม้วนนั้นซึ่งถูกคลี่ออกแล้วเซ็นชื่อลงไป!!
แอ๊ดดี้ตกตะลึงพรึงเพริด! "ติ๊ก!! ติ๊กทำอะไรลงไป !!!"
หญิงสาวยิ้มให้เขาเหมือนจะปลอบใจ แล้วตอบ
"ก็ทำให้พี่แอ๊ดดี้มี 'โอกาสแก้ตัว' ไงล่ะคะ!! ติ๊กเชื่อมั่นว่าพี่แอ๊ดดี้ทำได้!" พูดจบก็ส่งกระดาษแผ่นนั้นคืนให้กับชายลึกลับ
เขารับมันไปดู แล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาวเหมือนพยัคฆ์หรือราชสีห์ซึ่งได้เหยื่อไว้ในกงเล็บ!
"ทำอะไร ???" แอ๊ดดี้ร้องเสียงแหบแห้ง รู้สึกเหมือนใจสลาย
"ฉันจะบอกนายให้ก็แล้วกัน!" ชายผู้มาจากซาตานกล่าว
"นายจะต้องไปเล่นไวโอลิน ประชันฝีมือกับนักไวโอลินเอกที่กรุงเวียนนา ในอาทิตย์หน้านี้!"
"เฮ้ยย !! บ้าเหรอไง ???!!" เขาร้องเสียงหลง ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก
"ผมเพิ่งเริ่มหัดเล่นได้ไม่กี่วันเอง ไวโอลินก็เพิ่งซื้อมา จะไปประชันกับนักไวโอลินเอกได้ยังไง ??? เล่นประชันไปยังไงก็ต้องแพ้!!"
"ไม่รู้ว่ะ!!" ชายลึกลับยิ้มพราย
"นายมีเวลา 7 วันในการซ้อม!"
"ผมจะเอาเพลงอะไรไปสู้เค้าได้เล่า ??"
"อ๋อ...เกือบลืมบอก นายไม่ต้องห่วง
เพลงนั้น ถูกกำหนดไว้แล้ว ทั้งนาย และนักไวโอลินมือหนึ่งคนนั้น จะต้องเล่นเพลงเดียวกัน!"
"เพลงอะไร ???" แอ๊ดดี้ร้องครางถาม รู้สึกเหมือนจะขาดใจ
"DEVIL'S TRILL SONATA ของ จูเซปเป้ ตาร์ตินี่ !!"
(มีต่อครับ)
⚡️⚡️⚡️ <<< คนขายวิญญาณ - ตอนที่ 9 >>> ⚡️⚡️⚡️
สองวันต่อมา ที่บ้านของ ทาร่า แอน วิลคินสัน น้องสาวต่างบิดาของแอ๊ดดี้...
แอ๊ดดี้ ติ๊ก และทาร่าแอน ร่วมกันศึกษาข้อมูลของบุคคล 9 คนซึ่งทาร่าแอนหามาได้จากอินเตอร์เน็ตทันทีที่กลับมาถึง ไม่มีการพักผ่อนกันเลยด้วยเป็นห่วงเรื่องเวลาว่าอาจจะไม่ทันการหากมัวชักช้า แม้ว่าแอ๊ดดี้จะเล่าให้สองสาวฟังแล้วถึงความฝันที่ได้เห็นและได้ยินคำพูดของพระแม่มารีและซาตาน บางประโยคทำให้ทุกคนมีความหวัง โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองซึ่งจอมปีศาจยอมรับปากอย่างมีเงื่อนไข..
"ข้าจะให้โอกาสเขาแก้ตัวด้วยวิธีการของข้า! และเจ้าหนุ่มนั่นต้องหาทางต่อสู้ด้วยตัวเอง ห้ามมิให้ท่าน หรือแม้แต่พระเจ้าสอดพระหัตถ์เข้ามายุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด!!"
และคำพูดสุดท้ายของพระแม่มารี... "จงกลับไปศึกษาเรื่องราวเก้าคนที่เหลือที่บ้านน้องสาวของเจ้า หนทางรอดมีอยู่ในนั้น จงใช้สติปัญญาของตัวเจ้าเองเถิด !"
ปริศนาจึงมี 2 ข้อ คือ ซาตาน จะใช้วิธีการอะไรในการที่จะให้โอกาสแอ๊ดดี้ "แก้ตัว" ต่อสู้ดิ้นรนให้หลุดพ้นจากสัญญา และ อะไร หรือใคร คือ "หนทางรอด" ที่พระแม่มารีบอกใบ้เอาไว้ ??
