เนื้อหาเปิดเผยส่วนสำคัญของหนัง
ผมพึ่งมีโอกาสได้ดูหนัง เรื่อง Life of pi หลังจากที่หนังฉายไปเป็นเวลากว่า 5 ปี
ผมอาจจะรู้สึกอินในเวลาที่ช้าไป แต่เชื่อเถอะว่ายังจะมีใครอีกหลายคนที่ได้ดู Life of pi หลังจากนี้แล้วรู้สึกเช่นเดียวกัน
กับผม ผมแค่อยากให้ใครสักคนในอนาคตได้อ่านมันและรู้สึกเช่นเดียวกัน
ความรู้สึกผมหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วผมเลือกที่จะเชื่อในเรื่องที่ 2 แม้ว่าจะชอบเรื่องแรกมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ผมกลับเลือกที่จะเชื่อเรื่องที่ 2
ฮายีน่าคือ พ่อครัว
ม้าลายคือ เด็ก
ลิง คือ แม่
เสือ คือ พาย
พายเจ็บปวดกับความจริงจนต้องเยียวยาหัวใจตัวเองโดยเรื่องจากจินตนาการ เขาจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไร้ซึ่งความหวังและเต็มไปด้วยการรอคอยที่ไม่รู้จุดหมาย เด็กหนุ่มผู้เห็นความตายและความโหดร้ายอยู่ตรงหน้า เขาหวาดกลัวและไม่พร้อมที่จะตาย เสื่อคือสัญชาตญานดิบในตัวของเขาที่ต้องมีในการเอาชีวิตรอด
เขาลอยคอท้อแท้อยู่ในทะเลจนกระทั่งคิดว่าเขาจะต้องตาย ความเชื่อคือสิ่งที่กดเขาไว้ (3ศาสนา) แต่สัญชาตญานจะพาให้เขารอด (เสือ)
เขาไม่อยากที่จะกินเนื้อสัตว์แต่สุดท้ายก็ต้องกินเพื่อประทังชีวิต
เขาคิดว่าจะตายแล้วหลายครั้งหลายครา เพราะความหวังจากเขาไป (พายุ เรือ) การที่เสือโดดลงน้ำนั่นอาจหมายถึงว่า
เขาได้พยายามที่จะทิ้งสัญชาตญานของตัวเองไป ยอมที่จะตายดีกว่าต้องกินเนื้อ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะรับมันขึ้นมา
ยอมรับการมีอยู่ในสัญชาตญาน ยอมรับในความรักชีวิตของตัวเอง
การมีอยู่ของริชาร์ด ปาร์คเกอร์ทำให้เขายังไม่ตาย นั่นคือหากไม่ทิ้งสัญชาตญานในการเอาชีวิตรอดไป เขาก็จะยังไม่ตาย
แม้มันจะขัดเเย้งกับสิ่งที่เขาเชื่อก็ตาม (ต้องกินมังเท่านั้น) พ่อของเขาบอกว่าลูกเลือกที่จะเชื่อ 3 ศาสนาไม่ได้ เพราะมันเท่ากับว่า
ลูกไม่เชื่ออะไรเลย เช่นเดียวกันในเวลานี้ เขาจะต้องเลือกเชื่อ ในตัวริชาร์ด ปาร์คเกอร์ หรือสัญชาตญานของเขามากกว่าเชื่อทุกอย่าง
เพราะความขัดแย้งนั้นจะฆ่าเขา
การที่เรือได้จากเขาไปมันทำให้เขารู้สึกว่าการรอคอยนั้นไม่มีจุดหมาย
เขายิงพลุขึ้นฟ้านั่นหมายถึงเขาได้พยายามทำทุกอย่างแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เมื่อไม่มีใครมองเห็น
มันจึงเหมือนกับว่าใครคนหนึ่งได้ ดับแสงเทียนแห่งความหวังของเขาลง เขาควรจะตายและยอมที่จะตาย
แต่เเล้วเขาก็มาถึงเกาะที่เป็นเหมือนป่าดงดิบเกาะนั้นทำให้เขามีชีวิตรอด
