ศรีลังกาเดินทางไม่ยาก แค่อึดนิดหน่อย ตอน 7-2 Colombo - Thailand

ตอน 1    https://ppantip.com/topic/36150781
ตอน 2    Sri Pada   https://ppantip.com/topic/36151502
ตอน 3    Kandy https://ppantip.com/topic/36180251
ตอน 4   Dambulla - Sigiriya  https://ppantip.com/topic/36207776
ตอน 5   Polonnaruwa  https://ppantip.com/topic/36240013
ตอน 6-1 Anuradhpurah  https://ppantip.com/topic/36268829
ตอน 6-2 Anuradhpurah https://ppantip.com/topic/36268970
ตอน 7-1 Colombo  https://ppantip.com/topic/36302037

ออกจากวัดเกลาณียา เราก็โบกตุ๊กตุ๊กไปวัดแห่งที่สอง เป็นวัดที่เราสองคนตั้งใจมากๆ เพราะจะไปกราบต้นไม้ที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ทรงปลูกไว้ นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ของสมเด็จพระเทพฯ และฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทรงปลูกไว้เหมือนกัน และเป็นวัดที่มีพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมา และในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานผ้าพระกฐินให้สถานทูตไทยนำมาถวายที่วัดด้วย

นอกจากนี้ในหลวงรัชกาลที่ 5 เคยพระราชทานยอดฉัตรรัตนเจดีย์ และยังเป็นวัดที่เคยพระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์) เคยเป็นเจ้าอาวาสระหว่างปี พ.ศ. 2448-2453 และได้รับการสถาปนาเป็นสังฆนายกแห่งนครโคลัมโบของนิกายรามัญและอมรปุระ ซึ่งนับเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ ก่อนที่จะทรงลาสิกขากลับประเทศไทย พระชินวรวงศ์ได้รับความเคารพจากชาวพุทธศรีลังกามากและมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนในศรีลังกา ทรงจัดตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงและเด็กชาย มีชื่อตามลำดับว่า Gunananda Vidhayalaya และ Prince College..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/485081

วัดแห่งนี้ชื่อว่า วัดทีปทุตตมาราม มหาวิหาร Dipaduttamarama Purana Thai Raja Maha Viharaya จากวัดเกลาณียาใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ เพราะอยู่คนละทิศคนละทางเลย และเป็นวัดที่ตุ๊กตุ๊กไม่รู้จัก แต่เราจำข้อมูลจากคนไทยที่เคยมาเยือนวัดนี้ว่า ให้บอกว่าไปสถานีตำรวจ Kotahena ทางเหนือของกรุงโคลัมโบ ใกล้ท่าเรือโคลัมโบ พอถึงสถานีตำรวจ น้องตุ๊กตุ๊กก็ต้องลงไปถามตำรวจเวรด้านหน้า และตำรวจก็ชี้ทางบอกมาซึ่งไม่ไกลกันเลย วัดตั้งอยู่ในซอยที่เป็นชุมชนคึกคักมาก แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคน เป็นวัดเล็กๆ ของชุมชน ตามข้อมูลที่เราเคยอ่านคือเป็นวัดพุทธที่อยู่ท่ามกลางชุมชนฮินดูค่ะ

