⚡️⚡️⚡️ <<< คนขายวิญญาณ - ตอนที่ 3 >>> ⚡️⚡️⚡️

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1 = https://ppantip.com/topic/36826773

ตอนที่ 2 = https://ppantip.com/topic/36840648



ก่อนวันหวยออก 3 วัน...

แอ๊ดดี้เที่ยวตระเวณหาซื้อสลากกินแบ่งหลายที่ พยายามหาเลขท้าย 666 ให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถหาซื้อได้

เมื่อหาเลขท้ายไม่ได้ จึงลองหาเลขสามตัวข้างหน้าดูบ้าง แต่ก็หาไม่พบอยู่ดี

จนเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียทั้งแรงกายแรงใจ จึงจูงจักรยานไปจอดในสวนสาธารณะ ส่วนตนเองนั่งพักผ่อนบนม้านั่งหินอ่อน ใช้ความคิด

"หาเลข 666 ไม่ได้ จะทำไงดี ? มันต้องตรงๆ ตามนี้เท่านั้นหรือ ? เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยหรือไง ???"

คิดไปคิดมา....ก็เริ่มง่วง ด้วยความเหน็ดเหนื่อย จึงม่อยหลับไปทั้งที่ยังนั่งกุมขมับอยู่

ในห้วงแห่งความหลับนั้น เขาได้ยินเสียงและเห็นจอมปีศาจในร่างบุรุษลึกลับคนนั้นปรากฏตัว

"น้าครับ..." เขาร้องเรียก "ผมหาเลขที่น้าบอกไม่เจอเลย..."

"ไม่จำเป็นต้องเป็นเลขนั้นตรงตัว !!" บุรุษปีศาจตอบ "ไม่ว่าจะเลขหน้าหรือเลขท้าย..."

"แล้วจะให้ผมหายังไงล่ะครับน้า ?"

"ใช้หัวหน่อยสิวะ!!"

"ยังไงครับ ? "

"คิดพลิกแพลงเอา ไอ้หนู !!!" บุรุษปีศาจบอกเป็นนัยๆ "ทำอะไรยังไงก็ได้ ให้ได้ชื่อว่า ผ่านตัวเลข 666 แล้วจึงซื้อ!!"

"อย่างเช่น ตื่น 6  โมง กินข้าว 6 คำ ยังงี้เหรอ ?"

"ก็แล้วแต่เอ็ง !! ให้มันได้ 666 ก็แล้วกัน ข้าไปละ !!!"

พูดจบ ร่างนั้นก็อันตรธานวับไปกับตา...และแอ๊ดดี้ก็ตื่นมาพึมพำ

"ทำยังไงก็ได้ให้ได้ผ่านตัวเลข 666 อย่างนั้นเหรอ ? ....อืม.....ถ้างั้น 6  ตัวแรก เอาเป็นเวลา 6 โมงเย็นนี้ก็แล้วกัน....6 ตัวที่สอง ถ้าหาพ่อค้าหรือแม่ค้า อายุ 66 ได้ก็คงจะดี ส่วน 6 ตัวที่สาม เอาเลขท้ายสองตัว 66 หรือถ้าไม่มีก็เอาที่ลงท้ายด้วยเลข 6 หรือไม่งั้นก็ซื้อสัก 6 ใบ ก็คงใช้ได้...แบบไหนก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับเลข 6 ครบสามก็แล้วกันน่ะ!"

คิดแล้วก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจให้หายง่วงทีหนึ่ง แล้วจูงจักรยานคู่ชีพออกจากสวนสาธารณะ ปั่นตรงไปสู่ตลาด ครั้นถึงหน้าตลาดก็หยุด นั่งคร่อมอานรถอยู่อย่างนั้น ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา...อีก 15 นาทีจะหกโมงเย็นแล้ว รอก่อน...

