ตอน 1
https://ppantip.com/topic/36150781
ตอน 2 Sri Pada
https://ppantip.com/topic/36151502
ตอน 3 Kandy
https://ppantip.com/topic/36180251
ตอน 4 Dambulla - Sigiriya
https://ppantip.com/topic/36207776
ตอน 5 Polonnaruwa
https://ppantip.com/topic/36240013
ตอน 6-1 Anuradhpurah
https://ppantip.com/topic/36268829
ตอน 6-2 Anuradhpurah
https://ppantip.com/topic/36268970
ตอน 7-1 Colombo
https://ppantip.com/topic/36302037
ตอน 7-2 Colombo-Thailand
https://ppantip.com/topic/36302217
รุ่งเช้าวันที่ 7 ตื่นแล้วก็เดินออกไปหาข้าวเช้ากินกันที่ร้านเมื่อวานตอนกลางวัน เขาเปิดขายแต่เช้าเลย ร้านนี้มีแต่คนท้องถิ่นมากินข้าวกัน ขนมปังจะก้อนใหญ่และแข็งมาก พี่สาวเราบอกว่าเห็นเขากินจิ้มกับแกงแทนข้าว เวลาเราสั่งข้าวจะสั่งกันแค่จานเดียวเพราะมันเยอะมาก ขนาดผู้ชายศรีลังกายังกินเหลือเกือบครึ่งเลย เด็กเสริฟ์ผู้หญิงที่นี่ไม่รู้กลัวอะไรกับเราสองคน เดินแจกทิชชู่ให้ทุกโต๊ะแต่เดินผ่านโต๊ะเราไปเลย ไม่ยอมสบตาด้วย ไม่ยอมมารับออเดอร์ เราเลยต้องสั่งกับพนักงานชายแทน เข้าใจว่าพวกเธออาจพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เลยเลี่ยงๆ พวกเรา หน้าตาคนที่นี่จะดุๆ ผิวจะคล้ำมากเพราะที่นี่แดดแรงกว่าทุกเมืองที่เราผ่านมา แต่พอวันสุดท้ายก่อนกลับเด็กเสริฟ์เริ่มเป็นมิตรยิ้มให้กับเราสองคนแล้ว
เราเช่ารถจักรยานของโรงแรมในราคาคันละ 100 บาทต่อวัน การขี่จักรยานที่เมืองนี้ต้องมั่นใจมากๆ นะคะ เพราะถนนที่นี่ใหญ่ รถเยอะ และโบราณสถานแต่ละแห่งไม่ได้อยู่รวมตัวกันนะคะ เราใช้เวลาในการขี่ทั้งหมด 6 ชั่วโมง แดดก็แรงมากๆ ไม่ค่อยมีใครขี่จักรยานกัน ส่วนมากจะเช่าตุ๊กตุ๊กหรือมากับรถบัสทัวร์ มีร้านเช่าและซ่อมจักรยานอยู่ระหว่างเส้นทางในอุทยาน เราเห็นมีอยู่ร้านเดียว ถ้าใครอยากขี่จักรยานจริงๆ ก็เช่าที่โรงแรมไปเลยดีกว่า