เดินเข้าประตูวัดจะเห็นพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้านซ้ายมือ และเดินไปตามทางซ้ายมือนิดเดียวจะเห็นต้นไม้เรียงราย ถึงแล้วค่ะต้นไม้ที่ทุกพระองค์ทรงปลูก ตอนที่เราสองคนไปกัน โรงเรียนวัดกำลังก่อสร้างอาคารแห่งใหม่อยู่ เสียงดังอึกทึกมาก เราเดินไปนั่งบนชานทางเดินของอุโบสถหันหน้าเข้าหาต้นไม้ ลมโชยพัดมาเย็นๆ เราเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี สดุดีมหาราชา ต้นไม้ของพ่อ พระราชาผู้ทรงธรรม แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเรื่อยๆ คิดถึงพระองค์ท่านมากค่ะ ในวันที่ไม่มีพระองค์ท่านอยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว มันทำให้ว้าเหว่ ถึงแผ่นดินจะเปลี่ยนรัชสมัย แต่ใจเราก็ยังมีพระองค์ท่านอยู่แนบแน่นในหัวใจเหมือนกับที่พระองค์ท่านทรงอยู่กับเรามาทั้งชีวิต รักพ่อแม่ ครอบครัว ญาติเพื่อนฝูงก็เป็นแค่ความรักเล็กๆ แต่ความรัก เคารพ และเทิดทูนในพระองค์ท่านเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่และเปี่ยมไปด้วยปิติ ในวันนี้เมื่อเราต้องสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเรา จึงหาอะไรมาเปรียบเทียบกับความสูญเสียในครั้งนี้มิได้เลย เราถึงได้เข้าใจว่าในสมัยพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พุทธศาสนิกชนเสียใจและอาลัยพระองค์ท่านมากมายขนาดไหน ในพุทธประวัติบอกว่าตลอดสามเดือนพุทธศาสนิกชนร้องไห้อาลัยไม่หยุดเลย เราเองก็ร้องไห้ติดกันตลอดสามเดือนเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ยังร้องไห้บ้างเวลาที่ระลึกถึงพระองค์ท่านมากๆ

ต้นไม้ทรงปลูกของในหลวงรัชกาลที่ 8
ต้นไม้ทรงปลูกของในหลวงรัชกาลที่ 9
ต้นไม้ทรงปลูกของสมเด็จพระเทพรัตนฯ
ต้นไม้ทรงปลูกของฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ

มองไปด้านขวามือจะเห็นรัตนเจดีย์องค์เล็กๆ แต่เราสองคนไม่ได้เดินเข้าไปในอุโบสถกราบพระประธานเพราะพี่สาวเราเศร้ามาก ตัดสินใจเดินออกจากวัด ผ่านกลุ่มผู้หญิงและเด็กชาวศรีลังกาที่กำลังยืนดูการก่อสร้างอาคารเรียนอยู่อย่างดีใจ พวกเขายิ้มให้เรา แต่เราไม่ได้ส่งยิ้มกลับไป เพราะตาเราแดง ใจเราเศร้า รู้สึกผิดต่อพวกเขาที่เราทำหมางเมินแต่มันหดหู่ใจเกินกว่าจะยิ้มให้พวกเขาได้

ออกมาเรียกตุ๊กตุ๊กกลับเข้าเมืองไปหาข้าวกลางวันกินกันในห้างเก่าแห่งหนึ่งในโคลอมโบ แต่เป็นห้างใหญ่มีซุปเปอร์มาเก็ตด้วย เดินในห้างไม่เห็นมีศูนย์อาหารเลย แต่เห็นร้านเคเอฟซีอยู่ด้านนอกติดกับประตูห้าง ก็เลยกินไก่ลุงเคนแทน กินเสร็จเข้าห้องน้ำในห้างที่ต้องเสียตังค์ประมาณ 2 บาท แล้วก็นั่งตุ๊กตุ๊กไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเป็นสถานที่ที่ใหญ่ค่ะ มีสิ่งที่น่าสนใจดีตามสไตล์คนชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ค่ะ ค่าเข้าชมลืมไปแล้วว่ากี่บาทแต่จำได้ว่าไม่แพงค่ะ ถ้าจะถ่ายรูปด้านในต้องเสียตังค์เพิ่มค่ะ สิ่งที่สะดุดตาเราคือบัลลังค์พระที่นั่งของกษัตริย์องค์สุดท้ายของศรีลังกาค่ะ ซึ่งอังกฤษส่งคืนมาให้ศรีลังกาในภายหลัง มีพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์พระองค์นี้ด้วย ดูพระพักตร์แล้วน่าจะเป็นกษัตริย์ที่มีเมตตานะคะ สงสารพระองค์เหลือเกินที่แผ่นดินต้องตกเป็นอาณานิคมของพวกต่างชาติ ดุแล้วก็เศร้าค่ะเพราะเรารักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แถมพอเราเดินออกมาด้านนอกยิ่งตอกย้ำความรู้สึกเศร้าใจที่พี่สาวเราชี้ให้ดูรูปปั้นควีนวิคตอเรียองค์เบ้อเร่อนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงประตูทางเข้าด้านหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ ดูสิไม่มีรูปปั้นหรืออนุสาวรีย์ของกษัตริย์ศรีลังกาเลย แต่กลับมีอนุสาวรีย์ของคนที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคมที่กดขี่ข่มเหงบ้านเมืองตัวเอง เราถามพี่สาวว่าคนศรีลังกาเค้าไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ พี่สาวเราบอกว่าเค้าเป็นอาณานิคมมาร้อยกว่าปีแล้ว ไม่มีกษัตริย์มาร้อยกว่าปีแล้วเหมือนกัน เค้าไม่มีความรู้สึกผูกพักอะไรกับสถาบันกษัตริย์อีกต่อไปแล้ว