แอ๊ดดี้รอจนึงเวลา 6 โมงเย็น เสียงประกาศให้เคารพธงชาติ และดนตรีนำดังมาจากลำโพงโทรโข่งหน้าตลาด ตามด้วยเสียงเข็มนาฬิกาเดิน เสียงตีระฆังบอกเวลา ตบท้ายด้วยเสียงเพลงชาติไทย คนสัญจรไปมาพากันหยุดยืนตรงสงบนิ่ง จนเพลงจบก็พากันสัญจรต่อไปทางใครทางมัน

เลข 6 ตัวที่หนึ่ง ผ่านพ้นไปได้แล้ว แอ๊ดดี้จูงจักรยานข้ามถนนไปจอดอีกฝั่งหนึ่งของถนนซึ่งอยู่หน้าตลาด มีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายล๊อตเตอรี่เรียงรายกันอยู่สี่ห้าคน และมีแผงหนึ่งว่างอยู่...แผงที่ 6 !!!

คนขายไปไหน ??

แอ๊ดดี้เดินเข้าไปหาแผงนั้น และถามแม่ค้าแผงที่ 5

"พี่ครับ คนขายแผงนี้ไปไหนครับ ?"

"อ๋อ...ไปเข้าห้องน้ำจ้ะ น้องจะเอาเลขอะไรเหรอ ? บอกพี่ก็ได้เดี๋ยวพี่หยิบให้" แม่ค้ายิ้มหวานตอบ

"ไม่เป็นไรครับพี่" เขาปฏิเสธ "ผมรอเค้าดีกว่าครับ"

"ทำไมต้องรอด้วยเล้า ? เสียเวลาเปล่า จะค่ำจะมืดแล้ว ซื้อกับพี่ก่อนแล้วพี่ก็เอาตังให้เค้าทีหลังไง" แม่ค้าขะยั้นขะยอ

"เอ้อ...มันยังงี้ครับพี่..." แอ๊ดดี้พยายามอธิบาย พลางคิด คงต้องกุเรื่องขึ้นมาสักเรื่องละวะ "คือ ผมไปดูหมอมา แล้วหมอดูเขาบอกว่า ให้ผมซื้อหวยกับคนขายซึ่งเป็นเจ้าของแผงที่ว่างอยู่ ต้องซื้อกับเค้าโดยตรงเท่านั้นครับ ผมก็เลยต้องรอครับ"

"มียังงี้ด้วย ???" แม่ค้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างข้องใจ แล้วก็พยักหน้า "เออ..ตามใจๆ งั้นก็รอไปก่อนละกันจ้ะ"

"ครับผม" แอ๊ดดี้ยิ้มแหยๆ

ครู่หนึ่ง ประมาณห้านาที เจ้าของแผงที่ 6 ก็เดินกลับมา ได้ยินเสียงเพื่อนแผงที่ 5 ร้องบอก "อีเจี๊ยบ น้องคนนี้รอซื้อหวยกะเมิงอยู่ มาเร็วๆ"

แม่ค้าชื่อเจี๊ยบซอยเท้าเดินเร็วขึ้นจนมาถึงแผงตัวเอง แล้วหันไปถามเพื่อน "ทำไมเมิงไม่ช่วยขายให้น้องเค้าแทนกูล่ะอีจุ๋ม ?"

"ชวนน้องเค้าแล้วเค้าไม่ซื้อด้วยเว้ย เค้าบอกว่าไปดูหมอมา หมอบอกให้ซื้อกับเจ้าของแผงที่ว่างอยู่โดยตรง กูก็เลยบอกให้น้องเค้ารอ"

"เหรอ ?" แม่ค้าเจี๊ยบทำหน้าประหลาดใจ แล้วก็หันมายิ้มให้แอ๊ดดี้ "เอาเลขอะไรดีจ๊ะ ?"

แอ๊ดดี้ยิ้มตอบ นึกในใจ 6  ตัวที่สองผ่านแล้ว เหลืออีกตัวเดียว...เอาไงดี ??...

"มีตอง 6 หรือสองตัว 66 ไหมครับ ?"

"ไม่มีจ้ะ" แม่ค้าเจี๊ยบทำหน้ามุ่ย "หมดแล้ว เลขตองแทบไม่เหลือแล้ว เหลือแต่ จู๋นๆๆ จ้ะ"

"อืม..." แอ๊ดดี้ทำท่าครุ่นคิด " ยังงั้น เลขอะไรก็ได้ ที่ลงท้ายด้วย 6 ครับ"

"ได้เลยจ้า..." แม่ค้าเจี๊ยบยิ้มหวานให้ เอานิ้วชี้ข้างขวาไล่เรียงเบอร์บนแผงครู่เดียวก็หยิบสลากคู่หนึ่งยื่นให้ ใบที่ 6 พอดี!