อุทยานประวัติศาสตร์ที่นี่จะเป็นวัดที่ให้คนไปกราบไหว้บูชาทำพิธีบูชา หรือเป็นวัดเก่าแล้วแต่บูรณะใหม่ คนศรีลังกาจะไปวัดกันเยอะดีค่ะ เราไปหมดทุกที่ค่ะ แต่ขากลับไม่ได้แวะพิพิธภัณฑ์ตรงประตูทางออก และพี่สาวเราก็จักรยานล้มเพราะตอนที่รอรถขับผ่านไปตรงทางแยก เธอเอาเท้าข้างที่เจ็บวางลงกับพื้น ทำให้เสียหลัก คนศรีลังกาที่ขับขี่ผ่านไปมารีบลงมาช่วยและถามไถ่อย่างเป็นห่วง แต่พี่สาวเราก็บอกว่าไม่เป็นไร ไปต่อได้ สักพักต้องจูงจักรยานแทนขี่เพราะเธอขี่ไม่ไหว จนจวนจะใกล้ถึงที่พักแล้วถึงกลับมาขี่ต่อได้
เริ่มจากที่แรกเป็นวัดอิสิรุมินิยะ แล้วก็ขี่ไปอีกหลายที่จนจำชื่อไม่ได้แล้ว ขี่เข้าๆ ออกๆ ไปตามถนนใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ละแห่งอยู่ไกลกันพอสมควรค่ะ ต้องถามทางจากยามที่เป็นทหารหรือชาวบ้านค่ะ
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ค่ะ
ที่นี่ต้องเสียค่าตั๋วเหมือนกับ Kandy 10 ดอลล่าร์, Sigiriya 30 ดอลล่าร์ ส่วน Polonnaruwa และ อนุราธปุระ 25 ดอลล่าร์ ถึงหน้าตั๋วจะบอกราคาเป็นดอลล่าร์แต่ก็ต้องจ่ายเป็นเงินรูปีศรีลังกาค่ะ แต่รู้สึกว่าที่วัดอิสิรุมุนิยะยังไม่ต้องเสียค่าตั๋วนะคะ จะไปเสียค่าตั๋วอีกทีน่าจะเป็นวัดที่มีเจดีย์องค์ใหญ่สีขาวค่ะ ที่วัดอิสิรุมุนิยะตอนออกมาเราถามทางเจ้าหน้าที่เพื่อจะขี่จักรยานไปแห่งต่อไป เจ้าหน้าที่พอรู้ว่าเราเป็นคนไทย ก็แสดงความเสียใจที่ในหลวงสวรรคตและรู้ด้วยว่าคนไทยจะไว้ทุกข์ 1 ปี ถึงบทสนทนานี้จะทำให้เราเศร้าเพราะคิดถึงพระองค์ท่าน แต่เราก็ภูมิใจที่พระองค์ท่านทรงเป็นบุคคลที่เคารพนับถือของคนต่างชาติต่างภาษากับเราด้วย ทุกวันนี้ตื่นขึ้นมาก็ยังคิดถึงพระองค์ท่าน
โบราณสถานที่อนุราธปุระก็สวยและอลังการนะคะ ถ้าไม่อยากขี่จักรยานให้ลำบากก็เช่าตุ๊กตุ๊กแต่เราไม่รู้เท่าไรนะคะเพราะไม่ได้ถามราคาไว้เลย เราสองคนเดินป้วนเปี้ยนในตัวเมืองจนมีตุ๊กตุ๊กคนนึงจำเราสองคนได้ เพราะเจอเขาตั้งแต่หน้าโรงแรม ในโบราณสถาน แล้วยังมาเจอในตัวเมืองอีก ไม่น่าเจอกันง่ายๆ นะคะเพราะที่นี่ใหญ่มาก แต่เขาก็คงตระเวนไปตามแหล่งที่นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราไปแหละค่ะ
