แผนการท่องเที่ยวทั้งหมด
Day 1 : สุวรรณภูมิ > โฮจิมินห์ซิตี้ > โตเกียว :
http://ppantip.com/topic/35893968/
Day 2 : Ueno ตะลุย Isomaru Suisan / Sushi Zanmai ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง :
http://ppantip.com/topic/35893968/comment1
Day 3 : Hakodate บุกไปทานอูนิร้าน Uni Murakami เที่ยว Mount Hakodate และ Red Brick Warehouse :
http://ppantip.com/topic/35895845
Day 4 : Hakodate สวาปามรอบตลาด ไปแอบดูลิงลงออนเซน ส่องวิวเมืองอีกด้านจาก Goryokaku Tower :
http://ppantip.com/topic/35896919
Day 5 : Aomori กิน Nokkedon ที่ตลาดปลา Furukawa และชมหลากหลายผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลที่ A Factory :
http://ppantip.com/topic/35902012
Day 6 : Sendai บุกตลาดปลา Shiogama ทานอาหารทะเลสดๆ ต่อด้วยชิมลิ้นวัวย่างและถั่วซึนดะ ของขึ้นชื่อของเซ็นได :
http://ppantip.com/topic/35908992
Day7 : Tokyo ตะลุยกินย่านชินจูกุ เริ่มด้วยร้านเนื้อย่างเจ้าดัง Rokkasen ปิดด้วยบุฟเฟต์ผลไม้แสนอร่อย Takano Fruit Parlour :
http://ppantip.com/topic/35912605/
Day 8 : Tokyo ตระเวนรอบตลาดปลา Tsukiji ชมวิวโตเกียวทาวเวอร์ แวะห้าง Yodobashi akiba ย่าน Akihabara :
http://ppantip.com/topic/35922623
Day 9 : ย้อนรอย Isomaru Suisan บุก Asakusa บวกเนื้อย่าง Heijoen ซื้อของฝากที่ตึกม่วง ปิดท้ายด้วย ซูชิหน้าล้น :
http://ppantip.com/topic/35936269
กลับมาแล้วครับ หลังจากห่างหายไปสองวัน วันนี้ผมจะพาไปบุกสึกิจิกันต่อครับ เดิมทีผมได้ข่าวว่าตลาดสึกิจิจะย้ายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่เหมือนจะถูก Hold ไว้อยู่ แล้วผมไม่ได้ตามข่าวต่อ ไม่งั้นทริปนี้ผมจะจองโรงแรมที่โตเกียวไว้ข้างๆ ตลาดปลาเลยล่ะครับ /pif พลาดจริงๆ
สไลด์ตัว ตื่นขึ้นมาสายหน่อยครับวันนี้ กว่าจะถึงตลาดปลาก็ปาไป 6.30 น. แล้ว
Information
Name : Tsukiji Fish Market
Location : Tsukiji, Tokyo
Opening Time : 5.00 - 14.00 (โซนตลาดด้านในเปิดหลัง 9.00 นะครับ แต่ถ้าใครอยากดูเค้าประมูล)
Recommend Food : Fresh Seafood, Oyako Don, Sushi
Desciption : ตลาดอันแสนโด่งดังด้วยขนาดที่ใหญ่โต สินค้าที่มีมากมาย และจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาในแต่ละปี เป็นแลนมาร์คสำหรับคนรักอาหารแบบผมเลยครับ ถึงคนจะพลุกพล่านไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็ครึกครื้นดี เจอคนไทยเยอะมากเหมือนกัน มีหลายอย่างน่าทาน ร้านค้ามีปนกันทั้งถูกทั้งแพง อยู่ที่คุณภาพที่กับราคาที่เรารับได้เลยครับ ไปลุยกันเลย
เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยมาแล้วครับ ด้านนี้เป็นฝั่งด้านหน้าตลาดที่ผมเดินมาจาก Metro เลย
โผล่มาก็จ๊ะเอ๋ ร้านขายวาซาบิสดก่อนเลย มีหลายราคาด้วย ไม่แน่ใจว่าขึ้นอยู่ที่ขนาดอย่างเดียวหรือมีการแบ่งพันธุ์ด้วยรึเปล่านะครับ
อะโห ร้านขายมีดแล่ปลา อุปกรณ์แกะปู แกะหอย ในตลาดมีหลายร้านเลยครับ แต่ละร้านก็ดูเก่าแก่และน่าเชื่อถือมากๆ ครับ มีดที่โชว์เองก็มีหลายแบบหลายขนาด ทำให้ผมพาลนึกไปถึงตอนไปทัศนศึกษาที่หมู่บ้านอรัญญิกเลย
ปูยักษ์ กุ้งยักษ์ ทุกอย่างยักษ์ไปหมด ราคาก็หฤโหดตามขนาดครับ อุอิอุอิ
พร้อมขายกันหมดแล้วครับ แต่ละร้าน ของดูสดใหม่ทั้งนั้น ร้านอาหารในตัวตลาดเองก็มีเยอะนะครับ มีทั้งเปิดเช้า เปิดสาย จริงๆ ถ้ามีโอกาส ผมมาคราวหน้าจะแวะมาสายๆ หน่อยครับ มีร้านขายข้าวหน้าปลาไหลเจ้าดังที่อยากลองกินอยู่ ชื่อว่า "Haibara" กับร้านขายโอยาโกะด้ง (ข้าวหน้าไก่) ชื่อ "Nambaratei" ที่อยากไปลองโดนแต่ว่าวางแผนพลาดไปหน่อยครับ ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ พ่อจะจองโรงแรมไว้ข้างสึกิจิเลย
มาแวะซื้อไข่หวานเจ้าดังในตลาด เก็บไว้เป็นเสบียงครับ เดี๋ยวมื้อเช้า แน่นอนว่าเราต้องฝากท้องที่นี่แหละ
เดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเจอ โซนตลาดในแล้วครับ
แอบเตือนคนที่เดินโซนนี้ โปรดมีสติ เดินอย่างระมัดระวังรถขนส่งของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดด้วยนะครับ โดยเฉพาะช่วงเช้ามากๆ ที่เค้าต้องขนของกันเยอะๆ เพราะรถขนส่งที่เค้ายืนขับกัน วิ่งค่อนข้างเร็ว เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุแล้วจะเจ็บตัวเอาได้ครับ
เดินต่อมาอีกหน่อย เราจะเจอคนต่อคิวกันแบบยาวมากกกกกกกกกกกก คิวตรงนี้เป็นของร้าน Sushi Dai ครับ เป็นร้านซูชิชื่อดังที่มีคนมาต่อคิวเพื่อรอกินตั้งแต่ ตีสาม เพื่อรอร้านเปิด หรือบางคนต้องรอคิว 3-5 ชั่วโมงเพื่อรอทานร้านนี้ แต่ความอร่อยก็น่าจะเป็นของจริงนะครับ ไม่งั้นไม่น่ารักษาชื่อเสียงมาได้นานขนาดนี้ เป็นอะไรที่ Amazing มากๆ แต่สำหรับผมคงขอผ่านก่อนครับ ไม่งั้นวันนี้ไม่ได้ไปไหนแน่ๆ
ยาวเฟร่อ ด้านในมุมที่เลี้ยวเข้าไปยังมีคิวอีกนะครับ
เราลองเดินมาที่โซนตึกที่มีของสดขายด้านในบ้างครับ
คนไม่ค่อยเยอะนะครับ แต่ร้านขายของสดก็มีพอสมควรเลยทีเดียว