"เอา 87 ก็แล้วกันเนาะ ท้าย 6 ก็ไม่มี หลักร้อยเป็น 3  387 ได้อยู่นะจ๊ะ"

"อ่าฮะ!" แอ๊ดดี้พยักหน้า แล้วก็รับสลากมา จ่ายเงินให้แม่ค้าไป 100 บาท จากนั้นจึงปั่นจักรยานกลับบ้าน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บ่ายสามโมงครึ่ง วันหวยออก...

แอ๊ดดี้นั่งอยู่ที่โต๊ะภายในห้อง เปิดวิทยุเทปเครื่องเก่าซึ่งใช้แกะเพลงและซ้อมกีตาร์โซโลเป็นประจำ หมุนคลื่นไปที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์ซึ่งถ่ายทอดสดเสียงการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ รางวัลที่สอง ที่สาม ที่สี่ และที่ห้า กับรางวัลเลขท้ายสามตัวและสองตัว ออกไปครบหมดแล้ว เหลือแต่รางวัลที่ 1 ซึ่งจะออกเป็นลำดับสุดท้ายในสมัยนั้น และการออกรางวัลยังคงใช้วงล้อหมุนอยู่ เหมือนรางวัลอื่นๆ ที่สำคัญ เลขสลากมีถึง 7 หลัก การถูกรางวัลใหญ่จึงยากเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่รางวัลที่ 5 ซึ่งเงินรางวัลต่ำสุดในบรรดารางวัลใหญ่ทั้งหลายก็ถูกยากเย็นเข็ญใจอยู่แล้วแม้จำนวนการออกจะมากกว่าเพื่อนก็ตาม

แอ๊ดดี้นั่งฟังและลุ้นผลการออกรางวัลอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งได้ยินประกาศผล หลักล้าน...หลักแสน...หลักหมื่น...หลักพัน ถูกเรียงกันมา 4 หลัก รู้สึกหัวใจเต้นระทึกราวกับว่ามันจะระเบิดทะลุหน้าอก...และสุดท้ายก็ได้ยินสามหลักสำคัญ ซึ่งคนบ้าหวยแทงกันทั่วบ้านทั่วเมืองในทุกงวด

"....สาม แปด เจ็ด !!!"

ขนทั้งตัวทั้งหัวลุกซู่ จนรู้สึกหนาวสะท้าน !!

รู้สึกมึนงง....นี่มันเรื่องจริงหรือวะเนี่ย ไม่ใช่ฝันไปนะ ? มองสลากกินแบ่งในมือ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พอลองหยิกแขนตัวเองแรงๆ ก็ต้องร้องออกมา "โอ๊ยย!!"...เจ็บจริง ไม่ใช่ฝัน...

นึกต่อไปด้วยความตื่นเต้น...พรุ่งนี้ต้องไปธนาคาร มีบัญชีธนาคารกรุงเทพฯอยู่ ให้ธนาคารช่วยเอาสลากไปขึ้นเงินรางวัลแล้วใส่ไว้ในบัญชีก็แล้วกัน

จากนั้น ก็เก็บสลากกินแบ่งรัฐบาลใบนั้นไว้ในกระเป๋าสตางค์

และคืนนั้น แอ๊ดดี้นอนไม่หลับทั้งคืนจนรุ่งเช้า...

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามวันต่อมา...

แอ๊ดดี้มีเงินล้านอยู่ในบัญชีธนาคารแล้ว ตอนนี้เขากำลังนั่งเครื่องการบินไทยเข้ากรุงเทพฯ โดยพยายามปิดข่าวการถูกหวยครั้งใหญ่นี้จากทุกคนไม่ว่าใคร ขอไปหาที่พักสบายๆในเมืองกรุงซักระยะก่อน ที่สำคัญคือ หากีตาร์ไฟฟ้าเจ๋งๆซักตัว เอาให้เริ่ดสะแมนแตนสุดๆไปเลย ยี่ห้อที่คิดไว้คือ กิ๊บสัน จะเป็นแบบไหนค่อยไปเลือกดูอีกที...

ถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว แอ๊ดดี้ลงจากเครื่องบินพร้อมกีตาร์ตัวเก่าซึ่งใส่ถุงกีตาร์สีดำหิ้วมาด้วย ยังไงมันก็เป็นกีตาร์คู่ชีพคู่ใจของตัวเองมาตั้งแต่ต้น เขาจึงรักมันมากที่สุด ต่อให้มีกีตาร์ตัวใหม่ราคาเป็นหมื่นเป็นแสน เขาจะไม่มีวันทอดทิ้งมันเด็ดขาด นอกจากมันจะเป็นเพื่อนคู่กายคู่ใจแล้ว มันยังนับว่าเป็น "ครู" ของเขาด้วย เพราะฝึกกีตาร์จนเล่นเป็นกับมันตัวเดียว

แอ๊ดดี้ให้แท็กซี่พาไปโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งแถวสุขุมวิท โดยเลือกที่มี "ห้องเก็บเสียง" ด้วย เพื่อจะได้ซ้อมเล่นกีตาร์ได้โดยที่เสียงจะเล็ดลอดออกไปรบกวนข้างห้องน้อยที่สุด ครั้นได้โรงแรมที่พักแบบที่ต้องการแล้วก็จ่ายเงินพักอยู่เป็นเวลา 7 วัน จากนั้นจึงรับกุญแจขึ้นห้องบนชั้น 6 ใช่...ต้องเป็นเลข 6 เสียดายไม่มีห้องรันไปถึง 666 แต่ได้ 616 มาก็โอเคแล้ว....

เข้าไปในห้องแล้วก็ปิดประตูล๊อก แล้วตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่น รอจนน้ำเต็มอ่างแล้วจึงถอดเสื้อผ้าลงไปนอนแช่ หลับตา นึกทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา ทั้งสุข และทุกข์...ส่วนใหญ่จะทุกข์เสียมากกว่า สุขมีแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น...

แล้วก็นึกต่อไป....ลาก่อนความทุกข์ เวลาสองปีที่เหลือ กูจะตักตวงความสุขและความสำเร็จให้เต็มที่ !!! หลังจากนั้นจะเป็นยังไงค่อยว่ากันทีหลัง !!!

แอ๊ดดี้นอนแช่น้ำอุ่นนานนับชั่วโมง จึงลุกขึ้น ออกจากห้องน้ำ เช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วแต่งตัวออกไปจากห้อง ไปหาอะไรกินก่อน แล้วค่อยไปร้านขายเครื่องดนตรี เลือกกีตาร์แจ่มๆ สักตัว...

เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว...แอ๊ดดี้ออกจากโรงแรมมาอยู่ที่หน้าร้านขายเครื่องดนตรีซึ่งดูแล้วกว้างขวางใหญ่โตกว่าร้านที่ตนเคยเห็นเป็นอันมาก เห็นกีตาร์ในร้านนับร้อยตัว !! ร้านที่เขาเคยเห็นนั้นมีกีตาร์วางขายเพียงสิบกว่าตัวเท่านั้น ราคาสูงสุดก็แค่หลักหมื่น แต่ที่นี่มีราคาไปจนถึงหลักแสน !!

แอ๊ดดี้ค่อยๆสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะผลักประตูกระจกก้าวเดินเข้าไปภายในร้าน

ผู้ชายหน้าตาดี แต่งตัวสะอาดสะอ้าน อาจเป็นพนักงานขาย หรือไม่ก็อาจเป็นเจ้าของร้านเลยก็ได้ เพราะแอ๊ดดี้เห็นเขาสวมสร้อยคอทองคำเส้นโต นาฬิกาโรเล็กซ์สีทองสะท้อนแสงไฟวาววับ สวมแหวนบลูแซฟฟายล้อมเพชรงามบาดใจ กล่าวทักทายเขาทันทีที่เขาก้าวเข้าถึงข้างใน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

"สวัสดีครับ เชิญครับ มองหากีตาร์อยู่หรือเปล่าครับน้อง ?"