ในบริเวณพิพิธภัณฑ์จะมีร้านขายเครื่องดื่ม เบเกอรี่ ของที่ระลึกของแบรนด์ดังในศรีลังกา แต่เราก็ความจำสั้นลืมชื่ออีกแล้ว เข้าไปนั่งตากแอร์ กินน้ำผลไม้ปั่น กินพายแอ๊ปเปิ้ลอร่อยดีค่ะ แล้วก็ซื้อแซนด์วิชชิ้นละ 90 บาท คนละชิ้น เอาไปกินที่สนามบิน แต่ก็ไม่ได้กินเพราะอิ่ม พี่สาวเราเลยเอาไปให้พนักงานทำความสะอาดห้องน้ำที่สนามบินแทน
ออกจากพิพิธภัณฑ์เรียกตุ๊กตุ๊กย้อนกลับไปโรงแรมเพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้จะได้เดินทางไปสนามบินต่อ เจอผู้หญิงคนหนึ่งขอติดตุ๊กตุ๊กไปลงป้ายรถเมล์อีกถนนหนึ่งกลับเราด้วย เราก็ให้นั่งเบียดไปด้วยกัน เพราะเราเจอคนศรีลังกามีน้ำใจกับเรามากมาย เราก็ควรจะตอบแทน โรงแรมโทรศัพท์เรียกแท็กซี่ให้ ค่ารถ 500 บาท นั่งตุ๊กตุ๊กไม่ได้นะคะเพราะต้องขึ้นทางด่วน ออกมาโบกแท็กซี่เองก็ไม่ได้เพราะไม่เห็นแท็กซี่วิ่งเหมือนบ้านเรา ไม่ไปแท็กซี่ก็ต้องไปนั่งรถบัสเหมือนตอนขามา แต่เราสองคนเหนื่อยมากแล้ว เลยจบการผจญภัยแค่นี้

ออกจากโคลอมโบ เส้นทางที่จะไปทางด่วนมีคุกใหญ่มาก มีรูปปั้นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ในคุก มีข้อความประมาณว่า คนเราเมื่อทำผิดแล้วยังมีโอกาสแก้ไขได้ ไปถึงสนามบินตอนหนึ่งทุ่ม รอขึ้นเครื่องตอนตีหนึ่ง ในสนามบินไม่เห็นมีร้านอาหารเลย มีขายแต่พวกเครื่องดื่มและขนมปังเล็กๆ น้อยๆ
ในสนามบินเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจีน และอาตี๋น้อยก็วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ถึงเมืองไทยตอนหกโมงเช้า บรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยคนไทยแต่งชุดดำ

ถ้าใครอยากไปเยือนแดนลังกาแนะนำว่าให้ไปค่ะ มีความเหมือนในความต่างคือ พวกเขาหน้าตาไม่เหมือนเราแต่เป็นพุทธศาสนิกชนเหมือนกับเรา จึงเป็นดินแดนที่เราเดินทางอย่างอุ่นใจ เพราะพื้นฐานคนศรีลังกาสุภาพ อ่อนโยน เป็นมิตร ถึงจะเจอการเล่นตลกจากตุ๊กตุ๊กบ้าง แต่ก็เหมือนกับทุกแห่งบนดลกใบนี้ค่ะ มีทั้งคนดีและคนหลอกลวง

