วันนี้ขออนุญาตแบ่งปันนะครับ เป็นเมนูขนมหวานแบบง่ายๆ เลยนะครับ ไม่มีอะไรยุ่งยาก เด็กๆ ที่บ้านรวมถึงผู้ใหญ่ก็น่าจะชอบเมนูนี้เช่นกัน “ Mix berries cheese cake”
วัสดุหาซื้อได้ที่บ้านซุปเปอร์มาเก็ตได้เลยนะครับ วันนี้สูตรนี้ก็จะคล้ายๆ กับทั่วๆไปนะครับ แต่วันนี้จะทำแบบอบ ซึ่งอาจจะยุ่งยากนิดเดียวตอนอบ แต่อบก็ไม่ได้ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมายเลย พอดีผมไม่ได้ใช้น้ำรอง หรือฟอยด์ห่ออะไร แบบนั้น เพราะผมก็ค่อยเห็นความแตกต่างอะไรตรงไหนเลยน่ะครับ
ตอนอบเสร็จถ้ากังวลว่าหน้าจะยุบหรือะไร ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเสียอย่างไร หน้ามันก็ต้องยุบอยู่แล้วนะครับ ไม่มากก็น้อย จะให้เนียนกริ๊บเลย ก็อาจจะยากสักนิด เพราะมันเป็นชีสทั้งก้อน เป็นธรรมชาติอยู่แล้วน่ะครับ นอกจากว่าทำแบบไม่อบ ก็ทำเรียบๆ ได้ เวลาอบครบชั่วโมง แล้วจะเอาออกจากเตาเลย หรือบางท่านอาจจะค้างสักนิดนึงเตา หรือค้างนานๆ ก็ได้เช่นกัน แต่ของผมอบเสร็จก็เอาออกมาผึ่งข้างนอกไปเลย เพราะยังไงก็ยุบอยู่ดี
ส่วนฐานครัสต์อันนี้ผมผสมอัลมอนด์ลงไปเพราะผมชอบรสชาตินี้มากกว่าที่จะเป็นแครกเกอร์อย่างเดียว หรือถ้าไม่มีก็เอาแมคคาเดเมีย หรือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์มาบดผสมลงไปก็ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนผสม
ครัสต์
1. แครกเกอร์ 100 กรัม
2. อัลมอนดืป่น 80 กรัม
3. เนย 60 กรัม
4. เกลือ ½ ชา
เนื้อชีส
1. ชีส 300 กรัม
2. น้ำตาล 110 กรัม
3. ไข่ไก่ 3 ฟอง เบอร์ 1
4. ซาวครีม 100 กรัม
Berries
1. เบอรี่รวม หรือผลไม้อื่นก็ได้ 200 กรัม
2. น้ำตาล 200 กรัม (Option แป้งข้าวโพด แป้งกวนไส้)
Berries
วิธีทำ
1. ผสมเบอรี่กับน้ำตาล คลุกให้เข้ากัน แล้วแช่เย็นไว้สัก 1 คืน หรือ 2 คืนก็ได้
2. ตั้งไฟอ่อนๆ แล้วค่อยๆ กวนไป (บางทีก็อาจจะใส่แป้งข้าวโพดลงไปนิดหน่อยให้เหนียว หรือถ้ามีแป้งกวนไส้ก็ได้เช่นเดียวกัน) แต่ถ้ากวนไปเรื่อยๆ ตัวน้ำตาลก็จะงวดเหนียวเอง แต่อาจจะใช้วเวลาสักนิด
3. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด แล้วก็ผสมกับอัลมอนด์ป่น และเนยเข้าด้วยกัน
4. เตรียมพิมพ์แกะข้างไว้และรองด้วยกระดาษไข เวลาแกะออกก็ง่ายกว่า
5. อบไฟ 170 องศา ประมาณ 8 นาที
6. ผสมชีสสองตัวให้เข้ากัน ตีด้วยความเร็วปานกลาง และเติมน้ำตาลลงไป ตีให้เข้า
กัน
7. ค่อยเทไข่ลงไปแล้วก็ตีความเร็วช้าๆ ให้เนียนเข้ากันดี บางท่านอาจจะใส่กลิ่น รส อะไรลงไปก็ได้เช่นกัน
8. เทชีสลงไปในพิมพ์ แล้วนำเข้าเตาอบ ไฟ 150 องศา ไฟล่าง 1 ชั่วโมง ไม่ได้ใส่น้ำ หรือห่อฟอยด์ใดๆ แต่ถ้าบางท่านอาจจะใส่น้ำแล้วห่อฟอยด์ แต่ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีความแตกต่างตรงไหน
9. ครบ 1 ชั่วโมงก็เอาออกมาให้หายเย็น และแช่เย็นไว้ ค้างคืนนะครับ ถ้าแกะเลยก็อาจจะลำบากเพราะมันยังไม่เซ็ทตัวดี
10. ตกแต่งตามใจชอบได้เลยนะครับ