ความจริงก็คือเกาะนั้นไม่เคยมีอยู่เพราะเขาบอกว่าจะไม่มีใครพบเห็นมัน แท้จริงเเล้วเกาะนั้นคือร่างของแม่ของเขาที่ตายไป
ในวินาทีที่สิ้นหวังเพราะความหิวโหยจนสติแตกกระเจิง เขาก็เลือกที่จะกินสาหร่ายบนเกาะ
โดยที่นั่นคือร่างแม่ของเขา
พายใช้ประโยชน์จากร่างของแม่ ในการทำให้เขามีชีวิตรอด เขาจึงรู้สึกเหมือนมีหวังอีกครั้ง
เมียเเคทคือสัตว์ที่อยู่กลางทะเลทรายไม่มีวันที่จะมาอยู่กลางทะเล พวกมันจะอยู่ยังไงกินอะไรในจำนวนที่มากขนาดนั้น
และสังคมของเมียแคทไม่ได้อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่เป็นร้อยเป็นพันตัว
ดังนั้นเมียเเคทจึงคือหนอนที่ไชร่างแม่ของเขา เขาใช้มันเพื่อตกปลา (ซากปลาที่อยู่ในบ่อคือปลาที่เขาตกได้)
แต่เเล้วเขาก็ได้พบกับดอกไม้เขาจึงเอื้อมมือขึ้นไปเด็ดมัน ในนั้นมีฟันของมนุษย์ มันทำให้เขาตระหนักว่าเขาไม่อาจอยู่ที่นี้ต่อไปได้
มันคือเรื่องที่เป็นไปได้ยากที่ฟันของมนุษย์จะเข้าไปติดอยู่ในดอกไม้ ดอกไม้มีช่วงเวลาการเบ่งบานที่ไม่นาน
แต่ร่างกายของมนุษย์แหลกสลายจนเน่าเปื่อย เหลือแต่ฟันใช้เวลานานมาก
และความเป็นไปได้ที่ฟันจะไปติดอยู่ในดอกไม้บนกิ่งนั้นแสนยากลำบาก
ลองคิดดูว่าในวันที่ดอกไม้มีขนาดเล็กฟันจะถูกพยุงอยู่ลักษณะไหน
อีกด้านหนึ่งก็คือ เมื่อกินอิ่มแล้วสติก็กลับมาสัญชาตญานก็ทำงานน้อยลง เสือจึงเลือกที่จะกลับไปอยู่บนเรือ เศษซากฟันที่หลุดออกมาทำให้รู้ว่าร่างกายของแม่ที่ตายนั้นไม่อาจใช้ประโยชน์ได้อีก ความเป็นกรดของเกาะบอกให้เราเข้าใจว่า ร่างของแม่นั้นเน่าจนกระทั่งแม้ในตอนที่หิวจนขีดสุดเขาก็ไม่อาจจะกินมันได้อีก เขาควรทำใจทิ้งร่างของแม่ไปแล้วออกเดินทางต่อถ้าไม่อยากตายอยุ่ที่นี่ ความจริงที่น่าตกใจอีกอย่างคือเขานอนกับตัวเมียเเคทในวันที่สติฟั่นเฟือน นั่นหมายความว่าเขานอนเล่นกับร่างของเเม่ที่เต็มไปด้วยหนอนไชอย่างไม่รู้สึกรังเกียจ
เมื่อพายเลือกที่จะออกเดินทางต่อ เขาเก็บสาหร่ายบนเกาะไว้บนเรือและตุนซากเมียเเคทไว้เป็นอาหารของริชาร์ด ปาร์กเกอร์
นั่นคือเขาเลือกกินเนื้อส่วนของแม่ที่ยังกินได้ แล่บางส่วนติดไว้บนเรือเพื่อตากแห้ง สาหร่ายจึงเปรียบเสมือนเศษเนื้อจากร่างของแม่
ที่ยังพอกินได้
เมื่อมาถึงฝั่ง เสือจากเขาไปโดยหันหน้าเข้าป่าและไม่กลับออกมาอีก นั่นคือสัญชาตญานแห่งความดิบเถื่อนในตัวเขาได้จากเขาไป
มันทำให้เขามีชีวิตรอด และเขาไม่มีวันจะได้พบเจอมันอีก เพราะเขาไม่อาจกลับไปเจอเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นครั้งที่ 2
ความเป็นจริงในชีวิตของเรานั้นโหดร้าย จึงไม่แปลกใจที่คนเราจะเลือกเชื่อในเรื่องที่แปลกประหลาดเพราะมันก่อให้เกิดกำลังใจ