สถานที่แห่งที่สองจะเป็นสถูปค่ะ ที่นี่นอกจากจะมีพุทธศาสนิกชนมากราบไหว้พระพุทธองค์แล้ว ยังมีพระสงฆ์และภิกษุณีมานั่งสมาธิใต้ร่มไม้ค่ะ หน้าประตูทางเข้า-ออกจะมีห้องน้ำให้เข้าฟรี แต่อย่าหลงกลป้าๆ หน้าห้องน้ำเหมือนเรานะคะ เสียตังค์ไปให้ป้าตั้ง 20 บาทแน่ะ ป้าดีใจมาก จับมือเราแน่นเลย แล้วเราก็มานึกออกว่าที่ Polonnaruwa ก็มีห้องน้ำสะอาดด้วยและให้เข้าฟรี เราคงถูกป้าหลอกแล้ว ไม่เป็นไร ถือซะว่าทำบุญ
โลหะปราสาทค่ะ แต่สมบูรณ์ที่สุดคือโลหะปราสาทบ้านเราค่ะ
กลับมาถึงที่พักบ่ายสามโมง ออกไปตั้งแต่เก้าโมงเช้า ตกเย็นเราก็เดินกันไปหาของกินเหมือนเดิม คราวนี้ไปร้านใหม่ใกล้ๆ กับโรงแรมขนาดใหญ่ มองด้านนอกไม่กล้าเข้าไปเหมือนร้านเหล้าต่างจังหวัดบ้านเราดูมืดๆ แต่พอเดินเข้าไปเป็นร้านขายข้าวราดแกง ได้บะหมี่ผัดมา 1 กล่องกับไก่ทอด อร่อยดีค่ะ รู้งี้แวะไปตั้งแต่วันแรกที่มาถึงแล้ว
ร้านเบเกอรี่ที่เราบอกว่าอยู่ตรงข้างๆ สถานีรถบัสใหม่ ก็เข้าไปกินขนม เครื่องดื่มได้นะคะ มีเค้ก ขนมปัง แต่เครื่องดื่มคือพวกน้ำอัดลม หรือนมกล่องแช่ตู้เย็น แต่มีกาแฟร้อนค่ะ ติดแอร์ด้วยไปหลบร้อนได้
ที่พักที่นี่เราก็เจอคนจีนไม่รู้ว่าทะเลาะหรือคุยกันธรรมดา เพราะเปิดปิดประตูห้องพักและโวยวายเสียงดังมากๆ เป็นสิบๆ รอบ พอเราโผล่หน้าออกไปก็ไม่เจอตัว แต่เราก็ไม่ได้ไปเคาะห้องบอกอะไรหรอกค่ะ ไม่อยากมีเรื่อง ดีที่เจอแค่คืนเดียวเขาก็เช็คเอาท์ออกไป
วันที่ 8 เตรียมตัวเดินทางไปโคลอมโบ ตื่นเช้ามาเดินไปร้านขายข้าวแกงตรงข้ามกับสถานีรถบัสใหม่แห่งเดิม พี่สาวเราเห็นผัดเส้นหมี่ก็ตื่นเต้น เราเลยสั่งให้คนละจานเลย ปรากฏว่าเธอกินไปได้คำเดียวแล้วทำหน้าผะอืดผะอม เนื่องจากว่าเขาไปผัดกับน้ำมันอะไรไม่รู้ มันจะมีกลิ่นแปลกๆ แต่เรากินได้เกือบหมดจานเลย พี่สาวเราก็เลยสั่งขนมปังมากินกับชานมแทน ส่วนผัดเส้นหมี่ก็ห่อใส่กล่องเอาไปฝากแม่บ้านที่โรงแรมพร้อมทิปก่อนเราจะเช็คเอาท์ออกค่ะ
ออกมาหน้าโรงแรมเจอตุ๊กตุ๊กพาไปส่งที่สถานีรถบัสแห่งเก่า พอเห็นเส้นทางที่รถบัสขับมารู้สึกคุ้นๆ ตา อ้าวนี่มันซอยโรงแรมที่เราพักนี่น่า ถ้าเรารอตรงป้ายรถเมล์ก็ขึ้นรถบัสคันนี้ได้ สรุปว่าทุกเมืองรถบัสจะวิ่งวนในเมืองเพื่อเก็บผู้โดยสารก่อนออกนอกเมือง เพียงแต่เราต้องรู้ว่าจะขึ้นฝั่งไหน เสียรู้ตุ๊กตุ๊กอีกแล้ว จากเมืองนี้เดินทางไปโคลอมโบใช้เวลา 5 ชั่วโมง ค่าตั๋วคนละ 90 บาท