ปลาเยอะมากจริงๆ ปลาอะไรบ้างเนี่ย = w =''
อันนี้มากุโร่แน่นอนครับใหญ่มากๆ
ชะอุ่ย ... มาทั้งหัวเลย
ปลาเยอะมากกกกก คุณภาพปลาแต่ละตัว ตานี่ใสกิ๊ง หนังมันวับสู้แสงไฟสุดๆ ไม่แปลกใจที่ตลาดปลาสึกิจิจะมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องคุณภาพปลา และเป็นที่ไว้ใจของร้านอาหารหลายๆ แห่งครับ
โห น่ากินจุง ถูกด้วยอะ ขอลองสักกล่องละกันเนอะ เก็บเข้าสต็อกก่อน
ร้านนี้วางของน้อยมาก อยู่เกือบทางออกตลาดละ เลียบๆ เคียงๆ เข้าไปส่องดู ปรากฏว่าเป็นทาโกะครับ หนวดพี่หมึกยักษ์ เลยได้สอยกล่องขนาดกลางมาก 1 กล่อง เบาๆ
อะจั๋ย เนื้อปลาวาฬอีกล้าว สีแดงแบบแด๊งแดง น่ากลัวไปสำหรับผมอะ
อันนี้หอยงวงช้างที่เราเคยพาไปเปิบในวันที่ 6 ที่ตลาดปลาชิโอกามะ ของเซนไดไงครับ ยังจำ Texture ได้อยู่เลย
หอยนางรม หน้าตาดูดี ราคาประหยัดเงินในกระเป๋า ว่าแล้วจัดมาซักตัว
ที่ตึกนี้ชั้นดาดฟ้า (ชั้น 3) เป็นพื้นที่สำหรับให้เราทานของที่เลือกซื้อมาได้เลยครับสะดวกดี แต่น่าจะมีตู้กดน้ำข้างบนด้วยนะ ตอนแรกคิดว่าจะมีซะอีก เลยไม่ได้ซื้อขึ้นมา T^T ด้านบนมีโต๊ะเก้าอี้ อ่างล้างมืด ถังขยะ พร้อมวิวโล่งๆ อากาศเย็นสบายดีครับ ผมขึ้นมาเช้าเกินหรือไม่ค่อยมีคนมาไม่แน่ใจ โล่งเลย
เอ้า ลุยย !!
Maguro Nigiri + Neki Toro : ในส่วนของซูชิ ปลาชิ้นใหญ่สะใจมากครับ สดใช้ได้เลย แต่ข้าวเย็นไปหน่อย ก็แน่ล่ะ วางไว้แบบนั้นนี่เนอะ = ='' ถ้าได้ทานกับข้าวร้อนๆ ผมว่าต้องฟินมากแน่ๆ ส่วนเนกิโทโร อร่อยมากครับ ถึงแม้จะไม่มีต้นหอมมาตัดเลี่ยน แต่ผมไม่ชอบทานผักอยู่แล้วเลยไม่มีปัญหา ส่วนถ้าถามว่าไม่เลี่ยนหรอ แหม่ เรามีพรรคพวกเมนูอื่นๆ ด้วยนะครับ โดยเฉพาะไข่หวาน ช่วยได้มากจริงๆ
ตอนซื้อไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ อลังการมากครับ มีชื่อร้านแปะบนชิ้นไข่หวานด้วย ส่วนความอร่อยนั้น ตัวเนื้อไข่หวานนุ่มใช้ได้ครับ ออกจะหวานเกินความคาดหมายไปหน่อย แต่โดยรวมก็โอเคเลยครับ (ผมยังชอบไข่หวานที่ตลาดปลาฟุรุคาวะ อาโอโมริ มากกว่าอยู่ดีครับ)
เมนูพี่หมึก อยากสอยหนวดพี่มานานหลายวันละ ได้กินซะที แม้จะเป็นไซส์กลางแต่หนวดพี่จุกใหญ่มาก สะใจมากครับแต่ละคำ สด รสชาติดี แต่ติดเค็มไปนิดนึง
สุดท้ายพี่หอยนางรม สดมากๆ ครับ บีบมะนาวอัดใส่พี่หอยแล้วทานเลย ชวนให้คิดถึงตอนลงไปทำงานที่นครศรีธรรมราชเลย ที่นั่นหอยนางรมก็ตัวใหญ่สดอร่อย เหมือนส่งตรงจากทะเลตอนเช้า ถึงปากเราตอนสาย เช่นกัน ดีงามครับ
เรียบร้อยสำหรับมื้อเช้าครับ หมดไปแค่ 1,250 เยนเอง สบายๆ