และความหวัง ถ้าครอบครัวของคุณทำกับข้าวไม่อร่อย คุณกล้าพอไหมที่จะบอกความจริงกับเขา หรือเลือกที่จะบอกแค่ว่ามัน
จืด หรือ เค็ม มากกว่าจะบอกว่ามันรสชาติห่วยแตก
ความจริงที่เข้มข้นเกินไปจะฆ่าเรา
เรามักถูกสอนให้เข้าใจว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว คนทำชั่วได้ดีมีมากมายและนับวันมีแต่จะเรืองอำนาจมากขึ้น
ตำรวจที่เก็บส่วย ข้าราชการที่โกงกิน นักการเมืองที่เลือกรับผลโยชน์ แต่เราก็ยังเลือกที่จะสอนเด็กว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
เพราะบางครั้งคำลวงก็ก่อให้เกิดความหวังกับเรา
ถ้าต้องสอบภาษาอังกฤษให้ผ่าน โดยมีรางวัลเป็นสิ่งที่คุณต้องการ กับลงโทษถ้าคุณสอบตก คุณอยากที่จะเลือกแบบไหน
นั่นคือคำตอบที่ว่าทำไม คนเราจึงเชื่อเลือกศรัทธาในพระเจ้าหรือในสิ่งลี้ลับ เพราะการสอนถึงความโหดร้ายของปิศาจมันบั่นทอนกำลังใจ
การพูดว่าเรามีอะไร สำคัญกว่าการบอกว่าศัตรูมีอะไร เพราะแม้มันจะเป็นความจริง
แต่ความจริงนั้นจะทำให้เรากลัวและหมดหวัง
สุดท้ายไม่ว่าคุณจะเลือกเชื่อแบบไหน แต่จงจำไว้ว่าโลกของเราไม่อาจดำรงอยู่ได้ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียว
Life of pi ความจริงเจ็บปวดจนคนเราเลือกเชื่อในคำลวง
ผมพึ่งมีโอกาสได้ดูหนัง เรื่อง Life of pi หลังจากที่หนังฉายไปเป็นเวลากว่า 5 ปี
ผมอาจจะรู้สึกอินในเวลาที่ช้าไป แต่เชื่อเถอะว่ายังจะมีใครอีกหลายคนที่ได้ดู Life of pi หลังจากนี้แล้วรู้สึกเช่นเดียวกัน
กับผม ผมแค่อยากให้ใครสักคนในอนาคตได้อ่านมันและรู้สึกเช่นเดียวกัน
ความรู้สึกผมหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วผมเลือกที่จะเชื่อในเรื่องที่ 2 แม้ว่าจะชอบเรื่องแรกมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ผมกลับเลือกที่จะเชื่อเรื่องที่ 2
ฮายีน่าคือ พ่อครัว
ม้าลายคือ เด็ก
ลิง คือ แม่
เสือ คือ พาย
พายเจ็บปวดกับความจริงจนต้องเยียวยาหัวใจตัวเองโดยเรื่องจากจินตนาการ เขาจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไร้ซึ่งความหวังและเต็มไปด้วยการรอคอยที่ไม่รู้จุดหมาย เด็กหนุ่มผู้เห็นความตายและความโหดร้ายอยู่ตรงหน้า เขาหวาดกลัวและไม่พร้อมที่จะตาย เสื่อคือสัญชาตญานดิบในตัวของเขาที่ต้องมีในการเอาชีวิตรอด
เขาลอยคอท้อแท้อยู่ในทะเลจนกระทั่งคิดว่าเขาจะต้องตาย ความเชื่อคือสิ่งที่กดเขาไว้ (3ศาสนา) แต่สัญชาตญานจะพาให้เขารอด (เสือ)
เขาไม่อยากที่จะกินเนื้อสัตว์แต่สุดท้ายก็ต้องกินเพื่อประทังชีวิต