แอ๊ดดี้มองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มตอบ

"ใช่ครับ ผมอยากได้กีตาร์ดีๆ สักตัว"

"ราคาประมาณเท่าไรดีครับ ?" เขาถามพลางมองแอ๊ดดี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งทำให้แอ๊ดดี้คิด...เมิงดูถูกการแต่งตัวกูหรือเปล่าวะ ? กูแต่งตัวสบายๆ เสื้อผ้ารองเท้าราคาถูกๆ เมิงคงนึกว่ากูจนละสิ ?

คิดแค่นั้น แล้วก็ตอบออกไป "ราคา ไม่เกี่ยง ครับพี่ ขอให้ถูกใจผมก็พอ" เขาเน้นที่คำว่า "ไม่เกี่ยง" เพื่อให้รู้ว่าตนไม่ใช่กระจอกงอกง่อยเหมือนอย่างรูปลักษณ์ที่มองเห็นแต่ภายนอก

ชายคนนั้นพยักหน้า... "อ่า...ฮะ !! ยังงั้น เชิญเลือกชมตามสบายเลยครับผม " พูดจบก็ผายมือไปทางกีตาร์ซึ่งตั้งเรียงรายกันอยู่เป็นแถวๆ เบื้องหลัง

แอ๊ดดี้ยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะบอก "ขอบคุณครับ จะบอกให้ ถ้าผมเจอตัวที่ถูกใจ ผมซื้อแน่นอน และผมจำเป็นต้องลองเล่นด้วย คงต้องใช้เวลาบ้างนิดหน่อย รบกวนพี่เตรียมตู้แอมป์ กับกล่องเสียงพวก ดิสตอร์ทชั่น ไว้ให้ผมด้วยนะครับ"

"โอ้...ได้เลยครับ" เขาพยักหน้าตอบรับแล้วเดินจากไป พลางนึกในใจ...ไอ้หนุ่มนี่ ฝีมือมันจะขนาดไหนวะ ? ดูท่าทางมันเหมือนมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน บอกว่าไม่เกี่ยงราคาเสียด้วย...

แอ๊ดดี้ค่อยๆเดินดูกีต้าร์ไปทีละตัวๆ จนไปหยุดจ้องดูกีตาร์ตัวหนึ่ง กิ๊บสัน ฟลายอิ้ง วี !!

รูปร่างซึ่งออกแบบเป็นตัว V ทำให้คอกีตาร์ปลอดโปร่งไร้อุปสรรคกีดขวางนิ้วมือสำหรับการเล่นโซโล่ คอกีตาร์มีขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป มองดูสวยงามมีเสน่ห์ดึงดูดใจที่สุด แอ๊ดดี้หลงรักมันเข้าให้แล้ว และไม่คิดจะดูกีตาร์ตัวอื่นๆ อีก แม้จะมีเหลือให้ดูอีกหลายสิบตัวก็ตาม !

เขาเผลอเอื้อมมือไปลูบไล้มันอย่างหลงใหล แล้วก็ได้ยินเสียงชายคนเดิมพูดอยู่ข้างหลัง

"ชอบตัวนี้เหรอครับน้อง ลองเลยไหม ?"

แอ๊ดดี้หันกลับไปมอง แล้วก็พบว่า เขาเตรียมตู้แอมป์ซึ่งมีล้อเลื่อนติดข้างล่างเข็นมาแล้ว พร้อมด้วยแผงกล่องเปลี่ยนเสียง พอเข็นมาใกล้ตัวแอ๊ดดี้แล้วก็จัดการเสียบปลั๊กรอทันที

"เยี่ยมมากครับพี่" แอ๊ดดี้กล่าว แล้วค่อยๆประคองเจ้าฟลายอิ้งวีอันสวยสดงดงามลงมาจากแท่นวาง สะพายสายสะพาย รับสายแจ๊คจากชายในร้านซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านค่อนข้างแน่ เสียบหัวแจ๊คเข้ากับรูที่กีตาร์ ผลักสวิทช์ข้างล่างปุ่มโวลลุ่มเปิด มือขวาหยิบปิ๊คออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วปรับปุ่มโวลลุ่ม ลองดีดฟังเสียงดูโดยจับคอร์ดพื้นๆสามสี่คอร์ด...

(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่