อันนี้เมนูโฮตาเตะราดหอยเม่นย่าง หน้าตาดูน่ากินนะครับ แต่ตอนนี้เฉยๆ ละ หลังได้ทานหอยเม่นมาเต็มที่ตั้งแต่ที่ฮาโกดาเตะ แถมยังทานโฮตาเตะราวกับกินบุฟเฟต์ที่อาโอโมริ ภูมิต้านทานอาหารทะเลสองชนิดนี้ผมสูงมากครับ
เนื้อวัวก็มีขายนะครับ เรียกได้ว่าครบจริงๆ ตลาดนี้
ผลไม้ก็มี ราคา Masusku Melon โหดใช้ได้เลยครับ เมื่อวานทานไปแบบเต็มที่เลย สะใจมากกกกก
ของหวานก็มาครับ เป็นไดฟุกุสตรอเบอร์รี่ มีทั้งแบบธรรมดาและแบบสตรอเบอร์รี่สีขาวด้วย
ร้านของปิ้งย่างมีขายเยอะมากครับ อะไรปิ้งแล้วแล้วอร่อยพี่แกปิ้งหมด ราคาไม่แพงครับ
รอบนอกเวลาสายๆ คนเริ่มมากันละ แน่นเลย
ร้านนี้ถ้าผมจำไม่ผิดเคยออกทีวีด้วยนะครับ แต่นานละ กลิ่นหอมมากครับ น่าจะเป็นเครื่องในเนื้อตุ๋น (เมนูตระกูลโฮรุมง)
ปิดท้ายด้วยมันเผาแสนอร่อยครับ ป้าแกหั่นให้ชิมก่อนซื้อด้วย ทานร้อนๆ ตอนอากาศหนาวๆ อร่อยมาก นิ่มสุดๆ มันเผาสุโก้ยครับ เลยอุดหนุนป้าแก เลือกหัวเล็กๆ มาหัวนึง อร่อยมากครับ
เดี๋ยวช่วงบ่ายผมจะเป็นช่วงช็อปปิ้งซื้อของฝากเพราะฉะนั้น เดี๋ยวผมจะข้ามที่ช่วงเย็นเลยนะครับ
[CR] Day8 : Tokyo ตระเวนรอบตลาดปลา Tsukiji ชมวิวโตเกียวทาวเวอร์ แวะห้าง Yodobashi akiba ย่าน Akihabara
Day 1 : สุวรรณภูมิ > โฮจิมินห์ซิตี้ > โตเกียว : http://ppantip.com/topic/35893968/
Day 2 : Ueno ตะลุย Isomaru Suisan / Sushi Zanmai ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง : http://ppantip.com/topic/35893968/comment1
Day 3 : Hakodate บุกไปทานอูนิร้าน Uni Murakami เที่ยว Mount Hakodate และ Red Brick Warehouse : http://ppantip.com/topic/35895845
Day 4 : Hakodate สวาปามรอบตลาด ไปแอบดูลิงลงออนเซน ส่องวิวเมืองอีกด้านจาก Goryokaku Tower : http://ppantip.com/topic/35896919
Day 5 : Aomori กิน Nokkedon ที่ตลาดปลา Furukawa และชมหลากหลายผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลที่ A Factory : http://ppantip.com/topic/35902012
Day 6 : Sendai บุกตลาดปลา Shiogama ทานอาหารทะเลสดๆ ต่อด้วยชิมลิ้นวัวย่างและถั่วซึนดะ ของขึ้นชื่อของเซ็นได : http://ppantip.com/topic/35908992
Day7 : Tokyo ตะลุยกินย่านชินจูกุ เริ่มด้วยร้านเนื้อย่างเจ้าดัง Rokkasen ปิดด้วยบุฟเฟต์ผลไม้แสนอร่อย Takano Fruit Parlour : http://ppantip.com/topic/35912605/
Day 8 : Tokyo ตระเวนรอบตลาดปลา Tsukiji ชมวิวโตเกียวทาวเวอร์ แวะห้าง Yodobashi akiba ย่าน Akihabara : http://ppantip.com/topic/35922623