เขาคิดว่าจะตายแล้วหลายครั้งหลายครา เพราะความหวังจากเขาไป (พายุ เรือ) การที่เสือโดดลงน้ำนั่นอาจหมายถึงว่า
เขาได้พยายามที่จะทิ้งสัญชาตญานของตัวเองไป ยอมที่จะตายดีกว่าต้องกินเนื้อ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะรับมันขึ้นมา
ยอมรับการมีอยู่ในสัญชาตญาน ยอมรับในความรักชีวิตของตัวเอง
การมีอยู่ของริชาร์ด ปาร์คเกอร์ทำให้เขายังไม่ตาย นั่นคือหากไม่ทิ้งสัญชาตญานในการเอาชีวิตรอดไป เขาก็จะยังไม่ตาย
แม้มันจะขัดเเย้งกับสิ่งที่เขาเชื่อก็ตาม (ต้องกินมังเท่านั้น) พ่อของเขาบอกว่าลูกเลือกที่จะเชื่อ 3 ศาสนาไม่ได้ เพราะมันเท่ากับว่า
ลูกไม่เชื่ออะไรเลย เช่นเดียวกันในเวลานี้ เขาจะต้องเลือกเชื่อ ในตัวริชาร์ด ปาร์คเกอร์ หรือสัญชาตญานของเขามากกว่าเชื่อทุกอย่าง
เพราะความขัดแย้งนั้นจะฆ่าเขา
การที่เรือได้จากเขาไปมันทำให้เขารู้สึกว่าการรอคอยนั้นไม่มีจุดหมาย
เขายิงพลุขึ้นฟ้านั่นหมายถึงเขาได้พยายามทำทุกอย่างแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เมื่อไม่มีใครมองเห็น
มันจึงเหมือนกับว่าใครคนหนึ่งได้ ดับแสงเทียนแห่งความหวังของเขาลง เขาควรจะตายและยอมที่จะตาย
แต่เเล้วเขาก็มาถึงเกาะที่เป็นเหมือนป่าดงดิบเกาะนั้นทำให้เขามีชีวิตรอด
ความจริงก็คือเกาะนั้นไม่เคยมีอยู่เพราะเขาบอกว่าจะไม่มีใครพบเห็นมัน แท้จริงเเล้วเกาะนั้นคือร่างของแม่ของเขาที่ตายไป
ในวินาทีที่สิ้นหวังเพราะความหิวโหยจนสติแตกกระเจิง เขาก็เลือกที่จะกินสาหร่ายบนเกาะ
โดยที่นั่นคือร่างแม่ของเขา
พายใช้ประโยชน์จากร่างของแม่ ในการทำให้เขามีชีวิตรอด เขาจึงรู้สึกเหมือนมีหวังอีกครั้ง
เมียเเคทคือสัตว์ที่อยู่กลางทะเลทรายไม่มีวันที่จะมาอยู่กลางทะเล พวกมันจะอยู่ยังไงกินอะไรในจำนวนที่มากขนาดนั้น
และสังคมของเมียแคทไม่ได้อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่เป็นร้อยเป็นพันตัว
ดังนั้นเมียเเคทจึงคือหนอนที่ไชร่างแม่ของเขา เขาใช้มันเพื่อตกปลา (ซากปลาที่อยู่ในบ่อคือปลาที่เขาตกได้)
แต่เเล้วเขาก็ได้พบกับดอกไม้เขาจึงเอื้อมมือขึ้นไปเด็ดมัน ในนั้นมีฟันของมนุษย์ มันทำให้เขาตระหนักว่าเขาไม่อาจอยู่ที่นี้ต่อไปได้
มันคือเรื่องที่เป็นไปได้ยากที่ฟันของมนุษย์จะเข้าไปติดอยู่ในดอกไม้ ดอกไม้มีช่วงเวลาการเบ่งบานที่ไม่นาน
แต่ร่างกายของมนุษย์แหลกสลายจนเน่าเปื่อย เหลือแต่ฟันใช้เวลานานมาก
และความเป็นไปได้ที่ฟันจะไปติดอยู่ในดอกไม้บนกิ่งนั้นแสนยากลำบาก
ลองคิดดูว่าในวันที่ดอกไม้มีขนาดเล็กฟันจะถูกพยุงอยู่ลักษณะไหน