ศรีลังกาเดินทางไม่ยาก แค่อึดนิดหน่อย ตอน 6-2 Anuraddhapurah
ตอน 2 Sri Pada https://ppantip.com/topic/36151502
ตอน 3 Kandy https://ppantip.com/topic/36180251
ตอน 4 Dambulla - Sigiriya https://ppantip.com/topic/36207776
ตอน 5 Polonnaruwa https://ppantip.com/topic/36240013
ตอน 6-1 Anuradhpurah https://ppantip.com/topic/36268829
ตอน 6-2 Anuradhpurah https://ppantip.com/topic/36268970
ตอน 7-1 Colombo https://ppantip.com/topic/36302037
ตอน 7-2 Colombo-Thailand https://ppantip.com/topic/36302217
รุ่งเช้าวันที่ 7 ตื่นแล้วก็เดินออกไปหาข้าวเช้ากินกันที่ร้านเมื่อวานตอนกลางวัน เขาเปิดขายแต่เช้าเลย ร้านนี้มีแต่คนท้องถิ่นมากินข้าวกัน ขนมปังจะก้อนใหญ่และแข็งมาก พี่สาวเราบอกว่าเห็นเขากินจิ้มกับแกงแทนข้าว เวลาเราสั่งข้าวจะสั่งกันแค่จานเดียวเพราะมันเยอะมาก ขนาดผู้ชายศรีลังกายังกินเหลือเกือบครึ่งเลย เด็กเสริฟ์ผู้หญิงที่นี่ไม่รู้กลัวอะไรกับเราสองคน เดินแจกทิชชู่ให้ทุกโต๊ะแต่เดินผ่านโต๊ะเราไปเลย ไม่ยอมสบตาด้วย ไม่ยอมมารับออเดอร์ เราเลยต้องสั่งกับพนักงานชายแทน เข้าใจว่าพวกเธออาจพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เลยเลี่ยงๆ พวกเรา หน้าตาคนที่นี่จะดุๆ ผิวจะคล้ำมากเพราะที่นี่แดดแรงกว่าทุกเมืองที่เราผ่านมา แต่พอวันสุดท้ายก่อนกลับเด็กเสริฟ์เริ่มเป็นมิตรยิ้มให้กับเราสองคนแล้ว
เราเช่ารถจักรยานของโรงแรมในราคาคันละ 100 บาทต่อวัน การขี่จักรยานที่เมืองนี้ต้องมั่นใจมากๆ นะคะ เพราะถนนที่นี่ใหญ่ รถเยอะ และโบราณสถานแต่ละแห่งไม่ได้อยู่รวมตัวกันนะคะ เราใช้เวลาในการขี่ทั้งหมด 6 ชั่วโมง แดดก็แรงมากๆ ไม่ค่อยมีใครขี่จักรยานกัน ส่วนมากจะเช่าตุ๊กตุ๊กหรือมากับรถบัสทัวร์ มีร้านเช่าและซ่อมจักรยานอยู่ระหว่างเส้นทางในอุทยาน เราเห็นมีอยู่ร้านเดียว ถ้าใครอยากขี่จักรยานจริงๆ ก็เช่าที่โรงแรมไปเลยดีกว่า