Day 9 : ย้อนรอย Isomaru Suisan บุก Asakusa บวกเนื้อย่าง Heijoen ซื้อของฝากที่ตึกม่วง ปิดท้ายด้วย ซูชิหน้าล้น : http://ppantip.com/topic/35936269
กลับมาแล้วครับ หลังจากห่างหายไปสองวัน วันนี้ผมจะพาไปบุกสึกิจิกันต่อครับ เดิมทีผมได้ข่าวว่าตลาดสึกิจิจะย้ายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่เหมือนจะถูก Hold ไว้อยู่ แล้วผมไม่ได้ตามข่าวต่อ ไม่งั้นทริปนี้ผมจะจองโรงแรมที่โตเกียวไว้ข้างๆ ตลาดปลาเลยล่ะครับ /pif พลาดจริงๆ
สไลด์ตัว ตื่นขึ้นมาสายหน่อยครับวันนี้ กว่าจะถึงตลาดปลาก็ปาไป 6.30 น. แล้ว
Information
Name : Tsukiji Fish Market
Location : Tsukiji, Tokyo
Opening Time : 5.00 - 14.00 (โซนตลาดด้านในเปิดหลัง 9.00 นะครับ แต่ถ้าใครอยากดูเค้าประมูล)
Recommend Food : Fresh Seafood, Oyako Don, Sushi
Desciption : ตลาดอันแสนโด่งดังด้วยขนาดที่ใหญ่โต สินค้าที่มีมากมาย และจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาในแต่ละปี เป็นแลนมาร์คสำหรับคนรักอาหารแบบผมเลยครับ ถึงคนจะพลุกพล่านไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็ครึกครื้นดี เจอคนไทยเยอะมากเหมือนกัน มีหลายอย่างน่าทาน ร้านค้ามีปนกันทั้งถูกทั้งแพง อยู่ที่คุณภาพที่กับราคาที่เรารับได้เลยครับ ไปลุยกันเลย
เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยมาแล้วครับ ด้านนี้เป็นฝั่งด้านหน้าตลาดที่ผมเดินมาจาก Metro เลย
โผล่มาก็จ๊ะเอ๋ ร้านขายวาซาบิสดก่อนเลย มีหลายราคาด้วย ไม่แน่ใจว่าขึ้นอยู่ที่ขนาดอย่างเดียวหรือมีการแบ่งพันธุ์ด้วยรึเปล่านะครับ
อะโห ร้านขายมีดแล่ปลา อุปกรณ์แกะปู แกะหอย ในตลาดมีหลายร้านเลยครับ แต่ละร้านก็ดูเก่าแก่และน่าเชื่อถือมากๆ ครับ มีดที่โชว์เองก็มีหลายแบบหลายขนาด ทำให้ผมพาลนึกไปถึงตอนไปทัศนศึกษาที่หมู่บ้านอรัญญิกเลย
ปูยักษ์ กุ้งยักษ์ ทุกอย่างยักษ์ไปหมด ราคาก็หฤโหดตามขนาดครับ อุอิอุอิ
พร้อมขายกันหมดแล้วครับ แต่ละร้าน ของดูสดใหม่ทั้งนั้น ร้านอาหารในตัวตลาดเองก็มีเยอะนะครับ มีทั้งเปิดเช้า เปิดสาย จริงๆ ถ้ามีโอกาส ผมมาคราวหน้าจะแวะมาสายๆ หน่อยครับ มีร้านขายข้าวหน้าปลาไหลเจ้าดังที่อยากลองกินอยู่ ชื่อว่า "Haibara" กับร้านขายโอยาโกะด้ง (ข้าวหน้าไก่) ชื่อ "Nambaratei" ที่อยากไปลองโดนแต่ว่าวางแผนพลาดไปหน่อยครับ ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ พ่อจะจองโรงแรมไว้ข้างสึกิจิเลย