อีกด้านหนึ่งก็คือ เมื่อกินอิ่มแล้วสติก็กลับมาสัญชาตญานก็ทำงานน้อยลง เสือจึงเลือกที่จะกลับไปอยู่บนเรือ เศษซากฟันที่หลุดออกมาทำให้รู้ว่าร่างกายของแม่ที่ตายนั้นไม่อาจใช้ประโยชน์ได้อีก ความเป็นกรดของเกาะบอกให้เราเข้าใจว่า ร่างของแม่นั้นเน่าจนกระทั่งแม้ในตอนที่หิวจนขีดสุดเขาก็ไม่อาจจะกินมันได้อีก เขาควรทำใจทิ้งร่างของแม่ไปแล้วออกเดินทางต่อถ้าไม่อยากตายอยุ่ที่นี่ ความจริงที่น่าตกใจอีกอย่างคือเขานอนกับตัวเมียเเคทในวันที่สติฟั่นเฟือน นั่นหมายความว่าเขานอนเล่นกับร่างของเเม่ที่เต็มไปด้วยหนอนไชอย่างไม่รู้สึกรังเกียจ
เมื่อพายเลือกที่จะออกเดินทางต่อ เขาเก็บสาหร่ายบนเกาะไว้บนเรือและตุนซากเมียเเคทไว้เป็นอาหารของริชาร์ด ปาร์กเกอร์
นั่นคือเขาเลือกกินเนื้อส่วนของแม่ที่ยังกินได้ แล่บางส่วนติดไว้บนเรือเพื่อตากแห้ง สาหร่ายจึงเปรียบเสมือนเศษเนื้อจากร่างของแม่
ที่ยังพอกินได้
เมื่อมาถึงฝั่ง เสือจากเขาไปโดยหันหน้าเข้าป่าและไม่กลับออกมาอีก นั่นคือสัญชาตญานแห่งความดิบเถื่อนในตัวเขาได้จากเขาไป
มันทำให้เขามีชีวิตรอด และเขาไม่มีวันจะได้พบเจอมันอีก เพราะเขาไม่อาจกลับไปเจอเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นครั้งที่ 2
ความเป็นจริงในชีวิตของเรานั้นโหดร้าย จึงไม่แปลกใจที่คนเราจะเลือกเชื่อในเรื่องที่แปลกประหลาดเพราะมันก่อให้เกิดกำลังใจ
และความหวัง ถ้าครอบครัวของคุณทำกับข้าวไม่อร่อย คุณกล้าพอไหมที่จะบอกความจริงกับเขา หรือเลือกที่จะบอกแค่ว่ามัน
จืด หรือ เค็ม มากกว่าจะบอกว่ามันรสชาติห่วยแตก
ความจริงที่เข้มข้นเกินไปจะฆ่าเรา
เรามักถูกสอนให้เข้าใจว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว คนทำชั่วได้ดีมีมากมายและนับวันมีแต่จะเรืองอำนาจมากขึ้น
ตำรวจที่เก็บส่วย ข้าราชการที่โกงกิน นักการเมืองที่เลือกรับผลโยชน์ แต่เราก็ยังเลือกที่จะสอนเด็กว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
เพราะบางครั้งคำลวงก็ก่อให้เกิดความหวังกับเรา
ถ้าต้องสอบภาษาอังกฤษให้ผ่าน โดยมีรางวัลเป็นสิ่งที่คุณต้องการ กับลงโทษถ้าคุณสอบตก คุณอยากที่จะเลือกแบบไหน
นั่นคือคำตอบที่ว่าทำไม คนเราจึงเชื่อเลือกศรัทธาในพระเจ้าหรือในสิ่งลี้ลับ เพราะการสอนถึงความโหดร้ายของปิศาจมันบั่นทอนกำลังใจ
การพูดว่าเรามีอะไร สำคัญกว่าการบอกว่าศัตรูมีอะไร เพราะแม้มันจะเป็นความจริง
แต่ความจริงนั้นจะทำให้เรากลัวและหมดหวัง
สุดท้ายไม่ว่าคุณจะเลือกเชื่อแบบไหน แต่จงจำไว้ว่าโลกของเราไม่อาจดำรงอยู่ได้ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียว