เราอยู่ญี่ปุ่นค่ะ ชอบกินมะม่วงเปรี้ยวมากกกก จะจิ้มกับน้ำพริก น้ำปลาหวานอะไรก็ได้ แต่ที่นี่ไม่มีขายเลยต้องทำเอง ทีนี้ครกมันราคา 2000เยน แต่ที่บีบน้ำผลไม้จากไดโสะราคาแค่100เยนเอง ถูกมาก
ดูแล้วคิดว่าน่าจะทดแทนครกได้...
ก็เลยซื้อมาลองทำน้ำพริกกะปิดู
วัตถุดิบ ที่เราใช้
1 พริกขี้หนูแช่แข็ง
2 กระเทียมสับ
3 น้ำตาลปี๊บ
4 น้ำตาลทราย
5 น้ำปลา
6 กะปิ
7 กรดมะนาว
ใครมีสูตรอะไรของตัวเองก็เตรียมไปตามนั้นนะคะ เพราะสูตรเราแค่ทำมาชดเชยความอยาก อะไรที่แพง+หายาก เราข้ามหมด ไม่ใส่ 55555555
วิธีทำ มีแค่ 3ขั้นตอนค่ะ ง่ายมาก
1) ขั้นตอนการบด
ใส่ทุกอย่างที่ปกติเราบดกับครกลงไปค่ะ แล้วก็หาของแข็งอย่างขวดโหล หรือ ด้ามช้อนมากดๆ ให้แตกละเอียด
สำหรับเราใส่พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับค่ะ
แล้วเอาขวดน้ำตาลบี้ๆ สลับกับเอาเล็บกดให้แตก แอบเหนื่อยหน่อย ขั้นตอนนี้ครกบดได้สบายกว่า
ยางของถุงสีชมพูเหนียว และแข็งแรงมาก โดนเล็บจิกยังไม่ขาด
2 ขั้นตอนการนวด
ใส่ทุกอย่างที่เหลือลงไป แล้วก็บีบๆ นวดๆ ให้มันคลุกเคล้ากัน อันนี้ง่ายมาก
3 ขั้นตอนชิมรส ขาดรสไหนก็เติมรสนั้น แล้วนวดใหม่ ชิมๆ นวดๆ จนกว่าจะพอใจ
เสร็จ 3ขั้นตอน เราก็ได้น้ำพริกกะปิมา 1ถ้วย อร่อยค่ะ
หลังจากนั้น ตอนล้าง คิดว่าล้างง่ายกว่าครกแน่ๆ แค่พลิกยางด้านในออก ตัวยางก็ออกแบบมาไม่ให้มีเศษอาหารเกาะติดได้ ถูกใจมากค่ะ ทีแรกนึกว่าจะล้างยากซะอีก
สรุปข้อดีข้อเสีย
- ที่บีบนวดอันนี้มีขนาดเล็ก ปริมาณที่ทำได้จะจำกัด
- ขั้นตอนบดเหนื่อยกว่าใช้ครกจริง
- เหมาะกับคนอยู่หอ ผู้ที่ไม่สะดวกใจจะให้มีเสียงตำน้ำพริกลอดออกไป
- พกพาสะดวก
- ทำความสะอาดง่าย
จริงๆ เราไม่เคยตำน้ำพริกมาก่อน แต่พอมาที่นี่แล้วอยากกิน เลยพยายามมั่วเอาด้วยสูตรจากเน็ทกับที่บีบน้ำผลไม้ ปรากฏว่า มันแทนกันได้ดีเลย
Review ตำน้ำพริกด้วยที่บีบน้ำผลไม้
ดูแล้วคิดว่าน่าจะทดแทนครกได้...
ก็เลยซื้อมาลองทำน้ำพริกกะปิดู
วัตถุดิบ ที่เราใช้
1 พริกขี้หนูแช่แข็ง
2 กระเทียมสับ
3 น้ำตาลปี๊บ
4 น้ำตาลทราย
5 น้ำปลา
6 กะปิ
7 กรดมะนาว
ใครมีสูตรอะไรของตัวเองก็เตรียมไปตามนั้นนะคะ เพราะสูตรเราแค่ทำมาชดเชยความอยาก อะไรที่แพง+หายาก เราข้ามหมด ไม่ใส่ 55555555
วิธีทำ มีแค่ 3ขั้นตอนค่ะ ง่ายมาก
1) ขั้นตอนการบด
ใส่ทุกอย่างที่ปกติเราบดกับครกลงไปค่ะ แล้วก็หาของแข็งอย่างขวดโหล หรือ ด้ามช้อนมากดๆ ให้แตกละเอียด
สำหรับเราใส่พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับค่ะ
แล้วเอาขวดน้ำตาลบี้ๆ สลับกับเอาเล็บกดให้แตก แอบเหนื่อยหน่อย ขั้นตอนนี้ครกบดได้สบายกว่า
ยางของถุงสีชมพูเหนียว และแข็งแรงมาก โดนเล็บจิกยังไม่ขาด
2 ขั้นตอนการนวด
ใส่ทุกอย่างที่เหลือลงไป แล้วก็บีบๆ นวดๆ ให้มันคลุกเคล้ากัน อันนี้ง่ายมาก
3 ขั้นตอนชิมรส ขาดรสไหนก็เติมรสนั้น แล้วนวดใหม่ ชิมๆ นวดๆ จนกว่าจะพอใจ
เสร็จ 3ขั้นตอน เราก็ได้น้ำพริกกะปิมา 1ถ้วย อร่อยค่ะ
หลังจากนั้น ตอนล้าง คิดว่าล้างง่ายกว่าครกแน่ๆ แค่พลิกยางด้านในออก ตัวยางก็ออกแบบมาไม่ให้มีเศษอาหารเกาะติดได้ ถูกใจมากค่ะ ทีแรกนึกว่าจะล้างยากซะอีก
สรุปข้อดีข้อเสีย
- ที่บีบนวดอันนี้มีขนาดเล็ก ปริมาณที่ทำได้จะจำกัด
- ขั้นตอนบดเหนื่อยกว่าใช้ครกจริง
- เหมาะกับคนอยู่หอ ผู้ที่ไม่สะดวกใจจะให้มีเสียงตำน้ำพริกลอดออกไป
- พกพาสะดวก
- ทำความสะอาดง่าย
จริงๆ เราไม่เคยตำน้ำพริกมาก่อน แต่พอมาที่นี่แล้วอยากกิน เลยพยายามมั่วเอาด้วยสูตรจากเน็ทกับที่บีบน้ำผลไม้ ปรากฏว่า มันแทนกันได้ดีเลย