มาแวะซื้อไข่หวานเจ้าดังในตลาด เก็บไว้เป็นเสบียงครับ เดี๋ยวมื้อเช้า แน่นอนว่าเราต้องฝากท้องที่นี่แหละ
เดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเจอ โซนตลาดในแล้วครับ
แอบเตือนคนที่เดินโซนนี้ โปรดมีสติ เดินอย่างระมัดระวังรถขนส่งของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดด้วยนะครับ โดยเฉพาะช่วงเช้ามากๆ ที่เค้าต้องขนของกันเยอะๆ เพราะรถขนส่งที่เค้ายืนขับกัน วิ่งค่อนข้างเร็ว เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุแล้วจะเจ็บตัวเอาได้ครับ
เดินต่อมาอีกหน่อย เราจะเจอคนต่อคิวกันแบบยาวมากกกกกกกกกกกก คิวตรงนี้เป็นของร้าน Sushi Dai ครับ เป็นร้านซูชิชื่อดังที่มีคนมาต่อคิวเพื่อรอกินตั้งแต่ ตีสาม เพื่อรอร้านเปิด หรือบางคนต้องรอคิว 3-5 ชั่วโมงเพื่อรอทานร้านนี้ แต่ความอร่อยก็น่าจะเป็นของจริงนะครับ ไม่งั้นไม่น่ารักษาชื่อเสียงมาได้นานขนาดนี้ เป็นอะไรที่ Amazing มากๆ แต่สำหรับผมคงขอผ่านก่อนครับ ไม่งั้นวันนี้ไม่ได้ไปไหนแน่ๆ
ยาวเฟร่อ ด้านในมุมที่เลี้ยวเข้าไปยังมีคิวอีกนะครับ
เราลองเดินมาที่โซนตึกที่มีของสดขายด้านในบ้างครับ
คนไม่ค่อยเยอะนะครับ แต่ร้านขายของสดก็มีพอสมควรเลยทีเดียว
ปลาเยอะมากจริงๆ ปลาอะไรบ้างเนี่ย = w =''
อันนี้มากุโร่แน่นอนครับใหญ่มากๆ
ชะอุ่ย ... มาทั้งหัวเลย
ปลาเยอะมากกกกก คุณภาพปลาแต่ละตัว ตานี่ใสกิ๊ง หนังมันวับสู้แสงไฟสุดๆ ไม่แปลกใจที่ตลาดปลาสึกิจิจะมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องคุณภาพปลา และเป็นที่ไว้ใจของร้านอาหารหลายๆ แห่งครับ
โห น่ากินจุง ถูกด้วยอะ ขอลองสักกล่องละกันเนอะ เก็บเข้าสต็อกก่อน
ร้านนี้วางของน้อยมาก อยู่เกือบทางออกตลาดละ เลียบๆ เคียงๆ เข้าไปส่องดู ปรากฏว่าเป็นทาโกะครับ หนวดพี่หมึกยักษ์ เลยได้สอยกล่องขนาดกลางมาก 1 กล่อง เบาๆ
อะจั๋ย เนื้อปลาวาฬอีกล้าว สีแดงแบบแด๊งแดง น่ากลัวไปสำหรับผมอะ
อันนี้หอยงวงช้างที่เราเคยพาไปเปิบในวันที่ 6 ที่ตลาดปลาชิโอกามะ ของเซนไดไงครับ ยังจำ Texture ได้อยู่เลย
หอยนางรม หน้าตาดูดี ราคาประหยัดเงินในกระเป๋า ว่าแล้วจัดมาซักตัว
ที่ตึกนี้ชั้นดาดฟ้า (ชั้น 3) เป็นพื้นที่สำหรับให้เราทานของที่เลือกซื้อมาได้เลยครับสะดวกดี แต่น่าจะมีตู้กดน้ำข้างบนด้วยนะ ตอนแรกคิดว่าจะมีซะอีก เลยไม่ได้ซื้อขึ้นมา T^T ด้านบนมีโต๊ะเก้าอี้ อ่างล้างมืด ถังขยะ พร้อมวิวโล่งๆ อากาศเย็นสบายดีครับ ผมขึ้นมาเช้าเกินหรือไม่ค่อยมีคนมาไม่แน่ใจ โล่งเลย
เอ้า ลุยย !!