บุคคล 9 คนที่เหลือซึ่งเชื่อกันว่าได้ทำสัญญาปีศาจ ได้แก่
1. สมเด็จพระสันตะปาปา ซิลเวสเตอร์ที่ 2 ในศตวรรษที่ 10
2. โยฮัน เกอร์ก เฟาสต์ (Johann Georg Faust) นักเล่นแร่แปรธาตุพเนจร โหราจารย์และจอมเวทย์จากเยอรมัน ยุคเรอเนสซองซ์
3. คอร์นีเลียส อะกริปป้า (Cornelius Agrippa) ผู้เป็นได้หลายอย่างเช่นนักเขียน นักกฏหมาย นักเล่นแร่แปรธาตุ จอมขมังเวทย์ นักบวช และโหราจารย์ ในยุคเรอเนสซองซ์เหมือนกัน
4. กิลล์ เดอ เรยส์ (Gilles de Rais) อัศวินผู้กล้าของฝรั่งเศสซึ่งภายหลังกลายเป็นอาชญากรในศตวรรษที่ 14
5. หลวงพ่อเออร์เบน กรานเดียร์ (Father Urbain Grandier) นักบวชคาทอลิกชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 16
6. จูเซปเป้ ตาร์ตินี่ (Giuseppe Tartini) นักดนตรีไวโอลินชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 17
7. โจนาธาน มอลตัน (Jonathan Moulton) บุคคลในตำนานของนิวแฮมป์เชียร์ในศตวรรษที่ 17
8. นิคโคโล ปากานินี (Nicolo Paganini) นักไวโอลินชาวอิตาลีอีกคนหนึ่งในศตวรรษที่ 18
9. โรเบิร์ต จอห์นสัน นักดนตรีกีตาร์บลูส์ชาวอเมริกันผิวดำ ในทศวรรษที่ 30-40
หลังจากที่ทุกคนได้อ่านและศึกษาข้อมูลของบุคคลทั้ง 9 คนแล้ว ทุกคนเห็นตรงกันว่า มี 3 คนเท่านั้นซึ่งเข้าข่ายที่จะเป็น "กุญแจไขปริศนาพระแม่มารี" ได้ นั่นคือ นักไวโอลินทั้งสองคน จูเซปเป้ ตาร์ตินี่,นิคโคโล ปากานินี และโรเบิร์ต จอห์นสัน
"สามคนนี้ เป็นนักดนตรี ซึ่งเปรียบเทียบได้กับแอ๊ดดี้" ทาร่าแอนสรุป "อีก 6 คนไม่ใกล้เคียงเลย ไม่มีอะไรที่จะต้องให้ความสนใจ พวกเราพิจารณาแค่สามคนนี้ก็พอแล้ว"
"พี่ว่า จูเซ็ปเป้ ตาร์ตินี่ น่าสนใจมากที่สุด" แอ๊ดดี้ลงความเห็นแบบฟันธง
"ทำไมเหรอคะ พี่แอ๊ดดี้ ?"
"เพราะเขาได้ฟังซาตานบรรเลงเพลงด้วยไวโอลิน ในความฝัน แล้วตื่นขึ้นมา พยายามเล่นตาม แต่เขาบอกเองว่า เล่นอย่างไรก็ไม่เหมือน เพลงที่เขาพยายามแต่งเลียนแบบเพลงของซาตานคือ เดวิลส์ ทริล โซนาต้า ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้แก่เขาเป็นอันมาก แต่ตัวเขาเองกลับบอกว่า มันยังห่างไกลกับเพลงที่เขาได้ฟังซาตานเล่นในความฝัน"
ติ๊กช่วยแปลคำพูดของแอ๊ดดี้เป็นภาษาอังกฤษให้ทาร่าแอนซึ่งทำหน้างงๆ หลังจากได้ฟังพี่ชายพูดภาษาไทยยืดยาว
"โอ้! ไอซี....ถ้าอย่างนั้น กุญแจไขปริศนาคือคนนี้แน่นอน!"