อุทยานประวัติศาสตร์ที่นี่จะเป็นวัดที่ให้คนไปกราบไหว้บูชาทำพิธีบูชา หรือเป็นวัดเก่าแล้วแต่บูรณะใหม่ คนศรีลังกาจะไปวัดกันเยอะดีค่ะ เราไปหมดทุกที่ค่ะ แต่ขากลับไม่ได้แวะพิพิธภัณฑ์ตรงประตูทางออก และพี่สาวเราก็จักรยานล้มเพราะตอนที่รอรถขับผ่านไปตรงทางแยก เธอเอาเท้าข้างที่เจ็บวางลงกับพื้น ทำให้เสียหลัก คนศรีลังกาที่ขับขี่ผ่านไปมารีบลงมาช่วยและถามไถ่อย่างเป็นห่วง แต่พี่สาวเราก็บอกว่าไม่เป็นไร ไปต่อได้ สักพักต้องจูงจักรยานแทนขี่เพราะเธอขี่ไม่ไหว จนจวนจะใกล้ถึงที่พักแล้วถึงกลับมาขี่ต่อได้
เริ่มจากที่แรกเป็นวัดอิสิรุมินิยะ แล้วก็ขี่ไปอีกหลายที่จนจำชื่อไม่ได้แล้ว ขี่เข้าๆ ออกๆ ไปตามถนนใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ละแห่งอยู่ไกลกันพอสมควรค่ะ ต้องถามทางจากยามที่เป็นทหารหรือชาวบ้านค่ะ
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ค่ะ
ที่นี่ต้องเสียค่าตั๋วเหมือนกับ Kandy 10 ดอลล่าร์, Sigiriya 30 ดอลล่าร์ ส่วน Polonnaruwa และ อนุราธปุระ 25 ดอลล่าร์ ถึงหน้าตั๋วจะบอกราคาเป็นดอลล่าร์แต่ก็ต้องจ่ายเป็นเงินรูปีศรีลังกาค่ะ แต่รู้สึกว่าที่วัดอิสิรุมุนิยะยังไม่ต้องเสียค่าตั๋วนะคะ จะไปเสียค่าตั๋วอีกทีน่าจะเป็นวัดที่มีเจดีย์องค์ใหญ่สีขาวค่ะ ที่วัดอิสิรุมุนิยะตอนออกมาเราถามทางเจ้าหน้าที่เพื่อจะขี่จักรยานไปแห่งต่อไป เจ้าหน้าที่พอรู้ว่าเราเป็นคนไทย ก็แสดงความเสียใจที่ในหลวงสวรรคตและรู้ด้วยว่าคนไทยจะไว้ทุกข์ 1 ปี ถึงบทสนทนานี้จะทำให้เราเศร้าเพราะคิดถึงพระองค์ท่าน แต่เราก็ภูมิใจที่พระองค์ท่านทรงเป็นบุคคลที่เคารพนับถือของคนต่างชาติต่างภาษากับเราด้วย ทุกวันนี้ตื่นขึ้นมาก็ยังคิดถึงพระองค์ท่าน
โบราณสถานที่อนุราธปุระก็สวยและอลังการนะคะ ถ้าไม่อยากขี่จักรยานให้ลำบากก็เช่าตุ๊กตุ๊กแต่เราไม่รู้เท่าไรนะคะเพราะไม่ได้ถามราคาไว้เลย เราสองคนเดินป้วนเปี้ยนในตัวเมืองจนมีตุ๊กตุ๊กคนนึงจำเราสองคนได้ เพราะเจอเขาตั้งแต่หน้าโรงแรม ในโบราณสถาน แล้วยังมาเจอในตัวเมืองอีก ไม่น่าเจอกันง่ายๆ นะคะเพราะที่นี่ใหญ่มาก แต่เขาก็คงตระเวนไปตามแหล่งที่นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราไปแหละค่ะ
สถานที่แห่งที่สองจะเป็นสถูปค่ะ ที่นี่นอกจากจะมีพุทธศาสนิกชนมากราบไหว้พระพุทธองค์แล้ว ยังมีพระสงฆ์และภิกษุณีมานั่งสมาธิใต้ร่มไม้ค่ะ หน้าประตูทางเข้า-ออกจะมีห้องน้ำให้เข้าฟรี แต่อย่าหลงกลป้าๆ หน้าห้องน้ำเหมือนเรานะคะ เสียตังค์ไปให้ป้าตั้ง 20 บาทแน่ะ ป้าดีใจมาก จับมือเราแน่นเลย แล้วเราก็มานึกออกว่าที่ Polonnaruwa ก็มีห้องน้ำสะอาดด้วยและให้เข้าฟรี เราคงถูกป้าหลอกแล้ว ไม่เป็นไร ถือซะว่าทำบุญ
โลหะปราสาทค่ะ แต่สมบูรณ์ที่สุดคือโลหะปราสาทบ้านเราค่ะ
กลับมาถึงที่พักบ่ายสามโมง ออกไปตั้งแต่เก้าโมงเช้า ตกเย็นเราก็เดินกันไปหาของกินเหมือนเดิม คราวนี้ไปร้านใหม่ใกล้ๆ กับโรงแรมขนาดใหญ่ มองด้านนอกไม่กล้าเข้าไปเหมือนร้านเหล้าต่างจังหวัดบ้านเราดูมืดๆ แต่พอเดินเข้าไปเป็นร้านขายข้าวราดแกง ได้บะหมี่ผัดมา 1 กล่องกับไก่ทอด อร่อยดีค่ะ รู้งี้แวะไปตั้งแต่วันแรกที่มาถึงแล้ว
ร้านเบเกอรี่ที่เราบอกว่าอยู่ตรงข้างๆ สถานีรถบัสใหม่ ก็เข้าไปกินขนม เครื่องดื่มได้นะคะ มีเค้ก ขนมปัง แต่เครื่องดื่มคือพวกน้ำอัดลม หรือนมกล่องแช่ตู้เย็น แต่มีกาแฟร้อนค่ะ ติดแอร์ด้วยไปหลบร้อนได้
ที่พักที่นี่เราก็เจอคนจีนไม่รู้ว่าทะเลาะหรือคุยกันธรรมดา เพราะเปิดปิดประตูห้องพักและโวยวายเสียงดังมากๆ เป็นสิบๆ รอบ พอเราโผล่หน้าออกไปก็ไม่เจอตัว แต่เราก็ไม่ได้ไปเคาะห้องบอกอะไรหรอกค่ะ ไม่อยากมีเรื่อง ดีที่เจอแค่คืนเดียวเขาก็เช็คเอาท์ออกไป
วันที่ 8 เตรียมตัวเดินทางไปโคลอมโบ ตื่นเช้ามาเดินไปร้านขายข้าวแกงตรงข้ามกับสถานีรถบัสใหม่แห่งเดิม พี่สาวเราเห็นผัดเส้นหมี่ก็ตื่นเต้น เราเลยสั่งให้คนละจานเลย ปรากฏว่าเธอกินไปได้คำเดียวแล้วทำหน้าผะอืดผะอม เนื่องจากว่าเขาไปผัดกับน้ำมันอะไรไม่รู้ มันจะมีกลิ่นแปลกๆ แต่เรากินได้เกือบหมดจานเลย พี่สาวเราก็เลยสั่งขนมปังมากินกับชานมแทน ส่วนผัดเส้นหมี่ก็ห่อใส่กล่องเอาไปฝากแม่บ้านที่โรงแรมพร้อมทิปก่อนเราจะเช็คเอาท์ออกค่ะ
ออกมาหน้าโรงแรมเจอตุ๊กตุ๊กพาไปส่งที่สถานีรถบัสแห่งเก่า พอเห็นเส้นทางที่รถบัสขับมารู้สึกคุ้นๆ ตา อ้าวนี่มันซอยโรงแรมที่เราพักนี่น่า ถ้าเรารอตรงป้ายรถเมล์ก็ขึ้นรถบัสคันนี้ได้ สรุปว่าทุกเมืองรถบัสจะวิ่งวนในเมืองเพื่อเก็บผู้โดยสารก่อนออกนอกเมือง เพียงแต่เราต้องรู้ว่าจะขึ้นฝั่งไหน เสียรู้ตุ๊กตุ๊กอีกแล้ว จากเมืองนี้เดินทางไปโคลอมโบใช้เวลา 5 ชั่วโมง ค่าตั๋วคนละ 90 บาท