??เพิ่งคุยกับพระอาจารย์ชาวพม่าที่ทรงภูมิสูงสุดด้านอภิธรรมมาหยกๆ ได้ความรู้เพิ่มมาอีกและแก้ไขความเข้าใจผิดเดิมๆดังนี้->??

...เวลาผมติดขัดในแง่มุมของพระอภิธรรมบางอย่าง  ผมมักจะโทรไปถามพระอาจารย์อภิธรรมชาวพม่า ซึ่งจบหลักสูตรพระอภิธรรมขั้นสูงสุด เป็นธัมมาจาริยะชั้นสุดท้าย.. ท่านพูดได้ 7 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย  ตอนนี้ท่านกำลังเรียนหลักสูตรปริญญาเอกทางปรัชญาที่มหาลัยแห่งหนึ่งที่เมือง Las  Vegas รัฐ Nevada , สหรัฐฯ ....อายุท่านเกือบ 80 แล้ว  แต่ผมยังดำปื๊ด ไม่มีหงอกสักเส้น  หน้าตาเหมือนอายุเพิ่ง 50 ต้นๆ  ..ท่านเจนจบแตกฉาน ทั้ง บาลี อรรถกถา ฏีกา  อนุฏีกา ..ฯฯ

...ได้แก้ไขความเข้าใจผิดบางอย่าง และ ได้ความรู้เพิ่มเติมในแง่อภิธรรมมาอีกบ้าง  ดังนี้....

1. เดิมผมเคยจำไว้ว่า วิญญาณ ที่กล่าวไว้ในปฏิจจสมุปบาท  มีองค์ธรรมคือ  โลกียวิบากจิต 32 ดวง..แต่ที่จริงคือ  วิบากจิต แค่ 19 ดวง เท่านั้น ที่มาเป็นปฏิสนธิวิญญาณได้ ( คือ สันตีรณจิต 2  มหาวิบากจิต 8  รูปาวจรวิบากจิต 5  และ อรูปาวจรวิบากจิต 4 )  (ต้องอย่าลืมว่า วิบากจิตมีทั้งหมด 36 ดวง)

2. ความหมายว่า  พระสกทาคามี คือผู้มาเกิดในโลกนี้อีกเพียงครั้งเดียว   หมายถึง  อาจจะมาเกิดในโลกมนุษย์นี้ได้อีกอย่างมากครั้งเดียว แต่อาจจะเกิดในภพอื่นๆที่สูงกว่ามนุษย์ ได้หลายๆครั้ง  เช่น ไปเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหม ได้เรื่อยๆอีกหลายๆชาติ  แต่ในความเป็นจริงโดยทั่วๆไป  ท่านจะเกิดอีกเพียงไม่กี่ชาติ  เพราะท่านเบื่อภพชาติอย่างยิ่งแล้ว

3. ความหมายว่า  พระโสดาบัน ประเภทสัตตักขัตตุฯ จะเกิดได้อีกไม่เกิน 7 ชาติ  นั่นคือความหมายแบบทั่วๆไป  เพราะมีปรากฏบางตัวอย่าง ที่พระโสดาบันอาจจะเกิดได้เกิน 7 ชาติ ...เช่น กรณีพระอินทร์ ที่ได้เป็นพระโสดาบันแล้ว ที่ปรากฏในอรรถกถาของสักกปัญหาสูตร  ก็เกิด 8 ชาติ  แต่กรณีแบบนี้มีน้อยมาก  เป็นข้อยกเว้นพิเศษสำหรับบางราย ../.และ ในประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในตำราชั้นต่างๆทุกๆระดับของศาสนาพุทธ  ปรากฏว่า  ไม่เคยมีตัวอย่างสักรายเดียว ว่า พระโสดาบันกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก... ทั้งหมด จะไปเกิดบนสวรรค์หรือพรหมกันหมด

4. ผู้ที่ไปเกิดในอบายภูมิ  เช่น สัตว์นรก เปรต  สัตว์เดรัจฉาน ฯ..ก็อาจจะมีสัญญาพิเศษเกิดขึ้นในจิต สามารถระลึกชาติได้เอง แต่มีน้อยรายอย่างยิ่ง เป็นกรณีพิเศษ

5. ตามหลักที่เรารู้ๆกันมาว่า  ผู้ที่ไปเกิดในอบายภูมิ  จะไปเกิดเพราะอกุศลวิบากจิต  เป็นอเหตุกบุคคล  ย่อมไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้   แต่ก็มีบางกรณี ปรากฏในเปตวัตถุ  ขุททกนิกาย  2 ตัวอย่าง คือ มีเวมานิกเปรต 2 ตน  ได้มาฟังธรรมพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ได้บรรลุโสดาบัน ...แสดงว่า กรณีแบบนี้เป็นกรณีพิเศษสำหรับบางราย (เวมานิกเปรต ถือ เป็นพวกที่เกิดในอบายภูมิ  เกิดด้วยอกุศลวิบากจิต)

     ...*** สุดท้าย  ท่านพระอาจารย์ได้แนะนำว่า  การอ่านตำรา อย่าอ่านเล่มเดียว  อย่ารู้เพียงมุมเดียว ด้านเดียว .. แต่ควรต้องอ่านให้หมดทุกๆเล่ม  รู้หลายๆมุม ทุกๆมุม ทุกๆด้าน ..แล้วเอามาเทียบเคียงกัน ..***

    (( ช่วงนี้ นานๆตั้งกระทู้ซะที  ...จึงมาตั้งกระทู้นี้ไว้  เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงต่อไป  สำหรับใครที่อยากรู้อะไรลึกๆบ้าง...))
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่