"แต่มันคือปริศนาอะไรนี่สิ...?" แอ๊ดดี้ทำท่าขบคิด พยายามคิด แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
"หรือว่า พระแม่มารี บอกใบ้ให้พี่แอ๊ดดี้ เล่นเพลงของเขา ?" ติ๊กตั้งข้อสงสัย โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ทาร่าแอนฟังรู้เรื่องไปเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแปล
"เป็นไปได้!" ทาร่าแอนทำตาโต "เราต้องหาเพลงนี้ให้แอ๊ดดี้ฟัง ต้องไปที่ร้านขายเทปหรือแผ่นเสียงที่มีเพลงบรรเลงไวโอลิน"
"พี่แอ๊ดเคยหัดสีไวโอลินไหมคะ ?" ติ๊กหันมาถาม
"ไม่เคยจ้ะ..ที่รัก" เขาส่ายหน้าปฏิเสธ "แต่พี่คงต้องลองหัดเล่นดู"
"ถ้าอย่างนั้น พวกเราออกไปข้างนอกกัน ไปร้านขายเครื่องดนตรีก่อนเพื่อให้แอ๊ดดี้เลือกซื้อไวโอลินซักตัวหนึ่ง แล้วค่อยไปหาซื้อเทปคาสเซ็ตต์หรือแผ่นเพลงกัน"
"โอเค งั้นไปกันเลย!"
คนทั้งสามพากันออกไปหาซื้อของทั้งสองอย่าง และได้ครบตามต้องการ
แอ๊ดดี้ได้ไวโอลินสีน้ำตาลแดงราคาสองพันเหรียญมาตัวหนึ่ง และทาร่าแอนก็หาทั้งเทปคาสเส็ตแผ่นซีดีเพลงบรรเลงไวโอลินซึ่งมีเพลง DEVIL'S TRILL SONATA ของ จูเซ็ปเป้ ตาร์ตินี่ แต่บรรเลงโดยนักดนตรีสมัยปัจจุบันได้มาเช่นกัน เธอใส่ม้วนเทปเข้าไปในเครืองเล่นในรถแล้วเปิดเพลงให้ฟังกันในขณะที่ขับรถกลับบ้าน
แอ๊ดดี้ ฟังอย่างตั้งใจ และหลังจากฟังจนจบเพลงแล้วจึงเริ่มกล่าว
"ไพเราะมาก และฟังดูน่ากลัวหลายช่วง น่าแปลกใจ เขาแต่งออกมาได้ถึงขนาดนี้ซึ่งฟังดูเยี่ยมมากๆเลย แต่กลับบอกว่า ยังห่างไกลจากเพลงที่ซาตานเล่นให้ฟังในความฝัน....น่าสงสัยจริงๆว่า เพลงที่แท้จริงซึ่งซาตานเล่นให้เขาฟังในความฝันคืนนั้น จะไพเราะ หรือน่ากลัวมากกว่านี้สักขนาดไหน ?"
"ตอนนี้เราได้ศึกษาข้อมูลกันหมดแล้ว และดูเหมือนได้ข้อสรุปแล้ว" ทาร่าแอนกล่าว ก่อนจะถามพี่ชายเรื่องการเดินทางกลับ "ยูสองคนต้องกลับไทยแลนด์ในวันพรุ่งนี้แล้วใช่ไหม ?"
"ใช่จ้ะ ทาร่าแอน" ผู้พี่พยักหน้าตอบ "รอช้าไม่ได้แล้วเพราะไม่รู้ซาตานจะมาทวงวิญญาณพี่ตอนไหน.."
"คงไม่รีบทวงหรอก เพราะมีการเจรจากับแมรี่ให้พี่ได้โอกาสแก้ตัวนี่นา" น้องสาวกล่าวแย้ง เพื่อให้คลายความวิตกกังวล
"จริงด้วยพี่แอ๊ดดี้ ซาตานไม่รีบทวงวิญญาณพี่แน่ๆ มันต้องให้โอกาสพี่ทำอะไรบางอย่างก่อน! มันจะผิดคำพูดไม่ได้เพราะตกปากรับคำกับพระแม่แล้ว"
"ใช่! ถ้าซาตานบิดพลิ้วไม่ให้โอกาสพี่ แมรี่ต้องกลับมาขัดขวางแน่นอน คงไม่ปล่อยให้มันฆ่าพี่แล้วยึดเอาวิญญาณไปตามอำเภอใจหรอก"
การสันนิษฐานของสองสาว ทำให้แอ๊ดดี้ใจชื้น ใช่แล้ว...ตอนนี้ เขาเป็นประหนึ่งว่าได้รับการคุ้มกันจากพระแม่มารีเป็นการชั่วคราว แต่เมื่อไรที่ซาตานเผยวิธีการที่จะให้เขา "แก้ตัว" และเขาก้าวเข้าสู่กระบวนการนั้นละก็...เมื่อนั้น เขาจะต้องต่อสู้ด้วยตนเองเท่านั้น พระแม่มารีจะไม่กลับมายุ่งเกี่ยวอีก!
