ตอน 1    https://ppantip.com/topic/36150781
ตอน 2    Sri Pada   https://ppantip.com/topic/36151502
ตอน 3    Kandy https://ppantip.com/topic/36180251
ตอน 4   Dambulla - Sigiriya  https://ppantip.com/topic/36207776
ตอน 5   Polonnaruwa  https://ppantip.com/topic/36240013
ตอน 6-1 Anuradhpurah  https://ppantip.com/topic/36268829
ตอน 6-2 Anuradhpurah https://ppantip.com/topic/36268970
ตอน 7-1 Colombo  https://ppantip.com/topic/36302037
ตอน 7-2 Colombo-Thailand https://ppantip.com/topic/36302217

วันที่ 6 ตื่นเช้ากินอาหารของที่พักเรียบร้อย เตรียมเดินทางไปเมืองอนุราธปุระ ซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายก่อนจะเดินทางย้อนกลับไปที่โคลอมโบ จากเกสต์เฮาส์จะเดินไปขึ้นรถบัสไปเมืองอนุราธปุระ ยังไม่รู้ว่าจะขึ้นรถบัสได้ที่ไหน เจอคุณตำรวจจราจรเราก็เลยถาม คุณตำรวจก็บอกว่าให้ยืนรอฝั่งนี้แหละ แต่พี่สาวเราไม่เชื่อ เธอเดินไปถามกับร้านอาหารที่เราฝากท้องกันตลอด 2 วัน แล้วบอกว่าต้องไปขึ้นรถฝั่งตรงข้าม เจอตุ๊กตุ๊กบอกว่าเดี๋ยวพาไปส่งที่ท่ารถเลยจะได้มีที่นั่ง ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เสียค่ารถตุ๊กตุ๊กไป 50 บาท แล้วรถบัสก็ขับย้อนกลับมาทางเดิมที่คุณตำรวจจราจรยืนประจำที่อยู่ ดูสิเสียตังค์ค่าตุ๊กตุ๊กไปฟรีฟรีเลย เพราะรถบัสก็ยังว่างมีที่นั่งเพียบ

ร้านค้าบริเวณรอบๆ สถานีรถบัสเมือง Polonnaruwa แต่แถวหอนาฬิกาที่เราพักไม่มีร้านแบบนี้สักร้าน

สถานีรถไฟ นั่งกลับโคลอมโบได้ แต่ใช้เวลา 10 ชั่วโมง

แปลงข้าว มีข้าวกล้องด้วย แต่ส่วนมากก็เจอแต่ข้าวขาว

นั่งรถบัสไปอนุราธปุระ

ค่ารถบัสไม่กี่สิบบาทเหมือนเคย รถไม่ติด ได้ชมวิวทะเลสาบ วัด บ้าน ตลอดทางเพลินตาค่ะ ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงก็ถึงอนุราธปุระ ที่นี่แตกต่างจาก Polonnaruwa มาก เพราะมีความเป็นเมืองและใหญ่กว่าหลายเท่า ตอนแรกตั้งใจว่าจะปีนเขามหินทเลที่อยู่ห่างออกไป 11 กิโล แต่พรุ่งนี้จะขี่จักรยานเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์กัน ก็เลยคิดว่าถนอมเนื้อถนอมตัวเอาไว้ดีกว่า พอเข้าตัวเมืองอนุราธปุระ กระเป๋ารถก็เดินมาบอกให้เราลงตรงป้ายรถเมล์ที่มีตุ๊กตุ๊กจอดอยู่เพื่อให้เราเรียกรถไปโรงแรมกันต่อ

เราจองที่พักไว้ที่ City Resort ที่พักก็พอพักได้ แต่ไม่มีอาหารเช้าให้ ต้องเสียต่างหากคนละ 5 ดอลล่าร์ แต่เราออกไปหากินกันเองข้างนอก โรงแรมให้เช็คอินได้ตอนบ่ายสอง ห้ามเข้าพักก่อน เราไปถึงก่อนเวลา เลยฝากกระเป๋าและออกเดินสำรวจเมืองกัน จากซอยที่ตั้งของโรงแรม เดินออกถนนใหญ่เลี้ยวซ้าย เราเจอเด็กนักเรียน ม.ปลายกลุ่มใหญ่รอรถเมล์กัน เด็กๆ มาเรียนกวดวิชากัน ที่เมืองนี้มีมหาวิทยาลัยด้วย เราสองคนเดินไปได้สักพักก็ตัดสินใจเดินย้อนกลับมาทางปากซอยโรงแรมและเดินขึ้นไป ไม่ผิดหวังเพราะตรงข้ามกับสถานีรถบัสแห่งใหม่จะมีร้านอาหารแบบข้าวราดแกงอยู่ 2-3 ร้าน ฝั่งสถานีรถบัสจะมีร้านเบเกอรี่ที่เข้าไปนั่งกินขนมและเครื่องดื่มได้ ถ้าเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านอาหารอีกร้านสองร้าน มีโรงแรมขนาดใหญ่ซึ่งชั้น 1 ของโรงแรมก็เป็นคาเฟ่ ขายอาหารด้วย และมีซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย

ร้านอาหารตรงข้ามสถานีรถบัสแห่งใหม่ ร้านประจำของเราคือ Take 2

Pizza Hut มีเมนูหน้าแบบศรีลังกาด้วย แต่ไม่ได้ลอง ดูราคาแล้วแพงกว่าบ้านเรามาก ถาดนึงสามสี่ร้อยบาท

สนามกีฬาของเมือง


เมืองนี้มีสถานีรถบัสแห่งเก่าและแห่งใหม่ สถานีรถไฟแห่งเก่าและแห่งใหม่ ช่วงบ่ายเราฝากท้องไว้กับร้านอาหารที่เราเจอตรงข้ามสถานีรถบัสแห่งใหม่ พอช่วงเย็นเราก็ออกมาเดินสำรวจเมืองกันอีกรอบ คราวนี้เดินไปฝั่งที่ตอนบ่ายเราเจอเด็กนักเรียน ม.ปลาย ถ้าข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามแล้วเดินเลี้ยวซ้ายจะเจอทางรถไฟ เส้นนี้แหละที่วันรุ่งขึ้นเราขี่จักรยานไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์กัน เราพยายามมองหาร้านเช่าจักรยาน แต่ไม่มีค่ะ เราเลยเดินย้อนกลับมาและเลี้ยวขวาไปทางสถานีตำรวจ เพื่อไปหาร้านอาหารกัน เจออยู่ร้านหนึ่ง เขาขายแป้งทอดห่อไส้ผักหรือไข่ เรียกชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว เป็นของคาวไม่ใช่ขนมนะคะ เราเลยซื้อกลับมากินกันที่โรงแรมคนละชิ้น ก็อร่อยดีค่ะ
แผงขายล๊อตเตอรี่ ประเทศนี้มีให้ลุ้นทุกวัน แต่บ้านเราออกเดือนละ 2 ครั้งน่ะดีแล้ว

ร้านที่ฝากท้องหลายมื้อ ตรงข้ามสถานีรถบัสแห่งใหม่
อาหารของร้านนี้ สีสันเหมือนเผ็ด แต่ออกจืดๆ ค่ะ ไม่มีเนื้อวัวกับเนื้อหมูนะคะ มีแต่ปลากับไก่

อีกร้านนึงที่แวะไปซื้อแป้งห่อไส้ไข่กับผักมากินตอนเย็น แถมแกงกับอาจาดสีเขียวๆ ไม่ใช่วาซาบินะคะ คนขายบอกเป็นมะพร้าวขูดค่ะ