14 มีนาคม เราสองคนเดินทางไปกราบในหลวง ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง นั่งรอมากกว่ายืน เราสองคนได้กราบอยู่แถวหน้า ได้เห็นพระบรมโกศทองงดงามอร่าม ได้ใกล้ชิดกับพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นความใกล้ชิดครั้งที่ 2 ของเรา แต่ต่างจากครั้งแรกที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรเนื่องในโอกาสปีกาญจนาภิเษกทรงครองราชย์ครบ 50 พรรษา แต่พี่สาวเรามีบุญมากกว่าที่นอกจากจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระองค์ท่านแล้ว ยังเคยได้เข้าเฝ้าตอนที่ในหลวงทรงเสด็จสวนสมเด็จย่าที่คลองสานด้วย

ระหว่างรอได้นั่งคุยกับคุณลุงคนหนึ่ง ท่านเคยเป็นทหารรับจ้างไปรบที่เวียดนาม และเล่าให้เราฟังว่าเป็นคนกาญจนบุรี คุณลุงเดินทางมากินอยู่และนอนพักในที่ที่ กทม. จัดไว้ให้ 3 เดือนแล้ว เพื่อเดินทางมากราบพระองค์ท่านทุกวัน วนเวียนตลอดทั้งวัน และจะอยู่แบบนี้จนกว่าจะถึงวันถวายพระเพลิง และคุณลุงยังได้หยิบบัตรเข้าชมนิทรรศการของพระองค์ท่านมาให้เราดู หนาปึกเลยค่ะ เราตื้นตันในความจงรักภักดีของคุณลุงมาก คุณลุงบอกว่าที่ดิน 20 ไร่ที่ทำกินนี้ก็มาจากที่ดินที่พระองค์ท่านพระราชทานให้ นี่ไงคะ ตัวจริง เสียงจริงจากราษฎรที่ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ท่าน ตอนเรารู้ว่ามีคนไม่รัก ไม่ชอบ ใส่ร้ายพระองค์ท่าน เราถึงกับงงว่ามีคนแบบนี้ด้วยหรือเพราะเราไม่เคยเห็นพระองค์ท่านทำสิ่งใดให้ประชาชนต้องขุ่นข้องหมองใจเลย เป็นพระผู้ทรงให้และให้กับแผ่นดินไทยอย่างมากมายจนถึงชั่วลูกชั่วหลานของเราไม่มีวันหมดตราบใดที่คนไทยยังเดินตามรอยคำสอนของพระองค์ท่าน แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าจิตใจคนมันหนาบางต่างกัน คนกตัญญูก็จะรักและเทิดทูนพระองค์ท่าน คนอกตัญญูมักใหญ่ใฝ่สูงก็จะอิจฉาริษยา


ขอจบด้วยคำกลอนไว้อาลัยของคุณสุภาพ คลี่ขจาย เพื่อให้เราสำนึกว่าถึงแผ่นดินไหนจะเจริญรุ่งเรือง สวยงามกว่าแผ่นดินไทย แต่เราอยู่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ได้อย่างร่มเย็นเพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ปกป้องคุ้มครองให้เราอยู่กันอย่างร่มเย็นตลอดมาและจะคงอยู่ตลอดไป

“ท่านยังไม่จากเราไปไหน”
ยังอยู่ในอากาศ ธาตุทั้งสี่
อยู่ในความคิดคำนึง ที่พึงมี
อยู่กับเราทุกที่ ทุกเวลา
“ท่านเป็นเทวดา ประจำเมือง”
คอยสดับราวเรื่องอยู่เบื้องหน้า
คอยพิทักษ์คุ้มครอง ผองประชา
ถ้าคิดถึงเทวดา...ต้องทำดี.
สุภาพ คลี่ขจาย
๑๔ พ.ย.๕๙

ผองข้าพระพุทธเจ้า น้อมเกล้าขออัญชุลี สดุดีมหาราชา สดุดีมหาราชินี... ทั้งสองพระองค์ทรงสถิตย์ในดวงใจปวงชนชาวไทยตราบนิรันดร์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่