"พี่คงต้องกลับไป ณ สถานที่เดิม 4 แยกที่ทำสัญญา..." แอ๊ดดี้พูดกับสองสาว "ถ้าพี่กลับไปที่นั่น ต้องได้พบกับซาตานในร่างชายที่พี่เคยพบแน่"
"ระวังตัวนะ เดียร์โบร" ทาร่าแอนกล่าวเตือนด้วยความรักและเป็นห่วง "หากรู้แล้วว่าซาตานจะให้ทำอะไร พี่ต้องคิดให้รอบคอบ"
"ไม่ต้องห่วง ทาร่าแอน...พี่จะไม่ประมาทแน่!"
"ถ้าอย่างนั้น พี่สองคนก็เข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้จะได้เตรียมตัวเดินทางกลับ"
"หวังว่าคืนนี้ คงจะไม่ฝันร้ายอีกนะ.." แอ๊ดดี้รำพึง "ถ้าซาตานมาในฝันอีก ก็ให้บอกมาเลยว่าจะให้ทำอะไร!"
หลังจากนั้น ทั้งสามคนก็พากันเข้านอน
แอ๊ดดี้หลับสนิท ไม่มีความฝันใดๆ เข้ามารบกวนเลยแม้แต่น้อย...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
16 กันยายน 2532...เลยวันกำหนดเดิมของซาตานไปแล้ว !!
แอ๊ดดี้เดินทางกลับบ้านเกิดพร้อมกับติ๊ก ทันทีที่กลับมาถึงเมืองไทย และพักอยู่ด้วยกันที่บ้านของแอ๊ดดี้นั่นเอง ทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า จะไปที่ 4 แยกใกล้ตลาดตอนเที่ยงคืนพร้อมกัน โดยคาดว่าจะได้เจอซาตานในร่างของชายลึกลับคนนั้น
คืนวันนั้น ทั้งสองมาถึง 4 แยก ก่อนเที่ยงคืนประมาณ 10 นาที
ความเป็นไปต่างๆ ณ บริเวณนั้น เหมือนกับในคืนที่แอ๊ดดี้ปั่นจักรยานมาถึงแล้วจอดรอไม่มีผิด บรรยากาศเงียบสงัด ที่หน้าตลาดเริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาเล็กน้อย
แอ๊ดดี้และติ๊ก ยืนมองโน่นมองนี่อยู่ที่ข้างทาง ณ มุมหนึ่งของ 4 แยก...
จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืนตรง ทั้งสองก็ได้ยินเสียงรถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนมาทางด้านหลัง พร้อมกับเสียงใครคนหนึ่ง
"มารออะไรกันอยู่หรือ ไอ้หนุ่ม ? สาวน้อย ?"
ทั้งสองกลับหลังหันไปมอง
แล้วแอ๊ดดี้ก็แปลกใจ...เพราะผู้ชายคนที่ขับรถซึ่งก็เป็นรถโฟล์คคลาสสิคสีดำแบบเดียวกันกับที่เคยเจอเข้ามาจอดใกล้ๆ แล้วไขกระจกรถลงมาเผยให้เห็นหน้า ไม่ใช่ซาตานในร่างบุรุษที่เคยเจอคนนั้น
"เอ้อ...เรา รอพบคนที่เคยรู้จักกันคนหนึ่งอยู่ครับ" แอ๊ดดี้ตอบ
"นายชื่อแอ๊ดดี้ใช่ไหม ?"
คำถามของชายคนใหม่ทำให้ทั้งแอ๊ดดี้และติ๊กสะดุ้งเฮือก หรือว่าซาตานมาในร่างใหม่ ?
"อ่า...ใช่ครับ ผมเอง" แอ๊ดดี้ตอบรับ
"ถ้างั้นก็ดีแล้ว!" ชายลึกลับคนใหม่กล่าว "คนที่นายเคยเจอ เป็นเจ้านายฉันเอง! และเขาฝากไอ้นี่มาให้นาย!"