Maguro Nigiri + Neki Toro : ในส่วนของซูชิ ปลาชิ้นใหญ่สะใจมากครับ สดใช้ได้เลย แต่ข้าวเย็นไปหน่อย ก็แน่ล่ะ วางไว้แบบนั้นนี่เนอะ = ='' ถ้าได้ทานกับข้าวร้อนๆ ผมว่าต้องฟินมากแน่ๆ ส่วนเนกิโทโร อร่อยมากครับ ถึงแม้จะไม่มีต้นหอมมาตัดเลี่ยน แต่ผมไม่ชอบทานผักอยู่แล้วเลยไม่มีปัญหา ส่วนถ้าถามว่าไม่เลี่ยนหรอ แหม่ เรามีพรรคพวกเมนูอื่นๆ ด้วยนะครับ โดยเฉพาะไข่หวาน ช่วยได้มากจริงๆ
ตอนซื้อไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ อลังการมากครับ มีชื่อร้านแปะบนชิ้นไข่หวานด้วย ส่วนความอร่อยนั้น ตัวเนื้อไข่หวานนุ่มใช้ได้ครับ ออกจะหวานเกินความคาดหมายไปหน่อย แต่โดยรวมก็โอเคเลยครับ (ผมยังชอบไข่หวานที่ตลาดปลาฟุรุคาวะ อาโอโมริ มากกว่าอยู่ดีครับ)
เมนูพี่หมึก อยากสอยหนวดพี่มานานหลายวันละ ได้กินซะที แม้จะเป็นไซส์กลางแต่หนวดพี่จุกใหญ่มาก สะใจมากครับแต่ละคำ สด รสชาติดี แต่ติดเค็มไปนิดนึง
สุดท้ายพี่หอยนางรม สดมากๆ ครับ บีบมะนาวอัดใส่พี่หอยแล้วทานเลย ชวนให้คิดถึงตอนลงไปทำงานที่นครศรีธรรมราชเลย ที่นั่นหอยนางรมก็ตัวใหญ่สดอร่อย เหมือนส่งตรงจากทะเลตอนเช้า ถึงปากเราตอนสาย เช่นกัน ดีงามครับ
เรียบร้อยสำหรับมื้อเช้าครับ หมดไปแค่ 1,250 เยนเอง สบายๆ
อันนี้เมนูโฮตาเตะราดหอยเม่นย่าง หน้าตาดูน่ากินนะครับ แต่ตอนนี้เฉยๆ ละ หลังได้ทานหอยเม่นมาเต็มที่ตั้งแต่ที่ฮาโกดาเตะ แถมยังทานโฮตาเตะราวกับกินบุฟเฟต์ที่อาโอโมริ ภูมิต้านทานอาหารทะเลสองชนิดนี้ผมสูงมากครับ
เนื้อวัวก็มีขายนะครับ เรียกได้ว่าครบจริงๆ ตลาดนี้
ผลไม้ก็มี ราคา Masusku Melon โหดใช้ได้เลยครับ เมื่อวานทานไปแบบเต็มที่เลย สะใจมากกกกก
ของหวานก็มาครับ เป็นไดฟุกุสตรอเบอร์รี่ มีทั้งแบบธรรมดาและแบบสตรอเบอร์รี่สีขาวด้วย
ร้านของปิ้งย่างมีขายเยอะมากครับ อะไรปิ้งแล้วแล้วอร่อยพี่แกปิ้งหมด ราคาไม่แพงครับ
รอบนอกเวลาสายๆ คนเริ่มมากันละ แน่นเลย
ร้านนี้ถ้าผมจำไม่ผิดเคยออกทีวีด้วยนะครับ แต่นานละ กลิ่นหอมมากครับ น่าจะเป็นเครื่องในเนื้อตุ๋น (เมนูตระกูลโฮรุมง)
ปิดท้ายด้วยมันเผาแสนอร่อยครับ ป้าแกหั่นให้ชิมก่อนซื้อด้วย ทานร้อนๆ ตอนอากาศหนาวๆ อร่อยมาก นิ่มสุดๆ มันเผาสุโก้ยครับ เลยอุดหนุนป้าแก เลือกหัวเล็กๆ มาหัวนึง อร่อยมากครับ
เดี๋ยวช่วงบ่ายผมจะเป็นช่วงช็อปปิ้งซื้อของฝากเพราะฉะนั้น เดี๋ยวผมจะข้ามที่ช่วงเย็นเลยนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น