https://fillerneckfood.blogspot.com/ 
แบ่งปันครับ เมนูชีสเค้กแบบอบ “ Mix Berries cheese cake”
วัสดุหาซื้อได้ที่บ้านซุปเปอร์มาเก็ตได้เลยนะครับ วันนี้สูตรนี้ก็จะคล้ายๆ กับทั่วๆไปนะครับ แต่วันนี้จะทำแบบอบ ซึ่งอาจจะยุ่งยากนิดเดียวตอนอบ แต่อบก็ไม่ได้ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมายเลย พอดีผมไม่ได้ใช้น้ำรอง หรือฟอยด์ห่ออะไร แบบนั้น เพราะผมก็ค่อยเห็นความแตกต่างอะไรตรงไหนเลยน่ะครับ
ตอนอบเสร็จถ้ากังวลว่าหน้าจะยุบหรือะไร ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเสียอย่างไร หน้ามันก็ต้องยุบอยู่แล้วนะครับ ไม่มากก็น้อย จะให้เนียนกริ๊บเลย ก็อาจจะยากสักนิด เพราะมันเป็นชีสทั้งก้อน เป็นธรรมชาติอยู่แล้วน่ะครับ นอกจากว่าทำแบบไม่อบ ก็ทำเรียบๆ ได้ เวลาอบครบชั่วโมง แล้วจะเอาออกจากเตาเลย หรือบางท่านอาจจะค้างสักนิดนึงเตา หรือค้างนานๆ ก็ได้เช่นกัน แต่ของผมอบเสร็จก็เอาออกมาผึ่งข้างนอกไปเลย เพราะยังไงก็ยุบอยู่ดี
ส่วนฐานครัสต์อันนี้ผมผสมอัลมอนด์ลงไปเพราะผมชอบรสชาตินี้มากกว่าที่จะเป็นแครกเกอร์อย่างเดียว หรือถ้าไม่มีก็เอาแมคคาเดเมีย หรือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์มาบดผสมลงไปก็ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนผสม
ครัสต์
1. แครกเกอร์ 100 กรัม
2. อัลมอนดืป่น 80 กรัม
3. เนย 60 กรัม
4. เกลือ ½ ชา
เนื้อชีส
1. ชีส 300 กรัม
2. น้ำตาล 110 กรัม
3. ไข่ไก่ 3 ฟอง เบอร์ 1
4. ซาวครีม 100 กรัม
Berries
1. เบอรี่รวม หรือผลไม้อื่นก็ได้ 200 กรัม
2. น้ำตาล 200 กรัม (Option แป้งข้าวโพด แป้งกวนไส้)
Berries
วิธีทำ
1. ผสมเบอรี่กับน้ำตาล คลุกให้เข้ากัน แล้วแช่เย็นไว้สัก 1 คืน หรือ 2 คืนก็ได้
2. ตั้งไฟอ่อนๆ แล้วค่อยๆ กวนไป (บางทีก็อาจจะใส่แป้งข้าวโพดลงไปนิดหน่อยให้เหนียว หรือถ้ามีแป้งกวนไส้ก็ได้เช่นเดียวกัน) แต่ถ้ากวนไปเรื่อยๆ ตัวน้ำตาลก็จะงวดเหนียวเอง แต่อาจจะใช้วเวลาสักนิด
3. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด แล้วก็ผสมกับอัลมอนด์ป่น และเนยเข้าด้วยกัน
4. เตรียมพิมพ์แกะข้างไว้และรองด้วยกระดาษไข เวลาแกะออกก็ง่ายกว่า
5. อบไฟ 170 องศา ประมาณ 8 นาที
6. ผสมชีสสองตัวให้เข้ากัน ตีด้วยความเร็วปานกลาง และเติมน้ำตาลลงไป ตีให้เข้า
กัน
7. ค่อยเทไข่ลงไปแล้วก็ตีความเร็วช้าๆ ให้เนียนเข้ากันดี บางท่านอาจจะใส่กลิ่น รส อะไรลงไปก็ได้เช่นกัน
8. เทชีสลงไปในพิมพ์ แล้วนำเข้าเตาอบ ไฟ 150 องศา ไฟล่าง 1 ชั่วโมง ไม่ได้ใส่น้ำ หรือห่อฟอยด์ใดๆ แต่ถ้าบางท่านอาจจะใส่น้ำแล้วห่อฟอยด์ แต่ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีความแตกต่างตรงไหน
9. ครบ 1 ชั่วโมงก็เอาออกมาให้หายเย็น และแช่เย็นไว้ ค้างคืนนะครับ ถ้าแกะเลยก็อาจจะลำบากเพราะมันยังไม่เซ็ทตัวดี
10. ตกแต่งตามใจชอบได้เลยนะครับ
https://fillerneckfood.blogspot.com/