พูดจบ เขาก็ล้วงอกเสื้อหยิบกระดาษม้วนหนึ่งออกมายื่นให้แอ๊ดดี้
"อะไรครับเนี่ย ?" แอ๊ดดี้เอ่ยถามโดยยังไม่รับมันมา
"สัญญาฉบับใหม่ไงล่ะ!" ชายคนใหม่กล่าวโดยยิ้มอย่างมีเลศนัย ตาวาวเป็นประกาย "แต่คราวนี้ ไม่ใช่ให้นายลงชื่อ!"
"อ้าว ??" แอ๊ดดี้ร้องด้วยความฉงน "แล้วให้ผมทำไม ?"
คำตอบของชายลึกลับคนใหม่ทำให้แอ๊ดดี้และติ๊กตกตะลึง
"ให้นาย ส่งให้เมียของนายเซ็น!"
"เฮ้ย !!!" แอ๊ดดี้ร้องลั่น "ได้ไง !! ???"
"นายให้เมียนายอ่านสัญญาเสียก่อนสิ!!" ชายลึกลับรุกเร้า
"ขอติ๊กอ่านหน่อยค่ะพี่แอ๊ดดี้!"
ยังไม่ทันที่แอ๊ดดี้จะตั้งตัว ติ๊กก็ปรี่เข้ามาคว้าม้วนกระดาษนั้นจากมือชายลึกลับ คลี่อ่านอยู่ครู่หนึ่ง เม้มปากเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็โพล่งออกมาคำหนึ่งพร้อมกับล้วงคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋า ซึ่งทำให้แอ๊ดดี้ตกใจสุดขีด
"ตกลง !!"
"เฮ้ยย !! ติ๊ก, บ้าหรือเปล่า !! ตกลงอะไร ???"
เขาปรี่เข้าไปหาเธอ พยายามจะแย่งคว้าคัตเตอร์อันนั้น แต่เธอหลบ แล้วใช้มันกรีดปลายนิ้วชี้ข้างซ้าย จากนั้นจิ้มปลายนิ้วซึ่งเลือดไหลออกมาแล้วลงไปที่ท้ายกระดาษม้วนนั้นซึ่งถูกคลี่ออกแล้วเซ็นชื่อลงไป!!
แอ๊ดดี้ตกตะลึงพรึงเพริด! "ติ๊ก!! ติ๊กทำอะไรลงไป !!!"
หญิงสาวยิ้มให้เขาเหมือนจะปลอบใจ แล้วตอบ "ก็ทำให้พี่แอ๊ดดี้มี 'โอกาสแก้ตัว' ไงล่ะคะ!! ติ๊กเชื่อมั่นว่าพี่แอ๊ดดี้ทำได้!" พูดจบก็ส่งกระดาษแผ่นนั้นคืนให้กับชายลึกลับ
เขารับมันไปดู แล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ ดวงตาเป็นประกายวาวเหมือนพยัคฆ์หรือราชสีห์ซึ่งได้เหยื่อไว้ในกงเล็บ!
"ทำอะไร ???" แอ๊ดดี้ร้องเสียงแหบแห้ง รู้สึกเหมือนใจสลาย
"ฉันจะบอกนายให้ก็แล้วกัน!" ชายผู้มาจากซาตานกล่าว "นายจะต้องไปเล่นไวโอลิน ประชันฝีมือกับนักไวโอลินเอกที่กรุงเวียนนา ในอาทิตย์หน้านี้!"
"เฮ้ยย !! บ้าเหรอไง ???!!" เขาร้องเสียงหลง ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก "ผมเพิ่งเริ่มหัดเล่นได้ไม่กี่วันเอง ไวโอลินก็เพิ่งซื้อมา จะไปประชันกับนักไวโอลินเอกได้ยังไง ??? เล่นประชันไปยังไงก็ต้องแพ้!!"
"ไม่รู้ว่ะ!!" ชายลึกลับยิ้มพราย "นายมีเวลา 7 วันในการซ้อม!"
"ผมจะเอาเพลงอะไรไปสู้เค้าได้เล่า ??"
"อ๋อ...เกือบลืมบอก นายไม่ต้องห่วง เพลงนั้น ถูกกำหนดไว้แล้ว ทั้งนาย และนักไวโอลินมือหนึ่งคนนั้น จะต้องเล่นเพลงเดียวกัน!"
"เพลงอะไร ???" แอ๊ดดี้ร้องครางถาม รู้สึกเหมือนจะขาดใจ
"DEVIL'S TRILL SONATA ของ จูเซปเป้ ตาร์ตินี่ !!"
(มีต่อครับ)